เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 127 ใช้มีดทำครัวฆ่าคน
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 127 ใช้มีดทำครัวฆ่าคน
บทที่ 127 ใช้มีดทำครัวฆ่าคน?
เมื่อคืนเจียงหว่านนอนไม่หลับ เธอต้องลุกเข้าห้องน้ำกลางดึกเกือบตลอดคืน ได้แต่นึกไปว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ช่วงกลางเธอเองก็กินเหมือนกับคนอื่น ๆ
แต่ทำไมถึงท้องเสียได้!
เมื่อลองคิดให้ดีก็พบว่ามีความแตกต่างเพียงข้อเดียวคือ เธอกินหัวหมูที่เสี่ยวเฉินนำกลับมาจากร้านอาหาร
เมื่อวานตอนที่เธอไปสถานีตำรวจเพื่อรับอาหารกลางวัน ก็บังเอิญพบกับเสี่ยวเฉินที่กลับจากร้านอาหารพร้อมกับเพื่อนของเขา
“หัวหมูในร้านอาหารไม่อร่อยเลย เทียบกับที่พี่สาวอ้วนทำไม่ได้สักนิด ผมกับเพื่อนกินไปไม่เท่าไหร่ก็ต้องออกมา แต่เห็นว่ามันยังเหลือเลยเอากลับมาด้วยน่ะ”
“ใครอยากกินก็เอาไปเถอะ” เสี่ยวเฉินพึมพำก่อนจะวางหัวหมูไว้บนโต๊ะ
เจียงหว่านเองก็อยากจะลิ้มลองรสชาติที่ใครต่อใครก็ต่างบอกว่าไม่อร่อย เธอจึงหยิบมันมาหนึ่งชิ้น
และใช่ รสชาติของมันแย่มาก!
อีกทั้งยังมีรสเฟื่อนลิ้นอย่างประหลาด รู้สึกไม่น่ารื่นรมย์เลย
และคงเป็นมันนี่แหละที่ทำให้เธอท้องเสียกลางดึก
เพราะเมื่อครู่หลิวหูบอกว่าจะไปซื้ออาหารที่ร้านอาหาร เจียงหว่านจึงนึกถึงเรื่องหัวหมูเมื่อวานออก และความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา
ขณะหลิวหูเข้าไปหยิบเงินในบ้าน เจียงหว่านก็รีบไปที่ร้านอาหาร ก่อนจะดึงพนักงานคนหนึ่งออกมาพูดคุย
“พี่สาว หากใครมาสั่งอาหารช่วยแนะนำหัวหมูให้กับเขาหน่อยสิ ลดราคาให้เขาด้วยนะ ฉันจะเป็นคนจ่ายส่วนต่างให้เอง”
หลังพูดอย่างนั้น เจียงหว่านก็หันมองรอบ ๆ พอเห็นว่าไม่มีใคร ก็ยัดเงินหนึ่งหยวนให้พนักงานคนนั้นทันที
“อากาศตอนเที่ยงค่อนข้างร้อนน่าดู พี่เอาไปซื้อไอติมเถอะ!”
ตอนแรกพนักงานยังลังเลและสับสนอยู่บ้าง แต่เมื่อได้รับเงินมา เธอก็เข้าใจทุกอย่างทันที และกล่าวกระซิบ
“สหาย ฉันแนะนำว่าอย่าซื้อหัวหมูจากที่นี่จะดีกว่า คนครัวทำอาหารเลวร้ายมาก และมันเก็บมานานหลายวันแล้วด้วย”
เจียงหว่านเข้าใจทันทีว่าอาการท้องเสียของเธอมาจากหัวหมูของที่นี่จริง ๆ
เธอยกยิ้ม แล้วกล่าวต่อว่า “ไม่เป็นไร ๆ ฉันไม่ได้กินมันเองน่ะ พี่แค่ขายมันก็พอ!”
พนักงานเข้าใจ และรับเงินไว้
จากนั้นเจียงหว่านก็ซ่อนตัวอยู่มุมด้านหลังของโรงแรม เพื่อสอดแนมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ไม่นานหลิวหูก็เข้ามาที่ร้านอาหาร และออกไปพร้อมกับอาหารมากมาย
เจียงหว่านไม่ได้ติดตามเขาไปทันที
เธอเดินเข้าตัวตำบล และไปหาสะใภ้เฉินเพื่อช่วยขายเนื้อตุ๋น
สะใภ้เฉินมองไปรอบ ๆ อย่างเหม่อลอย เมื่อเห็นเจียงหว่าน สายตาของเธอก็จ้องมองไปยังมีดทำครัวที่เอวของอีกฝ่าย
และทำท่าทางเหมือนมีบางอย่างอยากจะพูด แต่ก็ลังเล
เจียงหว่านเดินเข้ามาใกล้ เธอพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ พี่มองอะไรเนี่ย?”
