เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 114 เจียงหว่านพูดถูกหมดเลย
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 114 เจียงหว่านพูดถูกหมดเลย
บทที่ 114 เจียงหว่านพูดถูกหมดเลย
ก่อนหน้านี้ เจียงหว่านเคยพูดถึงเรื่องของหลี่ซิ่วหลัน แล้วก็พูดถึงเรื่องการแต่งงาน
เธอเชื่อว่าตระกูลเจียงจะทำให้หลี่ซิ่วหลันพึงพอใจอย่างแน่นอน
แต่ตอนแรกเฉียวเหลียนเฉิงไม่ได้คิดเช่นนั้น
ในความคิดของเขา ไม่มีใครสามารถควบคุมชีวิตของคนอื่นได้ ยิ่งในสมัยนี้ที่พ่อแม่มีอิทธิพลต่อการแต่งงานของลูกน้อยลงไปมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพื่อนที่ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเลย
อย่างไรก็ตาม จากที่ได้เข้าไปอยู่ในการเจรจาครั้งนี้ เฉียวเหลียนเฉิงก็ได้เข้าใจแล้วว่าเขาคิดผิด
“ฉันหาผู้ชายคนหนึ่งให้เธอแล้ว สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์”
“เขาเต็มใจที่จะแต่งงานกับเธอ และเขาก็เป็นพนักงานของรัฐด้วย ข้อเสียอย่างเดียวคือขาเขาเดินกะโผลกกะเผลกนิดหน่อย แต่นอกนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร”
นี่คือสิ่งที่ถังซิ่วอวิ๋นพูด
ผู้หญิงคนนี้หูตาว่องไวจริง ๆ!
หลี่ซิ่วหลันรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น และอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เฉียวเหลียนเฉิง
ทว่าเฉียวเหลียนเฉิงเมินเฉย ไม่แม้แต่จะหันไปมองเธอ
ส่วนซิ่วจือก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก “คุณได้บอกเขาเกี่ยวกับสภาพร่างกายของน้องสาวฉันหรือเปล่า?”
น้องสาวของเธอกระดูกสันหลังหัก เส้นประสาทถูกกดทับ ทำได้เพียงแค่นอนราบหรือนอนตะแคงข้างเท่านั้น อีกทั้งยังไม่สามารถนั่งเป็นเวลานานได้
สภาพแบบนี้ ผู้ชายที่ไหนจะต้องการ?
ถังซิ่วอวิ๋นเหลือบมองหล่อน “ฉันจัดการบอกทุกอย่างกับเขา และตกลงทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว อีกฝ่ายเองก็ตกลงที่จะแต่งงานกับซิ่วหลัน”
“แค่เธอยอมรับเงื่อนไขทั้งหมด และลงนามในเอกสารข้อตกลง ฉันจะให้คนมารับและพาเธอไปที่เมืองเหยียนจิง”
เพียงแค่หลี่ซิ่วหลันได้ยินว่าเธอจะได้ไปเมืองเหยียนจิง และจะได้แต่งงานกับพนักงานรัฐที่มีสุขภาพดี
เพียงแค่นั้นหัวใจของเธอก็เต้นรัวแล้ว
“ตอนนี้เรายังตกลงไม่ได้ ฉันต้องอยากขอพบเขาก่อน แม้ว่าน้องสาวของฉันจะเป็นแบบนี้ก็ใช่ว่าเธอจะไปแต่งงานกับใครที่ไหนก็ได้”
หลี่ซิ่วจือพูดอย่างลังเลใจ เพราะเธอรู้สึกปวดใจแทนน้องสาวจริง ๆ และด้วยความรู้สึกผิด เธอจึงหวังว่าน้องสาวจะได้แต่งงานกับคนดี ๆ
ถังซิ่วอวิ๋นเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเย้ยหยัน
“จะไปเจอเขาก่อนก็ไม่มีปัญหา เธอกลับไปกับพวกเราได้ จากนั้นจะได้จัดงานแต่งงานให้ถูกต้องตามพิธี”
“แต่จะชวนใครมาไม่ได้ เขาเป็นพนักงานที่ต้องไปทำงานทุกวัน จะขอลางานตามใจชอบได้ที่ไหนกัน”
“เขาทำงานภายใต้หน่วยงานของรัฐ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมานี้ เขาได้เป็นถึงพนักงานต้นแบบเชียวล่ะ”
“ถ้าลางานแล้วมาที่นี่ก็จะทำให้เสียเวลา งานของเขาสำคัญมาก จะเสียเวลาไม่ได้แม้แต่วันเดียว”
เมื่อถังซิ่วอวิ๋นพูดจบ ทั้งหลี่ซิ่วหลันและพี่สาวต่างก็สบายใจขึ้นมานิดหน่อย
พนักงานต้นแบบเหรอ หรือจะไม่ใช่คนจีนนะ
ตำแหน่งงานนี้มีความสำคัญมาก มันต้องไม่ใช่ตำแหน่งเล็ก ๆ แน่
หลี่ซิ่วหลันที่คิดเพ้อฝัน ตอบตกลงทันที
“ตกลง ฉันจะแต่ง!”
