เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 128 หัวหน้ากองพันเฉียว ภรรยาของนายถือมีดหลายสิบเล่มไปสับคน!
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 128 หัวหน้ากองพันเฉียว ภรรยาของนายถือมีดหลายสิบเล่มไปสับคน!
บทที่ 128 หัวหน้ากองพันเฉียว ภรรยาของนายถือมีดหลายสิบเล่มไปสับคน!
เจียงหว่านเอื้อมมือหนึ่งดึงมีดออกมาจากเอว มืออีกข้างก็หยิบจานรองกระถางต้นไม้ที่แตกหัก แล้วก็รีบมุ่งหน้าไปที่ส้วม
ในห้องน้ำ ทั้งสี่คนแทบจะล้มลงไปเป็นทอด ๆ เหมือนสายน้ำที่ไหลหลาก ในตอนที่ได้ยินเสียงประตูลานบ้านถูกเตะ
“บ้าเอ๊ย! อะไรวะเนี่ย?” หลิวหูสบถออกมาด้วยความตกใจ
จ้าวเฟิงถ่มน้ำลาย “จะอะไรล่ะ ก็มีคนเตะประตูไง”
หลิวหูโกรธมาก “บ้าเอ๊ย..”
คำสาปแช่งหลายภาษาพรั่งพรูอออกมาจากปากเขา เขาสบถถามถึงตั้งแต่บรรพบุรุษยันรุ่นที่สิบแปดของคนที่เตะประตู
“ถ้าเป็นแบบนี้ เราจะทำยังไงต่อ?”
ทั้งสี่คนต่างหน้าเสียไปตาม ๆ กัน ก็ถ้ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไป ใครจะมาทำอะไรแบบนี้ได้ล่ะ?
ตอนนี้ขาก็เริ่มอ่อนแรง สมองล้าจนยากที่จะคิดออกว่าใครกันแน่ที่มาทำอะไรแบบนี้
จ้าวเฟิงสูดหายใจเข้าแล้วพูดออกมา “เอาน่า ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว แค่แกล้งตาย ถ้ามันเห็นว่าไม่มีใครอยู่บ้านเดี๋ยวก็ไปเอง รอสถานการณ์ดีขึ้นแล้วเราค่อยหนี”
นี่เป็นความคิดที่ดี แต่ก่อนคนที่เหลือจะออกความคิดเห็น จู่ ๆ เสียงที่เย็นชาก็ดังขึ้นที่นอกประตู
“แกล้งตาย? แล้วพวกนายจะไปที่ไหนกันเหรอ?”
สิ้นเสียงนั้น ทั้งสี่คนก็อุทานออกมา “อะไรวะ ผู้หญิง? หลิวหู ตอนกลางวันบ้านของแกไม่มีคนอยู่ไม่ใช่หรือไง”
ก่อนที่หลิวหูจะทันได้โต้ตอบ เขาก็เห็นผู้หญิงอวบอ้วนมายืนอยู่ที่ด้านหน้าประตู
หลิวหูตกตะลึงทันที “นังอ้วนนั่น”
จ้าวเฟิงก็จำได้เช่นกัน และทันใดนั้นอารมณ์ของเขาก็ปะทุขึ้น “แม่งเอ๊ย… แกเป็นบ้าอะไร … ”
ทั้งสี่คนสับสนไปตาม ๆ กัน หญิงอ้วนไม่ได้ไปไหน เธอยืนอยู่ที่ประตูส้วมแล้วมองดูพวกเขาพลางหัวเราะ
แถมเธอยังยัดก้อนกระดาษไว้ในจมูกเพื่อป้องกันกลิ่น
หลิวหูโกรธจนหน้าดำหน้าแดง “นังอ้วน แกมาทำอะไรที่นี่?”
เจียงหว่านกรอกตา พลางมองทั้งสี่ที่นั่งยอง ๆ อยู่ สะใจจริง ๆ ที่ได้เห็นทั้งสี่คนในสภาพนี้
เธอยิ้ม และพูดว่า “เมื่อคืนพวกนายมาจัดงานเลี้ยงที่ส้วมของฉัน วันนี้ฉันก็ต้องมาทักทายสักหน่อยสิ”
“แลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียมไง เห็นแบบนี้ฉันก็มีมารยาทเหมือนกันนะ”
หลิวหูโกรธมาก “บ้าเอ๊ย… นี่เธอบ้าหรือเปล่า นี่มันส้วม เธอกำลังยืนขวางประตูส้วม แล้วดูผู้ชายสี่คนปลดทุกข์อยู่นะ”
เจียงหว่านเลิกคิ้ว “ฉันชอบนะ มาจัดการฉันสิ ถ้านายทำได้ฉันก็ยินดี!”
