เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 145 หัวใจของเฉียวเหลียนเฉิงแตกสลาย
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 145 หัวใจของเฉียวเหลียนเฉิงแตกสลาย
บทที่ 145 หัวใจของเฉียวเหลียนเฉิงแตกสลาย
วันนี้เฉียวเหลียนเฉิงอารมณ์ไม่ดีเลย ตั้งแต่เปิดพิธีการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เขาก็เอาแต่ชะเง้อมองดูฝูงชนที่มาดูการแข่งขัน
ในระหว่างการแข่งขัน เขาถามเจียงเฉิงหลายครั้ง “พวกเขามาหรือยัง?”
เจียงเฉิงส่ายหัวแทนคำตอบ และเฉียวเหลียนเฉิงก็รู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก
“นายแน่ใจนะว่าให้บัตรผ่านกับพวกเขาแล้ว?” เจียงเฉิงเห็นท่าทางสิ้นหวังของเพื่อน ก็อดไม่ได้ที่จะถามเพื่อยืนยันอีกรอบ
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้า “ให้แล้ว ฉันมั่นใจ และก็…”
แล้วก็ยังเห็นเจียงหว่านสวมชุดนั้นด้วย
มันดูดีมาก!
ถึงแม้เจียงหว่านจะมีรูปร่างที่อวบอ้วน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกตกใจ แถมยังมีความสุขเมื่อเห็นเจียงหว่านดูดีถึงขนาดนี้
ในตอนนั้น เขาถึงกับอยากจะซ่อนเจียงหว่านจากคนอื่น ๆ เลยด้วยซ้ำ
เพราะหว่านหว่านของเขาทั้งสวยทั้งเก่งขนาดนี้
หัวใจของเขาเอ่อล้นไปด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก
เมื่อคืนนี้เขาไปปฏิบัติหน้าที่ แต่ถ้าพูดให้ถูกคือเอาแต่เหม่อลอยคิดถึงรูปลักษณ์ที่น่ามองของเธอ
และพอคิดว่าวันนี้จะได้เห็นมันอีกครั้ง
เขาก็ตั้งใจว่าจะต้องเอาชนะหลิวจวิน และเอาอันดับหนึ่งมาให้เธอให้ได้
แต่ตอนนี้กลับยังไม่เห็นหน้าเธอเลย
อาจเป็นเพราะเธอยังไม่มา แรงผลักดันของเฉียวเหลียนเฉิงจึงต่ำมาก ตั้งแต่เริ่มการแข่งขันจนถึงตอนนี้ การจู่โจมของเขาหนักขึ้น แถมความทนทานก็ลดลง
เดิมทีเวลาต่อสู้ เฉียวเหลียนเฉิงจะใช้เวลาอยู่นานกว่าที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้
แต่วันนี้คู่ต่อสู้เกือบทั้งหมดต้องล้มลงอย่างน่าสังเวชเมื่อสู้กับชายหนุ่ม
อีกทั้งก่อนหน้านี้ ข่าวที่ว่าเฉียวเหลียนเฉิงเพิ่งต่อสู้กับเหลยช่านแบบตัวต่อตัว และเหลยช่านก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงสองครั้งได้แพร่กระจายไปทั่ว ทุกคนจึงยอมรับความพ่ายแพ้ และพยายามหลีกเลี่ยงเขา
การแข่งขันที่เดิมใช้เวลาหนึ่งวัน กลับใช้เวลาเพียงครึ่งวัน
และอีกด้าน วันนี้อารมณ์ของหลิวจวินก็ดูขมุกขมัวไม่แพ้กัน เมื่อเห็นเฉียวเหลียนเฉิงเดินขึ้นมาบนลานประลอง เขาก็ถามอีกฝ่ายอย่างเย็นชา
“เฉียวเหลียนเฉิง นายจะไม่ออมแรงใช่ไหม?”
เฉียวเหลียนเฉิงรู้สึกประหลาดใจ และพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “การแข่งขันเพิ่งเริ่มต้น นายยังสนใจอีกเหรอว่าฉันจะทำเต็มที่หรือเปล่า”
หลิวจวินโกรธจนตัวสั่น!
ริมฝีปากก็สั่นจนพูดไม่ออก
บางทีอาจเป็นเพราะเขาดูน่าสงสารเกินไป เฉียวเหลียนเฉิงจึงอธิบายว่า
“การแข่งขันคือการแข่งขัน ไม่สามารถใช้กำลังถึงตายได้ สิ่งที่ฉันฝึกฝนคือกังฟูที่มาจากการต่อสู้ในชีวิตจริงและความตายในสนามรบ ถึงนายต้องการให้ฉันเต็มที่ และไม่กลัวตาย แต่ฉันก็ยังไม่อยากทำลายอนาคตของนาย!”
