เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 186 เจียงหว่านซื้อมีดเอาไปพังแผงลอย
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 186 เจียงหว่านซื้อมีดเอาไปพังแผงลอย
บทที่ 186 เจียงหว่านซื้อมีดเอาไปพังแผงลอย
ด้านเจียงหว่าน เป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเลยทำให้เธอล่าช้า กว่าจะมาถึงตัวตำบลก็เที่ยงเข้าไปแล้ว
ตอนเที่ยงเป็นช่วงเวลาที่คึกคักที่สุด ผู้คนสัญจรขวักไขว่ไปมา
เจียงหว่านเดินอยู่ในตัวตำบล และเธอก็ได้เจอกับอู่หยาง
“พี่อ้วน ดีจริง ๆ ที่คุณกลับมาแล้ว!”
“พอรู้ว่าคุณถูกลักพาตัวออกนอกประเทศ พวกเราก็ตกใจมาก โชคดีที่กลับมาอย่างปลอดภัยนะครับ!”
อู่หยางยิ้มสดใส และเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
เจียงหว่านรู้สึกประหลาดใจ “รู้กันหมดทุกคนเลยเหรอ? ข่าวแพร่กระจายไวมากเลยนะ!”
อู่หยางหัวเราะเบา ๆ “พอเหลยช่านเสียชีวิตข่าวก็แพร่ไปทั่ว จ้าวเฟิงที่มีปัญหากับคุณ และอ้ายหมินที่เหลยช่านตามหา พวกเขาต่างก็ถูกจับกันไปหมดแล้ว”
“ครั้งนี้ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของคุณเลย คุณทำให้เรารู้ตัวพวกคนขายชาติจำนวนนึงด้วย”
“พี่อ้วน คุณประสบความสำเร็จแล้วนะ ผู้กำกับของเราบอกว่าอันดับคนหนุ่มสาวยอดเยี่ยมแห่งปีในปีนี้ หนึ่งในนั้นต้องมีคุณแน่!”
เจียงหว่านรีบพูดขึ้น “ไม่ ฉันไม่อยากได้ชื่อเสียงจอมปลอมพวกนั้นสักหน่อย แต่ก็นะ…นี่ก็เป็นผลพลอยได้”
“หยุดพูดถึงเรื่องนั้นเถอะ ตอนนี้ฉันมีเรื่องที่อยากจะถามน่ะ”
“แผงขายเนื้อตุ๋นที่เปิดใหม่ในตำบล คุณพอจะรู้ไหมว่าเขามาจากไหน?”
อู่หยางขมวดคิ้วงุนงงครู่หนึ่ง แล้วเขาก็เข้าใจว่าเจียงหว่านกำลังพูดถึงใคร
ตำรวจหนุ่มพยักหน้า และกล่าวว่า “คุณน่าจะคุ้นเคยกับเขาดีไม่ใช่เหรอ เขาเป็นน้องชายของหลิวจวินจากกองพันที่สองของกองทัพไง”
“หลิวจวินที่ถูกหัวหน้ากองพันเฉียวเล่นงาน จนต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลน่ะ!”
“พี่สาวกับน้องชายของเขามาคอยดูแล สองสามวันมานี้น้องชายเขา หลิวลู่ก็ออกมาตั้งแผงขายเนื้อ”
พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันจริง ๆ!
ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าน้องชายของหลิวจวินมาที่นี่เพื่อตามหาเธอกับเฉียวเหลียนเฉิง แต่พี่สะใภ้เฉินดันติดร่างแหไปด้วย
หึ! ธุรกิจมีเยอะแยะมากมาย ไม่เลือกทำ นี่พยายามจะแย่งกิจการของเธอไปชัด ๆ!
เยี่ยม! เยี่ยมจริง ๆ!
เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงหยิ่งผยองนัก?!
หลังจากปฏิเสธคำเชิญของอู่หยางที่ชวนไปกันอาหารที่สถานีตำรวจ เจียงหว่านก็พาสะใภ้เฉินไปหาคนขายเนื้อก่อน
“โอ้ว ไม่เจอกันนานเลย เที่ยงนี้มากินข้าวด้วยกันที่บ้านฉันนะ”
“พี่สะใภ้ พี่ไปกับพี่ชายเกาเฉวียนก่อนเถอะค่ะ ฉันจะไปซื้ออาหาร!”
สะใภ้เฉินไม่ได้คิดอะไรมากจึงตอบตกลง
หลังส่งสะใภ้เฉินไปอยู่กับคนขายเนื้อ เจียงหว่านที่ได้ยินเกี่ยวกับที่ตั้งแผงขายเนื้อของหลิวลู่มาบ้างแล้ว ก็เลยรีบมุ่งหน้าไปที่นั่นทันที
พอผ่านไปได้ครึ่งทาง เธอก็ผ่านแผงขายมีดทำครัว
เจียงหว่านเดินผ่านร้านขายของมากมาย แต่แล้วเธอก็หันกลับมา
“มีดขายยังไง?”