เธอยียวน จากนั้นก็ร้องอุทาน “อ้อ! จริงด้วย ๆ ตอนนี้ขาของพวกนายคงจะไม่มีแรงสินะ ไม่รู้ว่าตอนนี้จะลุกขึ้นยืนได้อยู่หรือเปล่า”
“โอ๊ะโอ เผอิญว่าฉันมีกล้องอยู่ซะด้วยสิ เอามาถ่ายสภาพพวกนายตอนนี้น่พ รูปนี้อาจจะกลายเป็นมรดกตกทอดของครอบครัวพวกนายก็ได้นะ”
ความอดทนของหลิวหูใกล้จะถึงขีดสุดเต็มทน แต่รอบ ๆ ตัวเขาไม่มีอะไรเลย ด้วยความโกรธจนแทบจะคลั่ง เขาจึงคว้าใบไม้ที่เตรียมไว้แล้วปาไปทางเจียงหว่าน
เจียงหว่านหลบ และพูดว่า “ขว้างใบไม้ใส่ฉันมันไม่มีประโยชน์หรอก”
“แต่ว่านะ พวกนายไม่มีใบไม้แล้ว จะใช้อะไรเช็ดก้นล่ะ?”
“อ๋อ ฉันรู้แล้ว ใช้มือสินะ?”
“อี๋ น่าขยะแขยงจริง ๆ ที่แท้พวกนายก็เป็นคนแบบนี้เหรอเนี่ย”
พูดอย่างนั้น เธอก็มองดูพวกเขาด้วยความรังเกียจ
ราวกับพวกเขาเป็นเชื้อโรคชนิดหนึ่ง!
หลิวหูกำลังจะเดือดอีกครั้ง แต่ต้าหลู่ที่ใจเย็นกว่าพยายามหยุดหลิวหูที่สาปแช่งด้วยความโกรธ ต้าหลู่มองไปที่เจียงหว่านอย่างเย็นชา
“เธอคิดจะทำอะไร คงไม่ได้มาเพื่อดูพวกเราสี่คนนั่งอึหรอกนะ!”
เจียงหว่านหัวเราะเบา ๆ “นายนี่ดูน่าจะฉลาดที่สุดนะ ส่วนพวกที่เหลือ มีสมองก็เหมือนไม่มีจริง ๆ”
“เหตุผลที่ฉันมาในวันนี้ก็ง่าย ๆ พวกนายมาก่อกวนฉัน และสร้างปัญหาให้บ้านฉันมาสามครั้งแล้ว”
”ในเมื่อพวกนายกระตือรือร้นมากขนาดนี้ เรามาหาทางใช้ชีวิตอย่างสงบกันดีกว่า”
หลิวหูเริ่มสงบลง “เธอต้องการอะไร มาตกลงให้ชัดเจนเลยดีกว่า!”
จ้าวเฟิงไม่ได้พูดอะไร สายตาของเขาเย็นชา และดูเคียดแค้น
เจียงหว่านเย้ยหยัน “ง่ายมาก แค่เขียนสัญญาหนี้ และจดหมายขอโทษให้ฉัน”
“สัญญาหนี้?”
จดหมายขอโทษยังพอเข้าใจ แต่สัญญาหนี้คืออะไร พวกเขาไปเป็นหนี้เธอตั้งแต่เมื่อไหร่?
เจียงหว่านยิ้มอย่างมั่นใจ “พวกนายไปบ้านของฉันเพื่อทำเรื่องน่ารำคาญ มันทำให้ฉันปวดหัวมาก จนสมองฉันแทบจะระเบิดเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้น พวกนางต้องชดใช้ค่าเสียหายทางสภาพจิตให้ฉัน”
“และเมื่อวานนี้ ปุ๋ยที่นายขโมยไป ฉันอุตส่าห์เก็บมันไว้เพื่อจะใช้ปลูกผัก แต่ตอนนี้ปลูกไม่ได้แล้ว อย่างนี้ปีหน้าฉันจะเอาอะไรกิน พวกนายต้องชดเชย!”
หลิวหูและอีกสามคนโกรธมาก
เขาชี้ไปที่เจียงหว่านด้วยตัวที่สั่นอย่างควบคุมไม่ได้ “เธอยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า? พูดออกมาได้ยังไง!”
“แม่แกมันน่าไม่อายที่คลอดแกออกมา ส่วนพ่อของแก…”
หลิวหูยังไม่ทันด่าจบ เจียงหว่านก็ก้าวเข้ามาหา พร้อมจานรองกระถางในมือ
เธอฟาดจานรองกระถางเข้าไปที่หัวของหลิวหู
พลั่ก!
