เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 101 พี่สาวอ้วนเป็นผู้หญิงที่ประหลาดที่สุดในโลก
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 101 พี่สาวอ้วนเป็นผู้หญิงที่ประหลาดที่สุดในโลก
บทที่ 101 พี่สาวอ้วนเป็นผู้หญิงที่ประหลาดที่สุดในโลก
ตำรวจที่ได้ยินคำถามนี้ตอบกลับมาว่า
“ก็ต้องขอบคุณผู้หญิงอ้วนคนนั้นแหละที่ช่วยสร้างความตระหนักในการเล่นพนันให้พวกประชาชน”
“เธอไปบรรยายให้ผู้คนในแต่ละหมู่บ้านฟังถึงวิธีการหลีกเลี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อการพนัน”
“ผู้คนได้รับความกระจ่างขึ้นหลังจากฟังเธอบรรยาย เพราะเธอยกตัวอย่างสถานการณ์จริง มันเลยเกิดปรากฏการณ์นี้น่ะ!”
หม่าต้านถึงกับอึ้ง “จริงเหรอ? พี่สาวคนนี้เก่งมากขนาดนั้นเชียว แล้วเธอมาจากหมู่บ้านไหน ผมอยากรู้จักเธอ”
ผู้หญิงที่ทำเรื่องพวกนี้ได้ต้องผู้หญิงประหลาด ถึงได้กล้าไปเผยแพร่สิ่งต่าง ๆ ในหมู่ประชาชน เธอทำได้ยังไงกัน!
ตำรวจกำลังจะตอบกลับ แต่จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังจากด้านนอก และตามด้วยเสียงจากฝ่ายรักษาความปลอดภัยของกองทัพ
เมื่อเข้ามาด้านใน เขาก็มอบเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร สำหรับการปล่อยตัวเจียงหว่าน
หม่าต้านเห็นอย่างนั้นจึงรีบไปพาเธอออกมาทันที
เขาพาเจียงหว่านออกมาจากห้องขัง และส่งเธอให้กับคนจากฝ่ายรักษาความปลอดภัย
“คุณพ้นโทษแล้ว จากนี้ไปก็ทำตัวดี ๆ แล้วอย่ากลับมาอีก…”
ไม่ทันพูดจบ หม่าต้านก็ตระหนักได้ว่าเขาพูดบางอย่างผิดไป
“เอ่อ ผมหมายถึงว่า ระวังคำพูดและการกระทำในอนาคตให้ดี อย่าให้ถูกจับมาอีก”
เจียงหวานเหลือบมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ ก่อนจะจากไป
ตอนนั้นเองตำรวจจากสถานีตำรวจที่เดินตามมาก็จำเธอได้
“พี่สาวอ้วน ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้เนี่ย? เฮ้อ ผมตามหาคุณไปทั่ว แล้วทำไมช่วงนี้ถึงไม่ออกไปบรรยายตามหมู่บ้านเลยล่ะ”
เจียงหว่านประหลาดใจ หลังจากครุ่นคิดสักครู่ก็จำได้ว่าคนคนนี้คือเพื่อนร่วมงานของอู่หยาง เขาน่าจะชื่อว่า…ต้าหลิว
“ก็แค่มาหาประสบการณ์ชีวิตน่ะ”
หลังพูดคุยกันครู่หนึ่ง เจียงหว่านก็ติดตามฝ่ายรักษาความปลอดภัยออกไป
หลังจากเธอจากไปแล้ว หม่าต้านหันมองต้าหลิวด้วยความสงสัย
“เธอเป็นใครเหรอ ทำไมทุกคนในสถานีตำรวจถึงรู้จักเธอล่ะ?”
ต้าหลิวตอบกลับ “อ้อ เธอคือคนแปลก ๆ ที่ฉันพูดถึงก่อนหน้านี้ไง ที่ช่วยสอนกฏหมายให้กับชาวบ้าน!”
หม่าต้านถึงกับพูดไม่ออก อู่หยางมาที่นี่เพราะเป็นห่วงเขาจริง ๆ งั้นเหรอ …สหายอู่หยาง ฉันผิดไปแล้ว!
