เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 115 เฉียวเหลียนเฉิงและผิงอันถูกไล่ออกจากห้อง
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 115 เฉียวเหลียนเฉิงและผิงอันถูกไล่ออกจากห้อง
บทที่ 115 เฉียวเหลียนเฉิงและผิงอันถูกไล่ออกจากห้อง
เจียงหว่านพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน “เฉียวเหลียนเฉิง เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว นายไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ฉันฟังหรอก”
“ที่ฉันไม่หย่ากับนายตอนนี้ ก็เพราะเราตกลงกันแล้วว่าจะให้ผ่านไปก่อนหนึ่งปี ตอนนี้นับ ๆ ดูก็เหลืออีกแค่ครึ่งปีเท่านั้น”
”เพราะฉันเป็นคนสร้างความเดือดร้อนมาตั้งแต่ต้น ฉันก็เลยไม่ต้องการให้การหย่าร้างของเราส่งผลเสียต่อนาย”
“ถ้ามาตอนกลางวันฉันไม่ห้ามนายหรอก เพราะตอนนี้เรายังเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่ อยากจะมาก็มาได้”
“แต่…นายไม่ควรมาที่นี่ในตอนกลางคืน”
เฉียวเหลียนเฉิงยิ่งร้อนรนมากขึ้นไปอีก “หว่านหว่าน เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ ผมจะไม่ไปยุ่งกับคุณบนเตียงเลย ให้ผมนอนบนพื้นต่อไปก็ได้!”
เจียงหว่านแค่นหัวเราะ “อย่าเลยน่า พื้นมันเย็นจะตาย แล้วหลังนายก็ปวดอยู่ด้วย ขืนทนนอนต่อไปถ้าร่างกายมีปัญหาขึ้นมาจะทำยังไง?”
เฉียวเหลียนเฉิงรู้สึกอึดอัดจนพูดไม่ออก
เจียงหว่านพูดต่ออย่างหมดความอดทน “รีบกลับไปซะ ฉันจะไม่รับผิดชอบต่ออาการปวดหลังของนายหรอกนะ! กลับไปดูแลตัวเองให้ดี!”
ผิงอันผล็อยหลับไปแล้ว ส่วนเจียงหว่านพอพูดจบก็เดินเข้าห้อง ปิดประตูลงกลอน แล้วปีนขึ้นไปนอนบนเตียง
ทันทีที่นอนลง หน้าต่างก็ถูกเปิดออก และหัวโต ๆ ของใครบางคนก็โผล่เข้ามา
“หว่านหว่าน ผมผิดไปแล้ว ให้ผมเข้าไปเถอะ ผมจะไม่ไปบ้านตระกูลเจียงอีกแล้ว วันนี้ผมก็ไม่ได้ไปหาเจียงเสวี่ยด้วย”
”ที่จริงแล้ว…”
เจียงหว่านเมินเฉย เธอใช้มือดันศีรษะของเฉียวเหลียนเฉิงออกไป และปิดหน้าต่างทันที
เฉียวเหลียนเฉิงผู้น่าสงสารยืนอยู่คนเดียวนอกบ้านเหมือนสุนัขที่ถูกทอดทิ้ง เขากำลังมึนงงและทำอะไรไม่ถูก!
ไม่ว่ายังไงเจียงหว่านก็ไม่ยอมให้เฉียวเหลียนเฉิงเข้าไป
เช้ามืดวันรุ่งขึ้น เจียงหว่านได้ยินเสียงบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก เธอเดาว่าคงจะเป็นเฉียวเหลียนเฉิงที่กำลังหาที่นอนตรงลานหน้าบ้าน
เธอจึงเพิกเฉย พลิกตัวกลับแล้วนอนต่อ
ประมาณเจ็ดโมงเช้า เมื่อเจียงหว่านตื่นขึ้นมา เธอกำลังจะพาผิงอันไปส่งที่โรงเรียน และก็ยังไม่เห็นเฉียวหลียนเฉิงเลย
“น้าอ้วน เมื่อคืนพ่อไม่ได้มานอนที่บ้านเหรอ?” ผิงอันถามขึ้นระหว่างทางไปโรงเรียน
เจียงหว่านถามกลับเสียงดัง “เธอรู้ได้ยังไง?”
ผิงอันกล่าวว่า “เมื่อกลางดึกผมลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่ไม่เห็นพ่อน่ะ”
เจียงหว่านตอบอย่างอารมณ์ดี “พ่อเธอไม่ชอบพื้นเย็น ๆ เลยไปนอนที่อื่น”
ผิงอันเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย “แล้วไปนอนที่ไหนเหรอ?”
