เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 108 ผิงอันรู้ทุกอย่าง
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 108 ผิงอันรู้ทุกอย่าง
บทที่ 108 ผิงอันรู้ทุกอย่าง
“ตอนที่ลูกชายของป้าหลัวเกือบตกลงไปในกระทะที่มีน้ำมันเดือด มันก็ผ่านมาประมาณสาม-สี่วันแล้ว ตอนที่ผมไปเล่นกับเสี่ยวโต้ว เขาพูดพล่ามและชี้ไปที่เจียงเสวี่ยและเรียกเธอว่าคนเลว”
“ตอนนั้นผมไม่เข้าใจ แต่หลังจากนั้นผมจึงค่อย ๆ เข้าใจมากขึ้นเรื่อย ๆ!”
“มีก่อนหน้านี้อีกนะ ผมเห็นเจียงเสวี่ยโยนดินลงในหม้อปรุงอาหารของป้าเฉิน เพราะป้าเฉินเรียกเธอว่ายัยจิ้งจอก!”
เสียงของผิงอันค่อย ๆ เบาลงเรื่อยๆ “จริง ๆ แล้ว ผมรู้มาตลอดว่าเธอแย่แค่ไหน แต่เธอดีกับฉันนี่นา”
“ถึงแม้คนแถวนั้นจะไม่ได้พูดอะไรใจร้ายกับผม แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาก็มองผมด้วยสายตารังเกียจ”
“วันนั้นป้าเฉินเอาขนมจากบ้านเกิดมา แต่เธอเอามันไปซ่อนจากผม รอให้ตงเซิงอยู่ที่บ้านแค่คนเดียว เธอถึงจะเอาออกมากิน”
“ตระกูลเหอก็เป็นแบบนี้เหมือนหัน พวกเขาเป็นแบบนี้กันหมด”
“แต่น้าเจียงเสวี่ยไม่ใช่แบบนั้น ไม่ว่าจะมีอาหารอร่อยแค่ไหนเธอก็จะเก็บไว้ให้ผมเสมอ”
พูดจบ ผิงอันก็เงยหน้าขึ้นและมองออกไปนอกหน้าต่าง แววตาของเด็กชายดูโหยหา
“ตอนนั้นผมเลยคิดว่า ถ้าแม่แท้ ๆ ของผมยังมีชีวิตอยู่ ก็คงจะเป็นแบบนี้แหละ”
ใจของเจียงหว่านที่เคยเงียบสงบ พังทลายลงเพราะคำพูดสุดท้ายของผิงอัน
เมื่อมองดูเด็กน้อยที่แสนโดดเดี่ยวตรงหน้า และได้ฟังคำพูดอันว่างเปล่าที่ราวกับว่าชีวิตของเขาช่างเลื่อนลอยและไร้จุดหมาย เธอก็รู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ
บางทีอาจเป็นเพราะเขากำลังคิดถึงความขมขื่นและความเหงา ใบหน้าเล็ก ๆ ของผิงอันจึงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เขาก้มหัวลง ราวกับว่าตัวของเขาก็ค่อย ๆ ร่วงโรยลงไปด้วย
แต่ความรู้สึกสูญเสียนี้ก็เกิดขึ้นได้ไม่นาน เจียงหว่านพูดขึ้นทันที
“ไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจ แค่จำให้ขึ้นใจว่าหล่อนดีกับเธอขนาดไหน อนาคตของเธอยังอีกยาวไกล ถ้ามีโอกาสก็อย่าลืมตอบแทน”
“ตอนนี้ก็เตรียมตัวได้แล้ว ฉันจะพาเธอไปหาเจียงเสวี่ย”
“ไปหาเหรอ?” ผิงอันประหลาดใจ
“คราวที่แล้วที่น้าเจียงเสวี่ยขอให้ผมกลับไป ก็เพราะอยากจะทำร้ายคุณ คุณยังจะพาผมไปหาเธออีกงั้นเหรอ?”
แม้ว่าผิงอันยังเป็นเด็ก แต่เขาก็รู้ว่าเจียงเสวี่ยใช้ประโยชน์จากเขา
หลังจากอยู่ที่นี่มาสองปีกว่า ๆ เขาเองก็รู้อยู่แก่ใจ เพียงแต่เขาทำใจให้โกรธเจียงเสวี่ยไม่ลง
ท้ายที่สุดแล้ว เด็กคนนี้ก็ยังมีความกตัญญู!