สะใภ้เฉินได้สติ จึงยกยิ้มจาง “ฉันรู้สึกว่าน้ำหนักเธอลดลงไปมากเลยนะ เริ่มมีเอวแล้วด้วยนี่!”
เจียงหว่านหัวเราะ “เพราะขายเนื้อเลยเหนื่อยไง น้ำหนักก็เลยลดไปได้นิดหน่อย ไม่ดีเหรอคะ?”
สะใภ้เฉินส่ายหน้า “ไม่ใช่ ๆ ลดน้ำหนักได้ก็ดีแล้วล่ะ ดีแล้ว ๆ!”
เจียงหว่านขายเจียนปิ่งในช่วงเที่ยง เมื่อถึงเวลาบ่ายโมง เธอก็กลับไปที่บ้านของหลิวหูอีกครั้ง
ทันทีที่เจียงหว่านจากไป สะใภ้เฉินก็ไม่สามารถนั่งเฉยได้อีก เธอไม่มีกะจิตกะใจจะขายเนื้ออีกแล้ว
สะใภ้เฉินติดสินใจปิดแผง ก่อนจะกลับไปที่ลาน
ไม่ได้การ เธอจะปล่อยให้เจียงหว่านทำสิ่งนั้นไม่ได้ ต้องไปตามหาเฉียวเหลียนเฉิงเพื่อหยุดยั้งหล่อน
สะใภ้เฉินตื่นตระหนก เมื่อเดินผ่านประตูก็เห็นว่าผิงอันกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ในลาน พลางถือกล่องบางอย่างไว้ในมือ
“ผิงอัน ทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ?” สะใภ้เฉินประหลาดใจ
ผิงอันกอดกล่องไว้ในอ้อมแขนแน่น ก่อนจะพูดอย่างเขินอาย
“วันนี้ผมมีเรียนครึ่งวันครับ ช่วงบ่ายอาจารย์เลยให้หยุดเพราะจะเข้าเมือง”
สะใภ้เฉินรีบถาม “แค่โรงเรียนอนุบาลของเธอเหรอ? โรงเรียนประถมหยุดด้วยไหม?”
ผิงอันส่ายศีรษะ “ไม่ครับ พวกเขาต้องเรียนต่ออีกครึ่งวัน”
สะใภ้เฉินอุทานออกมา “โอ้ งั้นเหรอ”
หลังจากนั้นเธอก็วางรถสามล้อลงอย่างรวดเร็ว
“ผิงอัน ไปเล่นที่ค่ายไหม? ฉันจะกลับไปหาพ่อของเธอพอดี”
ผิงอันถามอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมถึงตามหาพ่อล่ะครับ?”
สะใภ้เฉินลังเลที่จะตอบ “อย่าเพิ่งถามเลย แต่มีเรื่องเร่งด่วนน่ะ”
พอพูดออกไปอย่างนั้นแล้ว เธอก็หันหลังวิ่งออกไปทันที
ผิงอันไม่เข้าใจ เขามองกล่องในมือก่อนจะวางมันลง แล้วหยิบประทัดมาหนึ่งกำมือยัดเข้ากระเป๋ากางเกง
จากนั้นคว้าเสี่ยวเสวี่ยมาไว้ในอ้อมแขน แล้วออกไปเล่นกับเด็ก ๆ คนอื่น
ขณะที่เดินออกมาพ้นลานบ้าน เขาเห็นว่าสะใภ้เฉินล้มอยู่ไม่ไกลนัก
ผิงอันรีบวิ่งไปหาเธออย่างเป็นห่วง
แต่ขณะที่กำลังเข้าไปใกล้ เขาก็ได้ยินสะใภ้เฉินพูดพึมพำ
“โอ้ย ทำไมฉันถึงไร้ประโยชน์แบบนี้นะ ล้มได้ยังไงเนี่ย”
“ไม่ได้การ ฉันต้องรีบไปบอกเฉียวเหลียนเฉิงว่าหว่านหว่านจะไปฆ่าหลิวหู เดี๋ยวจะไม่ทันการ”
สะใภ้เฉินไม่สนใจข้อเท้าบวมแดง เธอรีบลุกขึ้น แล้วเดินกะเผลกอย่างสุดฝืน
สะใภ้เฉินกำลังจดจ่อสนใจอยู่แต่กับเรื่องของเจียงหว่าน เธอจึงไม่ทันสังเกตว่าผิงอันเดินตามมาด้วย
ผิงอันได้ยินชัดเจนทุกอย่าง
เมื่อเห็นสะใภ้เฉินเดินออกไป เขาก็รู้สึกตัวขึ้นมา
“น้าอ้วนกำลังจะไปฆ่าใครเหรอ? หลิวหูคือใครครับ?”