เธอรู้ว่ายังไงวันนี้ก็จะต้องได้ต่อสู้ จึงนำไม้นวดแป้งติดตัวมาด้วย
แต่ว่า หากต้องเผชิญหน้ากับคนจากสำนักไท่จี๋ ไม้นวดแป้งอาจช่วยไม่ได้มากนัก
คนขายมีดเป็นคุณป้าคนหนึ่งในตำบล เธออาศัยอยู่บ้านข้าง ๆ เจวียนจือ เลยรู้จักเจียงหว่าน
“คุณเจียงที่ขายหมูตุ๋นนี่เอง ถ้าคุณจะซื้อ ฉันขายให้ในราคาถูก ๆ เลย ฉันคิดแค่เล่มละ 0.8 หยวน!”
เจียงหว่านพูดว่า “งั้นเอาให้ฉันสิบเล่ม!”
คุณป้าถึงกับตกใจ “ทำไมซื้อไปเยอะจังล่ะ? ขายเนื้อเยอะขนาดไหนถึงจะต้องมีมีดเยอะขนาดนี้เนี่ย?!”
เจียงหว่านยิ้ม “ฉันจะเอาไปให้เพื่อนน่ะ ทำไมล่ะ ป้าไม่ขายแล้วเหรอ?”
คุณป้ารู้สึกหดหู่เล็กน้อย “วันหนึ่งฉันขายไม่ได้สักเล่มด้วยซ้ำ จะเอาของมากมายขนาดนี้มาจากไหน ตอนนี้มีแค่สามเล่มเท่านั้นแหละ”
เจียงหว่านพยักหน้า “ก็ได้ค่ะ สามเล่มก็สามเล่ม”
เจียงหว่านจ่ายเงินโดยไม่พูดอะไรมาก
คุณป้าเองก็หยิบมีดทำครัวออกมา แน่นอนว่ามีเพียงสามเล่มเท่านั้น
เธอรับมีดมา และสอดเหน็บเข้าไปข้างหลังอย่างไม่เกรงใจ
คุณป้าถึงกับมึนงง เลยถามด้วยสีหน้าตกตะลึง “คุณ คุณสอดมีดไว้ที่หลังแบบนั้น คุณจะเอาไปทำอะไรน่ะ?”
เจียงหว่านเลิกคิ้ว และพูดอย่างเมินเฉย “ฮ่า ๆ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แบบนี้เวลาต่อสู้มันจะได้ดึงออกมาง่าย ๆ น่ะ”
หลังจากนั้น เธอก็หยิบมีดเล่มสุดท้ายมาถือไว้แล้วจากไป
คุณป้ายังคงตกตะลึงอยู่ หล่อนพึมพำเสียงสั่น “ตะ ต่อ ต่อสู้!”
“เฮ้ย! นี่ไม่ใช่จะไปฆ่าใครสักคนรึไง?!”
ในที่สุดคุณป้าก็ได้สติ ไม่สนใจแผงลอยอีกแล้ว หล่อนมุ่งหน้าไปสถานีตำรวจอย่างเร่งรีบทันที
เจียงหว่านซ่อนมีดและไม้นวดแป้งไว้ด้านหลัง ตอนนี้เธอมีอาวุธครบมือแล้ว
แผงขายเนื้ออยู่อีกด้านหนึ่งของศาลาว่าการ
ตรงด้านหน้าประตูศาลาว่าการ ทางทิศตะวันออกคือแผงลอยของเจียงหว่าน และทางทิศตะวันตกคือแผงลอยของตระกูลหลิว
ตอนที่เจียงหว่านเข้ามา หลิวลู่ น้องชายของหลิวจวินกำลังมองไปรอบ ๆ อย่างเบื่อหน่าย
เนื้อของแผงลอยหลิวมีรสชาติที่พิเศษ มันอร่อย แต่ติดตรงที่ขายในราคาแพงไปสักหน่อย
ทำให้ไม่ค่อยมีคนมาซื้อเท่าไหร่
หลิวลู่คิดว่าจะรออีกสักหน่อย ถ้ายังไม่มีใครมาเขาก็จะปิดร้าน
แต่แล้วเจียงหว่านก็ปรากฏตัวขึ้น
“เนื้อขายยังไง? ขอชิมได้ไหม?” เจียงหว่านยืนอยู่ตรงหน้าเขา และถามอย่างก้าวร้าว
ทันใดนั้นดวงตาของหลิวลู่ก็เป็นประกายขึ้นมา อ้วน ๆ แบบนี้ กินเยอะแน่ และคงจะมีเงินจ่ายไหวแน่นอน
”ได้สิ แต่เนื้อของฉันแพงหน่อยนะ! โลละสามหยวน!”
เจียงหว่านถามด้วยความประหลาดใจ “เนื้อหัวหมูกับไส้ก็ราคาเท่ากันเหรอ?”
