เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 153 นังหมูอ้วน
บทที่ 153 นังหมูอ้วน
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หนานหลีเองก็วุ่นวายไม่น้อย เดิมทีอู๋จิ้นซานเคยเป็นผู้บัญชาการกองพันของกองทัพทหารในหนานหลี แต่หลังจากเขาตายไป ก็มีคนจำนวนมากต้องการยึดครองตระกูลอู๋ เวลานั้นอู๋จิ้นซื่อจึงก่อกบฏ
พวกอู๋จิ้นซื่อรวบรวมไพร่พลให้เข้ายึดครองเขตพื้นที่ชายแดน และตั้งเป็นฐานทัพ
ชาวบ้านทั้งหมดเรียกเขาว่า นายพลอู๋
ตอนนี้เขามีผู้ใต้บังคับบัญชาหลายร้อย และยังมีกำลังรบมากมาย
อย่างไรก็ตาม กองทัพทหารส่วนใหญ่แล้วจะกระจายตัวกันไปในแนวภูเขาทางชายแดน
ปัจจุบัน หมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับตำบลหลีฮวามากที่สุดคือ หมู่บ้านหมายเลขสาม มีประชากรทั้งหมดประมาณสองร้อยคน
ตกเย็น กองไฟถูกจุดขึ้นทั้งภายในและภายนอกรั้วของหมู่บ้านหมายเลขสาม
สถานที่แห่งนี้ไร้ไฟฟ้าส่องสว่าง ในตอนกลางคืนพวกเขาจะพึ่งพาแสงสว่างจากคบเพลิง
อาไซ ชายร่างผอมแห้งอุ้มเจียงหว่านกลับมาท่ามกลางความมืด เมื่อมาถึงหมู่บ้าน เขาก็โยนเธอลงทันที
“บ้าเอ๊ย โคตรหนัก หนักเป็นบ้า!”
ภายในห้องโถงของหมู่บ้าน อู๋จิ้นซื่อกำลังนอนแผ่กายอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ และมีสาวงามทรงเสน่ห์อยู่ในอ้อมแขนของเขา
อาไซเดินเข้ามาเพื่อรายงานสถานการณ์
อู๋จิ้นซื่อได้ยินก็นิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ตอนนี้เรายังจับตัวเฉียวเหลียนเฉิงไม่ได้ แต่จับภรรยาของมันมาได้?”
อาไซพยักหน้ารับ “ครับลูกพี่ เฉียวเหลียนเฉิงก็โผล่หัวมาแล้ว แต่ว่าหนีไป ผมเลยจับมันไม่ได้”
อู๋จิ้นซื่อหัวเราะ “ไม่เป็นไรหรอก ยังไงหมอนั่นก็มาที่นี่แล้ว แสดงว่ามันจะต้องรักผู้หญิงคนนี้มากทีเดียว และต้องพยายามค้นหานังนี่แน่ อีกไม่นานคงโผล่หัวมาแน่นอน!”
หลังพูดจบ อู๋จิ้นซื่อก็นึกบางอย่างขึ้นได้ จึงออกคำสั่ง “ไปพาเข้ามา พาผู้หญิงคนนั้นมาให้ฉันดูหน้าหน่อย!”
อาไซนิ่งไปครู่หนึ่ง และตอบตกลงในที่สุด
ไม่นาน ชายร่างกำยำคนหนึ่งก็แบกเจียงหว่านที่ถูกมัดไว้เข้ามา
ปัง!
ชายคนนั้นโยนเธอลงพื้นอย่างแรง
เจียงหว่านกรีดร้องเสียงหลงเมื่อร่างกายกระแทกพื้น ฟื้นจากอาการหมดสติอย่างรวดเร็ว
หลังจากลืมตาขึ้นมา เธอกวาดตามองสภาพแวดล้อมโดยรอบ เธอเห็นบ้านที่สร้างด้วยไม้และไม้ไผ่ ทั้งยังมีกองไฟรายล้อม มีปืนพกห้อยอยู่ที่เอวของทุกคนรอบข้าง ทำให้เธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอได้ย้อนเวลากลับมาในช่วงยุคดึกดำบรรพ์นับพันปี!