หลังจากเจียงหว่านออกมา เธอไปที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยเพื่อลงนามในเอกสารสองสามแผ่นก่อนจะได้รับการปล่อยตัว
เมื่อออกมาจากสถานีแล้ว เธอเห็นเฉียวเหลียนเฉิงยืนรออยู่ที่หน้าประตู
“หว่านหว่าน” เฉียวเหลียนเฉิงเดินเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เจียงหว่านหยุดฝีเท้าก่อนจะมองเขา
เฉียวเหลียนเฉิงเห็นอย่างนั้นก็หยุด พลางรู้สึกผิดขึ้นมา “เป็นเพราะผมเองที่ทำให้คุณต้องลำบากขนาดนี้ ผมขอโทษนะ”
หากคิดไตร่ตรองให้ดี ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะหลี่ซิ่วหลันที่ชอบเฉียวเหลียนเฉิงมากเกินไป เจียงหว่านจึงถูกใส่ร้ายอย่างนี้
“ในเมื่อนายคิดว่านายทำผิดต่อฉัน แล้วทำไมถึงไม่ยอมหย่าให้ฉันล่ะ”
“ความจริงแล้ว ตอนฉันติดคุก นายสามารถใช้โอกาสนี้หย่ากับฉันได้อยู่แล้ว”
ใบหน้าของเฉียวเหลียนเฉิงแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย น้ำเสียงของเขากลายเป็นเย็นชา ทั้งยังกัดฟันแน่น
“ผมไม่หย่า ต่อให้คุณจะต้องติดคุกจริง ๆ แต่คุณก็จะเป็นภรรยาของเฉียวเหลียนเฉิงคนนี้ ผมจะรอคุณอยู่เสมอ”
เจียงหว่านเม้มปากแน่น เดินผ่านเขาไปโดยไม่พูดอะไรอีก
เฉียวเหลียนเฉิงอึดอัดมากเมื่อเห็นท่าทีของเธอ ร่างกายของเขาแข็งทื่อ ไม่สามารถขยับตัวได้ และไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับเธอยังไง
ทว่าเจียงหว่านเดินไปสองสามก้าว จากนั้นเธอหยุดฝีเท้า หันกลับมาหาเฉียวเหลียนเฉิงแล้วเอ่ยปากว่า
“สำหรับคราวนี้ ขอบคุณนะ”
หลังจากนั้นเธอก็เดินออกไปทันที
ร่างกายของเฉียวเหลียนเฉิงสั่นสะท้าน ดวงตาของเขาเป็นประกายสดใสขึ้นมา
ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก ซึ่งมันดูเข้ากันดีกับใบหน้าหล่อเหลานั้น
และเขายังอดไม่ได้ที่จะคิดกับตัวเอง ‘ผู้หญิง… มักจะปากไม่ตรงกับใจ’
เขาแย้มยิ้ม และรีบเดินตามเธอไป
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็เกือบจะพลบค่ำแล้ว
แสงสีส้มบนฟ้าสาดส่องลงมาที่ลานด้านหน้า เผยให้เห็นชั้นหมอกหนายามเย็น
ผิงอันกำลังนั่งรออยู่ที่ทางเข้าบ้าน เมื่อเห็นเจียงหว่านกลับมา เขาก็รีบทักทาย
“คุณกลับมาแล้ว!”
เจียงหว่านชะงักไป เมื่อเห็นสีหน้าละอายใจของผิงอัน เธอก็ก้าวไปคว้ามือเล็ก ๆ นั้น และพูดกับเขา
“ฉันได้ยินมาว่าที่ฉันสามารถออกมาได้ในคราวนี้เพราะมีคนจัดการกับเจียงเสวี่ยที่ทำผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องความถูกต้อง”
ผิงอันหน้าแดงก่ำ ก้มศีรษะลง “ผม… ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคุณ ผมแค่ขอให้คุณกลับมาส่งเพราะผมไม่รู้ทาง”
เจียงหว่านยิ้ม เธอกอดคอของเด็กชาย
“ฉันรู้แล้ว ฉันไม่ได้โทษเธอหรอก ฉันรู้ว่าเธอไม่เกี่ยวข้อง”
“เด็กน้อย งั้นพรุ่งนี้เราไปขายเนื้อด้วยกันเถอะ”
ผิงอันตะโกนลั่นอย่างเขินอาย “อา ใครจะไปขายเนื้อกับคุณ? ผม ผมไม่อยากไป!”
เจียงหว่านเลิกคิ้วสงสัย “ไม่อยากไปเหรอ? เธอไม่อยากไปโรงเรียนอนุบาลเหรอ? ถ้าเธอไม่ไปเรียนแสดงว่าเธอไม่ใช่เด็กดีน่ะสิ!”
