เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 150 เหลยช่าน ปล่อยภรรยาของฉันซะ!
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 150 เหลยช่าน ปล่อยภรรยาของฉันซะ!
บทที่ 150 เหลยช่าน ปล่อยภรรยาของฉันซะ!
เจียงหว่านเร่งรีบพูด “อย่าเสียงดังสิ แล้วก็พยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว! พังพอนเป็นสัตว์อมตะ และเราต้องเดินทางกลางดึกคงจะพบเจอกับหวางต้าเซียน[1]*ไปแล้ว!”
เธอพูดออกมาอย่างนี้เพราะเกรงว่าเหลยช่านกับคนอื่น ๆ จะรู้ตัวว่าถูกวางยาพิษ
ตอนนี้พิษยังออกฤทธิ์ไม่มาก เธอยังไม่สามารถจัดการพวกเขาได้
จึงบอกกล่าวว่าพวกเขากำลังพบเจอหวางต้าเซียน สิ่งที่พวกเขาเห็นต่อจากนี้จะถือว่าเป็นเรื่องลี้ลับ ไม่เกี่ยวกับยาพิษ
แน่นอนว่า หวางต้าเซียน ยังอยู่ในใจของชาวชนบทในยุคนี้ และถูกระลึกถึงเสมอ
ทุกคนจึงมีสีหน้าตื่นตระหนก มีเพียงเหลยช่านที่ยังคงเงียบ
เจียงหว่านพูดต่อ “รีบไปเถอะ!”
ขณะพูดอย่างนั้น เธอพึมพำพร้อมโค้งคำนับไปรอบ ๆ
“หวางต้าเซียน ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษ!”
“พวกเราเพียงขอเดินทางกลางดึก อย่าได้ถือโทษพวกเราเลย พวกเราไม่มีเจตนาร้าย!”
เจียงหว่านกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทำให้ทั้งสามรู้สึกเหน็บหนาวไปทั่วกระดูกสันหลัง
ทั้งหมดเร่งฝีเท้าขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว
หลังเดินไปได้สักพักหนึ่ง จ้าวเฟิงล้มตัวกับพื้นก่อนจะโบกมือยกใหญ่
“เฮ้ เจ้าคนผิวเหลือง ยกราชรถมารับฉันได้แล้ว เร็วเข้า… ให้ฉันลิ้มรสการนั่งแท่นเป็นจักรพรรดิหน่อย!”
“หรือจะให้ฉันถลกหนังของพวกแก!”
“ฮิฮิ ยอดเยี่ยมมาก น่าประทับใจ สถานที่แห่งนี้สวยงามจริง ๆ!”
จ้าวเฟิงนั่งบนพื้นพร้อมกล่าววาจาไร้สาระเรื่อยเปื่อย
ตอนนี้เองก็มีบางอย่างผิดปกติกับหม่าจือด้วยเช่นกัน
“เฮ้ มีเด็กผู้หญิงนั่งอยู่บนหลังคางคกด้วย!”
“โอ้ย โอ้ย เธอถอดเสื้อผ้าออกแล้ว ฮ่าฮ่า เอวบางร่างน้อย หน้าอกตู้มเป็นบ้าเลย!”
“สวยกว่าหญิงหม้ายในหมู่บ้านเราอีก ฮ่าฮ่า!”