ทันใด เสียงทุ้มก็ดังขึ้นจากด้านข้าง “ลูกพี่ นังนี่คือภรรยาของเฉียวเหลียนเฉิงครับ”
ทั้งบริเวณแห่งนี้กลายเป็นเงียบงัน มีเพียงเสียง ‘เปรี๊ยะ’ ของประกายไฟจากกองเพลิงเท่านั้นที่ยังคงดังอยู่
เจียงหว่านพยายามพลิกตัว เธอลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก
เจียงหว่านถูกเชือกมัดตามตัวไว้แน่นมาก ทำให้ร่างอ้วน ๆ กลายเป็นปล้อง ๆ คล้ายกับแหนมที่ถูกแขวนไว้ตามร้านค้า
ผู้คนโดยรอบยิ่งเงียบสงัด
ไม่นาน อู๋จิ้นซื่ออุทานออกมา “อาไซ แกจับมาผิดคนหรือเปล่า? นี่น่ะเหรอเมียของเฉียวเหลียนเฉิง?”
อาไซพยักหน้ารับ “ไม่ผิดแน่ครับลูกพี่!”
อู๋จิ้นซื่อเม้มปาก “เป็นไปได้ยังไง? หมอนั่นมันตาบอดเหรอ? หมูอ้วนแบบนี้จะอร่อยได้ยังไง?”
“หรือผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาจะชอบหมูอ้วน?”
เมื่อสิ้นเสียงเย้ยหยัน คนรอบข้างก็ระเบิดเสียงหัวเราะลั่นทันที
เจียงหว่านกลอกตามองรอบ ๆ และเห็นว่าอู๋จิ้นซื่อเป็นชายรูปร่างผอมแห้ง แค่ดูหน้าก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี
เธอรู้ว่าตอนนี้เธอควรอยู่เฉย ๆ รอจนกว่าเฉียวเหลียนเฉิงจะมาช่วยดีกว่า
แต่เมื่อเห็นใบหน้าเหยียดหยามของพวกเขา หญิงสาวก็ไม่สามารถระงับความขุ่นเคืองในใจได้
เธอตอบกลับไปอย่างไม่อาจอดกลั้น “หนอย… ฉันเป็นหมูอ้วนแล้วมันยังไง? ฉันมีความสุขดีย่ะ ฉันไปขอข้าวพวกแกกินรึไง?”
“แล้วการเป็นหมูอ้วนหมายความว่าฉันมีกิน ไม่ได้ผอมแห้งเหมือนแท่งเทียนอย่างพวกแก!”
“ก็อย่างว่าแหละนะ พวกนายจะกินอะไรได้? ก็เป็นโจรอยู่ในป่าในเขาลึกซะขนาดนี้นี่นา!”
อู๋จิ้นซื่อโกรธจัด คิดจะสั่งให้ลูกน้องเฆี่ยนตีเจียงหว่านเพื่อระบายความโกรธ แต่เวลานั้นเจียงหว่านก็พูดขึ้นว่า
“อ้อ แต่ว่า…”
อู๋จิ้นซื่อหันขวับอย่างรวดเร็ว แล้วจ้องมองเธอ
“อะไร?”
เจียงหว่านตอบกลับ
“ฉันดูดวงได้นะ และตอนนี้ฉันก็เห็นทุกอย่างแล้ว!”
“นายมีโชคก็จริง แต่ตอนนี้มันถูกใช้จนหมดแล้ว ใบหน้าของนายหมองคล้ำไม่สู้ดี แถมในห้องโถงนี้ก็มีบรรยากาศอึมครึม เต็มไปด้วยม่านหมอกสีดำ!”
“หมายความว่ายังไง?” อู๋จิ้นซื่อถามพร้อมขมวดคิ้วแน่น
เจียงหว่านเย้ยหยัน “หมายความว่านายกำลังจะโชคร้าย ไม่เพียงแต่กำลังจะตาย แต่จะตายอย่างน่าสมเพชด้วย!”
“พูดอะไรบ้า ๆ! นังหมูอ้วน แกรนหาที่ตายเองนะ!” อู๋จิ้นซื่อทุบโต๊ะตรงหน้าอย่างแรง
เวลานี้ หญิงสาวในอ้อมแขนของเขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงยั่วยวน
“อาซื่อ… ฉันได้ยินว่าคนพวกนี้ให้ความสำคัญกับพรมจารีมาก โดยเฉพาะผู้หญิง… หากว่าต้องหลับนอนกับผู้ชายคนอื่น คงถึงขั้นต้องละอายใจจนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้”
“แม้ผู้หญิงจะไร้ยางอายและไม่คิดสนใจเรื่องนี้ แต่ผู้เป็นสามีก็จะอับอาย และรู้สึกว่าตนเองถูกสวมหมวกสีเขียว”
“ทำไมคุณถึงไม่ให้พี่น้องของคุณจัดการผู้หญิงคนนี้ล่ะคะ?”
“พวกเราทุกคนจะได้รับชมอย่างสนุกสนาน และทำให้เฉียวเหลียนเฉิงอับอายด้วย”
อู๋จิ้นซื่อตบต้นขาหนึ่งฉาด “เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ จีน่าของฉันฉลาดที่สุด!”
