เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 144 ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจ
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 144 ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจ
บทที่ 144 ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจ
เจียงหว่านรู้สึกกังวล เดิมทีเธอวางแผนจะรอจนกว่าเหลยช่านจะปล่อยเธอ แล้วค่อยลงมือ
แต่เธอไม่สามารถปล่อยให้จ้าวเฟิงไปหาผิงอันได้เหมือนกัน
ดูเหมือนว่าจะต้องเสี่ยงเท่านั้น เจียงหว่านคว้ามีดที่ซ่อนไว้ตรงอก แล้วแทงใส่เหลยช่าน
เพราะเจียงหว่านนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา ระยะห่างเท่านี้แค่เอื้อมมือก็ถึง แถมการโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จนเหลยช่านไม่ทันตั้งตัว มันจึงรวดเร็วและค่อนข้างแม่นยำ
เจียงหว่านไม่ได้มีเจตนาที่จะฆ่า แค่คิดว่าอย่างน้อยเธอก็สามารถทำให้หมอนี่บาดเจ็บได้!
แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดคือ แม้มีดจะแทงร่างกายของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ แต่เขาดันไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
เจียงหว่านแทงอีกครั้งโดยไม่ยอมแพ้
แต่ก็ยังไม่มีอาการใด ๆ
เธอเงยหน้าขึ้นมองด้วยความไม่เชื่อ และเห็นดวงตาที่ปะปนไปด้วยความขำขัน
“สนุกไหมล่ะ?” เหลยช่านถามด้วยรอยยิ้ม
รอยยิ้มนั้นดูแปลกประหลาด มันเย็นชาไปถึงกระดูก!
เจียงหว่านกลืนน้ำลาย และส่ายหัว
ไม่สนุก! ไม่สนุกเลย ทำไมไม่มีใครบอกเธอว่า ชายคนนี้ฝึกกังฟูโหดขนาดไหน?
“กังฟูเหรอ?” เธอถามอย่างไม่มั่นใจ
เหลยช่านพยักหน้า “ใช่ ถูกต้อง!”
“แม้ว่าฉันจะยังเชี่ยวชาญเต็มที่ แต่ก็มากพอจะจัดการเธอ!”
เจียงหว่านรู้สึกเสียใจ แต่ก็ยังไม่หมดหวัง
ทันใดนั้นเธอก็หมุนมีดในมือกลับมาจ่อคอตัวเอง
เหลยช่านเอื้อมมือไปคว้าข้อมือของเธอไว้ทันที “จะทำอะไร?”
เจียงหว่านแค่นหัวเราะ “หึ เราตกลงกันแล้ว ฉันจะไปกับนาย และนายก็จะปล่อยเด็กไป”
“แต่ตอนนี้นายจะให้คนของนายไปทำร้ายผิงอัน ถ้าฉันฆ่านายไม่ได้ ฉันก็จะฆ่าตัวตาย”
“ถ้าฉันตายไป ผิงอันก็เป็นแค่เด็ก พาไปได้ไม่ไกลหรอก และฉันก็อยากจะรู้นักว่านายจะล่อลวงเฉียวเหลียยนเฉิงยังไง และจะไปต่างประเทศได้ยังไง!”
”ฮ่า ๆ พอถึงเวลานั้น ทั้งความฝันที่จะไปต่างประเทศ และชีวิตของนายก็จะจบลง!”
เหลยช่านรู้สึกประหลาดใจ “เด็กนั่นไม่ใช่ลูกชายของเธอด้วยซ้ำจะปกป้องเขาด้วยชีวิตของเธอจริง ๆ เหรอ?”
เจียงหว่านเยาะเย้ย “ไม่ว่าเขาจะเป็นลูกของฉันหรือไม่ มันก็เปลี่ยนความมุ่งมั่นของฉันที่จะปกป้องเขาไม่ได้!”
เหลยช่านเงียบ ดูเหมือนเขาจะคิดอะไรบางอย่างได้ พลันแสงหนึ่งก็วาบเข้ามาในดวงตา
“จ้าวเฟิง ขึ้นรถ!”
“พี่เหลย!” จ้าวเฟิงอุทาน
เหลยช่านคำราม “ฉันบอกให้ขึ้นรถ แกไม่ได้ยินหรือไง?”
จ้าวเฟิงเงียบ เขากลัวเหลยช่านมา เพราะรู้ดีว่าถ้าเหลยช่านจะฆ่าตนเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งมันจะเป็นการฆ่าจริง ๆ แบบที่ไม่ลังเลเลยด้วย!
เขาตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจ จ้องมองไปที่เจียงหว่านอย่างโกรธแค้น เปิดประตูแล้วขึ้นนั่งตรงที่ผู้โดยสาร
เหลยช่านคว้ามีดสั้นมาจากมือของเจียงหว่าน “เธอพอใจหรือยัง”
เจียงหว่านพยักหน้า และนั่งลงอย่างเชื่อฟัง
เหลยช่านโยนมีดออกไป
“เธอซ่อนอาวุธไว้อีกกี่ชิ้น? เอาออกมาให้หมด อย่าให้ฉันต้องตรวจดู!”
เจียงหว่านหันไปมองเขาแล้วยิ้มกว้าง
เหลยช่านคิดว่าเธอจะปฏิเสธ แต่เจียงหว่านกลับดึงมีดทำครัวออกมาจากอก
เหลยช่านถึงกับอึ้งไป
ก่อนที่เขาจะพูดอะไร เจียงหว่านก็ดึงมีดทำครัวออกมาอีกเล่ม
แล้วก็อีกเล่ม!
มีมีดทั้งหมดสามเล่ม
สีหน้าของเหลยช่านเคร่งขรึมขึ้น “ไม่มีแล้วแน่เหรอ?”
เจียงหว่านส่ายหัว และยื่นมือยกชายเสื้อขึ้น “ถ้าไม่เชื่อก็มาดูเองสิ!”
เหลยช่านส่ายหัว “ไม่เห็นหรือไงว่าฉันขับรถ!”
แม้ว่าเขาจะส่ายหัว แต่ก็ยังเห็นเนื้อสีขาวบนเอวของเจียงหว่านจากหางตา
ดูเหมือนว่าจะไม่มีมีดแล้วจริง ๆ
แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่สวมเสื้อกล้ามเลยเหรอ?
แต่ก่อนเขาคิดเสมอว่ามีแค่พวกที่ไร้ยางอาย แต่เขาไม่คาดคิดว่าผู้หญิงอ้วนคนนี้จะไร้ยางอายเหมือนกัน!
รถขับออกไป โดยมีมีดสั้นเล่มหนึ่งกับมีดทำครัวอีกสามเล่มนอกทิ้งไว้
ทางด้านผิงอัน
ตอนเจียงหว่านตามเหลยช่านมา ผิงอันกลับเข้าบ้านมา และปิดประตูทันที ร่างกายของเด็กชายสั่นสะท้านอยู่หน่อย ๆ
เด็กน้อยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่เข้มแข็ง และรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ชาย ต้องปกป้องน้าอ้วนของเขา
แต่ตอนนั้นเขาก็กลัวขึ้นมา
กลัวมากด้วย!
ตอนที่เหลยช่านมาถึงเมื่อคืนนี้ ผิงอันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความตกใจ
เจียงหว่านปลอบใจเขา และเขาก็หลับไปอีกครั้งเพราะความง่วง
แต่ในขณะหลับ เขาได้ยินชายคนนั้นคุยกับน้าอ้วนประมาณว่าจะพาพ่อไปต่างประเทศ และเขายังได้ยินน้าอ้วนบอกว่าเธอจะเป็นตัวประกันเพื่อแลกกับเด็กน้อยอย่างเขา
เขาคิดว่ามันเป็นความฝัน และถึงแม้ผิงอันจะกังวลและหวาดกลัว แต่เขาก็ไม่สามารถลืมตาตื่นได้
ตอนใกล้สว่างเมื่อเขาตื่นขึ้น เขาก็เห็นข้อความที่น้าอ้วนทิ้งไว้ข้างหมอน
เด็กชายรีบตั้งหน้าตั้งตาวิ่งออกไปโดยสัญชาตญาณ
เมื่อเห็นดวงตาน่ากลัวของเหลยช่าน และรอยแผลเป็นบนใบหน้าของอีกฝ่าย จนถึงตอนนี้เขายังคงกลัว และตื่นตระหนกอยู่ลึก ๆ จากก้นบึ้งของหัวใจ
เขาเห็นจากหน้าต่างว่าชายคนนั้นจะพาน้าอ้วนไป
ผิงอันอดไม่ได้ที่จะร้องไห้
เขาไม่รู้ว่าร้องไห้ไปนานแค่ไหน แต่ในที่สุดความสั่นในใจก็บรรเทาลง และคำพูดของน้าอ้วนก็ดังขึ้นในใจ
‘วิ่ง ไปหาพ่อของเธอซะ!’