ร่างกายของเด็กชายสั่นสะท้าน
เขาเติบโตมาพร้อมกับเรื่องราวของเฉียวเหลียนเฉิงที่บุกโจมตีค่ายของศัตรูอย่างกล้าหาญ
แม้จะได้ยินเรื่องเหล่านั้นมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุกครั้งที่ได้ยิน เลือดในกายของเด็กชายก็จะเดือดพล่านขึ้นมา เพราะนั่นคือพ่อของเขา เป็นความภาคภูมิใจของเขา
ดังนั้นผิงอันจึงไม่มีความหวาดกลัวเลย
ส่วนหลิวหูคนนั้น ผิงอันได้ยินผู้ใหญ่พูดคุยกันบ่อยครั้งว่า เขามักจะมาสร้างปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่า
คนประเภทนี้สมควรแล้วที่จะถูกสั่งสอน
และเขาจะต้องไปหาน้าอ้วนและช่วยเธอ!
แม้เขาจะไม่ได้ชอบน้าอ้วนมากนัก แต่ถ้าหากมีคนมารังแกเธอในขณะที่พ่อไม่อยู่ เขาจะต้องเป็นคนปกป้องเธอเอง
หลังจากนึกได้อย่างนั้น ผิงอันก็รีบไปหาเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่รู้จักในตำบลนี้ เพื่อถามว่าบ้านของหลิวหูอยู่ที่ไหน
ณ บ้านหลิวหู
ทันทีที่เจียงหว่านมาถึง เธอก็ได้ยินเสียงสาปแช่งดังขึ้นมาจากในลาน
“เสี่ยวหู แกไปซื้อเนื้อนี่มาจากที่ไหน? มันทำพวกเราท้องเสียกันหมดแล้ว!”
หลิวหูเองก็ประหลาดใจ “ก็ซื้อมาจากร้านอาหารนั่นแหละ ไม่อร่อยก็จริง แต่อย่างน้อยก็สามารถทำให้ท้องอิ่มได้นะ!”
“โอ๊ย เดี๋ยว ไม่ ฉันต้องเข้าห้องน้ำ! พี่ห้า พี่เสร็จหรือยัง ออกมาได้แล้ว! พี่อยู่ในนั้นนานเกินไปแล้วนะ!”
เสียงของต้าหลู่ดังขึ้น “ไม่…ไม่ ฉันยังไม่เสร็จ!”
เสี่ยวหลู่ตะโกนขึ้น “พวกเราท้องเสียกันหมด ห้องน้ำห้องเดียวไม่พอหรอก ไปเข้าห้องน้ำบ้านอื่นซะ!”
หลิวหูปฏิเสธทันที “ไม่ได้ นี่ล้วนแต่เป็นปุ๋ยชั้นดี เอาไปทำพืชไร่ได้นะ ถ้าไปปล่อยทิ้งที่บ้านคนอื่นก็เสียเปล่าสิ!”
จ้าวเฟิงตะโกนด้วยความโกรธ “เวลาแบบนี้ยังจะคิดอะไรบ้า ๆ อีกเหรอ! ไปขี้ที่บ้านอื่นซะ!”
ต้าหลู่แนะนำ “งั้นเรามาขี้ด้วยกันเถอะ! ไปเข้าห้องน้ำบ้านอื่นก็ไม่ได้ งั้นมานั่งคนละมุมซ้ายขวาหน้าหลัง แค่เล็งให้ดีก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”
จ้าวเฟิงโกรธจัดจนอยากจะสาปแช่ง แต่ตอนนี้เขาปวดท้องมาก แค่จะพูดออกไปก็ยังทำไม่ได้!
ส้วมที่นี่สร้างขึ้นเองง่าย ๆ เพียงแค่ขุดหลุม ใช้แผ่นไม้พาดปิดไว้ และมีไม้กระดานสองฝั่งสำหรับใช้เหยียบ
แน่นอนว่าไม้นั้นค่อนข้างยาว มันจึงเพียงพอให้คนทั้งสี่นั่งยอง ๆ ได้
เจียงหว่านยิ้มกริ่ม เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกัน
เธอเดินมาหยุดหน้าประตูลานก่อนจะถีบอย่างแรง
ปัง!
ประตูลานล้มลงพร้อมเสียงดังสนั่น
พอเห็นประตูที่พังลง เจียงหว่านก็รู้สึกอารมณ์ดีมาก เธอเข้าใจทันทีว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงชอบถีบประตูบ้านของเธอนัก
การถีบประตูนี่ทำให้รู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อจริง ๆ!