เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 155 เฉียวเหลียนเฉิงต่อรอง!
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 155 เฉียวเหลียนเฉิงต่อรอง!
บทที่ 155 เฉียวเหลียนเฉิงต่อรอง!
เจียงหว่านตอบกลับอย่างเด็ดขาด “ไม่ เรื่องพวกนี้มันเป็นบาปกรรม ใครก็ตามที่พยายามทำของแบบนั้นจะต้องสูญเสียลูกหลานของตัวเองไป!”
“ถ้านายต้องการเฉียวเหลียนเฉิง ก็เอาเงินแสนหยวนมาให้ฉัน แล้วก็เอาเฉียวเหลียนเฉิงไปซะ”
อู๋จิ้นซื่อตกตะลึง
เจียงหว่านกล่าวต่อ “ดูสิ เฉียวเหลียนเฉิงก็อยู่ตรงหน้าแล้วไง เอาเงินหนึ่งแสนหยวนมาให้ฉันสิ!”
อู๋จิ้นจือเข้าใจแล้ว “คิดจะปล้นกันหรือไง!”
เจียงหว่านไม่สนใจ “จะปล้นหรือตลบหลังก็ไม่สำคัญแล้ว ยังไงผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกัน และฉันไม่ได้โกหกนายด้วย!”
อู๋จิ้นซื่อมองเฉียวเหลียนเฉิงด้วยความตกตะลึง “นี่คือผู้หญิงที่แกมาช่วยงั้นเหรอ? นังนี่มันบ้าชัด ๆ!”
เฉียวเหลียนเฉิงตะโกนตอบกลับ “เออ แล้วไง ฉันมีความสุข ฉันชอบแบบนี้!”
อู๋จิ้นซื่อได้ยินอย่างนั้นก็โกรธจัดขึ้นมา “จัดการนังนั่นซะ ตีมันให้ตาย!!”
สิ้นเสียง เหล่าลูกน้องก็พุ่งเข้าหาเจียงหว่านพร้อมกับแส้ยาว แล้วเริ่มเฆี่ยนตี
เฉียวเหลียนเฉิงตะโกนลั่น “ถ้าแกเกลียดฉันก็มาตีฉันสิ พวกแกจะทำร้ายผู้หญิงทำไม!”
อู๋จิ้นซื่อหัวเราะลั่น “ทำไมล่ะ? ทำไมฉันจะตีเมียแกไม่ได้? ฉันไม่ปล่อยให้แกได้มีความสุขหรอก! จัดการนังอ้วนนั่นให้ตายไปซะ!”
ทันทีที่พูดจบ แส้สองเส้นก็ฟาดลงบนร่างกายของเจียงหว่านอย่างแรง
เจียงหว่านสบฟันแน่น เธอเจ็บปวดมาก และตอนนี้เนื้อของเธอก็ปริแตก ปวดแสบปวดร้อนอย่างหนัก
เธออยากจะสาปแช่งอู๋จิ้นซื่อ แต่ความเจ็บปวดทำเธอพูดไม่ออก!
ขณะนั้น เฉียวเหลียนเฉิงก็เริ่มกังวล เขาจึงหันมาตะโกนใส่อู๋จิ้นซื่อ
“อยากรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงฆ่าพี่ชายของแกได้?”
อู๋จิ้นซื่อตกตะลึง!
เฉียวเหลียนเฉิงพูดต่อ “เพราะพี่ชายของแกมันโง่ คิดว่าจะสามารถติดสินบนคนอย่างฉันได้ไงล่ะ!”
“และตอนที่ฉันไปหาหมอนั่น ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่กับหมอนั่นด้วย แกรู้ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? ยัยนั่นคือพี่สะใภ้รองของแกไงล่ะ!”
“ตอนนั้นหมอนั่นคิดว่าพี่ชายรองของแกส่งฉันมา มันไม่ใช่แค่ร้องขอความเมตตา แต่ยังบอกว่าพี่สะใภ้รองของแกเป็นฝ่ายยั่วยวนมันก่อน!”
อู๋จิ้นซื่อตกตะลึง
เขาลุกขึ้นคำรามเสียงดัง “อย่ามาพูดอะไรบ้า ๆ เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้!”
ในจิตสำนึกของเขา พี่สามเปรียบเสมือนพ่อ เป็นยิ่งกว่าพ่อ คน ๆ นั้นใจกว้างกับพี่น้องเสมอ และยังให้ความเคารพพี่สะใภ้มาก ๆ
แล้วอย่างนั้นพี่สามจะไปนอนกับพี่สะใภ้รองได้ยังไง?
เฉียวเหลียนเฉิงแค่นหัวเราะ “ไม่เชื่องั้นเหรอ?”