ผิงอันปาดน้ำตา พลิกตัวแล้วกระโดดออกไปนอกหน้าต่าง ไม่สนใจที่จะพาเสี่ยวเสวี่ยไปด้วย และรีบวิ่งไปที่ค่ายทหารทันที
เพราะยังเช้าอยู่ บนถนนจึงมีคนน้อยมาก และผู้คนส่วนใหญ่ก็ทำนาตั้งแต่ตีสองตีสาม พวกเขาต่างก็รีบร้อนกับเรื่องตัวเอง ไม่มีใครสนใจกะอีกแค่เด็กคนหนึ่ง
อาจเป็นเพราะความวิตกกังวลและความกลัว ผิงอันจึงสะดุดอยู่หลายครั้ง
ในที่สุด หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ เขาก็วิ่งมาถึงค่าย
เหตุที่ใช้เวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง เป็นเพราะว่าเขาไม่รู้ทางเลยสักนิด
เด็กชายเลี้ยวผิดบ่อยครั้ง และเกือบหลงทางอยู่หลายหน
ระหว่างตำบลและกองทัพมีพื้นที่กว้างใหญ่ หากไม่มีข้อมูลเส้นทาง ก็ไม่สามารถบอกความแตกต่างระหว่างตะวันออก ตะวันตก เหนือ หรือใต้ได้
ผิงอันอยากจะใช้ทางลัด แทนการเดินไปตามสันเขา แต่การเดินไปตามเส้นทางที่ตัดผ่านโดยตรงจะทำให้เขาหลงทางได้ง่ายขึ้นไปอีก!
เมื่อมาถึงกองทัพก็เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว
ผิงอันวิ่งจนตัวเปรอะไปหมด และใบหน้าก็กลายเป็นสีดำ เขารีบตรงไปที่ประตู แต่ยามที่ประตูก็หยุดเขาไว้
“นี่ ไอ้หนู เข้ามาที่นี่ตามอำเภอใจไม่ได้นะ ออกไปเดี๋ยวนี้!”
ผิงอันส่ายหัว “ผมมาจากบ้านข้างในนี้ ผมกำลังหาพ่อ พ่อผมเฉียวเหลียนเฉิง ผมชื่อเฉียวผิงอัน!”
ทหารยามตกตะลึงเล็กน้อย ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของเฉียวเหลียนเฉิง และเขาคนนั้นก็มีลูกชายคนหนึ่งจริง ๆ
“มีบัตรผ่านหรือเปล่า” ทหารยามถาม
ผิงอันส่ายหัว “ไม่มี แต่ผมเป็นลูกของเขาจริง ๆ รีบเรียกเขาออกมาเร็ว ๆ เถอะครับ น้าอ้วนถูกลักพาตัวไปแล้ว!”
เมื่อเห็นว่าเข้าไปไม่ได้ ผิงอันก็ร้องไห้อย่างร้อนใจ
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นแค่เด็กห้าขวบ ไม่ว่าจะฉลาดและมีเหตุผลแค่ไหน เขาก็ยังตื่นตระหนกและหวาดกลัวอยู่ดี
ทหารยามเงียบ ปล่อยให้อีกคนเฝ้าเด็กไว้ ขณะที่ไปรายงาน
เฉียวเหลียนเฉิงและคนอื่น ๆ ต้องเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวในวันนี้ พวกเขาขึ้นรถไปยังสถานที่แข่งขันตั้งแต่หกโมงเช้า
การแข่งขันศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวไม่ได้จัดขึ้นที่นี่
เนื่องจากเป็นการแข่งขันศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวของกองทัพ จึงมีผู้คนจำนวนมากมาเยี่ยมชม รวมถึงผู้คนจากกองทัพของเมืองอื่นด้วย
แน่นอนว่าการแข่งขันศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวไม่ได้จำกัดอยู่แค่ศิลปะการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรู้ทางการทหารและอื่น ๆ ด้วย
เฉียวเหลียนเฉิงไม่ได้อยู่ที่บ้านพัก ทั้งเจียงเฉิงและผู้บัญชาการก็ไม่อยู่เช่นกัน
นายทหารเข้าไป และมองไปรอบ ๆ แต่ไม่พบเฉียวเหลียนเฉิง พวกเขาจึงกลับออกมา และไปที่ลานบ้านพัก
ซึ่งเหอหยวนหยวนบังเอิญอยู่ที่นั่น
เหอหยวนหยวนได้ยินว่าผิงอันกลับมาแต่ไม่สามารถเข้ามาได้ เธอจึงรีบออกมาดู และพาผิงอันเข้ามา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอได้ยินว่าเจียงหว่านถูกลักพาตัวไป เหอหยวนหยวนก็เริ่มสับสน
ครอบครัวอื่นไม่ได้อยู่ที่นี่ และผู้ชายทุกคนในครอบครัวก็ไปดูการแข่งขันศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวกันหมด ทำยังไงดีล่ะ?
กว่าเธอจะพบใครสักคน และพาผิงอันไปที่สถานที่จัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวได้ และกว่าเธอจะได้พบกับเจียงเฉิง ก็เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงเข้าไปแล้ว
และในเวลานี้ เฉียวเหลียนเฉิงก็อยู่ในสนามเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับหลิวจวิน!