เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 111 ผิงอันได้พบกับคุณยายแม่มด!
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 111 ผิงอันได้พบกับคุณยายแม่มด!
บทที่ 111 ผิงอันได้พบกับคุณยายแม่มด!
เจียงหว่านถอนหายใจก่อนจะเปลี่ยนคำพูด “อื้ม นี่เป็นเรื่องของครอบครัวเรา อย่าไปบอกกับเจียงเสวี่ยเลย เข้าใจนะ!”
ผิงอันพยักหน้ารับ แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจอยู่เล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าเด็กชายหน้าจ๋อย เจียงหว่านก็อธิบายต่อ
“น้าเจียงเสวี่ยของเธอต้องโกรธมากแน่นอนหากรู้ว่าเธอตั้งชื่อลูกเจี๊ยบตัวน้อยว่าเสี่ยวเสวี่ย”
ผิงอันเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างสับสน “ทำไมล่ะ?”
เจียงหว่านเงียบไป
จนกระทั่งเข้าไปในประตูค่ายทหาร ผิงอันก็ยังไม่ได้รับคำอธิบาย
เจียงหว่านเพียงแต่พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอย่าเอาลูกเจี๊ยบออกมาเด็ดขาด และห้ามบอกเจียงเสวี่ย
ผิงอันจึงตอบตกลงอย่างช่วยไม่ได้
เจียงหว่านไม่ได้ตามเขาไป เพียงแต่ยืนอยู่ตรงประตูบ้าน และบอกกับผิงอันว่าให้มาเคาะประตูถ้าอยากจะกลับ
ผิงอันยืนลังเลอยู่ที่ประตูบ้านเจียง จากนั้นเขาหันหลังกลับมาอย่างไม่กล้า
เจียงหว่านจึงถาม “ทำไมไม่เข้าไปล่ะ!”
ผิงอันก้มศีรษะลง “ผมทรยศเธอ เธอจะเกลียดผมไหม”
เจียงหว่านยิ้มก่อนจะลูบศีรษะของเขา “แม้ว่ายัยนั่นจะเกลียดเธอ แต่เธอก็ยังอยากเจอหล่อนอยู่ใช่ไหมล่ะ?”
ผิงอันพยักหน้า “ผมอยากจะเจอน้าเจียงเสวี่ย แต่เพราะผมทรยศเธอ เธอคงจะโกรธผม แต่ว่านะต่อให้เธอดุด่าหรือตำหนิผมแค่ไหน ผมก็จะทน แม้ว่าผมจะไม่ผิด”
เจียงหว่านยิ้ม และกล่าวให้กำลังใจ “ไปเถอะ!”
ผิงอันพึมพำก่อนจะวิ่งออกไป
บางทีอาจเป็นเพราะกลัวว่าผิงอันจะรับไม่ไหว เจียงหว่านจึงไปยืนอยู่ใกล้ ๆ เขาด้วย
ถังซิ่วอวิ๋นเปิดประตูออกมาเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู
“สวัสดีครับ ผมมาหาน้าเจียงเสวี่ย”
ถังซิ่วอวิ๋นนิ่งไปก่อนจะเข้าใจ “เธอคงเป็นเฉียวผิงอันแน่ ๆ”
ผิงอันพยักหน้ารับ
ถังซิ่วอวิ๋นเปิดประตูกว้างขึ้น “ฉันเป็นแม่ของเจียงเสวี่ย เข้ามาสิ”
เห็นอย่างนั้นแล้ว ผิงอันตระหนักถึงบางอย่างก่อนจะอุทานออกมา “โอ้ ผมเคยได้ยินน้าเจียงเสวี่ยพูดถึงคุณ ว่าคุณเป็นแม่มดเฒ่า!”
ถังซิ่วอวิ๋นแทบจะล้มทั้งยืน!
เจียงหว่านที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็พูดไม่ออกไปเช่นกัน
ส่วนเจียงเสวี่ยที่กำลังดื่มน้ำอยู่ในห้อง เมื่อได้ยินผิงอันพูดแบบนั้น น้ำในปากก็แทบจะพุ่งออกมา
ผิงอันไม่รู้เลยว่าเขากำลังพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด เวลานี้เด็กชายจึงพูดต่อว่า
“คุณเป็นแม่ของน้าเจียงเสวี่ย อย่างนั้นผมก็ควรจะเรียกคุณว่ายาย อืมม งั้นผมจะเรียกคุณว่าคุณยายแม่มด!”