ขณะพูด เขากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ยื่นมือไปลูบคลำหน้าอกของเธอด้วยความปรารถนา
เสียงหัวเราะคิกคักดังออกจากลำคอของผู้หญิงคนนั้น และเสียงหัวเราะหื่นกระหายก็ดังไปทั่วบริเวณแห่งนี้
สภาพความเป็นอยู่ที่นี่ไม่ค่อยดี อากาศร้อนมาก และน้ำดื่มก็ไม่สะอาด
แม้จะมีน้ำเพียงพอให้ดื่ม แต่การอาบน้ำนับว่าเป็นเรื่องยากยิ่ง ไม่รู้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นอาบน้ำครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เพราะร่างกายของเธอเต็มไปด้วยคราบเหงื่อไคลตั้งแต่หัวจรดเท้า
คนรอบตัวหัวเราะออกมาหลังได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น
อู๋จิ้นซื่อโบกมือ “พี่น้องเอ๋ย ใครสนใจนังนี่บ้าง?”
และเมื่อเอ่ยคำถามนี้ขึ้น ทุกคนในที่แห่งนี้พลันเงียบลงอีกครั้งทันที
เขาหันศีรษะกวาดตามองไปรอบ ๆ และเห็นว่าทุกคนก้มหน้าลงอย่างช่วยไม่ได้
“ทำไมพวกแกถึงเงียบ!”
ทั่วทั้งบริเวณยังคงสงัด แต่ไม่นานนักก็มีเสียงแห่งความกล้าหาญดังขึ้นแผ่วเบา
“ลูกพี่ ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่ต้องการนะ แต่ที่พวกเราเงียบ… เป็นเพราะนังนี่อ้วนมาก จนตรงนั้นของเราไม่ลุกขึ้นเลยต่างหาก!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
อู๋จิ้นซื่อหัวเราะออกมาเช่นกัน เขาหันมองเจียงหว่านพลางเลิกคิ้วขึ้น
“ดูเหมือนว่าพี่น้องของฉันจะไม่อยากแม้แต่จะแตะต้องเธอเลยนะ เธอคิดบ้างไหมว่ามีชีวิตไปเพื่ออะไรกัน?”
เจียงหว่านไม่สนใจ “ฉันมีความสุขดี อีกอย่างถ้าฉันตาย ใครจะเป็นคนดึงเฉียวเหลียนเฉิงมาที่นี่ได้ล่ะ?”
เจียงหว่านเงียบไปพักหนึ่ง และกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ “หลังจากนายถูกเฉียวเหลียนเฉิงฆ่า เขาจะตัดศีรษะของนายและฝังมันไว้ในส้วม!”
ปัง!
อู๋จิ้นซื่อโกรธจัดจนขว้างชิ้นเนื้อบนโต๊ะใส่เจียงหว่าน
เจียงหว่านไม่จำเป็นต้องหลบด้วยซ้ำ เพราะด้วยระยะห่าง และเนื้อชิ้นใหญ่แบบนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่จะโยนตรงเป้าได้ง่าย ๆ
เห็นอย่างนั้น จีน่าก็เอ่ยปลอบชายข้างกาย “อาซื่อ อย่าไปโต้เถียงกับนังนี่เลย ยิ่งเราให้ความสนใจมันเท่าไหร่ มันยิ่งจะได้ใจนะคะ”
“ตอนนี้มันคงอยากจะตาย”
“แต่ถ้ามันตาย เฉียวเหลียนเฉิงก็ไม่จำเป็นต้องมาช่วยเหลือมัน เพราะงั้นให้นังนี่มีชีวิตอยู่ต่อไปดีกว่าค่ะ!”
อู๋จิ้นซื่อเงียบไป ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “อื้ม ฉันใจร้อนไปเอง”
“นาน่าของฉันยังมีสติ! เอาอย่างนี้ บอกฉันหน่อยสิว่าควรจะทำยังไงกับนังคนนี้ดี?”
จีน่าโน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขา “ทำไมเราไม่แขวนมันเอาไว้ แล้วทรมานมันต่อหน้าเฉียวเหลียนเฉิงล่ะ”
อู๋จิ้นซื่อตะโกนเสียงดังทันที “เอาล่ะ ใครก็ได้จับนังนี่ไปแขวนไว้!”
“แขวนมันไว้ตรงทางเข้าหมู่บ้าน ฉันอยากจะเห็นหน้าเฉียวเหลียนเฉิงจริง ๆ ว่าถ้ามันเห็นเมียถูกแขวนประจาน มันจะทำหน้ายังไง!”