หลิวจวินเงียบ คำพูดเหล่านี้ทำให้เขาเจ็บใจมาก ทำไมไม่เคยสังเกตนะ ว่าชายคนนี้ก็พูดเสียดแทงเป็นเหมือนกัน
ความอดทนของเฉียวเหลียนเฉิงหมดลง เขาเหยียดมือไปทางคู่ต่อสู้ และยกฝ่ามือขึ้นมา
”เข้ามาเลย!”
หลิวจวินกัดฟัน ด้วยความโกรธจัด
เฉียวเหลียนเฉิงแพ้ตนมาสามครั้งติด
เขาคิดเสมอว่าตัวเองได้เปรียบ
แต่คราวนี้ พอได้ยินข่าวที่ว่า เมื่อสู้กับเฉียวเหลียนเฉิง เหลยช่านก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งสองครั้ง และทุกครั้งหมอนั่นก็ยังออกกระบวนท่าได้ไม่ถึงสิบกระบวนท่าด้วยซ้ำ
แต่ยังไงเขาก็ต้องสู้!
หลิวจวินกัดฟัน เขาคำรามปลุกใจ และพุ่งเข้าหาเฉียวเหลียนเฉิงพร้อมออกหมัดทันที
เมื่อเฉียวเหลียนเฉิงเห็นอย่างนั้น ก็ต่อยออกไปโดยไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ
หมัดของทั้งสองปะทะกัน และเบี่ยงตัวหลบเลี่ยงการจู่โจมของคู่ต่อสู้ได้ จนผู้ชมที่เห็นภาพนี้ต่างรู้สึกว่า นี่เป็นคู่ที่สมน้ำสมเนื้อ
หลิวจวินขมวดคิ้วฉงน ขณะต่อสู้ ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นเท่ากันแท้ ๆ
แต่ทำไมเหลยช่านคนนั้นถึงพลาดท่าได้?
หลิวจวินกำลังจะเปลี่ยนกระบวนท่า
ทันใดนั้น เฉียวเหลียนเฉิงก็เคลื่อนไหว รูม่านตาของเขาหดลง แต่แล้วเขาก็หันมองไปทางอื่น
หลิวจวินรู้สึกงุนงง มองตามสายตาเฉียวเหลียนเฉิงไป และเห็นเด็กคนหนึ่งกำลังคุยกับเจียงเฉิงอย่างกระวนกระวาย
ขณะที่เด็กคนนั้นพูด ใบหน้าของเจียงเฉิงดูตกตะลึงอย่างบอกไม่ถูก
หลิงจวินหันกลับมาและกำลังจะเข้าไปปะทะอีกครั้ง แต่ทันใดนั้น เฉียวเหลียนเฉิงก็วิ่งไปทางผู้ชม
หลิวจวินตะโกนด้วยความโกรธ “เฉียวเหลียนเฉิง เรายังแข่งไม่จบ! นายช่วยมีสมาธิมากกว่านี้หน่อยได้ไหม!”
เฉียวเหลียนเฉิงพูดโดยไม่หันกลับมามอง “ไม่สู้แล้ว นายชนะ ฉันขอยอมแพ้!”
ขณะพูดอย่างนั้น ชายหนุ่มพุ่งไปถึงขอบลานประลอง และทำท่าจะกระโดดลงไป
หลิวจวินพูดไม่ออก
เขาโกรธมาก โกรธจริง ๆ หมอนั่นปฏิบัติต่อหลิวจวินคนนี้เหมือนผ้าขี้ริ้วเน่า ๆ ผืนหนึ่งงั้นเหรอ?
“เฉียวเหลียนเฉิง นี่แกไม่มีกะจิตกะใจจะต่อสู้กับฉันคนนี้เลยงั้นเรอะ!”
ทันใด หลิวจวินพุ่งตัววิ่งไปต่อยเฉียวเหลียนเฉิง
เฉียวเหลียนเฉิงมาถึงขอบลานประลองแล้ว แม้จะมีหมัดพุ่งเข้ามา แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้หันกลับมามองแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่หมุนตัวเตะโดยสัญชาตญาณ
ตอนเฉียวเหลียนเฉิงเห็นว่าผิงอันมาคนเดียว และยังเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ของลูกชายดูกระวนกระวาย
กอปรกับการแสดงออกของเจียงเฉิง เขาก็รู้ว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเจียงหว่านแน่ ๆ!