เจียงหว่านยิ้ม “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”
“ก่อนหน้านั้นหล่อนอยากให้เธอพาฉันกลับไป เพราะมีแผนจะทำร้ายฉัน”
“แต่ตอนนี้เราจะไปเจอเอง หล่อนคงจะคิดไม่ถึงหรอก แล้วก็ทำร้ายอะไรฉันไม่ได้แล้วด้วย”
“ฉันจะไม่ไปเจอเจียงเสวี่ย เธอไปเถอะ แล้วก็เตรียมของขวัญให้หล่อนด้วยล่ะ ในอนาคตหล่อนจะได้ไม่ลืมกัน”
ผิงอันมองเจียงหว่านและยิ้มค้าง “น้าอ้วน ขอบคุณนะ”
“ว่าแต่ ผมจะให้ของขวัญอะไรดีล่ะ ผมไม่มีเงินสักหน่อย”
เจียงหว่านลูบคางตัวเองเบา ๆ แล้วพูดว่า “เธอยังเป็นเด็กอยู่ ถ้าจะซื้อให้ก็ดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่ ทำไมไม่ลองให้ของที่เธอทำขึ้นมาเองล่ะ มันมีความหมายมากกว่าถ้าเธอทำมันด้วยตัวเองนะ”
ผิงอันกระพริบตาปริบ ๆ ครุ่นคิดสักพัก “ผมทำอะไรไม่ได้สักอย่าง เรื่องวาดรูปก็พอได้ แต่ไม่สวยเลยนะ”
เจียงหว่านพูดให้กำลังใจ “จะเป็นไปได้ยังไง! ผิงอันของเราวาดรูปได้สวยที่สุด ไม่เหมือนฉันที่วาดหนูแต่ถูกมองว่าเป็นปลา”
ผิงอันระเบิดเสียงหัวเราะและชี้ไปที่เจียงหว่านด้วยรอยยิ้ม “น้าอ้วนนี่ติ๊งต๊องจริง ๆ”
เจียงหว่านหันกลับมาหยิบสมุดบันทึก “เธออยากจะวาดอะไรล่ะ พรุ่งนี้เช้าฉันจะเอากระดาษมาให้ วาดตอนบ่ายก็ได้ แล้วมะรืนนี้ฉันจะพาเธอไป”
ผิงอันพยักหน้า “อื้อ ดีเลย”
เด็กน้อยยกยิ้มจนตาหยีเป็นขีด ดูน่ารักน่าเอ็นดู
เจียงหว่านอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบหัว
การกระทำที่อ่อนโยนนั้นทำให้ผิงอันตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอียงศีรษะไปทางฝ่ามือของเธอ
อย่างกับแมวน้อยที่ชอบคลอเคลีย!
เจียงหว่านลูบหัวเขาแรงขึ้น ทำให้เด็กน้อยหัวเราะมีความสุข
เมื่อเฉียวเหลียนเฉิงกลับมาในตอนเย็น เจียงหว่านถามขึ้นว่า
”นายมีข่าวคราวอะไรจากเจียงเสวี่ยบ้างไหม?”
เฉียวเหลียนเฉิงส่ายหัว “ไม่มีเลย หลี่ซิ่วหลันออกจากโรงพยาบาลแล้ว เจียงเฉิงก็วางแผนไว้ว่าจะคุยกับหล่อน คงจะเจรจาวันพรุ่งนี้”
“ดูเหมือนว่าเจียงเสวี่ยกำลังจะไปแล้ว อาจจะภายในสองสามวันนี้แหละ เจียงเฉิงต้องการให้เธอไปให้เร็วที่สุด แต่หลี่ซิ่วหลันมาบอกว่าถ้าตกลงกันไม่ได้ก็จะไม่มีการลงนามในเอกสาร”
“และถ้าไม่มีการลงนามในเอกสาร เหล่าหลัวก็จะไม่ยอมปล่อยเธอไปนี่สิ”
”ถ้าเป็นแบบนั้นก็ยากอยู่”
เฉียวเหลียนเฉิงถามขึ้นว่า “คุณคิดว่ายังไงล่ะ?”
