เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 142 เหลยช่านมาถึงประตู วิ่งเร็วเข้า!
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 142 เหลยช่านมาถึงประตู วิ่งเร็วเข้า!
บทที่ 142 เหลยช่านมาถึงประตู วิ่งเร็วเข้า!
เจียงหว่านเริ่มสอนภาษาอังกฤษให้ผิงอันตามที่เด็กน้อยเรียกร้อง
คำแรกที่เจียงหว่านสอนผิงอันคือคำว่า
“Run หมายถึง วิ่ง วิ่งหนี วิ่งเร็วเข้า!”
เจียงหว่านอ่านให้ผิงอันฟังหลายครั้ง
ผิงอันก็อ่านตาม และจดจำคำศัพย์อย่างรวดเร็ว
จากนั้นเธอก็สอนอีกหนึ่งคำ
“คำต่อไป find หมายความว่า ไปหา ค้นหา”
“find your father หมายความว่า ไปหาพ่อของเธอ”
หลังจากสอนไปสักพัก เจียงหว่านก็ตกใจเล็กน้อย เธอเพิ่งตระหนักได้ว่า ตนเองสอนคำและประโยคพวกนี้ไปโดยไม่รู้ตัว
บางทีอาจเป็นสัมผัสที่หกของเธอก็ได้ หรืออาจเพราะเธอไม่สบายใจที่เหลยช่านยังอยู่ในตำบลนี้
เจียงหว่านจ้องมองผิงอันที่พยายามออกเสียงตามด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
ไม่นานนัก เธอก็ถอนหายใจออกมา “ผิงอัน คืนนี้เธอไปนอนบ้านคุณลุงขายเนื้อเถอะ”
มันอันตรายเกินไปที่จะอยู่ที่นี่ เพราะถ้าเหลยช่านปรากฏตัวขึ้น มันคงจะเลวร้ายมาก
จริงอยู่ที่ตราบใดเธอไม่กระโดดเข้าไปยุ่งด้วยตัวเอง เธอก็คงปลอดภัย
แต่หากเหลยช่านกับจ้าวเฟิงมาด้วยกัน มันก็เป็นอีกเรื่อง
เพราะถ้าถามว่าจ้าวเฟิงเกลียดใครมากที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็นเจียงหว่าน
หากเขามีโอกาสลงมือเมื่อไหร่ เขาจะไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่
ผิงอันกะพริบตาปริบพลางถาม “แล้วคุณจะไปด้วยกันไหม?”
เจียงหว่านส่ายหัว “บ้านลุงเกาเฉวียนไม่ได้กว้างขวาง คนอ้วนอย่างฉันจะยุ่งยากเปล่า ๆ”
ผิงอันจึงพูดขึ้นทันควัน “งั้นผมก็ไม่ไป ผมจะอยู่ปกป้องคุณที่นี่”
เจียงหว่านเลิกคิ้ว “ไร้สาระ เธอจะช่วยอะไรได้ เด็กน้อยอย่างเธอปกป้องใครไม่ได้หรอก แล้วเธอก็จะกลายเป็นตัวถ่วงของฉัน!”
ผิงอันยืนนิ่ง จ้องมองเจียงหว่าน แล้วพูดอย่างเกรี้ยวกราด
“งั้นถ้าพวกมันมา ผมจะไปซ่อนตัว พอคุณตายแล้ว ผมค่อยรวบรวมร่างของคุณให้ครบก็ได้นี่!”
“ไม่จำเป็น!” เจียงหว่านตอบทันที
หัวใจของเธอกำลังจะระเบิดออกด้วยความโกรธ
ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เรียนรู้ความน่ารำคาญ และฝีปากที่ร้ายกาจมาจากใคร…
“นั่นแหละ หลังมื้อเย็นเธอต้องไปบ้านลุงเกาเฉวียน แล้วค่อยกลับมาทีหลัง ถ้าไม่เชื่อฟัง ฉันจะส่งเธอกลับไปที่บ้านพักครอบครัวทหารนะ!”