ถังซิ่วอวิ๋นมุมปากกระตุก ก่อนจะเหลือบมองเจียงเสวี่ยด้วยรอยยิ้มบาง
“ใช่จ้ะ ยายแม่มด เป็นชื่อที่ฟังดูดีเลยนะ ดูเหมือนกับว่าน้าเจียงเสวี่ยจะบอกเธอหลายอย่างเชียว”
พูดจบ เธอก็หันไปมองเจียงหว่านที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก
“งั้นเธอก็คงจะเป็นเจียงหว่าน”
เจียงหว่านพยักหน้ารับ “สวัสดีค่ะ”
ถังซิ่วอวิ๋นหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “เข้ามาสิ ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก ถ้าเธออยู่ที่นี่ด้วยกันน่าจะดีกว่านะ”
คำพูดของอีกฝ่ายคล้ายว่าแฝงความหมายบางอย่าง เจียงหว่านเองก็เข้าใจสิ่งนั้น เธอลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินตามเข้าไป
ภายในห้อง เมื่อเจียงเสวี่ยเมื่อเห็นผิงอันเข้ามาก็ค่อนข้างสับสน และใบหน้าเธอก็มืดครึ้มเมื่อเห็นว่าเจียงหว่านเดินตามเข้ามาด้วย
เจียงหว่านรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดจะต้อนรับ เธอจึงยืนอยู่ที่ประตู
ผิงอันก้มศีรษะลงแล้วเดินไปหาเจียงเสวี่ย “น้าเจียงเสวี่ย ผมมาหาน้าครับ”
เจียงเสวี่ยมองเด็กชายด้วยสายตาเย็นชา และไม่พูดอะไรตอบกลับไป
ส่วนผิงอันเอื้อมมือไปคว้าแขนเสื้อของเจียงเสวี่ย ก่อนจะดึงเบา ๆ แล้วกล่าวน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“น้าเจียงเสวี่ย ผมขอโทษ”
เจียงเสวี่ยยิ้มหยัน “เธอไม่จำเป็นต้องขอโทษฉัน และเธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย”
“เธอก็แค่จัดการกับญาติพี่น้องที่กระทำผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องความยุติธรรม”
ผิงอันรู้สึกเจ็บปวดใจมาก เขาก้มศีรษะลง คล้ายกับจะร้องไห้
ทำให้ถังซิ่วอวิ๋นทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอเดินไปดึงผิงอันออกห่างจากเจียงเสวี่ย แล้วถามว่า
“หนุ่มน้อย มานี่หน่อยสิ อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย?”
ผิงอันตอบว่า “คุณยายแม่มด ผมอายุห้าขวบครับ”
รอยยิ้มของถังซิ่วอวิ๋นแข็งทื่อ เริ่มรู้สึกเสียใจขึ้นมาที่เข้ามายุ่งกับเด็กคนนี้
ส่วนเจียงหว่านที่ฟังอยู่ข้าง ๆ กำลังเม้มปากแน่น พยายามกลั้นเสียงหัวเราะอย่างถึงที่สุด
เจียงเสวี่ยยิ่งหงุดหงิด “ลืมไปซะเถอะ หลังจากฉันไปจากที่นี่แล้วจะไม่มีใครดูแลเธออีก เพราะฉะนั้นดูแลตัวเองให้ดี”
พูดจบ เธอก็เงยหน้าขึ้นมองเจียงหว่าน “เธอระวังหน่อยก็แล้วกัน! จะถูกขายไปแล้วยังต้องมาช่วยนับเงินอีก”
ผิงอันก้มศีรษะอย่างเศร้าหมอง
เจียงเสวี่ยไม่อยากพูดอะไรต่ออีก “ไปได้แล้ว ออกไปซะ อย่ามายืนทำหน้าบื้อใส่ฉัน เห็นแล้วมันหงุดหงิด!”
ผิงอันเม้มปากแน่น ล้วงหยิบภาพวาดออกจากกระเป๋าเป้ “น้าเจียงเสวี่ย ผมวาดภาพนี้ให้น้า”
“ผมรู้ว่าผมทำน้าเสียใจ แต่ผมชอบน้าเจียงเสวี่ยจริง ๆ นะ น้าเจียงเสวี่ยไม่ต้องกังวล ถ้าในอนาคตผมเก่งกว่านี้ ผมจะกลับมาตอบแทนน้าที่ดูแลผมมาตลอดหลายปีให้ได้!”
เจียงเสวี่ยคิดจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นภาพวาดตรงหน้า เธอกลับเงียบลง
เธอหยิบภาพวาดขึ้นมาดู และไม่ได้พูดอะไร
ส่วนผิงอันที่เห็นว่าอีกฝ่ายเงียบ ก็หันหลังกลับคิดจะจากไป
ทันใดนั้นเจียงเสวี่ยก็พูดขึ้นมาว่า “ภาพวาดของเธอ มันหมายถึงอะไร?”
