เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 137 ให้นอนกับหมูยังดีซะกว่า
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 137 ให้นอนกับหมูยังดีซะกว่า
บทที่ 137 ให้นอนกับหมูยังดีซะกว่า
“ชุดนี้คงจะใส่ได้อีกไม่กี่วัน เพราะพอผ่านวันชาติไปแล้วอากาศคงเย็นลงอีก”
เจียงหว่านครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยปากตอบกลับ “ถ้าฉันออกแบบให้คุณได้ไหมคะ?”
หลินชิงโหรวเกาศีรษะครุ่นคิด ก่อนจะพูดว่า “ถ้าหากว่าเธอวาดรูปได้ก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร”
ตามที่หลินชิงโหรวบอก ไม่ว่าจะเป็นแบบแบบไหน ตราบใดที่เธอได้เห็นมัน เธอก็สามารถทำได้แน่นอน
เจียงหว่านเงียบไปชั่วขณะ แล้วกล่าวว่า “ตกลงค่ะ เดี๋ยวฉันจะวาดรูปให้คุณดู”
น่าเสียดายที่เจียงหว่านวาดภาพได้ไม่ดีนัก เธอใช้ปากกาเกาศีรษะอย่างจนปัญญา พยายามอยู่นานก็ไม่สามารถวาดให้ดีได้
หลินชิงโหรวเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน สุดท้ายจึงเป็นเจียงหว่านที่วาดเสร็จก่อน และเอามาให้หลินชิงโหรวดู
แต่สิ่งที่หลินชิงโหรวเห็น กลับเป็นเพียงน้ำเต้าที่ไม่มีหัว
แม้เจียงหว่านจะพยายามอธิบาย แต่หลินชิงโหรวก็ยิ่งไม่เข้าใจ
สุดท้ายเจียงหว่านก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปหาผิงอัน
สิ่งที่ทั้งสองคาดไม่ถึงคือ ความฉลาดของผิงอันนับว่าน่าประทับใจมาก เจียงหว่านเพียงอธิบายครั้งเดียว เขาก็สามารถวาดภาพออกมาได้เลย
การออกแบบกับคำพูดแทบจะไปในทิศทางเดียวกัน
เจียงหว่านจึงดีใจมาก “ลูกชายสุดที่รักของฉัน เธอเก่งมากจริง ๆ”
“ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวฉันจะบอกให้พ่อส่งเธอไปเรียนวาดภาพ! พรสวรรค์ของเธอจะไม่เสียเปล่าแน่นอน!”
เมื่อเห็นว่าเขาสามารถวาดภาพได้ดีมาก แม้จะยังไม่เคยเรียน เจียงหว่านเลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดายหากไม่ส่งเขาไปพัฒนาพรสวรรค์เหล่านี้ต่อไป
ใบหน้าน้อย ๆ ของผิงอันแดงก่ำด้วยความเขินอายจากคำพูดว่า ‘ลูกชาย’ ของเจียงหว่าน
เขาอดไม่ได้ที่จะมีความสุขจากคำพูดนี้!
หลินชิงโหรวที่อยู่ข้าง ๆ มองภาพวาดนั้นราวกับสมบัติ “โอ้โห้ ชุดแบบนี้มันดูใหม่มากเลยนะ”
“ไม่มีปก! ไม่ต้องมีปกคอเหรอ?”
เสื้อผ้าในยุคนี้มักจะมีคอปกเล็ก ๆ และทั้งหมดจะเป็นทรงคล้ายกล่อง
แต่เจียงหว่านไม่ต้องการให้มีปกคอเสื้อ
เธอหัวเราะ แล้วบอกว่า “ฉันอ้วนและไม่มีคอน่ะ”
“นี่คือการเน้นจุดแข็ง หลีกเลี่ยงจุดอ่อน”
ดวงตาของหลินชิงโหรวเปล่งประกายหลังจากที่ได้ยินอย่างนั้น “ฉันจะเริ่มตัดเย็บให้เธอคืนนี้เลย แล้วเธออยากจะจัมป์เอวด้วยเหรอ? จะทำจริง ๆ เหรอ!”