คนนึงนั่งกลิ้งอยู่บนพื้น อีกคนเดินไปหาต้นไม้ใหญ่พร้อมกับเริ่มกอดจูบอย่างดุเดือด
เจียงหว่านถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าพวกเขาเริ่มมีอาการแล้ว แต่หลังจากหันกลับมามองอีกด้าน เธอพบว่าเหลยช่านกลับไม่มีปฏิกริยาใด
เขาล้มลงกับพื้น แต่ไม่มีอาการรุนแรงเท่ากับสองคนก่อนหน้า และในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน
เจียงหว่านเม้มปากก่อนจะล้วงเข้าไปในกางเกง เธอกระชับด้ามมีดที่เย็บติดกับกางเกงเอาไว้แน่น
“นี่ เกิดอะไรขึ้น! หวางต้าเซียนโปรดไว้ชีวิตเราด้วยเถิด!” เจียงหว่านจงใจตะโกนลั่นก่อนจะวิ่งเข้าหาเหลยช่านด้วยความคุ้มคลั่ง
เหลยช่านยังไม่ขยับ ดูเหมือนเวลานี้เขาจะสิ้นหวังโดยสมบูรณ์
เธอลังเลสักครู่ก่อนจะถอดรองเท้า จากนั้นถอดถุงเท้าออก ใช้มีดคมจ่อไปที่หม่าจือ ก่อนจะยัดถุงเท้าของเธอเข้าไปในปากของอีกฝ่าย และแทงขาของเขาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี!
“อ๊า! อ๊าก!”
หลังจากถูกแทงไปสองครั้งติด ดวงตาของหม่าจือเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัว เวลานี้เจียงหว่านกดปากของเขาแน่นเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้อง
หลังจากนั้นไม่นาน ดวงตาของหม่าจือกลอกไปมาก่อนจะล้มลงกับพื้น ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะเสียเลือดมากหรือตกใจกันแน่
เจียงหว่านไม่สนใจ เดินเข้าหาจ้าวเฟิงที่กำลังกลิ้งอยู่บนพื้น ทำกับกับเขาเช่นเดียวกับหม่าจือ
หลังจากจัดการทั้งสองแล้ว ก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้นจากด้านหลัง
“ทั้งที่เธอมีโอกาสฆ่าพวกมัน แต่ทำไมถึงทำแค่นี้ล่ะ!”
เสียงดังคมชัด ทำเอาเสียวสันหลัง
เจียงหว่านหันกลับมาและเห็นว่าเหลยช่านกำลังยืนพิงต้นไม้ มองเธอด้วยแววตาไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ดวงตาคู่นั้นเย็นชา และมีความสับสนฉายชัดอยู่ภายใน
ใจของเจียงหว่านบีบรัด แต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมา “ฉันไม่ได้ต้องการฆ่าใคร ฉันแค่ป้องกันตัว”
“ถ้าฉันแทงต้นขาของพวกเขา พวกเขาจะไม่มีทางวิ่งไล่ฉันได้!”
เหลยช่านตะคอก “แต่ถ้าเธอแทงไปโดนหลอดเลือดใหญ่ที่ต้นขา มันจะฆ่าพวกนั้นได้ง่าย ๆ! หรือเธออาจจะเลือกตัดขาดเอ็นร้อยหวายของพวกมันก็ยังได้!”
เจียงหว่านไม่คิดสนใจ “อย่างนั้นก็เป็นโชคร้ายของพวกเขา ยังไงพวกมันก็สมควรตายสักร้อยครั้ง ชดใช้โทษที่ก่อ ฉันไม่จำเป็นต้องเมตตา”
เหลยช่านหัวเราะ “แล้วเธอรู้ไหมว่าตัวเองก็กำลังจะตายเหมือนกัน!”
เจียงหว่านถอนหายใจ “รู้อยู่แล้ว อย่างนั้นนายช่วยทำให้ฉันตายอย่างไม่ทรมานได้มั้ยล่ะ!”
เหลยช่านเลิกคิ้วก่อนจะเดินเข้าหาเธอ “ฉันจะไม่ฆ่าเธอ แต่ถ้าหากเธอคิดตุกติกอีก ฉันจะหักขาเธอเอง!”