ผิงอันจึงพูดว่า “พรุ่งนี้พ่อจะแข่งแล้ว คุณสัญญาแล้วนี่ว่าจะไปดูการแข่ง”
เจียงหว่านตบหน้าผากผ่าง เธอลืมมันไปเสียสนิท
“งั้นคืนนี้เธอไปนอนที่บ้านของลุงเกาเฉวียนซะ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะพาไปดูพ่อเธอ”
เกาเฉวียนเป็นชื่อของคนขายเนื้อ
ผิงอันหันหน้านี้อย่างไม่ยินยอม
เจียงหว่านอยากจะพาเขาไป แต่ผิงอันกลับปฏิเสธอย่างหนัก จนเธอทำอะไรไม่ได้ และสุดท้ายก็ต้องยอมโอนอ่อนให้เด็กชาย
ตกดึก เพื่อป้องกันอันตรายเจียงหว่านจึงทุบขวดแก้ว และโรยเศษแก้วไว้บนกำแพง
กรวดแหลมบางส่วนก็ถูกฝังไว้รอบ ๆ กำแพงด้วย
พอรู้สึกว่าทำทุกอย่างที่สามารถทำได้แล้ว เจียงหว่านจึงเข้านอน
ทว่า แม้เจียงหว่านจะทำทุกอย่างแล้ว แต่เธอก็นอนไม่หลับ และคล้ายกับว่าจะได้ยินเสียงบางอย่างจากด้านนอก
เหมือนมีบางอย่างร่วงลงพื้น
เจียงหว่านลืมตาขึ้นพร้อมกับลุกนั่ง เปิดม่านเล็กน้อยแล้วมองออกไป
ทันใด ใบหน้าที่คุ้นเคยก็ปรากฏตรงหน้า
ใบหน้านั้นเป็นใบหน้าที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี เฉียวเหลียนเฉิง! ใบหน้าซีดขาว มีเลือดออกจากดวงตาทั้งสองข้าง และดวงตาของเขาเป็นหลุมลึกดำขนาดใหญ่ราวกับว่าไม่ได้พักผ่อน!
“กรี๊ด!” เจียงหว่านกรี๊ดลั่น ก่อนจะตื่นขึ้น
เธอพลิกตัวขึ้นนั่ง เสียงหอบหายใจดังหนักหน่วง เจียงหว่านมองออกไปดูแสงจันทร์ด้านนอก แล้วความตึงเครียดก่อนหน้าก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง
หญิงสาวเช็ดเหงื่อที่หน้าผากออก
แต่ก็ยังไม่คลายความตื่นตระหนก เพราะนอกจากเธอและผิงอันแล้ว ดูเหมือนจะมีเสียงลมหายใจอยู่ใกล้ ๆ…
หัวใจของหญิงสาวเต้นระส่ำ ก่อนจะหันศีรษะไปมองตามทิศทางเสียง และพบว่ามีร่างดำมืดกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง
เจียงหว่านตกตะลึง เธอใช้เวลาสามวินาทีในการยืนยันว่าผู้ชายตรงหน้าไม่ใช่เฉียวเหลียนเฉิง
ส่วนสูงไม่ใช่ รูปร่างก็ไม่ใช่!
และที่สำคัญคือกลิ่น!
เฉียวเหลียนเฉิงไม่สูบบุหรี่ และร่างกายของเขาก็มักจะมีกลิ่นสบู่อ่อน ๆ เสมอ
ต่อให้จะเหงื่อออกมาก แต่กลิ่นเหงื่อของเขายิ่งดมก็ยิ่งรู้สึกสดชื่น
ทว่าผู้ชายตรงหน้ามีแต่กลิ่นบุหรี่ เป็นกลิ่นตัวที่ไม่น่าพิศวาสเอาซะเลย มันไม่สามารถอธิบายได้โดยตรง แต่เธอรู้สึกขยะแขยง
หลังจากยืนยันแล้ว สิ่งที่เจียงหว่านทำคือการกรีดร้องออกมาอีกครั้ง
“กรี๊ด!”