หลี่ซิ่วจือไม่ได้มองในแง่ดีเท่าไหร่นัก
”ซิ่วหลัน!”
หลี่ซิวหลันหันไปมอง “ฉันกำลังจะได้แต่งงานกับคนที่ดีขนาดนี้ มีอะไรที่พี่ยังไม่พอใจอีก! พี่กำลังจะมีน้องเขยแล้วนะ!”
ขณะที่พูด เธอก็มองพี่สาวอย่างคาดคั้น
หัวใจของซิ่วจือเต้นรัว ครู่หนึ่งก็เข้าใจทันทีว่าน้องสาวหมายถึงอะไร
ซิ่วจือจึงเงียบไป
เมื่อมาถึงจุดนี้ ความขุ่นเคืองใจระหว่างตระกูลเจียงกับหลี่ซิ่วหลันก็ได้ตกลงจบกันด้วยดีแล้ว
ตกเย็น เจียงหว่านกลับมาจากการขายเนื้อ และเห็นเฉียวเหลียนเฉิงกำลังทำอาหารอยู่ที่ลานบ้าน
“กลับมาแล้วเหรอ? อาหารพร้อมแล้วล่ะ ผมทำซุปไว้ให้”
อาหารหลักของวันนี้คือหมั่นโถวลูกใหญ่ที่ไม่ผสมแป้งข้าวโพด ผัดผักหนึ่งจาน กับซุปอีกหนึ่งหม้อ
ไม่ต้องพูดอะไรมาก หมั่นโถวพวกนี้ดูดีจริง ๆ ดูแล้วนุ่มฟูน่ากินเป็นพิเศษ
เจียงหว่านรู้สึกประหลาดใจที่ผู้ชายคนนี้ทำหมั่นโถวเป็น แต่เมื่อเธอมองเขา ใบหน้านั้นกลับไม่มีรอยยิ้มเลย
ว่าแล้วก็หยิบหมั่นโถวมากัดหนึ่งคำ …อืม รสชาติไม่เลว
เธออดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเฉียวเหลียนเฉิงอีกสองสามครั้ง
ถ้าเจ้าของร่างเดิมไม่ทำอะไรให้มันยุ่งยากมากมายขนาดนั้น เธอก็คงจะเก็บเขาไว้เป็นของตัวเอง
น่าเสียดาย…
ระหว่างทานอาหาร เฉียวเหลียนเฉิงเล่าถึงผลการเจรจาระหว่างตระกูลเจียงและตระกูลหลี่ให้เจียงหว่านฟัง
เจียงหว่านขมวดคิ้ว “เป็นพนักงานต้นแบบมาสามปีแล้ว นี่มันงานแบบไหนกันนะ?”
เฉียวเหลียนเฉิงเงียบ “ไม่รู้สิ ป้าถังไม่ได้พูด เธอแค่บอกว่าเป็นงานที่อยู่ในหน่วยงานของรัฐ และทำงานทั้งปีแทบจะไม่ได้หยุดพัก”
“แถมบอกว่าคนทั้งเมืองอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา”
เจียงหว่านเงียบและถามว่า “แล้วพวกเขาพูดอะไรอีก”
เฉียวเหลียนเฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “แล้วก็บอกว่างานนี้ไม่ได้เหนื่อยมาก แค่สกปรกนิดหน่อย แต่อย่างอื่นก็โอเค ยกเว้นว่าเขาขากระเผลกนิดหน่อย”
เจียงหว่านหัวเราะลั่น
“คุณหัวเราะอะไร?” เฉียวเหลียนเฉิงถามอย่างสงสัย
เจียงหว่านตอบ “ฉันหัวเราะป้าถังอะไรนั่นน่ะสิ ตลกจริง ๆ!”
