เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 119 เฉียวเหลียนเฉิงเอาทะเบียนบ้านไปซ่อน
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 119 เฉียวเหลียนเฉิงเอาทะเบียนบ้านไปซ่อน
บทที่ 119 เฉียวเหลียนเฉิงเอาทะเบียนบ้านไปซ่อน
เด็ก ๆ ในบ้านพักครอบครัวทหารเหล่านั้นอยู่โรงเรียนเดียวกันกับผิงอัน และพวกเขาต้องออกจากบ้านก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมง ผิงอันยังเด็กมาก มันเลยค่อนข้างลำบากถ้าหากจะต้องตื่นเช้า และเดินทางไกลเช่นเดียวกับพวกเขา
เจียงหว่านคิดว่าผิงอันจะชอบ เพราะเด็กคนนี้เองก็ไม่ได้ชอบเธอนัก
แต่เธอไม่คาดคิดว่าทันทีที่พูดจบ ผิงอันก็กล่าวออกมาอย่างไร้เดียงสา
“ผมคิดถึงพ่อ แต่ผมเป็นห่วงคุณมากกว่าที่ต้องอยู่ที่นี่คนเดียว”
“เพราะฉะนั้นผมจะไม่ไปไหน ตอนนี้ผมเป็นผู้ชายคนเดียวที่นี่ ผมจะปกป้องคุณเอง”
เจียงหว่านอึ้ง “…”
เด็กน้อยตรงหน้าแก่แดดได้ขนาดนี้เชียว? เฉียวเหลียนเฉิงสั่งสอนให้เขาพูดจาแบบนี้เหรอ?
วันนี้ไม่มีใครทำอาหารรอ แต่โชคดีที่เธอเอาซาลาเปากลับมาจากโรงอาหารของสถานีตำรวจด้วย เธอจึงทำซุปเพิ่มอีกชาม ก่อนจะกินอาหารเย็นกับผิงอัน
หลังกินอาหารเสร็จแล้ว เฉียวเหลียนเฉิงก็กลับมา
“ฉันบอกว่าไม่ให้นายมาที่นี่ไม่ใช่รึไง!” เจียงหว่านหงุดหงิดทันทีที่เห็นหน้าเขา
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้าอย่างหนักแน่น ก่อนจะกล่าวเสียงทุ้ม “อื้ม จริง ๆ ผมก็ว่าจะไม่มาที่นี่อยู่หรอก แต่ผมมีปัญหาน่ะ เลยอยากขอความช่วยเหลือจากคุณ”
เจียงหว่านถามออกไปอย่างไม่แยแส ขณะที่มือยังคงล้างจานต่อไป
“มีปัญหาอะไรล่ะ”
“ถ้าฉันช่วยได้ฉันจะลองคิดดู แต่ถ้าเป็นเรื่องยืมเงินก็ลืมไปได้เลย”
ใบหน้าของเฉียวเหลียนเฉิงมืดมน “ผมไม่ได้จะมายืมเงิน แต่ถ้าคุณต้องการเงิน ผมให้ได้นะ”
เจียงหว่านตอบกลับ “ไม่เป็นไร ขอบคุณ!”
เฉียวเหลียนเฉิงปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป เขากล่าวต่อด้วยน้ำเสียงจริงใจ
“หว่านหว่าน ผมกำลังจะเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้และการป้องกันตัวระดับเขต”
เจียงหว่านตะคอกกลับ “แล้วยังไง! มันไม่ใช่ครั้งแรกที่นายเข้าร่วมสักหน่อย”
เฉียวเหลียนเฉิงเงียบก่อนจะแสร้งกล่าวเสียงเศร้า “ก็ใช่ ทั้งปีที่แล้วและปีก่อน ผมได้ที่สอง”
“แต่ปีนี้ผมไม่อยากได้ที่สองอีกแล้ว ผมอยากชนะ”
เจียงหว่านเลิกคิ้วฉงน “แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน?”
เฉียวเหลียนเฉิงเงยหน้ามองเธอด้วยแววตามุ่งมั่น เผยความปรารถนาแรงกล้าผ่านสายตา
“ก็ผมไม่รู้ว่าจะชนะได้ยังไง”
“ผมอ่านนิยายศิลปะการต่อสู้ที่คุณเขียนขึ้นมา มันสนุกมาก เลยคิดว่าคุณน่าจะสอนผมได้”
เจียงหว่านถึงกับทำอะไรไม่ถูก
เฮ้! ล้อเล่นหรือเปล่า เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ๆ แต่หมอนี่กลับมาขอให้เธอสอนเขาเนี่ยนะ!
แล้วจะให้สอนอะไร สอนยังไง?