ก่อนเขาจะพูดจบ เจียงหว่านก็ขว้างดินใส่หน้าของอีกฝ่าย
เหลยช่านหลับตาลงอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะที่หลับตา เขาเองก็เหวี่ยงหมัดออกไปด้วย
เจียงหว่านไม่มีความสามารถในการหลบเลี่ยงจากโจมตีแบบนี้
เธอยังรักชีวิตของตัวเอง หลังขว้างทรายออกไป เธอก็เตรียมพร้อมจะวิ่งหนีอยู่แล้ว
หมัดหนักถูกเหวี่ยงออกมา เจียงหว่านปวดที่ไหลซ้ายราวกับกระดูกกำลังจะแตกสลาย
แต่เธอไม่กล้าหยุดฝีเท้า และวิ่งไปโดยไม่หันหลังกลับ
เหลยช่านปัดทรายออกจากใบหน้า เมื่อมองเห็นอีกครั้ง เขาก็กวาดสายตามองหาเจียงหว่านอย่างคลุ้มคลั่ง
“บัดซบ นังหมูอ้วน ถ้าฉันจับเธอได้ ฉันจะทำให้เธอกลายเป็นเนื้อบดเลยคอยดู!” เขาสบฟันแน่น เส้นเลือดบนหน้าผากโปนปูดออกมา
ด้านเจียงหว่าน เธอหลุดพ้นจากเหลยช่านแล้ว
แต่ตอนนี้เธอหลงทาง
หลังโจมตีเหลยช่าน เธอก็วิ่งออกมาโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ก่อนจะหยุดฝีเท้าลงในป่าที่เงียบสงัด
เธอไม่กล้าวิ่งไปตามถนนเพราะกลัวว่าเหลยช่านจะไล่ตามมาได้ จึงซ่อนตัวในป่าทึบแห่งนี้เท่านั้น
แต่เมื่อวิ่งเข้าป่า เธอไม่รู้ทิศทางได้ว่าทางไหนคือตะวันตก ตะวันออก หรือเหนือ หรือใต้… ทำได้แค่เดินต่อไปเท่านั้น
ท้องฟ้าในป่ากว้างใหญ่ แล้วยังมีหมอกหนา ยากจะแยกแยะทิศทาง
อีกทั้งวิสัยทัศน์ก็ไม่ชัดเจน มองเห็นได้ในระยะสามเมตรเท่านั้น
เจียงหว่านกระชับมีดไว้ในมือก่อนจะก้าวไปด้านหน้าช้า ๆ
ทันใดนั้น มีเงาดำพุ่งออกมาจากด้านข้าง และพุ่งเข้าหาเธอราวกับลูกธนู
“กรี๊ด!” เจียงหว่านร้องออกมา คราวแรกเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เมื่อมันเข้ามาใกล้เธอจึงเห็นว่ามันคืองูเขียว
เป้าหมายของงูคือแขนของเจียงหว่าน เธอขยับตัวหลบทันที แต่พอแขนรอดพ้น หน้าอกของเธอกลับไม่รอด
เจ้างูพลาดเป้าจึงร่วงลงบนพื้น
เวลานี้เส้นขนของเจียงหว่านลุกชูชัน เธอสั่นสะท้านไปทั้งตัวแต่ก็ยังพยายามทำใจสู้ กระชับมีดในมือแล้วสับงูตัวนั้นอย่างขาดสติ
ในสมอง มีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น ฆ่ามันซะ!
ฉึบ ฉึบ!
เจียงหว่านสับงูอยู่หลายสิบครั้ง เวลานี้งูถูกหั่นออกเป็นท่อน ๆ และตายสนิท!
เจียงหว่านนั่งลงบนพื้น
เธอไม่ได้กลัวงู แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่กลัวพิษของมัน
ป่านี้ทึบมาก น่ากลัวจริง ๆ อีกทั้งเจ้างูตัวนี้ก็มีสีสันสดใส มันต้องมีพิษแน่ ๆ
เธอรีบสำรวจร่างกาย ซึ่งโชคดีว่าไม่มีบาดแผลถูกงูกัด
เจียงหว่านรีบมองหน้าอกที่ถูกต่อยเมื่อครู่ ทันใดแววตาเผยความประหลาดใจออกมา
มีเสียงถอนหายใจดังขึ้นใกล้เคียง
“หึหึ ไม่ว่าคุณจะมองร่างกายตัวเองยังไง ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่คุณเป็นแค่หมูอ้วนได้หรอก!”
