เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 134 เหลยช่านหลบหนีไปได้
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 134 เหลยช่านหลบหนีไปได้
บทที่ 134 เหลยช่านหลบหนีไปได้
พอพูดถึงเรื่องนี้ ทุกคนก็ดูโกรธจัด
จากนั้นก็มีนายทหารหน้าตาดีกล่าวออกมาด้วยความกระตือรือร้น “พวกเขาส่งคนไป แต่กลับไม่ยอมให้พวกเราไปด้วย!”
เจียงหว่านที่ไม่เข้าใจจึงเอ่ยปากถาม “ทำไมล่ะ?”
มีคนตอบขึ้นว่า “ตอนนั้นหัวหน้ากองพันเฉียวไม่อยู่ และหัวหน้ากองพันที่สามก็ละทิ้งภารกิจเพราะเหลยช่านแข็งแกร่งมาก มีเพียงหัวหน้าเฉียวเหลียนเฉิงเท่านั้นที่สามารถจัดการได้ ผู้บังคับบัญชาเลยไปหาลูกน้องที่ชื่อหลิวจวินแทน”
“ไม่งั้นต่อให้พยายามส่งคนไปเท่าไหร่ ก็เปล่าประโยชน์”
“หลังจากไตร่ตรองถึงความแข็งแกร่งของเหลยช่านแล้ว ผู้บังคับบัญชาเลยบอกให้หลิวจวินนำทีมเข้าล้อมจัดการกับเขา”
ทันทีที่กล่าวถึงเรื่องนี้ ทุกคนก็เริ่มพูดถึงเรื่องราวที่เคยรู้มาก่อนหน้า
“หลิวจวินน่ะเก่งมาก เขาได้อันดับหนึ่งในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ ซึ่งหมายความว่าเขาเก่งกว่าหัวหน้ากองพันของพวกเรา!”
“อื้ม ฉันได้ยินมาว่าที่หัวหน้ากองพันของพวกเราไม่สามารถเอาชนะหลิวจวินได้ เป็นเพราะหัวหน้ากองพันยังไม่ได้เผยความแข็งแกร่งที่แท้จริงต่างหาก”
“มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นนะ หัวหน้ากองพันของพวกเราคือผู้ที่ต่อสู้กับศัตรูมานับไม่ถ้วน เขาจะหวาดกลัวหลิวจวินได้ยังไงล่ะ”
“ใช่ ๆ ฉันเคยได้ยินว่า คนบางคนมีทักษะในการสังหารโดยเฉพาะ การโจมตีมีเพียงเพื่อทำให้คู่ต่อสู้เสียชีวิต”
“ฉันรู้สึกว่าหัวหน้ากองพันของพวกเราเก่งกาจมาก ไม่เหมือนกับหลิวจวินที่เป็นนักสู้ หมอนั่นก็แค่ดูดีบนเวที!”
เจียงหว่านรับฟังเรื่องราวด้วยความสนใจ เธอไม่คิดว่าในสายตาของคนอื่น ๆ เฉียวเหลียนเฉิงจะดูดีมากขนาดนี้!
เวลานี้เอง เจียงเฉิงเดินออกมา และเห็นว่าทุกคนกำลังล้อมเจียงหว่านเอาไว้ เขาจึงก็กล่าวถามด้วยความขุ่นเคือง
“พวกนายทำอะไรกันอยู่? ที่นี่โรงพยาบาลนะ ทำไมทำตัวเสียมารยาท!”
“คุยกันเงียบ ๆ เข้าใจไหม!”
“และใครที่ไม่ต้องบริจาคเลือดก็มาตรงนี้!”
หลังเจียงเฉิงกล่าวอย่างนั้น นายทหารทุกคนก็รีบออกไปรวมตัวด้านนอกทันที
พอทุกคนออกไป ห้องนี้ก็เงียบสงบลงอีกครั้ง
เจียงเฉิงกล่าวขอโทษด้วยใบหน้ารู้สึกผิด “ทหารพวกนี้ยังเด็ก พวกเขาค่อนข้างเอาแต่ใจนิดหน่อย เหล่าเฉียวเองก็อายุพอ ๆ กัน พวกเขาเลยค่อนข้างสนิทกัน พออยู่ในพื้นที่ส่วนตัวแบบนี้เลยควบคุมตัวเองไม่ได้”
หลังจากนั้นเขามองมือของเจียงหว่าน “อ้อ ข่าวของคุณกระจายออกไปเป็นวงกว้างแล้วล่ะ เรื่องที่คุณใช้มีดทำครัวหลายสิบเล่มไปสับคนน่ะ ตอนนี้เลยมีแต่คนอยากรู้เรื่องพวกนั้น”
เจียงหว่านกลอกตามองเขาอย่างไม่พอใจ
เจียงเฉิงกระแอมเบา ๆ “เหล่าเฉียวบอกว่าเหลยช่านแข็งแกร่งมาก ต้องไปไล่ล่าด้วยตัวเอง”
เจียงหว่านเงียบไปสักครู่ และเอ่ยถามว่า “นี่ แล้วหลิวจวินกับเฉียวเหลียนเฉิงใครเก่งกว่ากันล่ะ”
เจียงเฉิงใช้ความคิดสักครู่ และตอบกลับ “เรื่องนั้นผมก็บอกไม่ได้หรอก ความจริงแล้วสิ่งที่พวกทหารพวกพูดก็ไม่ผิดอะไร เพราะเหล่าเฉียวเก่งมากเมื่ออยู่ในสนามรบ”
“เขาไม่ใช่คนที่มาจากตระกูลนักสู้”
“เขาเป็นยอดฝีมือของกองทัพ เก่งกาจ และมีทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำภารกิจ”
“แต่เพราะเหล่าเฉียวไม่ได้มาจากตระกูลนักสู้นั่นแหละ คนอื่น ๆ เลยมองว่าเหล่าเฉียวก็เป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป!”
