เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 103 ฮวาจือจะมาหาเรื่องถึงหน้าประตู
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 103 ฮวาจือจะมาหาเรื่องถึงหน้าประตู
บทที่ 103 ฮวาจือจะมาหาเรื่องถึงหน้าประตู
ถังซิ่วอวิ๋นยักไหล่อย่างไม่สนใจ “ไม่ต้องห่วง ถ้าเธอไม่มาขอร้อง ฉันก็จะไม่สนใจเธอหรอก ตัวฉันแค่จะอยู่รับชมความสนุกห่าง ๆ จึนถึงตอนเธอติดคุกนั่นแหละ”
เธอยกยิ้มอย่างยั่วยุ
“ไปก่อนนะ!”
ตอนนี้เจียงเสวี่ยโกรธจนอยากจะฆ่าใครสักคน!
อีกด้าน เจียงหว่านที่เก็บจานเรียบร้อยแล้วก็คิดจะออกไปข้างนอก
ถึงเริ่มจะมืดแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเดินทางไม่ได้
“เราค่อยไปพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ? เดี๋ยวผมนอนบนพื้นเอง” เฉียวเหลียนเฉิงถามด้วยเสียงแผ่ว
เขาเสียใจจริง ๆ ที่ภรรยาพยายามหลบหน้าเขาราวกับเขาเป็นโรคระบาด
เจียงหว่านส่ายศีรษะ “ฉันไม่ได้ขายเนื้อหลายวันแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เช้าไปสาย คงจะไม่มีเนื้อให้ซื้อ”
“แล้วฉันก็เสียเวลาหาเงินไปตั้งหลายวันด้วย”
เฉียวเหลียนเฉิงพยายามโน้มน้าวอยู่นาน แต่เจียงหว่านก็ยังยืนกรานที่จะกลับ
สุดท้ายเขาก็ทำอะไรไม่ได้ จึงอาสาไปส่งเธอ
“ฉันไม่ใช่เด็ก และฉันไม่ต้องการให้นายไปส่ง!” เจียงหว่านปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
แม้เฉียวเหลียนเฉิงจะช่วยให้เธอออกจากคุก แต่เจียงหว่านยังไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจ
อาจกล่าวได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเพียงผ่อนคลายความตึงเครียดลง ไม่ได้ทำสงครามประสาทต่อกันแล้วเท่านั้น
และเธอก็ยังอยากหย่ากับเฉียวเหลียนเฉิงเช่นเดิม
เฉียวเหลียนเฉิงเองก็กล่าวอย่างดื้อรั้นเช่นกัน “ถ้าคุณจะกลับ ผมก็จะไปส่ง”
“เพราะงั้นช่วยเคารพการตัดสินใจของผมด้วย”
เจียงหว่านถึงกับเงียบไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น และยอมแพ้ในที่สุด
ทั้งสองพาผิงอันไปด้วย
ปกติเวลานี้ คือเวลานอนของผิงอัน แต่วันนี้เกิดเรื่องราวมากมายจนเด็กน้อยเหนื่อยล้า
อีกทั้งยังถูกเฉียวเหลียนเฉิงพาออกมาด้วย
หลังเดินไปไม่กี่ก้าว ผิงอันล้มลงกับพื้น
เจียงหว่านรีบพุ่งเข้าหาผิงอันทันที แต่เห็นว่าเด็กน้อยเพียงผล็อยหลับไปเท่านั้น
“นายไม่ควรไปส่งฉันเลย อยู่บ้านกับผิงอันแล้วก็เข้านอนซะดีกว่า”
เจียงหว่านโน้มน้าว
แต่เฉียวเหลียนเฉิงเข้ามาอุ้มผิงอันขึ้นหลัง และจับมือเจียงหว่านที่ไม่ทันตั้งตัว แล้วพาเดินออกไป
มือของเขาทั้งใหญ่และอบอุ่น
เจียงหว่านก้มมองมือที่ถูกมือใหญ่โอบอุ้ม มือทั้งสองกลมเกลียวแน่นหนาราวกับว่าพวกเขาเป็นคู่รักที่จะจับมือกันไปตลอดชีวิต
ครั้งหนึ่งเธอเองก็คาดหวังว่าจะมีมือแบบนี้คอยปกป้องเธอไปตลอดชีวิตเช่นกัน
ทั้งสามเดินออกจากบ้านพักครอบครัวทหาร เส้นทางมืดมิดด้านนอกทำให้เจียงหว่านได้สติกลับมา เธอจึงรีบสะบัดมือเขาออก
“ฉันเดินเองได้ ไม่ต้องมาจับ!”
