เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 125 เจียงหว่านหมกตัวอยู่ในส้วม
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 125 เจียงหว่านหมกตัวอยู่ในส้วม
บทที่ 125 เจียงหว่านหมกตัวอยู่ในส้วม
ในที่สุดเจียงหว่านก็ปลดทุกข์เสร็จ แต่เมื่อเดินออกมาได้ไม่นาน เธอก็เริ่มปวดท้องอีกครั้ง
เธอไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหันหลังกลับเข้าห้องน้ำ
เฉียวเหลียนเฉิงเห็นเธอเดินไปเดินมาหลายครั้ง เขาอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง จึงเดินออกไปที่ศูนย์อนามัยในตำบลเพื่อขอยารักษาอาการท้องเสีย
และสิ่งที่เขาไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้น ทันทีที่เขาจากไป คนกลุ่มหนึ่งฉวยโอกาสจากความมืดลอบเข้ามาในลาน
ผู้นำคือหลิวหูและจ้าวเฟิง
มีหลายคนลอบเข้ามาจากทางซ้ายและขวา พวกเขาย่องเข้ามุมลานเงียบ ๆ และเวลานี้ทั้งหมดก็กำลังยืนรวมตัวบริเวณห้องส้วม!
หลิวหูมองจ้าวเฟิงแล้วเอ่ยปาก
“นี่ลูกพี่ ทำไมลัวเสี่ยวหนิวถึงยังไม่มาล่ะครับ?”
จ้าวเฟิงตอบกลับ “ลัวเสี่ยวหนิวถูกครอบครัวทุบตี ตอนถูกจับเข้าสถานกักตัวชั่วคราว คงเข็ดล่ะนะ ตอนนี้คงนอนรักษาตัวอยู่ที่บ้าน เลยไม่สามารถมาร่วมกับเราวันนี้”
“และนี่คือยอดฝีมือที่เก่งกาจของเรา พี่ห้า ต้าหลู่ พี่หก เสี่ยวหลู่”
ทั้งสองคนเป็นฝาแฝดกัน พวกเขาแทบจะเหมือนกันทุกละเบียดนิ้ว
หลิวหูรีบประสานหมัดเพื่อคารวะ
หลังจากทักทายทุกคนครบแล้ว หลิวหูยื่นหัวเข้าไปในลาน ตรวจสอบสถานการณ์
“ลูกพี่ ผมไม่รู้หรอกว่าทหารนั่นอยู่ไหม แต่นังอ้วนนั่นอยู่ที่นี่แน่นอน คืนนี้ผมเห็นมันเดินวนเวียนหลายรอบแล้ว”
จ้าวเฟิงตะคอก “งั้นก็เหมาะเหมง ไปต้องตามหาหมอนั่นหรอก ฮึ่ม เจ็บใจนัก คราวที่แล้วมีคนจากสถานีตำรวจมาช่วยนังนั่นไว้ แต่คราวนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว ดูซิใครจะช่วยได้อีก!”
ต้าหลู่เอ่ยปากตอบ “ถ้าหากเป็นทหาร ตอนกลางคืนอย่างนี้ก็ต้องกลับไปนอนที่กองทัพสิ ออกจากค่ายมานอนที่นี่ไม่ได้แน่!”
เสี่ยวหลู่กล่าวเสริม “มีแค่เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงเท่านั้นที่จะออกจากค่ายมาพักข้างนอกได้”
จ้าวเฟิงรีบโบกมือเป็นพัลวัน “เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก เพราะตอนนี้มันไม่อยู่ที่นี่แล้ว”
จากนั้นเขาหันไปพูดกับหลิวหู “นายเข้าไปจัดการนังอ้วนนั่นได้เลย แล้วถ้าสามีของมันกลับมา ฉันจะจัดการเอง”
หลิวหูเห็นด้วย “ได้ ตกลงตามนี้ครับ”
ขณะนี้ ในกระท่อมที่มีเพียงผนังบาง ๆ ขวางกั้น เจียงหว่านได้ยินการสนทนาของพวกมันชัดเจน
เฉียวเหลียนเฉิงไม่ได้บอกว่าไปไหน แต่เจียงหว่านเห็นแล้วว่าเขาออกไปข้างนอก ตอนนี้มีเพียงผิงอันที่นอนกอดเสี่ยวเสวี่ยไว้ในอ้อมแขน แล้วถ้าหากเจ้าคนไม่มีสามัญสำนักพวกนี้คิดทำร้ายเด็กล่ะ?