พอเห็นเจียงหว่านเงียบไป เฉียวเหลียนเฉิงคิดว่า เขาคงยังแสดงความจริงใจได้ไม่มากพอ จึงรีบกล่าวต่อว่า
“ผมไม่ได้ให้คุณสอนฟรีนะ ผมจะจ่ายค่าสอนให้คุณ ชั่วโมงละหนึ่งหยวน”
เจียงหว่านชื่นชอบเงินที่สุด เธอเคยยินดีที่จะสอนผิงอันเพราะเงิน เพราะอย่างนั้นเธอจะต้องยอมสอนเขาแน่นอน
แต่สิ่งที่ทำให้เฉียวเหลียนเฉิงประหลาดใจคือ เจียงหว่านส่ายศีรษะปฏิเสธ
“ฉันไม่มีอะไรจะสอนนาย แล้วก็สอนไม่ได้ด้วย”
“คุณไม่พอใจเหรอ งั้นชั่วโมงละสองหยวนดีไหม? ได้โปรดเถอะนะ สอนผมเถอะ ผมว่านิยายที่คุณเขียนน่ะยอดเยี่ยมจริง ๆ”
“ไม่อย่างนั้น คุณก็สอนวิธีฝึกให้ผมก็ได้”
เจียงหว่านยิ่งรู้สึกหงุดหงิด “ฉันบอกว่าฉันไม่สอนไง ไม่สอนก็คือไม่สอน! ฉันไม่เข้าใจนายเลยจริง ๆ แล้วถ้าฉันมีทักษะต่อสู้จริง ๆ นายคิดว่าน้ำหนักตัวของฉันมันจะมากขนาดนี้ไหมล่ะ?”
เฉียวเหลียนเฉิงเผยสีหน้าประหลาดใจ “คุณไม่เคยเรียนทักษะการต่อสู้มาก่อนงั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นผมจะสอนให้คุณก่อน แล้วคุณก็ค่อยกลับมาสอนผมก็ได้”
“…”
ท้ายที่สุดแล้ว เฉียวเหลียนเฉิงก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีก แต่เวลานี้ก็ดึกมากแล้ว เจียงหว่านรู้ว่าไม่สามารถปล่อยเขากลับไปได้ แม้จะไม่ได้อนุญาตให้เขาเข้ามาในบ้าน แต่เธอก็ยอมให้เขาอยู่ในสนามหญ้า
ตกดึก มีร่างสามร่างลึกลับลอบย่องเข้ามาในลานแห่งนี้อีกครั้ง
คนหนึ่งถือไฟฉาย เดินตรงไปที่ประตูพร้อมกับสอดส่องเข้าไปด้านใน
“เห็นใครไหม?” ฮวาจือเอ่ยปากถามหลิวหูเสียงกระซิบ
หลิวหูส่ายศีรษะ “ไม่เห็น”
ฮวาจือกล่าวต่อว่า “วันก่อนเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉันไปถามรอบ ๆ นี้แล้ว สามีของนังอ้วนเป็นคนของกองทัพ ถ้าไม่ใช่ช่วงสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่มาหรอก”
“วันนี้คือเวลาทำงาน เขาไม่โผล่มาที่นี่แน่นอน!”
หลิวหูคิดว่ามันน่าจะเป็นจริงอย่างนั้น เขาเดินตรงไปที่ประตูก่อนจะถีบมันอย่างแรง
ประตูล้มลงกับพื้น ก่อนจะมีเสียงน่าขนลุกดังขึ้น
“นี่พวกแกแค้นเราขนาดนี้เลยเหรอ? คิดจะมาที่นี่เพื่อจัดการกับฉันหรือไง?”
เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหันทำให้หลิวหูตื่นตระหนก
หลังจากหันกลับมา เขาก็เห็นเงาดำยืนอยู่ข้างกำแพง
“อ๊ะ คุณ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไง?” น้ำเสียงของหลิวหูเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นเงาดำนั้น
ใช่แล้ว เสียงนี้และความรู้สึกนี้ เหมือนกับเมื่อวานทุกประการ!
เฉียวเหลียนเฉิงแค่นหัวเราะ เดินออกมาจากความมืดช้า ๆ “พูดจาไร้สาระอะไร นี่บ้านของฉัน ทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้?”
หลิวหูรู้ดีว่าเขาไม่สามารถสู้กับชายตรงหน้าได้ จึงคิดจะหันหลังกลับ และวิ่งหนีไป แต่ว่าเฉียวเหลียนเฉิงคว้าคอเสื้อของเขาเอาไว้เสียก่อน
“จะรีบไปไหน เตะประตูพังแล้วก็ต้องซ่อมก่อนสิ!”
“คราวที่แล้วเพราะฉันอารมณ์ดีถึงปล่อยพวกแกไปหรอกนะ แต่วันนี้อย่าคิดจะทิ้งให้ฉันซ่อมประตูเองเลย!”
หลิวหูถูกทุ่มลงพื้นอย่างแรง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด!
ส่วนฮวาจือพอเห็นอย่างนั้น ก็หันหลังกลับ หล่อนวิ่งหนีไปโดยไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ!