เฉียวเหลียนเฉิงสะดุ้งเล็กน้อย มองมือตัวเองอย่างเสียดาย เพราะความอุ่นจากเจียงหว่านจะติดอยู่ที่มือของเขา
ไม่รู้เลยว่ากลิ่นเหงื่อบนร่างกายของเจียงหว่านหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่
ตอนนี้มันถูกแทนที่ด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสบู่ ซึ่งเป็นกลิ่นที่มีเสน่ห์ของหญิงสาว
หอมจาง ๆ และบางเบา
เฉียวเหลียนเฉิงรู้สึกชอบมันมาก
เหมือนว่ากลิ่นนั้นจะติดอยู่ที่ปลายนิ้วของเขา มันทำให้เขารู้สึกอยากจะคว้ามือนั้นไว้อีกครั้ง
เจียงหว่านเดินไปบนถนนที่ไม่ราบเรียบเท่าไหร่ ทำให้การเดินของเธอดูทุลักทุเล
แต่พอรู้สึกว่าด้านหลังมันเงียบเกินไป เธอจึงหันกลับมาและเห็นว่าเฉียวเหลียนเฉิงกำลังจ้องปลายนิ้วของตัวเองเหมือนกำลังดมกลิ่นหอมบางอย่าง
“นายทำอะไรน่ะ?” เจียงหว่านนึกสงสัย
เฉียวเหลียนเฉิงรู้สึกตัวขึ้นมารีบส่ายศีรษะแล้วก้าวตามไปให้ทัน
วันรุ่งขึ้น เจียงหว่านตื่นแต่เช้าและตรงไปหาคนขายเนื้อทันที
เฉียวเหลียนเฉิงเองก็ออกไปพร้อมกับเธอ “วันนี้คุณว่างไหม ผมอยากให้คุณไปคุยเรื่องโรงเรียนอนุบาลให้ แต่ผมคงไปไม่ได้ ต้องลองไปขอลางานก่อน”
“ก่อนหน้านี้ผมลามาหลายครั้งแล้ว ถ้าจะลาอีกคงยาก”
เจียงหว่านพยักหน้า “อืม ฉันจะไปถามให้”
เห็นว่าเธอยอมตอบรับ เฉียวเหลียนเฉิงถึงอารมดีขึ้นมา แววตาของเขาพลันสดใส
“งั้นผมจะรอคุณกลับมากินข้าวด้วยกันนะ!”
หลังจากพูดจบแล้ว เขาหันหลังเดินจากไป ทิ้งเจียงหว่านที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นลำพัง
“นี่นายหมายความว่ายังไง!” เมื่อเธอได้สติกลับมาและสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างแปลก ๆ เฉียวเหลียนเฉิงกลับหายไปแล้ว
คนขายเนื้อยกยิ้มมีความสุขเมื่อเห็นว่าเจียงหว่านมาที่นี่ “มาแล้วเหรอ มานี่เลย มานี่ วันนี้ฉันฆ่าหมูตัวใหญ่เลย หัวหมูวันนี้หนักเกือบยี่สิบกิโลกรัมเชียวนะ”
เจียงหว่านถาม “ก่อนหน้านี้ที่ฉันไม่ได้มา พี่ขาดทุนไหม”
คนขายเนื้อส่ายหัว “ไม่หรอกน่า พอดีช่วงนั้นครอบครัวของฉันลองทำอาหาร ฉันเลยเอาหัวหมูไปให้น่ะ”
“ฉันก็ไม่รู้ว่าเธอจะมาเมื่อไหร่ เลยคิดว่าถ้าเก้าโมงเธอยังไม่มา ฉันก็จะขายมัน”
“แต่อาจเป็นเพราะหมูตุ๋นของเธอดังมากแน่ ๆ รู้ไหม ตอนนี้มีตลาดที่ขายเนื้อหัวหมูด้วยเหมือนกัน”
เจียงหวานได้ยินอย่างนั้นก็ไม่แปลกใจนัก
“มีเรื่องที่บ้านน่ะค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ”
คนขายเนื้อยิ้ม “สาวน้อย ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก ฉันรู้เรื่องหมดแล้วแหละ”
เจียงหว่านประหลาดใจ “ข่าวที่ฉันติดคุกดังมาถึงในตำบลเลยเหรอเนี่ย?”