”ใครจะรู้ล่ะ อาจจะเป็นบนหลังคา สวนหน้าบ้าน บนต้นไม้ใหญ่ หรือที่ไหนสักที่”
“พ่อของเธอแข็งแกร่งมาก นอนที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น”
ผิงอันคิดว่ามันก็สมเหตุสมผล แต่เขาก็ยังทำหน้ามุ่ย และพูดอย่างไม่พอใจ
“ถึงพ่อจะแข็งแรงมาก แต่อากาศข้างนอกมันก็หนาวมากเหมือนกัน ยิ่งบนหลังคา บนต้นไม้ หรืออะไรนั่น ยิ่งนอนไม่สบายเข้าไปใหญ่”
เจียงหว่านหยุดเดิน และหันมองเด็กชาย
“อื้อ ก็ใช่ ข้างนอกมันหนาวกว่าข้างใน แล้วก็นอนไม่สบายด้วย”
“ทำไม? ผิงอันรู้สึกแย่เหรอ?”
ผิงอันพยักหน้า “ใช่สิ นั่นพ่อของผมนะ ผมต้องรู้สึกแย่อยู่แล้ว”
เจียงหว่านพยักหน้ารับรู้ พลางพูดเบา ๆ “ดี ๆ งั้นคืนนี้เธอไปนอนกับพ่อของเธอนะ”
ผิงอันตกตะลึง
ตอนแรกก็คิดว่าเจียงหว่านแค่พูดไปอย่างนั้น แต่ไม่คิดเลยว่าหลังกินอาหารเย็นแล้ว ตอนกลางคืนหลังจากที่ผิงอันหลับไป เจียงหว่านก็อุ้มเขาขึ้นมา และยัดตัวเขาใส่อ้อมแขนของเฉียวเหลียนเฉิง
เฉียวเหลียนเฉิงสับสนมาก
“คุณไล่ผมก็เข้าใจได้ เพราะเมื่อวานผมทำให้คุณโกรธจริง ๆ แต่กับผิงอัน เขายังเด็กอยู่เลยนะ”
เจียงหว่านแค่นหัวเราะ “ใช่ เขาเป็นเด็ก แต่เด็กคนนี้เสียใจกับเรื่องของนายน่ะ”
“และฉันคิดว่าคงดีมากกว่าถ้าให้พ่อลูกได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน คิดเสียว่าฉันได้ช่วยเติมเต็มความกตัญญูของเขาไง”
ผิงอันหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องรู้ราว
เฉียวเหลียนเฉิงมองไปยังเด็กน้อยที่กำลังหลับอยู่ เขาแทบจะล้มทั้งยืน
เจียงหว่านใจร้ายมาก เธอไม่แยแสสองพ่อลูกเลยสักนิด
โชคดีที่คืนนี้ฝนไม่ตก และอุณหภูมิก็ไม่ต่ำเกินไป
เฉียวเหลียนเฉิงไปที่สนามหญ้าข้าง ๆ เขากอดผิงอันไว้ในอ้อมแขน
ไม่มีใครหรืออะไรอยู่ที่สนามหญ้าข้างบ้าน และก็ไม่มีสิ่งผิดปกติ จะมีก็แต่ฝุ่นที่มากไปสักหน่อย
ผิงอันนอนหลับสนิท ทั้งที่โดนไล่ก็ยังไม่สะทกสะท้าน เด็กชายไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
ช่วงเวลากลางคืนผ่านไป เมื่อลืมตาในวันรุ่งขึ้น ผิงอันก็เจอกับใบหน้าของพ่ออย่างจัง
“พ่อ พ่อยังไม่ไปนี่นา”
ปกติตอนเขาตื่นขึ้นมา เฉียวเหลียนเฉิงก็ออกไปแล้ว
เฉียวเหลียนเฉิงมองดูลูกชาย แล้วถามว่า “นี่ลูกทำอะไรให้น้าอ้วนเขาโกรธหรือเปล่า”
ผิงอันส่ายหัว แล้วพอมองไปรอบ ๆ ก็พบว่าที่นี่ไม่ใช่ในบ้าน
“ที่นี่ที่ไหนครับ เสี่ยวเสวี่ยล่ะ”
ผิงอันถามหาเสี่ยวเสวี่ย สมบัติอย่างเดียวของตน เขามักวางลูกเจี๊ยบตัวเท่าฝ่ามือไว้ที่หัวเตียง ยกเว้นแค่เวลาไปเรียน นอกนั้นเขาจะเอามันใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ และเอามันติดตัวไปด้วยเสมอ
เขาเคยชินกับการลืมตาตื่นมาเห็นเสี่ยวเสวียทุกเช้า เฝ้าพิจารณาว่าเจ้าตัวเล็กสบายดีไหม และทักทายมัน
แต่ตอนนี้ไม่มีเสี่ยวเสวี่ยอยู่ที่หัวเตียง
เฉียวเหลียนเฉิงขมวดคิ้ว “ไม่ต้องหาหรอก นี่ไม่ใช่บ้านของเรา นี่ข้างบ้าน ลูกถูกน้าอ้วนไล่ออกมาเมื่อคืน”
ผิงอันงงงวย
เฉียวเหลียนเฉิงยิ่งเศร้าไปกันใหญ่ ไม่ได้การแล้ว เขาต้องหาทางทำให้เจียงหว่านยอมให้พวกเขาเข้าบ้านให้ได้
ณ ค่ายทหาร เฉียวเหลียนเฉิงกำลังเดินหาเจียงเฉิงไปทุกที่
“มันเป็นเพราะนายที่ดันไปบอกว่าฉันปวดหลัง ดูสิตอนนี้เป็นยังไง ทั้งฉันทั้งผิงอันถูกไล่ออกจากบ้านกันหมดแล้ว!”