เสียงฟาดดังขึ้น
แต่จานแบบนี้มีพื้นผิวรับน้ำหนักกว้าง มันอาจจะฟังดูเสียงดัง แต่ก็ไม่ได้เจ็บมากนัก
การได้ระบายอารมณ์นี่มันสุดยอดจริง ๆ
“ถ้ายังยืนกรานแบบนี้งั้นก็มาสนุกกันก่อน แต่เชื่อไหมว่าถ้านายด่าฉันอีก ฉันจะฟาดนายอีก”
“ฉันจะฟาดนายจนนายจำอะไรไม่ได้เลย ถึงตอนนั้น ฉันจะไม่เอาเงินก็ได้!”
ทว่าหลิวหูยังคงสาปแช่งด้วยความโกรธ “ฉัน&@!”
เจียงหว่านจ้องเขา แล้วง้างแขนอีกครั้ง
พลั่ก!
หลิวหูยังคงด่าต่อไป ในขณะที่เจียงหว่านก็ยังคงฟาดต่อไป
จนในที่สุดหลิวหูก็หยุดลง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ลมหายใจแทบจะพ่นไฟออกมาได้แล้ว
เขากลืนคำด่าทอทั้งหมดกลับเข้าไปในท้อง
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มสงบ เจียงหว่านที่รู้สึกเหนื่อย ก็หันหลังออกไปดึงเก้าอี้มานั่งตรงหน้าประตู
“เอาล่ะ ทีนี้มาพูดถึงเรื่องค่าชดเชยกันดีกว่า!”
ทั้งสี่คนเงียบกริบ
อีกด้านที่ค่ายทหาร เฉียวเหลียนเฉิงกำลังพักผ่อนอยู่ที่สำนักงานหลังทานอาหารกลางวันเสร็จ แต่ทันใดนั้นหัวหน้าหน่วยเฉินก็เข้ามาอย่างเร่งรีบ
“หัวหน้ากองพันเฉียว รีบกลับไปกับฉันเร็ว เกิดเรื่องขึ้นกับภรรยาของนาย!”
เฉียวเหลียนเฉิงตกใจมาก เขาผุดลุกขึ้นยืนทันที “เกิดอะไรขึ้นครับ? เกิดอะไรขึ้นกับหว่านหว่าน?”
หัวหน้าหน่วยเฉินกล่าว “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ภรรยาของฉันมาบอก เธอหานายไม่เจอจึงมาหาฉัน บอกว่าภรรยาของนายซื้อมีดทำครัวไปหลายเล่ม แล้วพันไว้ที่เอว จะเอาไปสับหลิวหู”
เฉียวเหลียนเฉิงได้ยินเช่นนี้ก็รีบหันหลังกลับ และเดินออกไปโดยไม่สนใจหัวหน้าหน่วยเฉิน
เขากระโดดลงบันไดไปถึงแปดขั้น ในชั่วพริบตา ก็ไปถึงประตูฐานแล้ว ตอนนั้นเองก็เจอกับผู้บัญชาการพอดี
ผู้บัญชาการขี่จักรยานมา ขณะที่เขากำลังจะหยุดรถ เฉียวเหลียนเฉิงก็รีบวิ่งเข้ามาหา
“หัวหน้ากองพันเฉียว นายมาพอดีเลย ฉันกำลังจะไปประชุมอยู่เลย ดูเหมือนอาชญากรที่ชื่อเหลยช่านที่เรากำลังต้องการตัวมากที่สุด ฆ่าตำรวจไปอีกคนนึงแล้วเมื่อวานนี้ และมาที่เมืองของเราแล้วด้วย เบื้องบนสั่งให้เราช่วยจับกุมเขาทันที!”
ทว่าเฉียวเหลียนเฉิงกลับไม่สนใจเรื่องที่ผู้บัญชาการพูดเลย เขากลับรีบคว้าจักรยานของบัญชาการไป
“ผู้บัญชาการครับ บอกเหล่าเจียงให้ทีว่าผมจะขอลาสักสองสามชั่วโมง และขอยืมจักรยานคุณด้วยนะครับ!”
พูดจบเขาก็ปั่นจักรยาน แล้สหายไปในพริบตา
ผู้บัญชาการรู้สึกสับสนปนโกรธเคือง พอเขาหันกลับมาก็เห็นหัวหน้าหน่วยเฉินกำลังเดินออกมา
“เกิดอะไรขึ้นกับหมอนั่นฮะ คิดจะทำอะไร? ทำไมเขารีบออกไปแบบนั้น! เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?!”
“ภาพลักษณ์ของทหารอยู่ที่ไหน? ความสเยือกเย็นล่ะ? ทำอย่างกับหมาโดนน้ำร้อนลวก!”
หัวหน้าหน่วยเฉินแบมือราวกับบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน “ภรรยาของผมบอกว่าภรรยาของหัวหน้ากองพันเฉียวเอามีดทำครัวสิบกว่าเล่มมาพันรอบเอว แล้วไปไล่สับคนน่ะ”