คนขายเนื้อยิ้มตอบกลับ “ไม่หรอกน่า ฉันได้ยินแค่ว่าเธอจัดการฮวาจือในสถานควบคุมตัวชั่วคราว แล้วก็นะ พอผู้หญิงคนนั้นออกมา เธอก็เดินไปรอบ ๆ แล้วถามว่าผู้หญิงอ้วนที่ชื่อเจียงหว่านน้ำหนักร้อยกิโลน่ะมาหมู่บ้านไหน”
“น้องสาว ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ ผู้หญิงคนนั้นมันงูพิษชัด ๆ ถ้าหล่อนต้องการแก้แค้นเมื่อไหร่หล่อนมาหาเธอถึงหน้าประตูแน่”
แต่เจียงหว่านไม่คิดสนใจ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่กลัวยัยกุ้งแห้งนั่นหรอก”
เจียงหว่านชั่งเนื้อ คิดเงิน แล้วก็ถามคนขายเนื้ออีกว่า
“ฉันอยากทำรางน้ำ พี่ช่วยหาช่างให้หน่อยได้ไหม เป็นช่างตีเหล็กก็ได้”
คนขายเนื้อตอบตกลงทันที
หลังจากเจียงหว่านกลับมา ผิงอันก้ตื่นแล้ว
เขานอนอยู่บนเตียงพร้อมกับจ้องมองไข่ในกล่อง
“ตื่นแล้วเหรอ? มากินข้าวเช้ากัน”
เมื่อคืนนี้ครอบครัวคนขายเนื้อทำซาลาเปาเอาไว้
เขาเลยให้เจียงหว่านมากินเป็นอาหารเช้า
ผิงอันพยักหน้ารับก่อนจะพูดกับเจียงหว่าน
“น้าอ้วน มันขยับด้วยแหละ”
เจียงหว่านตาเบิกกว้าง ในแววตามมีประกายจากความตื่นเต้น รีบพุ่งตัวเข้าไปดูทันที
น่าประหลาด… ในบรรดาไข่ยี่สิบกว่าฟอง มีเพียงหนึ่งฟองเท่านั้นที่กำลังเคลื่อนไหว เหมือนว่าเปลือกไข่กำลังจะแตกออก
“จริงด้วย มันกำลังจะฟักแล้ว!”
เธอยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะนอนลงข้างผิงอัน
หลังจากจ้องมองสักครู่จึงเห็นรอยแตกขนาดใหญ่ขึ้นบนเปลือกไข่ แล้วทะลุออกมา
เปลือกไข่แตกจนเห็นข้างใน
ลูกเจี๊ยบด้านในเปียกแฉะและขดตัวเล็ก ร่างกายของมันปวกเปียกดูอ่อนแออย่างบอกไม่ถูก
หัวใจของเจียงหว่านและผิงอันแทบจะละลายให้กับความน่ารักนี้
เจียงหว่านหยิบไข่ที่แตกแล้วออกจากกล่อง แยกมันมาไว้อีกที่หนึ่ง
จากนั้นก็ตัดใจเดินออกไปตั้งแผง
ในช่วงเที่ยงเนื้อขายดีมาก มีหลายคนเข้ามาทักทายเธอถามไถ่สารทุกสุกดิบ
“ทำไมถึงไม่มาขายตั้งนานล่ะ สามีของฉันบอกว่าเธอไม่มาขายเนื้อเลย เขาเลยไม่มีกับแกล้ม”
“ผมนี่สิต้องไปซื้อเนื้อนี่จากร้านอาหารใกล้ ๆ แต่รสชาติห่วยแตกมาก! ต้องเอาซีอิ๊วใส่เพิ่มถึงจะพอกินได้”
เจียงหว่านยกยิ้ม “พอดีมีเรื่องที่บ้านนิดหน่อยจ้ะ ขอโทษทุกคนด้วยนะ!”
เมื่อมีหลายคนถามไถ่ เจียงหว่านตอบกลับพวกเขาอย่างเป็นกันเอง
หลังจากพักขายเนื้อในช่วงเที่ยง เจียงหว่านก็พาผิงอันไปทานอาหารที่สถานีตำรวจ
และเมื่อเธอเข้ามาในสถานี เธอก็เห็นว่าตำรวจกำลังมองเธอด้วยรอยยิ้ม
ในใจนึกสงสัยอย่างช่วยไม่ได้
“มีอะไรหรือเปล่า?” เจียงหว่านอุทานด้วยความประหลาดใจ
อู่หยางอาสาเป็นคนตอบ “ก็มันมีข่าวว่าคุณยึดครองห้องขังในสถานกักตัวชั่วคราวน่ะสิครับ ทุกคนเลยชื่นชมพลังของพี่สาวอ้วนทั้งนั้น!”
เจียงหว่านที่ได้ยินหน้าแดงก่ำ
ส่วนอู่หยางเข้ามาตบบ่าธอ
“พี่สาวอ้วน จากนี้ไปผมจะมองที่เป็นต้นแบบเลย!”
ใบหน้าของเจียงหว่านยิ่งมืดมน!
หลังจากทานมื้อกลางวันเสร็จแล้ว เจียงหว่านพาผิงอันไปที่โรงเรียนอนุบาลในช่วงบ่ายเพื่อสอบถามเรื่องสมัครเรียน
แต่ก่อนหน้านั้นเธอไปที่บ้านก่อน ทว่าเมื่อมาถึง เธอกลับเห็นประตูล้มลง ข้าวของในลานกระจัดกระจายเหมือนถูกค้น