เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 146 เจียงหว่านมีเพียงผม และผมจะต้องช่วยเธอ
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 146 เจียงหว่านมีเพียงผม และผมจะต้องช่วยเธอ
บทที่ 146 เจียงหว่านมีเพียงผม และผมจะต้องช่วยเธอ
ในเวลานี้ ผู้บัญชาการเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เจียงเฉิง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆ เฉียวเหลียนเฉิงถึงรุนแรงขนาดนั้น?”
“หลิวจวินหมดสติไปแล้ว นี่เขาตั้งใจจะเอาให้ถึงตายเลยหรือไง?”
ผู้บัญชาการโกรธมาก ถึงนี่จะเป็นแค่การแข่งขัน แต่ถ้าหลิวจวินเสียชีวิต เฉียวเหลียนเฉิงก็ต้องไปที่ศาลทหาร
เจียงเฉิงรีบตอบกลับ “ไม่ใช่ครับ ตอนนี้เขากังวลเพราะมีข่าวเกี่ยวกับเหลยช่าน!”
ผู้บัญชาการเริ่มจริงจังขึ้นมากเมื่อได้ยินอย่างนั้น “เกิดอะไรขึ้น? เหลยช่านอยู่ที่ไหน?”
เจียงเฉิงถอนหายใจ “เหลยช่านจับตัวภรรยาของเหล่าเฉียวไปครับ ลูกชายของเขาบอกมาอย่างนั้น!”
ผู้บัญชาการเงียบ
ไม่นานคนจากฐานอื่นก็เข้ามาสอบถามสถานการณ์ ผู้บัญชาการเห็นอย่างนั้นก็หันกลับมาและสั่งการ
“เจียงเฉิง นายนำกองพันไปกับเฉียวเหลียนเฉิง จะต้องจับเหลยช่านมาให้ได้ เราจะให้ปลาเน่าตัวเดียวส่งกลิ่นเหม็นไม่ได้อีกต่อไป!”
“ครับ!” เจียงเฉิงตอบรับหนักแน่น
จากนั้นเขาก็เห็นคนจากกองบัญชาการทหารอื่น ๆ มองมา จึงพูดอย่างลังเล
“แต่ผู้บัญชาการครับ ทางนี้…”
ผู้บัญชาการโบกมือ “ไปซะ ทางนี้ฉันจัดการเอง!”
เจียงเฉิงตอบรับและจากไป ด้านผู้บัญชาการจึงหันไปทักทายคนจากกองบัญชาการอื่น
เฉียวเหลียนเฉิงวิ่งออกไป จักรยานของเขาอยู่ที่บ้าน และเขาไม่มีเวลาหารถคันอื่นจึงทำได้เพียงวิ่ง
ขณะที่วิ่งไป ก็มีเสียงนกหวีดดังมาจากด้านหลัง
เมื่อหันกลับมา เขาก็เห็นเจียงเฉิง
“ขึ้นรถ ฉันจะพาไป!”
ข้าง ๆ เจียงเฉิงคือผิงอัน
สำหรับทหารของกองพันที่หนึ่ง พวกเขาวิ่งตามมาเหมือนกับการฝึกซ้อม ซึ่งนำโดยผู้บังคับกองร้อย
เมื่อเฉียวเหลียนเฉิงขึ้นมาบนรถ
เจียงเฉิงก็ปลอบใจ “ตามที่ผิงอันบอก เหลยช่านมาที่นี่เพื่อมาหานาย ทำไมเขาถึงอยากให้นายไปต่างประเทศล่ะ? เป็นไปได้ไหมที่…”
“อู๋จิ้นซาน” เฉียวเหลียนเฉิงพูดชื่อนั้นอย่างคับแค้น
อู๋จิ้นซานเป็นนายพลของหนานหลี ครั้งที่เฉียวเหลียนเฉิงถูกจับตอนบุกเข้าไปในฐานทัพหนานหลีเพียงลำพัง คนที่มารับมือคือกลุ่มของอู๋จิ้นซาน
ในเวลานั้น อู๋จิ้นซานในฐานะนายพลถูกเฉียวเหลียนเฉิงเล่นงานจนสภาพสะบักสะบอม หัวแตกจนเลือดโชก
หลังจากที่เฉียวเหลียนเฉิงเดินทางกลับมายังประเทศจีน เขาก็ได้ยินว่าอู๋จิ้นซื่อ น้องชายของอู๋จิ้นซานเสนอเงินรางวัลสามหมื่นหยวนเป็นค่าหัวของเขา
แต่เขาได้กลับมายังแผ่นดินใหญ่แล้ว และไม่ได้สนใจเรื่องนั้นอีก!