“ใช่ ราคาเท่ากันหมด!” หลิวลู่พยักหน้า
เจียงหว่านยิ้ม “ได้สิ เงินไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว แต่ฉันอยากชิมมันก่อน!”
ตอนนี้เจียงหว่านรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอไม่เคยทำสิ่งที่ดูเอาแต่ใจขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ใช่! ตอนนี้เธอมาเพื่อพังแผงลอยนี่ซะ
แต่จะพังตอนไหนดีล่ะ อืม…กินไปสักพักค่อยบอกว่าไม่อร่อย
หรือรอจนกว่าจะซื้อเสร็จ แล้วก็ไม่ให้เงิน!
ไม่ได้ แบบนี้มันธรรมดาเกินไป!
อ้า! ทำไมไม่จับแมลงสาบ หนู หรืออะไรสักอย่างมา ถลกหนังมันแล้วโยนลงไปในหม้อซุป แล้วก็กล่าวหาว่าร้านเขามีของสกปรกอยู่ในซุปล่ะ!
คำนวณผิด คำนวณผิดไปหมดเลย!
ในหัวเจียงหว่านมีฉากทุบแผงลอยอยู่ประมาณสามสี่ฉาก ขณะที่ยืนคิดก็ไม่ได้สังเกตว่าหลิวลู่หันเนื้อ แล้วกำลังยื่นให้
“เอ้า! จะกินหรือไม่กิน ยัยอ้วน!” หลิวลู่ที่อารมณ์ไม่ค่อยดี เห็นหญิงอ้วนตรงหน้าเอาแต่หัวเราะคิกคัก ทั้งยังเมินตน เขาก็โกรธขึ้นมา!
เจียงหว่านสัมผัสอารมณ์เขาได้ เธอรีบหยิบชิ้นเนื้อมา แล้วยัดใส่ปาก ลิ้มรสทันที
อื้ม! ก็อร่อยดีนี่!
ไม่แปลกใจเลยที่สะใภ้เฉินจะสู้ร้านนี้ไม่ได้
เพียงแต่ว่า…
หลังจากเจียงหว่านกินไปหนึ่งชิ้น เธอก็รู้สึกถึงรสชาติแปลก ๆ ในเนื้อ
เมื่อหลิวลู่เห็นเธอกำลังกิน เขาก็เสียบชิ้นเนื้อเข้ากับตะเกียบแล้วรอให้เจียงหว่านบอกเขาว่าต้องการซื้อเท่าไหร่ เขาจะได้หั่นเนื้อ และชั่งน้ำหนัก
เพราะเขามั่นใจในเนื้อตุ๋นของพี่สาวเป็นอย่างมาก ใครได้ชิมก็ไม่มีทางบอกว่าไม่อร่อย
แต่ผ่านไปพักใหญ่ เจียงหว่านก็ไม่บอกเขาว่าจะเอาเนื้อเท่าไหร่สักที เธอจ้องมองเขาอย่างจริงจัง และสีหน้าของหญิงสาวก็ค่อย ๆ ดูเยือกเย็นขึ้น
หลิวลู่ขมวดคิ้วสงสัย “นี่! สายตาแบบนี้มันหมายความว่ายังไง? เธอจะเอาหรือไม่เอา?”
ตอนนั้นเอง อยู่ ๆ เจียงหว่านก็หัวเราะขึ้นมา “ฉันคิดถึงวิธีพังแผงลอยอยู่น่ะ แต่ตอนนี้นายให้ข้อแก้ตัวกับฉันแล้ว”
หลิวลู่ขมวดคิ้วหนักขึ้นไปอีก “เธอหมายถึงอะไร?! พังแผงลอย? หมายความว่ายังไง เธอมาที่นี่เพื่อพังแผงลอยเหรอ?!”
เจียงหว่านยิ้มสดใสมาก และพุ่งเข้าไปคว่ำหม้อเนื้อตรงหน้าทันที
ข้างในมีเนื้อมากกว่าสิบกิโลกรัม ตอนนี้ หม้อทั้งหมดล้มกลิ้งอยู่บนพื้น
นี่ก็น้ำซุป นั่นก็ซุป มีน้ำซุปนองอยู่ทุกที่!
“นังอ้วน! แกกล้ามากนะ คิดว่าจะทำแบบนี้กับฉันได้งั้นเหรอ?!”
ขณะที่พ่นคำด่า หลิวลู่ก็รีบวิ่งเข้ามาจัดการเจียงหว่านด้วยฝ่ามือของเขา
เจียงหว่านที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วยกมือขึ้น และขว้างเศษดินสวนออกไปทันที
หลิวลู่ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน ตอนนี้ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยเศษดิน พลันชายหนุ่มรีบหลับตาลง
เจียงหว่านจึงฉวยโอกาสนี้คว้าไม้นวดแป้งออกมา แล้วตีอีกฝ่ายอย่างแรง
เว้นแค่ส่วนหัวเอาไว้ นอกนั้นทุบตรงไหนได้ เธอก็ทุบไม่เลี้ยง!