ตอนนี้เธอคิดว่าหากทุกอย่างเป็นความฝัน เธอคงจะต้องตื่นขึ้นจากเสียงร้องนี้แน่
แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าจะกรีดร้องดังสักแค่ไหน ทุกอย่างก็ยังคงเป็นเช่นเดิม
ตอนแรกเธอคิดว่าการกรีดร้องจะทำให้เธอตื่นจากฝันร้าย
แต่เมื่อรู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน เธอก็กรีดร้องออกมาอีกครั้งเพื่อเรียกคนภายนอกให้เข้ามาช่วยเหลือ
แต่ชายบนเก้าอี้กลับไม่ได้กังวลอะไรเลยแม้แต่น้อย
เขาเพียงยิ้ม และพูดขึ้นว่า “เสียงกรีดร้องของผู้หญิงเป็นสิ่งที่ฉันชอบฟังมากเลยรู้ไหม”
“ยิ่งตอนที่ฉันฆ่าเมียของฉัน เสียงกรีดร้องของนังนั่นมันช่างไพเราะจริง ๆ รู้ไหมว่านังนั่นตะโกนนานเท่าไหร่?”
“อืม… สามวันโดยไม่หยุดเลยล่ะ!”
พูดจบ เจียงหว่านก็หุบปากทันที!
หวาดกลัว?
ใช่!
แม้ว่าเจียงหว่านจะยังไม่ได้เห็นหน้าอีกฝ่ายชัดเจน แต่ทันทีที่เขาเอ่ยปาก เธอก็รู้ทันทีว่าคนคนนี้คือ เหลยช่าน!
ความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมหัวใจของเธอ
ขณะที่กำลังคิดว่าตัวเองจะต้องตายอย่างไร
เสียงที่งัวเงียของเด็กน้อยก็ดังขึ้น
“น้าอ้วน มีอะไรเหรอ คุณคุยกับใคร? พ่อกลับมาแล้วเหรอ?”
ผิงอันผู้ไม่เคยตื่นแม้ท้องฟ้าจะถล่ม กลับตื่นขึ้นมาในเวลานี้เสียได้!
เจียงหว่านได้สติทันที เธอสูดลมหายใจ ก่อนจะดึงผิงอันเข้ามากอดไว้ แล้วกล่าวเสียงแผ่วเบา
“ไม่มีอะไร เป็นลุงมาตรวจสอบสถานการณ์น่ะ”
“เขาเป็นเพื่อนของพ่อเธอ มาช่วยดูความปลอดภัยของเรา เอาล่ะ ไม่มีอะไรแล้วผิงอัน นอนเถอะนะ”
ผิงอันพึมพำ ก่อนจะขดตัวในอ้อมแขนของเจียงหว่าน แล้วหลับไปอีกครั้ง
ในใจของเจียงหว่านเต้นรัวจนแทบระเบิดออก ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่า บุคคลตรงหน้าคือเหลยช่านจริง ๆ
และที่สำคัญ นี่ไม่ใช่ความฝัน!
หลังจากสงบสติอารมณ์ เธอก็พยายามครุ่นคิดหาวิธีนับหมื่นแสนที่จะเอาตัวรอด หรือไม่ก็ต่อสู้จนตัวตาย
แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกไม่มั่นใจ เพราะเธอไม่สามารถหลบหนีไปพร้อมกับผิงอันได้
หลังจากสูดลมหายใจอีกครั้งให้หัวใจเต้นช้าลง เธอก็เห็นว่าผิงอันหลับสนิทอีกครั้งแล้ว จึงกล่าวออกมาอย่างใจเย็น
“ทั้งที่เมื่อครู่คุณสามารถฆ่าฉันได้ทันที แต่ทำไมถึงไม่ทำล่ะ!”
“คุณต้องการอะไร? บอกมาสิ!”
เหลยช่านที่หลบอยู่ในมุมมืดจ้องมองเจียงหว่าน แล้วเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“คุณผู้หญิง เพราะคุณอ้วนยังไงล่ะ”
“โชคดีที่คุณอ้วนแบบนี้ ถ้าคุณตัวบางร่างเล็กเหมือนพวกไม้เสียบผี ฉันคงจะหั่นเธอเป็นชิ้นแล้วล่ะ”
หัวใจของเจียงหว่านบีดรัด แต่ก็ยังตอบกลับอย่างหงุดหงิด “ฉันก็เกลียดผู้หญิงที่เหมือนไม้เสียบผีเหมือนกัน!”
เหลยช่านหัวเราะลั่น
และขณะที่กำลังหัวเราะ เขาก็เดินออกมาจากความมืด…