ตอนนี้ดูเหมือนว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นฝีมือของพวกเหลือขอนั่น
เจียงเฉิงพูดอย่างเป็นกังวล “หมอนั่นออกจากประเทศไม่ได้ในเร็ว ๆ นี้หรอก ฉันจะโทรหาเพื่อน และขอให้ช่วยจับตาดูอีกด้านหนึ่งของชายแดนให้!”
เฉียวเหลียนเฉิงส่งเสียงตอบรับต่ำ ๆ ออกมา หลับตา และไม่พูดอะไร
เจียงเฉิงเหลือบมองอีกฝ่าย และรู้ว่าหัวใจของเพื่อนกำลังร้อนรุ่ม
เมื่อมาถึงลานบ้านที่เจียงหว่านถูกพาไปแล้ว
เฉียวเหลียนเฉิงเดินไปรอบ ๆ ห้อง
เขาเหลือบสายตามองเก้าอี้ข้างเตียงอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ ผิงอันเดินตามเข้ามา เด็กชายชี้ไปที่เก้าอี้ แล้วพูดว่า “เมื่อคืนคน ๆ นั้นนั่งอยู่ตรงนี้”
เฉียวเหลียนเฉิงก้าวไปข้างหน้า ก้มศีรษะลงเพื่อตรวจสอบ และเห็นคำสามคำสลักไว้บนเก้าอี้
”อู๋ x3!”
ดูเหมือนว่าเหลยช่านต้องการล่อให้เขาไปที่หนานหลีเพื่อช่วยภรรยาสินะ!
เจียงเฉิงก็เข้ามาดูเช่นกัน
“เจ้าเหลยช่านไม่จบชั้นประถมด้วยซ้ำ เขียนตัวหนังสือแบบนี้คงไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะเป็นอู๋จิ้นซื่อจริง ๆ นะ!”
“ฉันจะเอารถมาให้นาย ถ้าจะไปหนานหลีก็มีหลายวิธี แต่ถ้าจะแอบข้ามไป ก็ต้องข้ามภูเขาไปเท่านั้น”
“ตำบลหลีฮวาเป็นทางผ่านทางเดียว นายต้องไปที่นั่นแล้วก็รอ”
เฉียวเหลียนเฉิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพยักหน้า
ณ กองบัญชาการทหาร ในสำนักงานผู้บัญชาการ
ผู้บัญชาการมองไปที่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เขาไว้ใจมากที่สุด ใบหน้ามืดมนลงอย่างน่ากลัว
เฉียวเหลียนเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “ผู้บัญชาการครับ ผมจะขอลากิจสักพัก!”
เรื่องนี้จะต้องทำในนามส่วนตัว
หนานหลีและประเทศจีนได้ลงนามในข้อตกลงสันติภาพ หากเขาก่อสงครามระหว่างประเทศด้วยความแค้นส่วนตัว เขาจะเป็นคนผิดอย่างร้ายแรง
ดังนั้นเฉียวเหลียนเฉิงจึงต้องไปในนามส่วนตัวเท่านั้น
หมายความว่า เมื่อเขาข้ามพรมแดนไปแล้ว เขาจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากกองทัพภายในประเทศ และไม่ต้องพูดถึงความช่วยเหลือจากต่างประเทศเลย
แม้ว่าเขาจะตายที่นั่น เขาก็ต้องยอมเป็นศพไร้ญาติ
ผู้บัญชาการพูดด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล “เหลียนเฉิง นายรู้ใช่ไหมว่าการทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไง!”
“ไม่ว่าเป็นยังไง เจียงหว่านก็เป็นพลเมืองของประเทศจีน เราจะไม่นิ่งเฉย และจะแก้ปัญหาผ่านช่องทางการทูต และให้ความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด!”
เฉียวเหลียนเฉิงกล่าวอย่างหนักแน่น “หัวหน้าเจียงครับ แม้ว่าผมจะเป็นหัวหน้ากองพัน แต่ถ้าไม่มีผมรับตำแหน่งนี้ ก็ยังมีคนอื่น ๆ อีก”
”ประเทศของเราจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และจะมีผู้ที่มีความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ”
“ถึงจะไม่มีผม มันก็ไม่มีผลกระทบอะไร”
“แต่หว่านหว่านมีแค่ผมเท่านั้น”
“เธอถูกพาตัวไปเพราะปกป้องผิงอัน เธอเป็นภรรยาของผม และผมเองก็มีแค่เธอเท่านั้น”
“ถ้าผมไม่ไปเธอต้องตายแน่ ดังนั้นผมต้องไปครับ!”
ผู้บัญชาการเงียบอยู่นาน ก่อนจะพูดว่า “เท่าที่ฉันจำได้ ตั้งแต่นายเข้ามาในกองทัพ นายก็ไม่เคยลาเพราะเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวเลย”
เฉียวเหลียนเฉิงตกตะลึง
ผู้บัญชาการกล่าวต่อ “ฉันให้สิทธิ์นายลากิจของครอบครัวได้สามปีครั้ง เพราะอย่างนั้นนายไปพักร้อนเถอะ!”
เฉียวเหลียนเฉิงตอบรับอย่างยินดี “ครับ ขอบคุณครับ!”
เขาก้มคำนับอย่างรวดเร็ว!
ชายหนุ่มหันหลัง แล้วก้าวออกไปทันที
ห้าวันต่อมา เจียงหว่านลงจากรถในตำบลเล็ก ๆ แถบชายแดน
ตามมาด้วยจ้าวเฟิงและเหลยช่าน!
อย่างไรก็ตาม สภาพของทั้งสามคนไม่สู้ดีนัก เพราะไม่เพียงแต่จะดูซีดเซียวเท่านั้น แต่ยังซูบผอมอีกด้วย!
แต่เธอชินกับสภาพตอนนี้
เป็นโชคดีของเจียงหว่านที่ในชาติก่อนเธอเขียนนิยาย จึงมักจะเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อรวบรวมเรื่องราว ในตอนแรก เธอไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในชนบท จึงมักจะมีอาการอาเจียนและท้องเสียตลอด
ต่อมาแพทย์แผนจีนคนหนึ่งได้จ่ายยาตามตำราพื้นบ้านแก่เธอ ยานั่นเรียกว่า ผักมด
ผักมดเป็นพืชล้มลุก พบเห็นได้ตามข้างทาง
เพียงล้างให้สะอาด ใส่ปาก เคี้ยว ก็ใช้รักษาอาการท้องเสียได้
เจียงหว่านรู้ว่าสิ่งนี้ได้ผล เธอจึงมักจะหยิบใบพวกนั้นมาเป็นกำมือ แล้วยัดเข้าปากเมื่อพวกเหลยช่านไม่เห็น
กินมันโดยไม่ต้องล้างนี่แหละได้ผลดีมาก
หลังจากการนั่งรถตกหลุมตกบ่อเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งสองคนดูซีดเซียวและผ่ายผอม มีแต่เจียงหว่านที่มีใบหน้าสีแดงระเรื่อ และยังมีรอยยิ้มที่สดใส
จ้าวเฟิงมองไปรอบ ๆ หลังลงจากรถ และไม่พลาดที่จะมองรอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงหว่าน
จากนั้นมองไปที่เหลยช่านอย่างหดหู่ “พี่เหลย ทำไมยัยหมูตอนนี่ถึงไม่ท้องเสียล่ะ?”
“เราท้องเสียกันมาตลอดทางแท้ ๆ”
เหลยช่านมองเจียงหว่านด้วยความสงสัย
เจียงหว่านเลิกคิ้ว “ฉันก็ท้องเสียเหมือนกันนะ!”
จ้าวเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงโมโห “เหลวไหล เธอไปท้องเสียตอนไหน?”
เจียงหว่านยิ้มเยาะ “แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันท้องเสียหรือไม่ได้ท้องเสีย นายไปนั่งดูในส้วมหรือไง!”
จ้าวเฟิงโกรธ “ยังกล้าที่จะปากดีอีกนะ!”
เจียงหว่านถอยหลังหนึ่งก้าว แล้วซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเหลยช่าน พลางยิ้มเย้ย
“ทำไมไม่กล้าล่ะ ฉันเองก็ไม่กลัวนายเหมือนกันน่ะแหละ แบร่ ๆ!”
จ้าวเฟิงแค่นหัวเราะด้วยความโกรธ เขาก้าวเข้าไปหวังจะจัดการหญิงอ้วน แต่เหลยช่านหยุดเขาไว้
“เราต้องไปกันแล้ว ถ้าแกจะทำให้เสียเรื่อง ฉันจะสับแกแล้วเอาไปให้หมูกินซะ”
จ้าวเฟิงโกรธจนตัวสั่น “พี่เหลย พี่คงไม่ได้หลงเสน่ห์นังผู้หญิงคนนี้หรอกใช่ไหม? ถ้าพี่นอนกับนังนี่ ก็ไม่ต่างอะไรกับการไปนอนกับหมูนะ!”
ดูเหมือนเขาจะต้องการพูดอะไรมากกว่านี้ แต่เมื่อเหลยช่านจ้องอย่างน่าหวาดกลัว และมีรังสีที่พร้อมจะฆ่าคนได้ทุกเมื่อฉายออกมาจากดวงตาคู่นั้น
จ้าวเฟิงจึงหยุดชะงักไปทันที