“แต่ฉันบอกแกได้เลยว่า ทุกอย่างที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริง!”
“แล้วรู้ไหมว่าพี่ใหญ่กับพี่รองของแกตายได้ยังไง!”
อู๋จิ้นซื่อหน้าซีดเซียว ตะคอกออกมาด้วยความตื่นตระหนก “หุบปาก! ตีมันให้ตาย!”
สิ้นเสียง เหล่าลูกน้องที่ถือแส้ไว้ก็เปลี่ยนเป้าหมาย พวกเขาฟาดแส้ใส่เฉียวเหลียนเฉิงทันที
และครั้งนี้มันหนักกว่าเดิมหลายเท่า
เฉียวเหลียนเฉิงเห็นว่าแส้ถูกเปลี่ยนมาที่ตนแล้ว เขาจึงหลับตาลง และไม่พูดอะไรต่อ
อู๋จิ้นซื่อเริ่มไตร่ตรองบางอย่าง และนึกคิดถึงความผิดปกติ ทั้งพี่ใหญ่ พี่รองของเขาตายไปนานแล้ว
ยิ่งกว่านั้น ทั้งเขาและพี่สามก็ยังเด็กมากในเวลานั้น จะเป็นไปได้ยังไงที่พี่สามจะทำร้ายสองคนนั้น?
เมื่อคิดได้อย่างนี้ เขาจึงถามขึ้น “เฉียวเหลียนเฉิง บอกฉันมาว่าพี่ใหญ่กับพี่รองตายได้ยังไง?”
เฉียวเหลียนเฉิงลืมตา แล้วตอบว่า “ฉันเจ็บ ลืมไปหมดแล้ว!”
อู๋จิ้นซื่อกัดฟันแน่น “ดี! ดีจริง ๆ! ได้ ๆๆ… หยุดตีมัน! ไปตีนังผู้หญิงนั่นแทน!”
ขณะที่คนลงแส้กำลังจะเปลี่ยนทิศทาง เฉียวเหลียนเฉิงก็รีบพูดขึ้น
“เดี๋ยว… ฉันจำได้ แต่ว่าเราต้องแลกเปลี่ยนกันสักหน่อย!”
อู๋จิ้นซื่อแค่นหัวเราะ “แกต้องการอะไร?”
เฉียวเหลียนเฉิงตอบ “แกห้ามตีภรรยาของฉัน!”
ได้ฟังอย่างนั้น อู๋จิ้นซื่อก็โบกมือ ก่อนจะบอกให้คนของเขาทุบตีเฉียวเหลียนเฉิงต่อไป
แล้วอู๋จิ้นซื่อก็พูดขึ้นอย่างไม่ค่อยยินดีนัก “ถ้าแกกล้าโกหกฉัน ฉันจะตีภรรยาแกให้ตายต่อหน้าต่อตาแกเลย!”
จีน่าที่ยืนอยู่ข้างกายอู๋จิ้นซื่อเผยสีหน้าประหลาดใจ ดวงตาของเธอหันมองเฉียวเหลียนเฉิงกับเจียงหว่าน และแววตาคู่นั้นก็เปล่งประกายลุ่มลึกยากอธิบาย!
แส้เปลี่ยนทิศทางแล้ว และเจียงหว่านไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป เธอหันมองเฉียวเหลียนเฉิงที่จงใจรับแส้เหล่านี้ไว้เอง ในใจก็มีความรู้สึกมากมายว้าวุ่น เมื่อเธอคิดจะพูดบางอย่าง คำที่ออกมาก็กลับกลายเป็นคำตำหนิ
“งี่เง่า!”
หมอนี่ต้องเป็นคนงี่เง่าขนาดไหน? ถูกทุบตีหนักแบบนี้ แล้วจะหนีได้ยังไง?
หรือต้องให้เธอแบกเขาขึ้นหลังแล้วหลบหนีไปงั้นเหรอ?
แต่คนที่นี่มากเกินไป ต่อให้เธอคิดอะไรอยู่ เธอก็ไม่สามารถบ่นมันออกไปได้โดยตรง
จากนั้น อู๋จิ้นซื่อก็กล่าวออกมาอย่างอดทน “เอาล่ะ พูดมาซะ!”
เฉียวเหลียนเฉิงเงยหน้าเย้ยหยัน
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าพี่ใหญ่กับพี่รองของแกตายเพราะอะไร? แค่ฉันพูดก็เชื่อแล้วงั้นเหรอ!”
เมื่อรู้ว่าถูกหลอก อู๋จิ้นซื่อก็โกรธมาก “งั้นฟาดมันให้ตาย ตีมันอย่าหยุด อยากจะรู้นักว่าจะอวดเก่งไปได้อีกนานแค่ไหน!”