เสื้อผ้าในยุคนี้ไม่นิยมรัดเอว เพราะมันทำให้คนที่รับชมรู้สึกไม่ค่อยสุภาพสักเท่าไหร่
แน่นอนว่าในยุคนี้จะเน้นให้ใหญ่ไว้ก่อน ผู้คนเลยสวมใส่แต่เสื้อผ้าหลวม ๆ
หากเสื้อผ้าของผู้หญิงคนไหนรัดเอว และมีหน้าอกยื่นออกมาเด่นชัด คนจะมองว่าผู้หญิงคนนั้นไม่สุภาพ และทำตัวผิดศีลธรรม
ดังนั้นชุดของเจียงหว่านที่ออกแบบให้มีจัมป์เอวสูง และไม่มีคอปก จึงแตกต่างจากชุดเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง!
เจียงหว่านไม่สนใจอะไรพวกนั้น เธอเน้นย้ำส่วนสำคัญ ๆ สองสามที่กับหลินชิงโหรว แล้วพาผิงอันกลับออกมา
เวลาบ่ายสอง ทั้งสองคนกลับมาที่ตำบลอีกครั้ง
เจียงหว่านรู้สึกประหลาดใจที่สะใภ้เฉินยังไม่กลับมา “เธอทำการบ้านอยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวฉันจะไปหาป้าเฉินก่อน”
ผิงอันปฏิเสธทันที “ไม่ได้ คนเลวยังไม่โดนจับเลย จะปล่อยผมไว้คนเดียวได้ยังไง?”
ได้ยินอย่างนั้น เจียงหว่านจึงต้องพาผิงอันไปหาสะใภ้เฉินด้วยกัน
ทันทีที่มาถึง เธอเห็นฝูงชนมากมายตรงหน้า ในใจของเจียงหว่านเต้นรัว รีบแหวกทางฝูงชน แล้วแทรกตัวเข้าไปด้านใน
ภายในฝูงชนมีเฉินเซวียนเป็นจุดศูนย์กลาง เนื้อทั้งหมดในหม้อกระจายเกลื่อนพื้น ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
ผมเผ้าของสะใภ้เฉินยุ่งเหยิง ใบหน้าเผยความเกรี้ยวกราด
ตรงข้ามสะใภ้เฉิน มีผู้หญิงคนหนึ่งกลิ้งอยู่บนพื้น
เสี่ยวเฉินเอ่ยขึ้นว่า “คุณทำบ้าอะไรครับเนี่ย!”
ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ และตวาดกลับนายตำรวจหนุ่ม “ฉันไม่สน!” จากนั้นหล่อนหันจ้องสะใภ้เฉินอีกครั้ง “เฮอะ แกกลัวคนอื่นจะรู้ว่าตัวเองไปมั่วกับผู้ชายใช่ไหม!”
“ทุกคนดูสิ นังผู้หญิงนี่มันยั่วสามีฉัน มันยั่วสามีฉัน แล้วยังกล้าตบฉันอีก”
“สวรรค์! สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย!”
ผู้หญิงคนนั้นแหกปากตะโกน พลางร้องไห้ออกมาอย่างเสียสติ นั่นทำให้สะใภ้เฉินยิ่งโกรธมาก “ไปตายซะนังบ้า ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสามีของเธอเป็นใคร แล้วฉันจะไปนอนกับผู้ชายของเธอได้ยังไงฮะ!”
“ทำไมไม่ฉี่รดไว้ล่ะ พวกน่ารังเกียจอย่างเธอสองคนคงจะเหมาะสมกันดี!”
ได้ยินอย่างนั้น ผู้หญิงนั่นก็กรีดร้องออกมาทันที ก่อนจะพุ่งเข้าหาสะใภ้เฉินราวกับคนบ้า
สะใภ้เฉินมาจากตงเป่ย แน่นอนว่าสาวชนบทจากที่นั่นมีชื่อเสียงมากในเรื่องความอารมณ์ร้อนแรง และวาจาที่แผดเผา
หากเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทแล้ว หญิงจากตงเป่ยย่อมไม่เกรงกลัวใคร!
สะใภ้เฉินพุ่งเข้าไปเพื่อจะตบกับผู้หญิงคนนั้น เสี่ยวเฉินจึงไม่อาจอยู่เฉยได้ เขาพุ่งเข้าไปขวางทั้งสองทันที
เป็นเพราะวันนี้ทุกคนออกจากสถานีตำรวจเพื่อตามไล่ล่าเหลยช่านกันหมด เขาจึงเป็นคนเดียวที่ต้องอยู่เฝ้าสถานี ส่วนอู่หยางยังนอนอยู่ในโรงพยาบาล
สิ่งที่เสี่ยวเฉินกำลังเจอคือการตะลุมบอน
ขณะที่เขากำลังเหนื่อย เจียงหว่านก็เข้ามาถึงในวงล้อมพอดี
เธอผลักเสี่ยวเฉินออกไป ไม่มีคำอธิบายใดออกจากปากแม้แต่คำเดียว เจียงหว่านคว้าเส้นผมของผู้หญิงคนนั้นก่อนจะตบหน้าไปสองฉาดใหญ่
ผู้หญิงคนนั้นถึงกับงุนงง “แกเป็นใคร มาตบฉันทำไม?!”
