เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 152 เหลยช่านตายแล้ว! ชายผู้สร้างปาฏิหาริย์
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 152 เหลยช่านตายแล้ว! ชายผู้สร้างปาฏิหาริย์
บทที่ 152 เหลยช่านตายแล้ว! ชายผู้สร้างปาฏิหาริย์
หมัดของเฉียวเหลียนเฉิงนั้นทรงพลัง เพราะเขาต้องรักษาสมดุลระหว่างความแข็งแกร่งและความเร็วเอาไว้ มีบางครั้งที่ยอมถอยออกไป และเร่งเพิ่มความเร็วในพริบตาเพื่อสร้างความสับสนมึนงงให้เหลยช่าน
เป้าหมายคือการเตะทำลายล้าง
กว่าเหลยช่านจะรู้ตัว มันก็สายเกินไป
เมื่อเฉียวเหลียนเฉิงเห็นอีกฝ่ายล้มลงกับพื้น ชายหนุ่มก็รีบวิ่งเข้าใส่ด้วยใบหน้าเย็นชา พร้อมที่จะปลิดชีพอีกฝ่าย
แต่ในขณะนี้
เขาเห็นเหลยช่านหยิบอะไรบางอย่างสีดำ ๆ ออกมา
เฉียวเหลียนเฉิงสะดุ้งเฮือก และขนลุกซู่
เขาหันหลังกลับวิ่งหนีแบบไม่ต้องคิด
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้น เฉียวเหลียนเฉิงรีบวิ่งหนีออกไป
เหลยช่านไม่สนใจความเจ็บปวดอะไรทั้งนั้น เขาหยิบปืนพกขึ้นมาแล้วไล่ตามอีกฝ่ายไป พร้อมกับยิงปืนไล่หลัง
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว เฉียวเหลียนเฉิงคือศัตรูอันดับหนึ่งของตน
หากหมอนี่ไม่ตาย เขาก็จะถูกฆ่าในไม่ช้าก็เร็ว
แล้วถ้าพูดถึงเงินรางวัลอะไรนั่น
ทุกอย่างไร้ค่าไปหมด เมื่อนึกถึงชีวิตที่ต้องเสียไป
ยิ่งไปกว่านั้น ทุกสิ่งที่เขาทำให้กับอู๋จิ้นซื่อมันเปล่าประโยชน์ อีกฝ่ายไม่รู้ถึงการมีอยู่ของเขาเลยด้วยซ้ำ และตั้งใจจะจ่ายเงินตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เท่าที่เขารู้ อู๋จิ้นซื่อเสนอรางวัลให้สำหรับการจับกุมเท่านั้น ซึ่งหมาจื่อเป็นคนไปพบจ้าวเฟิงห่อน และจ้าวเฟิงก็มาพบเขาผ่านหลิวเอ้อร์หมิน
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ใคร ๆ ก็คงได้เงินรางวัลทั้งนั้น แล้วเงินจะเหลือในมือเขาเท่าไหร่กันล่ะ และจะทำใจแบ่งให้คนอื่นได้ไหม!
เหลยช่านไล่ตามอีกฝ่ายไปอย่างสิ้นหวัง ในขณะที่เฉียวเหลียนเฉิงวิ่งไปด้านหน้าไม่หยุด
เขาไม่กล้าวิ่งเป็นเส้นตรง จึงวิ่งซิกแซกสลับไปมาระหว่างต้นไม้
เหลยช่านที่ได้ถือปืนเป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่สามารถยิงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งด้วยความเร็วของเฉียวเหลียนเฉิงก็เพียงพอที่ตจะหลบหลีก
อย่างไรก็ตาม เฉียวเหลียนเฉิงไม่คุ้นเคยกับภูมิประเทศที่นี่ เขาจึงวิ่งไปผิดที่ด้วยความตื่นตระหนก
รู้ตัวอีกทีก็วิ่งมาที่เนินเขาเสียแล้ว
มันสายเกินไปที่จะวิ่งกลับ
เขาทำได้เพียงวิ่งไปข้างหน้าห้ามหยุด
เหลยช่านที่อยู่ข้างหลังหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้เด็กน้อย ขอดูหน่อยว่าแกจะหนีไปยังไง!”