ทันทีที่พูดจบ แส้ก็ฟาดลงที่ลำคอของเฉียวเหลียนเฉิง
ปลายแส้ตวัดโดยใบหน้าของชายหนุ่ม ปรากฏเป็นรอยแผลบนใบหน้า และมีเลือดไหลซิบออกมา
เฉียวเหลียนเฉิงบ้วนเลือดในปากออกมา
เขาเลียริมฝีปากแดงฉาน ก่อนจะหันมองอู๋จิ้นซื่ออย่างเย็นชา
“อืม… ฉันไม่รู้หรอกว่าพี่ใหญ่กับพี่รองของแกตายยังไง แต่ฉันรู้ว่าพวกนั้นทิ้งสมบัติอะไรไว้บ้างหลังจากตายไปแล้ว!”
อู๋จิ้นซื่อเพียงขมวดคิ้ว ไม่ได้ตอบกลับไปทันที
“แกไม่ได้เจอพี่สามของแกในวาระสุดท้าย แกคงจะไม่รู้ว่าสมบัติพวกนั้นอยู่ที่ไหนสินะ!”
“เท่าที่ฉันรู้ ในบรรดาสมบัติเหล่านั้นมีรูปของราชินีแห่งหลิวเหลียนที่ว่ากันว่าไร้เสื้อผ้าอาภรณ์อยู่ด้วย!”
สีหน้าของอู๋จิ้นซื่อแปรเปลี่ยน
เขารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ครั้งหนึ่งพี่สามบอกกับเขาว่า พี่ใหญ่กับพี่รองทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ เพราะไปปล้นพวกเศรษฐีในหลิวเหลียนคนหนึ่ง และได้เงิน ทอง เครื่องประดับมากมายมา ทั้งยังมีรูปเปลือยของราชินีหลิวเหลียนเมื่อหลายสิบปีก่อนด้วย
แต่หลังจากพี่สามตายไปแล้ว เขาเองก็ไม่รู้เลยว่าสมบัติพวกนั้นอยู่ที่ไหน!
อู๋จิ้นซื่อกำลังนิ่งฟังอย่างอยากรู้ แต่เฉียวเหลียนเฉิงก็หยุดพูดไป
“พูดออกมาสิโว้ย!” เขาตะโกนลั่น
เฉียวเหลียนเฉิงหัวเราะเย้ยหยัน “แกจะตีเราสองคนให้ตาย แล้วยังต้องการให้ฉันบอกว่าสมบัติอยู่ที่ไหนอีกงั้นเหรอ?”
อู๋จิ้นซื่อโกรธจัด ส่วนจีน่าที่เงียบอยู่นานก็กล่าวขึ้นมาด้วยความโลภ
“นายพลอู๋ สิ่งที่เราขาดแคลนในเวลานี้คือเงิน ถ้าพวกเราได้สมบัติพวกนั้นมา เราจะซื้อปืนเพิ่มได้อีกมากมาย!”
เธอกล่าวกับเขาอย่างใจเย็น
“หยุด หยุดตี!”
พวกลูกน้องหยุดมือ จากนั้นอู๋จิ้นซื่อก็เดินเข้าไปหาเฉียวเหลียนเฉิง
“พูดมา สมบัติพวกนั้นอยู่ที่ไหน!”
เฉียวเหลียนเฉิงเย้ยหยัน “ถ้าแกเป็นฉัน แกจะบอกไหม?”
อู๋จิ้นซื่อตะคอกเสียงดังลั่น
“ถ้าแกบอกฉัน ฉันจะให้แกตายอย่างสงบ มีศพไปให้ญาติ ๆ ได้ฝัง!”
เฉียวเหลียนเฉิงเงียบ
อู๋จิ้นซื่อเองก็เงียบ และทันใดนั้นเขาก็หันไปหาเจียงหว่านแทน
“ฉันสัญญาว่าจะปล่อยเมียของแกไป และรับประกันว่าเธอจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย”
เฉียวเหลียนเฉิงดูแคลน “ใครก็อยากมีชีวิตอยู่ ถึงฉันอยากให้เธอรอด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยอมตาย”
“เงินพวกนั้นมหาศาล ว่ากันว่าทรัพย์สมบัติเทียบเท่ากับราชวงศ์ได้เชียวนะ”
“คิดจะเอาชีวิตเดียวแลกกับมันเหรอ?”
อู๋จิ้นซื่อสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเย็นชา “แล้วแกต้องการอะไร”
เฉียวเหลียนเฉิงตอบกลับ “ง่าย ๆ ฉันจะพาแกไปหาสมบัติพวกนั้น หลังจากำด้สมบัติมาแล้วแกต้องยกให้ฉันสามในสิบส่วน จากนั้นฉันจะกลับไปที่ประเทศจีน!”