เธอลุกขึ้น มองไปรอบ ๆ เพื่อดูว่าตัวเองจะทำอะไรได้บ้าง
หลังจากมองอยู่สักครู่ เธอเห็นพลั่วด้ามยาววางผิงอยู่กับผนังห้องน้ำ และยังมีหม้อใบเล็กอยู่ใกล้ ๆ
สิ่งนี้เป็นเฉียวเหลียนเฉิงที่ทำขึ้นเพื่อใช้ขุดสิ่งปฏิกูลในส้วมเพื่อมาทำปุ๋ยในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
แม้ตอนนี้จะช้าไปสักหน่อยสำหรับการปลูกพืชสวน แต่ก็ยังสามารถปลูกผักได้มากมายก่อนจะถึงฤดูหนาว อย่างกะหล่ำปลีหรือหัวไชเท้ายังพอได้อยู่
สิ่งปฏิกูลเหล่านี้จะทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เจียงหว่านยกยิ้มเมื่อเห็นพลั่วยาวนั่น
มีไม่กี่คนที่อยู่นอกกำแพง พวกมันกำลังพูดคุยวางแผน ขณะที่กำลังจะถีบประตูเข้าลานบ้าน ทันใดเสียงขบขันก็ดังขึ้นเหนือศีรษะ
“นี่… กำลังตามหาฉันอยู่เหรอ?”
เสียงนี้ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ทำให้ทุกคนตื่นตระหนก
เมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้นมอง ก็มีของเหลวจำนวนมากถูกเทราดลงมาจากผนังด้านบน
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจึงไม่มีใครตั้งตัวได้ทัน และไม่สามารถหลบหนีได้
พึ่บ!
ของเหลวคล้ายแป้งถูกสาดลงมาคนทั้งสี่หัวที่กำลังสุมกัน ไม่มีใครรอดพ้นไปได้
ไม่นาน พวกเขาก็ตระหนักได้ถึงความผิดปกติ
“หื้ม! นี่อะไรเนี่ย เหม็นเป็นบ้าเลย!” หลิวหูตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก
ต้าหลู่ใช้มือเช็ดหน้าก่อนจะร้องออกมาว่า “เฮ้ย นี่ไม่ใช่น้ำ มันคือขี้!”
……
เสี่ยวหลู่ลูบใบหน้า พูดขึ้นว่า “เหม็นมาก นี่พวกมันไม่ได้ล้างบ่อเกรอะกันนานแค่ไหนแล้วเนี่ย!”
เจียงหว่านยกยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ “ขอโทษด้วย ฉันเพิ่งจะเช่าลานนี้ไม่นาน เหมือนว่าไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นี่นานกว่าหนึ่งปี ฉันคิดว่าทั้งหมดนี้น่าจะเป็นของค้างสะสมมานานกว่าหนึ่งปีแล้วล่ะ”
“นับว่าพวกแกโชคดีนะ หลังจากหมักมากว่าหนึ่งปี ดูเหมือนว่ามันจะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก อีกอย่างฉันก็ไม่เคยได้ยินว่าพวกปุ๋ยต่าง ๆ ไม่ได้มีแค่มูลสัตว์อย่างเดียว!”
“ฉันให้ปุ๋ยพวกแกไปตั้งหนึ่งถังแล้ว รีบกินเข้าไปเร็วเข้า จะได้โตเร็ว ๆ!”
“อ๊าก!” ทั้งหมดกรีดร้องพร้อมอาเจียนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
แต่เจียงหว่านรู้สึกว่าเสียงร้องของพวกนี้เป็นการบ่งบอกว่ามันยังไม่เพียงพอ เธอจึงตักมันขึ้นมาอีกถังแล้วเทราดลงไป
ด้ามจับที่เฉียวเหลียนเฉิงทำไว้นั้นใช้งานง่ายและสะดวกสบายมาก
ส่วนคนที่นั่งอยู่ข้างกำแพงไม่คิดเลยว่านังอ้วนคนนี้จะสาดมันลงมาอีกครั้ง เวลานี้พวกเขากำลังอาเจียนอย่างหนัก แต่คลื่นลูกใหม่ก็ซัดเข้าหาพวกเขาอีกครั้ง
“โอ้ย! ไม่ไหวแล้วโว้ย ฉัน… ฉันจะกลับบ้านไปอาบน้ำ!” หลิวหูร้องตะโกนขึ้นมาเป็นคนแรก
“บ้าเอ๊ย ขยะแขยงเป็นบ้า นังอ้วน นังสารเลว! หลิวหู ฉันไปด้วย!” จ้าวเฟิงตะโกนขึ้นมาด้วยเช่นกัน
“นังอ้วน ฝากไว้ก่อนเถอะ! เดี๋ยวฉันจะกลับมาถลกหนังแก!”