เจียงเฉิงสับสนมาก “ไม่จริงน่า! ถูกไล่กันหมดเลยเหรอ? ผิงอันก็…”
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้า “ฉันไม่สน นายเป็นคนก่อปัญหา นายต้องจัดการให้ฉัน”
เจียงเฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และก้าวไปนั่งตรงข้ามเฉียวเหลียนเฉิง
“หัวหน้าเฉียว ฉันรู้สึกว่านายกับเจียงหว่านมีปัญหาบางอย่าง”
เฉียวเหลียนเฉิงไม่เข้าใจ “ปัญหา? หมายความว่ายังไง?”
เจียงเฉิงตอบ “ฉันขอถามนายหน่อย นายสองคนมีไอ้นั่นกันหรือยัง”
เขาชูนิ้วชี้สองข้างเอามาชน ก่อนจะขยับถูกกันเบา ๆ
ใบหน้าของเฉียวเหลียนเฉิงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “ช่างมันเถอะน่า ก่อนเราจะแต่งงานกัน ฉันก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เจียงเฉิงตกใจ “แล้วหลังจากนั้นล่ะ ไม่มีแล้วเหรอ?”
เฉียวเหลียนเฉิงฮึมฮำอ้อมแอ้ม “ฉันเองก็ไม่มีความสุข ฉันรู้สึกว่าเราสองคนควรจะมีความรักให้กันบ้าง ไม่อย่างนั้น มันก็คงไม่ต่างจากสัตว์”
ขณะที่พูด เขาก็มองไปรอบ ๆ อย่างหดหู่ “บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอวางยาฉันในตอนนั้น ฉันก็เลยยังคงหลอนอยู่น่ะ”
พูดจบเขาก็โบกมืออย่างเร่งรีบแล้วพูดว่า “แต่นั่นมันเมื่อก่อน ต่อมาฉันค่อย ๆ พบว่าเธอเก่งแค่ไหน และก็เริ่มมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเธอ”
เขาวางมือบนหน้าอกอีกครั้ง และกล่าวกระซิบเสียงแผ่ว “บางครั้งเวลาฉันเห็นเธอ ใจฉันก็เต้นเร็วมาก!”
เจียงเฉิงแตะคางครุ่นคิด “ดูเหมือนว่าปัญหาระหว่างนายสองคนน่าจะอยู่ตรงนี้แหละ ว่ากันว่า ก่อนแต่งงานชายหญิงควรจะสงวนท่าทีเอาไว้”
“แต่ก็นะ ฉันยังไม่ได้แต่งงานพูดอะไรมากไม่ได้หรอก แต่ถ้ามากไปกว่านี้ มันไม่ได้เรียกว่ารักแล้ว เป็นพวกอันธพาลมากกว่า!”
“ว่ากันว่าหลังจากแต่งงานแล้วนายจะต้องหยาบคายบ้างนิดหน่อย นี่ฉันไม่ได้หมายความว่าให้นายหยาบคายกับเธอนะ เพียงแต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงมันต้องใช้วิธีการพิเศษบ้าง”
เฉียวเหลียนเฉิงตกตะลึง หมอนี่หมายความว่ายังไงเนี่ย วิธีพิเศษอะไรอีก
เขากะพริบตาปริบ ๆ และถามอย่างสงสัย “วิธีพิเศษอะไรล่ะ?”
เจียงเฉิงตอบ “ก็ต้องใช้ไม้แข็งกว่านี้ไง ฉันขอบอกนายไว้เลยนะ ผู้ชายอย่างเรา ๆ น่ะ ก่อนแต่งก็ต้องอ่อนโยนหน่อย นุ่มนวลหน่อย ผู้หญิงถึงจะชอบ”
“และหลังจากแต่งงานแล้วนายควรจะยิ่งอ่อนโยน แต่ถ้าเป็นเรื่องบนเตียงมันก็ต่างออกไป เพราะถ้านายอ่อนโยนมากเกินก็จะโดนดูถูกเอาได้”