เฉียวเหลียนเฉิงรู้สึกกระวนกระวายใจมาก ไม่เหลือความคิดที่อยากจะแข่งขันอีกต่อไปแล้ว
เขาปล่อยให้หลิวจวินชนะ แต่หลิวจวินกลับยังโจมตีใส่ไม่ลดละ
ความอดทนของเฉียวเหลียนเฉิงจึงหมดลง เขาหมุนตัวเตะออกไปอย่างไร้ความปราณี
พลั่ก!
“อ๊าก!”
เตะครั้งนี้เขาเอาจริง หลิวจวินกระเด็นออกไป ลอยละลิ่วเหมือนว่าวที่เชือกขาด ก่อนจะตกกระแทกอย่างแรงที่อีกด้านหนึ่งของลานประลอง ตาล่องลอย และหมดสติไป!
ทุกคนต่างตกตะลึง รีบเข้าไปดูหลิวจวิน
ผู้บัญชาการของกองทัพต่าง ๆ ที่มาดู ต่างยืนขึ้นทีละคนด้วยความไม่พอใจ
มันเป็นแค่การแข่งขันเพื่อกระชับมิตร ทำไมถึงโหดร้ายได้ขนาดนี้!
ทว่าเฉียวเหลียนเฉิงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น หลังจากเตะอีกฝ่าย เขาก็รีบลงจากลานประลองไปหาผิงอัน ไม่แม้แต่จะหันไปมองเบื้องหลัง
“ผิงอัน!” เฉียวเหลียนเฉิงรีบวิ่งเข้ามา ดวงตาของผิงอันแดงก่ำไปหมด
เมื่อเห็นพ่อ ผิงอันก็ร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“น้าอ้วน น้าอ้วนถูกใครไม่รู้พาตัวไป คน ๆ นั้นบอกว่าเขาจะหลอกล่อพ่อไปต่างประเทศ และว่ามีคนเสนอเงินจำนวนมากจ้างเขา”
“น้าอ้วนยอมไปแทนผม เธอขอให้ผมมาหาพ่อ”
หัวใจของเฉียวเหลียนเฉิงเหมือนโดนบีบรัด ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเย็นชา และดูน่าขนลุกขึ้นมาทันที
“มันเป็นใคร ลูกรู้ชื่อของมันไหม”
แม้ว่าจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว แต่เขาก็อยากถามเพื่อความแน่ใจ
ผิงอันส่ายหัว แต่ทำท่าราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างได้ เด็กชายหยิบโน้ตออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นให้เฉียวเหลียนเฉิง
“น้าอ้วนทิ้งนี่ไว้”
เฉียวเหลียนเฉิงหยิบมันขึ้นมาดู มันเป็นตัวอักษรที่เขาไม่เข้าใจ
แต่พอพลิกกลับด้านก็มีตัวอักษรอยู่ด้านหลัง
เฉียวเหลียนเฉิงขมวดคิ้ว และยื่นให้เจียงเฉิง
เจียงเฉิงจบการศึกษาจากสถาบันการทหาร ดังนั้นเขาจึงเข้าใจพินอินจีน ภาษาอังกฤษ และรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้เก่งมาก!
เจียงเฉิงหยิบมันขึ้นมาดู และอ่านบรรทัดที่เป็นภาษาอังกฤษ
“นี่ภาษาอังกฤษ มันบอกให้เขาหนี และให้ไปหาพ่อ!”
ผิงอันพยักหน้าแทนคำตอบว่า ใช่!
และด้านหลังก็ยังมีพินอินเขียนไว้ว่า Léi càn
“เหลยช่าน!” เจียงเฉิงอ่านชื่อเสียงดัง
เสียงนั้นทำให้เฉียวเหลียนเฉิง และผู้คนรอบข้างต่างตกตะลึง
เฉียวเหลียนเฉิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดกับเจียงเฉิง “นายดูแลผิงอันไว้ พวกมันอาจจะกลับมาอีก”
เจียงเฉิงพยักหน้า
จากนั้น เฉียวเหลียนเฉิงก็หันหลังกลับ และรีบวิ่งออกจากงานไป
เจียงเฉิงอยากจะหยุดเฉียวเหลียนเฉิงไว้ ทว่าเขาได้แต่อ้าปาก แต่กลับไม่มีเสียงออกมา
เพราะเขารู้ดีว่าไม่มีอะไรที่จะมาหยุดเฉียวเหลียนเฉิงได้อีกแล้ว
ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขา หรือกระทั่งผู้บัญชาการ!