“และเฉียวเหลียนเฉิงก็มักจะฝึกฝนการต่อสู้ด้วยมือเปล่า เพื่อสังหารศัตรูเท่านั้น!”
“แต่สำหรับการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ ท่าที่ใช้โจมตีจุดตายไม่สามารถใช้ได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกปรับแพ้”
“เสนาธิการหลิวมาจากตระกูลที่สืบทอดวิชามวยไทเก๊ก ทักษะของพวกเขานับว่าเก่งกาจ เลยทำให้เขาดูถูกเฉียวเหลียนเฉิง”
“แต่สุดท้ายแล้วทั้งหมดก็เป็นการทะเลาะกันระหว่างผู้ชาย ถ้าถามความเห็นของผม มันไม่ควรจะมีอะไรบาดหมางต่อกันหลังจากจบการแข่งขันทั้งนั้น”
“หลิวจวินเพียงแค่โกรธที่ไม่มีโอกาสแสดงฝีมือ โอกาสไม่ได้มีบ่อยครั้ง และมันก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาด้วย”
เจียงหว่านเงียบ
โชคที่ว่าคือการต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเหรอ!
วันนั้นเกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย เธอปิดร้านและกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น แต่เฉียวเหลียนเฉิงก็ยังไม่กลับมา
สะใภ้เฉินเองก็ได้ยินเรื่องบางอย่างก่อนจะออกมาจากบ้าน เธอจึงบอกกับเจียงหว่าน
“ฉันว่าจะอยู่ที่ตำบลสักสองสามวัน ขอพักที่บ้านเธอได้ไหม”
เจียงหว่านรีบตอบตกลง “ค่ะ คืนนี้พี่นอนที่นี่เถอะ!”
สะใภ้เฉินส่ายศีรษะ “ไม่ ไม่ได้หรอก คืนนี้ฉันคงต้องกลับไป แต่คืนพรุ่งนี้ฉันจะพาเด็ก ๆ มาด้วยนะ”
“เราน่ะคงไม่เป็นอะไรหรอก แต่ว่ากันว่าเหลยช่านมีปมกับตำรวจและทหารมาก จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันหาที่ระบายอารมณ์ไม่ได้ แล้วไปลงไม้ลงมือกับเด็ก ๆ แทน?”
“ตำรวจกับทหารที่ถูกเขาฆ่าก็เป็นคนเหมือนกัน เราไปทำอะไรให้เขาขุ่นเคืองใจนัก ทำไมถึงได้รุนแรงแบบนี้!”
เจียงหว่านถอนหายใจ จากนั้นก็ไปส่งสะใภ้เฉินกลับบ้าน
คืนนั้นเฉียวเหลียนเฉิงไม่กลับมา ส่วนช่วงบ่ายของวันต่อมา เสี่ยวเฉินกลับเข้ามาด้วยท่าทีรีบร้อน
ตอนนั้นทั้งเจียงหว่านและสะใภ้เฉินกำลังตั้งแผงสำหรับขายของ
ทันทีที่เห็นว่าเสี่ยวเฉินกลับมาแล้ว เจียงหว่านก็ถามทันที “เจอเขาไหม?”
เฉินเซวียนเผยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะตอบกลับด้วยรอยยิ้มกระอักกระอ่วน “พวกเราพบเขาแล้ว แต่ว่าเขาหนีไปได้!”
เฉินเซวียนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้งว่า “เฉียวเหลียนเฉิง สามีของคุณแข็งแกร่งมากเลยนะ!”
หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปในสถานีเพื่อไปพบผู้กำกับ
เจียงหว่านอยากรู้มากว่าเกิดอะไรขึ้น และอยากจะทราบผลการจับกุม แต่เธอไม่ทันได้ถาม
จนกระทั่งหนึ่งทุ่ม เจียงหว่านขายเนื้อตุ๋นหมดแล้ว และสะใภ้เฉินก็กำลังจะเก็บแผงขายของ แต่ผู้กำกับเดินเข้ามาพูดคุยกับพวกเธอเสียก่อน
“อู่หยางปลอดภัยแล้ว เมื่อตอนบ่ายเขาเพิ่งพ้นขีดอันตราย ตอนนี้คงตื่นแล้วล่ะ”
“อู่หยางบอกไว้ว่าถ้าหายดีแล้ว เขาจะมาขอบคุณเฉียวเหลียนเฉิงด้วยตัวเอง เพราะถ้าวันนั้นไม่ได้สามีคุณช่วยเอาไว้ หมอนั่นคงจะตายไปแล้ว”
เจียงหว่านส่ายศีรษะ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ให้อู่หยางพักผ่อนเถอะ”
ผู้กำกับพยักหน้า ก่อนจะกล่าวต่อ “เหลยช่านหนีไปได้ แต่มีข่าวมาว่าคนของกองพันที่สามเองก็ถูกตลบหลังด้วย หลิวจวินที่พาคนไปไม่สามารถเอาชนะหมอนั่นได้ และยังได้รับบาดเจ็บด้วย”
“เหลยช่านฉวยโอกาสจากความวุ่นวายจับหญิงตั้งครรภ์เป็นตัวประกัน และพยายามหลบหนี แต่หนีไม่พ้น เพราะเฉียวเหลียนเฉิงไปถึงพอดี”
“เฉียวเหลียนเฉิงต่อสู้กับเขาอย่างดุเดือด จนเหลยช่านตกลงไปในแม่น้ำต้าชิง และตอนนี้ยังไม่พบร่าง”
“ฉันได้ยินว่ากองพันที่สองส่งคนไปตามหาแล้ว และคนจากทั้งสองกองพันพร้อมด้วยคนจากสถานีตำรวจก็พยายามออกค้นหาด้วยเหมือนกัน แต่ยังไม่มีใครพบเขา”
ผู้กำกับขมวดคิ้วแน่นด้วยความกังวลใจ
“ตอนนี้พวกเราคิดว่าเขาน่าจะตายแล้ว และจมอยู่ใต้น้ำ ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะได้รับความช่วยเหลือจากที่ไหนสักแห่งไปแล้ว”
เจียงหว่านครุ่นคิด เธอเองก็ไม่เคยไปแม่น้ำต้าชิง แต่เคยได้ยินเรื่องราวของมันมาบ้าง มันเป็นอ่างเก็บน้ำ และไม่มีหมู่บ้านอยู่รอบ ๆ เลย
หากว่ากองทัพต้องการตามไล่ล่าใครสักคน เป็นไปไม่ได้ที่คนเหล่านั้นจะสามารถหลบหนี…
เว้นแต่ว่าจะมีคนช่วยเหลือเขา!
ถ้าอย่างนั้นเหลยช่านไม่ได้มาที่นี่เพียงลำพังเหรอ? หรือมีใครติดตามเขามาด้วยใช่ไหม?
ขณะที่เจียงหว่านกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ ผู้กำกับก็พูดขึ้นมา “ช่วงนี้คุณก็ระวังตัวหน่อยนะ ผู้ชายคนนั้นโหดเหี้ยมมาก”
“เขาเกลียดตำรวจเพราะภรรยาของเขาลอบมีสัมพันธ์กับคนอื่น และตอนที่เขาจะลงมือสังหารภรรยาของตัวเอง ก็เป็นตำรวจที่หยุดเขาเอาไว้”
“คราวนั้นตำรวจหลายคนร่วมมือกันเพื่อจัดการกับเขา จนเขาหลบไปรักษาอาการบาดเจ็บพักนึง ไม่นานก็ออกมาสังหารภรรยาของตัวเอง และยังสังหารตำรวจหลายสิบนายที่เคยขัดขวางก่อนหน้านี้ด้วย”
“ดูจากสถานการณ์นี้ ก็ชัดเจนแล้วว่าผู้ชายคนนั้นมันบ้า”
เจียงหว่านพยักหน้ารับคำของผู้กำกับ
เฉียวเหลียนเฉิงยังไม่กลับมา แม้ว่าที่บ้านพักครอบครัวทหารจะปลอดภัย แต่เส้นทางจากในตัวตำบลถึงฐานก็อันตรายไม่น้อย
พอไตร่ตรองเรื่องนี้แล้ว เธอคิดว่าการอยู่ในตำบลน่าจะปลอดภัยกว่า
สะใภ้เฉินจึงพาลูกทั้งสองคนมาอยู่ในตำบลกับเจียงหว่าน
ด้านคนขายเนื้อที่ได้ยินเรื่องก็มาเยี่ยมหา แต่เขาเองก็มีลูกและภรรยาที่ต้องดูแลอยู่ที่บ้าน จึงไม่สามารถมาอยู่ช่วยเหลือได้ ทำได้แค่ทิ้งมีดเขียงหมูไว้ให้เท่านั้น