เหลยช่านหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและไล่ตามต่อไป
ระหว่างการไล่ล่าและการหลบหนี ในที่สุดเฉียวเหลียนเฉิงก็ถูกไล่ต้อนจนไปถึงขอบหน้าผา
ชายหนุ่มรีบวิ่งไปที่ขอบหน้าผาและกระโดดลงไป
ทันทีที่กระโดดลงจากหน้าผา เขาก็พลิกกลับตัวกลางอากาศและขว้างมีดออกมา
มันเป็นมีดคม ๆ ที่เจียงหว่านทิ้งลงบนพื้น ไม่รู้ว่าเฉียวเหลียนเฉิงเอามันมาตั้งแต่เมื่อไหร่
ด้านเหลยช่านที่เห็นอีกฝ่ายกระโดดลงหน้าก็ถึงกับตกตะลึง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะทันได้มีความสุข ก็มีวัตถุเย็น ๆ ลอยเข้ามาหาตัวเขาเสียก่อน
ปึ้ก!
มีดแทงตรงไปที่หน้าอกของเหลยช่านอย่างแม่นยำ
เหลยช่านตัวสั่นเทา มองลงไปที่หน้าอก แล้วก็ได้รู้ว่าตอนนี้เขาเสียท่าให้ศัตรูเสียแล้ว
“มันจบแล้ว โชคร้ายจริง ๆ นะ!” คำพูดนี้ติดอยู่ในหัวของเขา และเขาก็ล้มลงกับพื้น
สถานที่แห่งนี้เรียกว่าเทือกเขาต้าชิง เป็นพรมแดนระหว่างหนานหลีและจีน
ด้วยเหตุนี้จึงมีน้อยคนที่จะมาที่ภูเขาแห่งนี้
หน้าผาเงียบสงบและมีลมแรง
เหลยช่านไม่ได้ตายทันทีหลังจากล้มลงไป และในเวลาเพียงไม่กี่นาที ภาพความทรงจำทั้งหมดในชีวิตของเขาวิ่งเข้ามาราวกับมาปรากฏตรงหน้า
เขารู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะตาย และแม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน
เขาพยายามดิ้นรนลุกขึ้น อยากเห็นภูเขา แม่น้ำ วิวทิวทัศน์ที่ปรารถนา
แม้จะเป็นเพียงแค่การได้มองดูก็ตาม
หลังจากพลิกตัว เหลยช่านก็หันหน้าไปทางหน้าผาอีกด้าน พยายามลุกขึ้นหลายครั้งแต่ล้มเหลว ดังนั้นจึงขยับไปข้างหน้าโดยใช้แขนและขา
หลังจากตะเกียดตะกายได้ไม่นาน จู่ ๆ ก็มีมือใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้า
จากนั้น ก็มีศีรษะใครบางคนค่อย ๆ เลื่อนเข้ามา นั่นคือเฉียวเหลียนเฉิงที่เพิ่งกระโดดลงหน้าผาไป
เหลยช่านเห็นเฉียวเหลียนเฉิงปีนกลับขึ้นมา และมายืนตรงหน้าเขา
เขาโกรธมากจนกระอักเลือดออกมาเต็มปาก และตายลง!
เฉียวเหลียนเฉิงเดินตรงไปที่เหลยช่าน มองไปยังชายที่สิ้นลม ในที่สุดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อกี้อันตรายชะมัด!
โชคดีที่ถุงมือหนามของเขาเจาะเข้าไปในช่องว่างระหว่างโขดหินของหน้าผาในขณะที่ตกลงมา ด้วยความแข็งแกร่งของแขน เขาจึงปีนกลับขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย
ไม่เช่นนั้น เค้าคงตกลงไป เละเป็นโจ๊ก
เขามองไปยังเหลยช่าน ดึงมีดออกจากหน้าอกของอีกฝ่าย และสอดเก็บไว้ข้างหลังของตัวเอง
เขาก้มลงและยกร่างนั้นมุ่งหน้าลงจากภูเขา
ณ ด่านป้องกันชายแดนหมายเลข 307
เฉียวเหลียนเฉิงปรากฏตัวพร้อมกับร่างของเหลยช่าน เสียงเตือนก็ดังขึ้น
ทหารรักษาชายแดนหลายสิบคนรีบวิ่งออกมาพร้อมปืนในมือและล้อมเฉียวเหลียนเฉิงไว้
ในขณะนี้ เขาเต็มไปด้วยเลือด และใบหน้าของเขานั้น ผู้คนแทบจะจำไม่ได้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงตกตะลึงกัน
เฉียวเหลียนเฉิงเช็ดหน้าและตะโกนว่า “ฉันชื่อเฉียวเหลียนเฉิง หัวหน้ากองพันที่หนึ่งของกรมทหาร XX ของกองพล XX ของกองทัพ”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เสียงแข็งกร้าวก็ดังมาจากป้อม
“เฉียวเหลียนเฉิง ฉันรอนายอยู่ที่นี่มาตั้งสามวัน นี่นายไปฆ่าคนแบบไม่บอกไม่กล่าวกันเลยนะ!”