เมื่อเจียงหว่านตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ประตูหน้าลานก็ถูกซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว
แถมเฉียวเหลียนเฉิงยังเตรียมอาหารเช้าเสร็จแล้วด้วย
ขณะรับประทานอาหารเช้าร้อน ๆ เจียงหว่านอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสนเรื่องของเฉียวเหลียนเฉิงอยู่ในใจ
ตอนเช้าเจียงหว่านไปรับหัวหมู ก่อนจะนำมาทำ และเอาลงตุ๋นในหม้อ ผ่านไปครู่ใหญ่ อยู่ ๆ อู่หยางก็โผล่หน้ามาทักทาย
“พี่สาวอ้วน ทางรัฐมีการทําสํามะโนประชากร และถึงเวลาที่คุณจะต้องลงทะเบียนแล้ว”
เจียงหว่านพยักหน้าก่อนจะกรอกแบบฟอร์ม
“พี่สาวอ้วน ผมสอบถามกับแผนกทะเบียนบ้านให้แล้วนะ ถ้าคุณต้องการซื้อลานนี้ ก็สามารถย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาในตัวตำบลได้”
“ถ้าถิ่นกำเนิดของคุณอยู่ในชนบท ผมก็แนะนำให้ย้ายออกมา”
“แต่ถ้าจดทะเบียนไว้ในเมือง ผมไม่แนะนำให้คุณโอนกลับไปยังชนบทหรอกนะ ยังไงก็ไม่เหมาะ”
เจียงหว่านถามด้วยความประหลาดใจ “แล้วถ้าฉันไม่โอนย้ายมา ฉันยังลงทะเบียนได้ไหม?”
อู่หยางพยักหน้า “ได้สิ แต่คุณต้องเข้าไปพูดคุยกับรัฐตามวิธีการ ขั้นตอนจะยุ่งยากสักหน่อย”
“แต่ไม่เป็นไร ถ้ามีผู้กำกับกับผมคอยช่วยเหลือ พวกเราจัดการได้แน่”
เจียงหว่านยิ้มขอบคุณ “ไม่เป็นไรหรอก สำหรับฉันแล้วจะอยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน อีกอย่างฉันก็มาจากชนบทจริง ๆ”
อู่หยางกล่าวต่อว่า “ตอนนี้กำลังมีการสำรวจสำมะโนประชากร ถ้าคุณอยากจะทำ ให้เอาทะเบียนบ้านของคุณมา แล้วผมจะลองดูว่าพอมีคนจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ไหม”
เจียงหว่านกรอกเอกสาร ก่อนจะส่งอู่หยางกลับ จากนั้นเธอก็เดินกลับเข้ามาเอาสมุดทะเบียนบ้านของตัวเอง
แต่กลับกลายเป็นว่าเธอหามันไม่เจอ แม้พยายามค้นหาอยู่นานก็ไม่พบแม้แต่ร่องรอย
เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปถามเฉียวเหลียนเฉิง
ทว่าหลังจากมาถึงบ้านพักครอบครัวทหาร เธอได้ยินเสียงดังมาจากบ้านของสะใภ้เฉิน
ไม่นาน ประตูก็เปิดออก และเป็นหัวหน้าหน่วยเฉินเดินก็ออกจากบ้านไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เจียงหว่านหยุดฝีเท้า และสองบังเอิญเผชิญหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้ เธอตกใจมากที่เห็นว่าหน้าผากของหัวหน้าหน่วยเฉินมีรอยฟกช้ำ ดูเหมือนมันจะแตกด้วย
หัวหน้าหน่วยเฉินเห็นเจียงหว่านอยู่ตรงหน้า ก็ยกยิ้มบิดเบี้ยว ทำอะไรไม่ถูก
ขณะนั้นประตูเปิดออก พี่สะใภ้เฉินก็วิ่งปรี่ตามออกมา
“ไอ้คนแซ่เฉิน ถ้าหากวันนี้คุณไม่เอาเงินมาคืน พรุ่งนี้ฉันจะไปหย่ากับคุณ!”
ทันทีที่พูดจบ เธอก็หันไปเห็นเจียงหว่าน
“พี่สะใภ้ มีอะไรเหรอ ทำไมพี่ถึงโกรธมากขนาดนั้นล่ะ” เจียงหว่าถามเสียงอ่อน
เห็นอย่างนั้นแล้ว หัวหน้าหน่วยเฉินก็จ้ำเท้าออกไปทันที
ส่วนสะใภ้เฉินอดไม่ได้ที่จะตะคอกตามหลังเขาไปด้วยความหงุดหงิด แล้วหันกลับมาคุยกับเจียงหว่าน “หว่านหว่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? เข้ามานั่งคุยกันก่อนเถอะ”
เจียงหว่านมองร่างที่ห่างออกไปของหัวหน้าหน่วยเฉิน และคิดว่าคงไม่เหมาะนักหากจะขอตัวออกไป
เธอจึงเดินตามสะใภ้เฉินเข้าไปด้านใน