“แต่อ้วนก็ดีเหมือนกัน เนื้อหนาจนงูกัดไม่เข้าเลยนะ!”
ขณะเสียงจิกกัดดังขึ้น เจียงหว่านก็ลุกขึ้นพร้อมกับวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว ไม่คิดหันกลับมามองสักนิด
แต่หลังจากวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว กลับมีร่างหนึ่งเข้ามาขวางทางเธอเอาไว้ เหลยช่าน!
ในใจของเจียงหว่านเย็นเยียบขึ้นมา กระชับมีดในมือแน่นก่อนจะถอยห่างออกไปสองสามก้าว
“ฉันไม่เข้าใจ นายดื่มโจ๊กพวกนั้นเหมือนกันนี่ แล้วทำไมถึงไม่ถูกพิษล่ะ?”
เหลยช่านยกยิ้มน่าขนลุก “เพราะฉันรู้แผนการของเธอไงล่ะ!”
“เธอคิดว่าเห็ดสีสดใสจะมีพิษเหรอ!”
เจียงหว่านขมวดคิ้ว “แล้วไม่ใช่หรือไง?”
เหลยช่านตะคอก “ไม่ใช่! เห็ดพิษจริง ๆ จะไม่มีสี และเห็ดที่เธอทำให้พวกเรากินมันทำให้เกิดอาการประสาทหลอนเท่านั้นแหละ”
“นอกจากนี้ แผนการที่เธอใช้ก็เป็นสิ่งที่ภรรยาของฉันเคยทำกับฉันมาแล้ว! นังนั่นน่ะโหดเหี้ยมกว่าเธอมาก หึ!”
พูดจบ เขาก็เดินเข้าหาเจียงหว่านอย่างเกรี้ยวกราด
เจียงหว่านเห็นอย่างนั้นก็ขว้างทรายในกระเป๋ากางเกงออกไปอีกครั้ง แล้วพยายามวิ่งหนี
แต่ก่อนที่เธอจะก้าวขา เธอก็ถูกเหลยช่านจับได้
มือใหญ่ของเขาไม่ต่างจากเหล็กหนา คว้าไหล่ของเจียงหว่านไว้ง่ายดาย “นังอ้วน แกคิดว่าจะทำให้ฉันตาบอดเป็นครั้งที่สองด้วยวิธีเดิมงั้นเหรอ?”
เจียงหว่านสบถ ใช้มีดในมือแทงดวงตาของเหลยช่านอย่างแรง ทั้งยังพูดต่อว่า
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ก็เหมือนที่นายต้องโดนพิษจากเห็ดถึงสองครั้งไง!”
ใบหน้าของเหลยช่านยิ่งมืดมนเมื่อได้ยินคำว่าเห็ดพิษ
เขาพยายามกระชับข้อมือแน่น แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บรุนแรง ตอนนี้เจียงหว่านเองก็รู้สึกว่าข้อมือของตัวเองกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
“โอ๊ย!” เสียงร้องจากความเจ็บปวดดังขึ้น
เวลานี้ในใจของเจียงหว่านไม่มีความรู้สึกอื่นใดนอกจากความสิ้นหวัง
ทว่าทันใดนั้น ก็มีหินก้อนหนึ่งพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของเหลยช่าน
พร้อมเสียงตะโกนดังลั่น “เหลยช่าน ปล่อยภรรยาของฉันซะ!”
ร่างใหญ่กำยำพุ่งเข้าหาเหล่ยชานรวดเร็วดุจสายฟ้า!
[1] หวางต้าเซียนคือพระโพธิสัตว์ที่ชาวจีนนับถือ