สิ้นเสียง บุคคลร่างกายร่างกำยำก็เดินออกไป
“ทุกคนลงไปได้แล้ว คนนี้นี่แหละคือวีรบุรุษที่ฉันพูดถึงบ่อย คนที่บุกเข้าไปในค่ายของศัตรูเพียงลำพัง หัวหน้ากองพันเฉียวเหลียนเฉิง!”
หลังจากที่เขาพูดจบ ทุกคนก็วางปืนและทำความเคารพ!
เคารพวีรบุรุษผู้แข็งแกร่ง!
เฉียวเหลียนเฉิงวางร่างของเหลยช่านลง
“หัวหน้ากองพันเฉียว นายได้รับบาดเจ็บนี่ เรียกแพทย์มาซะ!”
เฉียวเหลียนเฉิงมองไปที่สหายของตน เตียวฉางหมิง และโบกมือทักทาย “ไม่ มันไม่ใช่เลือดของฉัน แต่เป็นของหมอนี่!”
เตียวฉางหมิงมองด้วยความประหลาดใจ “แล้วนี่ใคร?”
เฉียวเหลียนเฉิงหยิบผ้าเช็ดหน้าที่เตียวฉางหมิงมอบให้ เช็ดเลือดบนใบหน้าแล้วตอบว่า
“อาชญากรเหลยช่าน คนที่ทางการออกหมายจับ”
เตียวฉางหมิงตกตะลึง “ให้ตายเถอะ เขาคือเหลยช่านจริง ๆ เหรอเนี่ย พวกนั้นส่งหมายจับหมอนี่มาให้เราตั้งสามครั้ง!”
“หยุดเช็ดเถอะ เลือดมันเช็ดให้สะอาดยากนะ เดี๋ยวฉันจะพาไปล้าง”
เฉียวเหลียนเฉิงโบกมือปฏิเสธ “ไม่ ฉันยังมีบางอย่างต้องไปทำ”
เตียวฉางหมิงขมวดคิ้วและหยิบกระบอกน้ำมายื่นให้เขา
“ยังหาเมียนายไม่เจอเหรอ?”
เฉียวเหลียนเฉิงหยิบขวดน้ำขึ้นมาสองสามขวดแล้วเทน้ำลงบนหัว สดชื่นอย่างมาก
“เจอแล้ว แต่ถูกคนของอู๋จิ้นซื่อพาตัวไป เหล่าเตียว ฉันต้องไปแล้ว ไว้คุยกันทีหลัง!”
เขาหันหลังกลับ หมายจะจากไป แต่แล้วเตียวฉางหมิงกลับหยุดเขาไว้
“เดี๋ยวก่อน เหบ่าเฉียว นายรู้ใช่ไหมว่าถ้าข้ามพรมแดนไปแล้ว ฉันจะไม่สามารถช่วยนายได้อีกต่อไปนะ”
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้า “ฉันเข้าใจ แต่ฉันต้องไป!”
เตียวฉางหมิงถอนหายใจและหยิบกระเป๋าเป้สะพายหลังที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา
“ฉันเตรียมสิ่งนี้ไว้นานแล้ว มันมีขนมอัดแข็งและน้ำ แล้วมีชุดปฐมพยาบาลด้วย”
“และของพวกนี้ไม่มีเครื่องหมายอะไรติดไว้เลย”
”ดูแลตัวเองด้วยนะ”
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้า หยิบกระเป๋าเป้สะพายหลัง และหายไปในภูเขาอันกว้างใหญ่
“อู๋จิ้นซื่อเป็นเป็นผู้นำกองโจรที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของหนานหลี แต่เขาก็ยังกล้าไปที่นั่นคนเดียว กล้ามากเลยนะครับ ทั้งที่จะไม่ได้รับการช่วยเหลือแท้ ๆ”
ทหารที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นอย่างเศร้าใจ
เตียวฉางหมิงหัวเราะเบา ๆ “ถ้าเป็นคนอื่นก็คงเป็นแบบนั้นแหละ แต่เขาไม่ใช่คนอื่น เขาคือเฉียวเหลียนเฉิง!”
“คอยดูสิ เขาจะสร้างปาฏิหาริย์!”
คนอื่นอาจไม่เข้าใจเรื่องนี้ แต่สหายที่คลานออกมาจากสนามรบด้วยกันกับเหล่าเฉียวย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดี
เฉียวเหลียนเฉิงเป็นคนที่เก่งในเรื่องสร้างปาฏิหาริย์อยู่แล้ว!