พวกมันหมักมานานกว่าหนึ่งปี กลิ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เหม็น แต่มันเป็นความเหม็นฝังลึกยากจะอธิบาย
สิ่งปฏิกูลที่เหนียวแน่นปิดบังทุกรูขุมขน เมื่อถูกแปะไว้บนร่างกาย ยากที่จะขจัดออก ลมหายใจทั้งหมดจะอบอวลไปด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์ แม้แต่น้ำลายที่อยู่ในปากยังไม่กล้ากลืนลงคอ
และเวลานี้ร่างกายของบุคคลเหล่านั้นเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่าแพร่กระจายไปรอบบริเวณ
ไม่มีคำใดเลยที่ดีพอจะอธิบายกลิ่นเหล่านี้ได้
เพราะต้าหลู่และเสี่ยวหลู่ไม่ได้อยู่ในตำบลนี้ พวกเขาจึงต้องตามไปอาบน้ำที่บ้านของหลิวหู
ทั้งสี่คนวิ่งไปพร้อมกับอ้วกตลอดเส้นทาง ปากยังคงสาปแช่งด้วยความเกรี้ยวกราดไม่หยุดหย่อน
เจียงหว่านเห็นพวกนั้นออกไปแล้ว เธอเองก็รีบออกจากส้วมและไปอาบน้ำทันที เพราะรู้สึกแย่กับกลิ่นเหล่านั้นด้วยเหมือนกัน
ส่วนเฉียวเหลียนเฉิงที่กลับมาจากอนามัยแล้ว เคาะประตูเรียกเพื่อเอายามาให้ เจียงหว่านที่เพิ่งออกจากห้องน้ำ ร่างกายของเธอเปียกไปทั้งตัว เส้นผมยังมีน้ำหยดลง
“ผมไปเอายามาให้ กินสักหน่อยเถอะ”
“นี่คุณไปกินอะไรที่ไม่สะอาด หรือว่าป่วยอะไรหรือเปล่า?”
“อ้อ ตอนผมเข้ามา ผมได้กลิ่นเหม็นเน่า ใครมาล้างส้วมกลางดึกแบบนี้กันนะ”
เฉียวเหลียนเฉิงพึมพำอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ขณะนั้นมือก็ยื่นยาให้เจียงหว่าน
แน่นอนว่าเมื่อเปิดบ่อเกรอะแล้ว กลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้ไม่ใช่ธรรมดา มันจะแพร่กระจายไปกว่าหลายร้อยลี้
เจียงหว่านไม่ได้อธิบายอะไรนัก หลังจากกินยาแล้วเธอก็รู้สึกสบายตัวขึ้น พร้อมจะนอนอีกครั้ง
แต่เฉียวเหลียนเฉิงเห็นว่าร่างกายของเธอยังเปียกชุ่ม เขาก็คว้าตัวเธอเอาไว้ก่อน
“คุณท้องเสีย ตอนนี้ร่างกายคงอ่อนเพลียมาก ถ้านอนเปียก ๆ แบบนี้จะเป็นหวัดเอาได้นะ”
“เช็ดผมให้แห้งก่อนเถอะ”
เจียงหว่านเหนื่อยมากจึงบ่นกลับไปอย่างหงุดหงิด “ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น อย่ามายุ่งวุ่นวายกลางดึกได้ไหม”
เธอสะบัดมือเฉียวเหลียนเฉิงออกและเดินเข้าไปในบ้าน
แต่เฉียวเหลียนเฉิงยังไม่ยอมปล่อย เขาคว้าข้อมือเธอไว้แน่นก่อนจะพาเธอเข้าไป จากนั้นให้เธอนั่งที่ขอบเตียงก่อนจะดึงผ้าเช็ดตัวมาเช็ดผมให้
เวลานี้ทั้งสองค่อนอยู่ใกล้กันมาก สายตาของเจียงหว่านกำลังมองร่างกายส่วนบนของเฉียวเหลียนเฉิงในระยะประชิด
ใบหน้าของชายหนุ่มค่อนข้างคล้ำแดดเล็กน้อย เป็นเพราะเขาตากแดดบ่อยครั้งจากการทำงาน แต่ว่าผิวใต้ร่มผ้าก็ยังดูขาวดี
โดยเฉพาะร่างกายส่วนบน หน้าอก และแขนเต็มไปด้วยกล้ามแน่น ๆ เพราะฝึกฝนมานานหลายปี กล้ามเนื้อท้องแปดลูกก็อยู่ตรงหน้าของเจียงหว่านพอดีซะด้วย
มันไม่ใช่กล้ามเนื้อที่แข็งเกินไป ดูกำลังพอดี ๆ ชวนให้มอง และถึงกับทำให้เจียงหว่านไม่อาจละสายตาออกไปได้
และขณะนั้นเอง… เธออดไม่ได้ที่จะเอานิ้วจิ้มหน้าท้องของเขา