เจียงหว่านเย้ยหยัน “แล้วเธอล่ะเป็นใคร? มาก่อปัญหาไม่ถามเรื่องราวให้ดีหน่อยหรือไง?”
“แผงลอยนี้เป็นของฉัน พี่สะใภ้เฉินก็เป็นพนักงานของฉัน และเธอมาอาวะวาดอย่างนี้ มันขัดขวางการค้าขายของฉัน!”
“เธอทำให้ฉันต้องเสียเงิน เสียเวลา คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปเหรอ?”
ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึง “เธอพูดอะไร? เธอเป็นเจ้าของที่นี่เหรอ?”
“ใช่ แล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!”
เจียงหว่านยังคงคว้าคอเสื้อของหล่อนเอาไว้
ผู้หญิงคนนั้นชี้รถเข็นไม้ข้าง ๆ แล้วถามขึ้นว่า “แล้วนั่นรถเข็นของเธอใช่ไหม?”
เจียงหว่านเหลือบมอง “ใช่ ถ้ามันไม่ใช่ของฉัน แล้วจะเป็นของเธอหรือไง?”
ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นบิดเบี้ยว ก่อนจะเริ่มร้องไห้ออกมา
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ไอ้บ้านั่นไม่ชอบฉันก็ควรจะไปหลับนอนกับคนอื่นสิ ทำไมมานอนกับหมูตอนอย่างนี้!”
“นี่ฉันหรือเขากันแน่ที่ตาบอด!”
“ไอ้คนไร้หัวใจ ถึงขั้นหลับนอนกับหมู!”
เจียงหว่านอึ้ง “…”
ทุกคนเงียบ
สถานการณ์พลิกผันรวดเร็วเกินกว่าจะตั้งรับ
เจียงหว่านขมวดคิ้วจนเส้นเลือดปูดโปน เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมเธอถึงเลวร้ายกว่าหมูไปได้!
ผู้คนที่รับชมสถานการณ์โดยรอบพลันตระหนักบางอย่างได้ ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
ส่วนเจียงหว่านหน้าไม่สบอารมณ์ยิ่งกว่าเดิม
เธอกัดฟันแน่น “ถ้าเธอพูดไร้สาระอีกคำเดียว ฉันจะตบเธอให้ตายวันนี้เลย!”
ผู้หญิงคนนั้นตะโกนกลับ “แกกล้าเหรอ? งั้นก็ตีฉันให้ตายเลย เอาสิ ถ้าทำได้ก็เอาเลย!”
สิ้นเสียง เจียงหว่านก็เหวี่ยงมือตบไม่ยั้ง
หลังจากผ่านไปไม่กี่อึดใจ ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นบวมเป่งจนแทบจะผลิแตก
ผู้หญิงคนนั้นมึนงงมาก หล่อนไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตบจริง ๆ
เสี่ยวเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งปวดหัวมากขึ้นไปอีก เขาพยายามวิ่งเข้ามาไกล่เกลี่ย
“พี่อ้วน พี่อ้วนใจเย็น ๆ ก่อนนะ ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่!”
“เดี๋ยวเราค่อย ๆ คุยกันดี ๆ เถอะนะ!”
เจียงหว่านเย้ยหยัน “คุยดี ๆ งั้นเหรอ? แล้วนังนี่จะคุยด้วยไหม!”
“หล่อนกล้าที่จะมาก่อกวนแผงของฉัน แล้วยังตบคนของฉัน ฉันจะเลาะฟันของมันออก ชาตินี้จะได้ไม่ต้องพูดไร้สาระ และไม่ต้องกินข้าวอีกแล้ว!”
ถ้อยคำเหล่านี้โหดเหี้ยมเสียจนสะใภ้เฉินที่อยู่ข้าง ๆ ตกตะลึง สายตาที่มองเจียงหว่านเต็มไปด้วยความชื่นชมมากยิ่งขึ้น
เธอรู้ดีว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นคนดี
และสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ การรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายตรงหน้า ซึ่งเจียงหว่านทำมันได้ดีมาก!