เจียงหว่านส่ายหัว “เปล่า ฉันแค่ถามเพราะอยากรู้ และจะมีความสุขกว่านี้มากถ้าเจียงเสวี่ยโชคร้ายโดนจับเข้าคุก”
เฉียวเหลียนเฉิงมองเธออย่างจริงจัง
“มองอะไร?!” เจียงหว่านถามอย่างไม่พอใจ พร้อมรู้สึกเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย
เขากล่าวว่า “ทุกคนควรยึดมั่นในหลักการของการมีน้ำใจและความเมตตา แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเมตตาสินะ”
”คุณไม่ยอมให้อภัย แถมยังพูดประโยคนั้นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอีก”
”แต่ผมไม่ได้จะกล่าวหาคุณนะ มันแค่แปลก ๆ น่ะ”
เจียงหว่านกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย “ช่วยไม่ได้ ฉันก็ใจแคบแบบนี้แหละ และก็ยังแค้นมากด้วย”
“ถ้านายไม่ชอบก็ไปเลย ฉันไม่ได้บังคับ”
เฉียวเหลียนเฉิงส่ายหัวปฏิเสธ “ไม่ ผมชอบ นิสัยแบบนี้ของคุณทำให้ผมรู้สึกสบายใจ ไม่ยอมก็คือไม่ยอม มันก็ดีไม่ใช่เหรอ จะได้ไม่มีใครมารังแกคุณได้”
”ไม่มีอะไรจริง ๆ นะ”
เจียงหว่านที่ประหลาดใจ มองเขาอย่างคาดคั้นแล้วก็เบือนหน้าไปทางอื่น
“อย่าคิดว่าคำพูดแบบนั้นจะหลอกฉันได้นะ ฝันไปเถอะ”
เฉียวเหลียนเฉิงยิ้มเจื่อน ทุกวันนี้ไม่มีใครเชื่อมั่นในความจริงใจอีกต่อไปแล้วเหรอ?
หลังจากทานอาหารเสร็จ เจียงหว่านยังคงสงสัย เลยถามเฉียวเหลียนเฉิงที่กำลังล้างจานอยู่
“นี่นายจะอยู่ที่นี่ไปเรื่อย ๆ เลยหรือไง? ไม่คิดกลับค่ายทหาร มัวแต่มาอยู่กับฉัน!”
เฉียวเหลียนเฉิงตอบ “นี่ก็คือบ้านของผมเหมือนกัน”
เจียงหว่านโมโหขึ้นมา “นายอย่ามาที่นี่อีกเลย นี่คือบ้านของฉัน ไม่ใช่ของนาย เราหย่ากันแล้ว”
เฉียวเหลียนเฉิงหันกลับมามองเธออย่างประหลาดใจ “ผมยังไม่ได้รับใบหย่า และตามกฎหมายแล้วเรายังเป็นสามีภรรยากันอยู่”
”สำหรับผม ที่ไหนที่มีคุณกับผิงอันอยู่ ที่นั่นคือบ้าน”
เจียงหว่านโกรธเมื่อเธอเห็นว่าเขาดูคุ้นเคยกับเธอขนาดไหน
เธอหันหน้าหนีเขา
แต่เฉียวเหลียนเฉิงพูดขึ้นว่า “วันนี้ผมได้เจอเจ้าของบ้านแล้วด้วย”
เจียงหว่านหันไปถามทันที “นายรู้จักเจ้าของบ้านได้ยังไง”
ตั้งแต่ตอนเช่าบ้าน เจ้าของบ้านก็ไม่โผล่มาให้เห็นอีกเลย หมอนี่จะไปเจอได้ยังไงกัน
เฉียวเหลียนเฉิงไม่อธิบายอะไร แต่พูดว่า “เจ้าของบ้านตกลงที่จะขายสวนหน้าบ้านนี้ให้ผมในราคาสองร้อยหยวน”
เจียงหว่านยิ่งงุนงง “พูดอะไรของนาย? สองร้อยหยวนสำหรับสนามหญ้าที่ผุพังแบบนี้น่ะเหรอ?”
”ตอนนี้เราทำสัญญาที่ดินแล้ว ตามจริงผมจะทำให้ที่นี่เป็นบ้านพักของผม และผมยังมีทะเบียนบ้านที่ค่ายทหารอีกด้วย ถ้าคุณยินดี ผมจะซื้อที่นี่ และจดทะเบียนบ้านของคุณไว้ที่นี่ได้นะ”
“แบบนี้ที่นี่ก็เป็นทรัพย์สินของนายสินะ”
เจียงหว่านจดทะเบียนสมรสแล้ว และทะเบียนบ้านของเธออยู่ในกองทัพ ซึ่งอยู่ในความดูแลของทหาร
ก่อนที่เธอจะมาที่นี่ เธอก็ได้แบ่งที่ดินให้น้องชาย เพราะแต่งงานแล้วจึงไม่สามารถย้ายทะเบียนบ้านกลับไปได้
ด้วยเหตุนั้น หากซื้อที่ตรงนี้แล้วก็ลงทะเบียนที่อยู่อาศัยที่นี่ได้มันก็คงดีกว่า
เพราะสาเหตุหลัก ๆ คือนโยบายทะเบียนบ้านที่นี่ไม่ได้เข้มงวดมาก และดำเนินการง่ายกว่าในกองทัพ