เมื่อเห็นความสงสัยของเฉียวเหลียนเฉิง เจียงหว่านก็ตอบว่า “เรื่องผู้ชายคนนั้นน่ะ เขาต้องเป็นพนักงานดูดส้วมแน่ ๆ!”
เฉียวเหลียนเฉิงนิ่งเงียบไป
เจียงหว่านอธิบายต่อ “มีหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่ง แต่หน่วยงานที่เปิดตลอดทั้งปีคือหน่วยงานที่ทำหน้าที่บริการ”
“คนในเมืองขาดไม่ได้ เป็นคำจำกัดความที่กว้างมากแต่ก็แคบมากเหมือนกัน เพราะความต้องการขั้นพื้นฐานที่สุดคืออาหาร”
“จะว่าเป็นพ่อครัว ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่คนทั้งเมืองจะขาดไม่ได้”
“แล้วที่บอกสกปรกนิดหน่อย แต่ไม่ได้หนื่อยมาก ยังไม่ชัดอีกเหรอ?”
เฉียวเหลียนเฉิงตกตะลึง พูดอะไรไม่ออก แต่พอคิดดูแล้วก็จริงอย่างที่เธอพูด
เจียงหว่านกล่าวต่อว่า “ทุกวันนี้เวลาที่ฉันขายเนื้อ ตอนเที่ยง ๆ ถ้าไม่มีลูกค้า ฉันจะไปที่กระดานข่าวหน้าเทศบาลตำบลเพื่ออ่านข่าว ดูเหมือนว่าจะมีคอลัมน์แนะนำคนงานต้นแบบของประเทศอยู่ด้วยนะ!”
“หนึ่งในนั้นมาจากเมืองเหยียนจิง เขาเป็นคนดูดส้วม ขากระเผลก และยังไม่ได้แต่งงาน”
”ในประเทศนี้มีพนักงานต้นแบบไม่กี่สิบคน และเขาเป็นคนเดียวที่ขากระเผลก”
เฉียวเหลียนเฉิงตกใจมาก “จริงเหรอเนี่ย! ป้าถังนี่แย่จริง ๆ”
หลังจากทานอาหารเสร็จ เฉียวเหลียนเฉิงก็อาบน้ำ เก็บข้าวของแล้วเดินเข้าไปในบ้าน
แต่พอไปถึงประตูกลับปิด แล้วถูกล็อกจากด้านใน
“หว่านหว่าน ทำไมถึงล็อกประตูล่ะ?” เฉียวเหลียนเฉิงเคาะประตูเรียก
เจียงหว่านตอบเสียงดังชัดเจน “ขอโทษด้วย เรากำลังจะนอนแล้ว ส่วนนายกลับไปซะ!”
เฉียวเหลียนเฉิงสับสน “หว่านหว่าน นี่ก็สองสามทุ่มเข้าไปแล้ว จะให้ผมไปนอนไหนล่ะ”
เจียงหว่านสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วตอบกลับไป “ไปหาเจียงเสวี่ยสิ ตอนพักเที่ยงนายยังหาที่พักได้เลย ทำไมตอนนี้หาไม่ได้”
“อีกอย่าง พวกเขาก็กำลังจะไปแล้ว ทำไมนายไม่ไปบอกลาดี ๆ ล่ะ”
เขาคิดว่าเมื่อตอนเที่ยงเธอแค่ล้อเล่นเฉย ๆ จึงปล่อยผ่านไป
ไม่คิดเลยว่าเจียงหว่านจะยังโกรธตัวเองอยู่!
“หว่านหว่าน ไม่ใช่แบบนั้นนะ ผมไม่ได้ไปงีบ แต่เพราะการเจรจาระหว่างตระกูลเจียงกับตระกูลหลี่ เจียงเฉิงเลยขอให้ผมไปด้วย”
เจียงหว่านพูดอย่างเย็นชา “นายไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ฉันฟังหรอก ยังไงเราก็จะหย่ากันแล้ว”
เฉียวเหลียนเฉิงเริ่มร้อนรน “หว่านหว่าน ผมไม่ได้ทำแบบนั้นจริง ๆ เจียงเฉิงเป็นคนทำให้ทุกอย่างมันวุ่นวายแบบนี้ เชื่อผมเถอะ!”