คำพูดของเธอดึงดูดสายตาของเจียงหว่านและผิงอัน แม้แต่ถังซิ่วอวิ๋นเองก็ยังหันมองด้วยความสงสัย
บนกระดาษ มีก้อนเล็ก ๆ สีน้ำตาลอมเหลืองแปะอยู่บนหน้าของชายร่างใหญ่
มองเพียงครู่เดียวทุกคนก็รู้ทันทีว่ามันคือขี้ไก่!
ผิงอันตื่นตระหนก เขารีบอธิบาย “ผมขอโทษครับน้าเจียงเสวี่ย ผมไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นขี้ของเสี่ยวเสวี่ย”
พูดจบเขารีบอุ้มลูกเจี๊ยบออกมาจากกระเป๋า
เมื่อเห็นอย่างนั้น เจียงหว่านแทบจะตบหน้าผากตัวเอง นึกคิดในใจ ‘จบสิ้นแล้ว!’
ผิงอันอุ้มลูกเจี๊ยบออกมาชูให้เจียงเสวี่ยดูอย่างไม่รู้ตาสีตาสา
เจียงเสวี่ยที่ได้ยินว่าเป็นขี้ไก่ที่แปะอยู่บนภาพวาด เธอยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากกว่าเดิม
และยิ่งเห็นว่าเด็กชายมีลูกเจี๊ยบอยู่ในกระเป๋าจริง ๆ เธอก็โกรธจัด
“เฉียวผิงอัน นี่มันหมายความว่ายังไง? ทำไมถึงเอาลูกเจี๊ยบใส่กระเป๋ามาแบบนี้ นั่นกระเป๋านักเรียนนะไม่ใช่เล้าไก่!”
ผิงอันพยายามอธิบาย “ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ!”
“มันคือเสี่ยวเสวี่ย ไม่ใช่ลูกเจี๊ยบธรรมดา…”
เขาบอก ก่อนจะรีบอธิบายว่าทำไมลูกเจี๊ยบตัวนี้ถึงถูกเรียกว่าเสี่ยวเสวี่ย และทำไมเขาถึงรักมันมาก พร้อมเล่าเรื่องของมันอย่างไร้เดียงสา
“น้าเจียงเสวี่ยไม่ต้องกังวลนะ ผมจะดูแลเสี่ยวเสวี่ยให้เหมือนกับที่น้าดูแลผมเลย!”
ที่ผิงอันต้องการจะบอกจริง ๆ คือ เขารักและซาบซึ้งต่อบุญคุณของเจียงเสวี่ยมาก
แต่เมื่อเจียงเสวี่ยได้ยินสิ่งนี้
เธอกลับมีเพียงความคิดเดียวอยู่ในใจ
“ในสายตาของเธอ ฉัน เจียงเสวี่ย คือ ล… ลูกเจี๊ยบงั้นเหรอ!”
ผิงอันรีบส่ายศีรษะปฏิเสธ แต่เขายังไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกของตัวเองยังไงดี
ทว่าเจียงเสวี่ยไม่ต้องการฟังอีกต่อไป เธอฉีกภาพวาดทั้งหมด แล้วปาใส่ผิงอัน
ภาพวาดนั่นถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ!
ผิงอันตัวแข็งทื่อหลังจากเห็นว่าภาพวาดทั้งหมดถูกฉีกไม่เหลือชิ้นดี
เศษซากกระดาษกลาดเกลื่อนไปทั่วห้องก่อนจะร่วงหล่นใส่ศีรษะของผิงอัน พร้อมกับใจของเขาที่เหน็บหนาวขึ้นมาราวกับยืนอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะ
เจียงเสวี่ยรู้สึกว่าสิ่งที่เธอทำยังไม่เพียงพอ จึงกล่าวเย้ยหยันต่อว่า
“เฉียวผิงอัน ที่ฉันดูแลเธอมานานกว่าสองปี ฉันก็แค่ทำเพื่อพี่ชายของฉันและเฉียวเหลียนเฉิงเท่านั้น”
“แต่ถึงอย่างนั้น ความพยายามของฉัน กลับถูกทรยศ”
“ทำเป็นวาดภาพให้ฉัน แต่สุดท้ายก็ด่าว่าฉันเป็นลูกเจี๊ยบ?”
“ไม่ว่าฉันจะแย่แค่ไหน ฉันก็ยังคงเป็นคุณหนูเจียงเสวี่ย หญิงสาวที่มีคนเคารพนับถือในเมืองเหยียนจิงนะ แต่นี่เธอกลับเปรียบเทียบว่าฉันเป็นลูกเจี๊ยบ!”
“ออกไปจากที่นี่ได้แล้ว ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าเธออีก!”