ผิงอันลังเลสักพัก และเอ่ยปากขึ้นว่า “ก็ได้ ๆ ผมจะไปช่วยคิดเงิน แต่นั่นเพราะคุณโง่มากต่างหาก ไม่รู้ว่าจะคิดเงินผิดกี่ครั้ง ขายเท่าไหร่ก็คงไม่ได้กำไรสักที”
พูดจบ เขาก็ลากเจียงหว่านเข้าบ้านไป
ทั้งสามคนเดินเข้าประตู พอดีกับที่แสงตะวันลับขอบฟ้า สาดส่องมาที่ร่างของทั้งสามคน จนเกิดเป็นภาพน่าประทับใจ
ราวกับว่าพวกเขาได้กลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้ง!
เจียงหว่านเดินตรงไปที่ประตูก่อนจะเงยหน้าขึ้นโดยบังเอิญ เธอเห็นราวบันไดที่หักไปของชั้นบน และเห็นเจียงเสวี่ยนั่งอยู่บนรถเข็นหน้าราวบันไดนั้น
เธอหยุดฝีเท้าก่อนจะเงยหน้าขึ้น!
ที่ชั้นบน เจียงเสวี่ยเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง ราวกับว่าตนอยู่เหนือกว่า และดวงตาคู่นั้นก็เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
ดวงตาทั้งสองคนจ้องกันอยู่นาน ฝ่ายหนึ่งเย่อหยิ่ง อีกฝ่ายหนึ่งยั่วยุ!
แต่ทันใดนั้นเอง เฉียวเหลียนเฉิงเดินเข้ามาจับมือของเจียงหว่านไว้
“ไปกันเถอะ คุณคงเหนื่อยมากแล้ว ผมจะไปเอาน้ำมาให้ คุณไปอาบน้ำเถอะนะ จะได้พักผ่อนกัน”
และก่อนที่เจียงหว่านจะตอบสนองอะไร ผิงอันก็เข้ามาจับมือของเธอด้วย
“น้าอ้วน ไปกันเถอะ ผมมีของขวัญเตรียมไว้ให้ด้วยนะ ต้อนรับที่คุณกลับมาอย่างปลอดภัยไง”
เพราะแบบนี้เจียงหว่านถึงรู้สึกตัวขึ้นมา เธอหันมองเฉียวเหลียนเฉิงกับผิงอัน จากนั้นก็ยิ้ม
และเมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ
หลังจากทั้งหมดเข้าไปแล้ว เจียงเสวี่ยโกรธจัดจนกัดฟันแน่น บีบที่วางแขนราวกับกำลังบดขยี้คนเหล่านั้น
“หึ เกิดอะไรขึ้น? ดูโกรธมากเลยนะ?” เสียงขบขันดังขึ้น
เจียงเสวี่ยหันกลับมา และเห็นถังซิ่วอวิ๋นยืนอยู่ไม่ไกลนัก
“ไม่ต้องมายุ่ง!” เจียงเสวี่ยหันศีรษะกลับด้วยความดื้อรั้น ดูเหมือนไม่อยากจะคุยกับอีกฝ่าย
ถังซิ่วอวิ๋นหัวเราะเบา ๆ “ฉันก็ไม่ได้อยากจะยุ่งกับเธอหรอก แต่เพราะเธอเป็นลูกเลี้ยงของฉัน แล้วนี่ไม่เพียงแต่เธอจะไม่ได้อะไรเลย แต่กลับมีรอยฟกช้ำเต็มตัว ฉันก็แค่ขำที่เธอโง่เหมือนหมูเท่านั้นเอง”
เจียงเสวี่ยที่ได้ยินยิ่งโกรธจัด “คุณหมายความว่ายังไง!”
ถังซิ่วอวิ๋นเลิกคิ้ว “หืม แล้วฉันพูดอะไรผิด!”
“เธอชอบผู้ชายที่ชื่อเฉียวเหลียนเฉิงนั่นไม่ใช่เหรอ?”
“น่าเสียดาย เธออยู่ที่นี่มานานกว่าสองปีแท้ ๆ แต่กลับไม่สามารถครอบครองเขาได้ ถ้าไม่โง่ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วล่ะ”
“แล้วคุณดีกว่าฉันตรงไหน? คุณก็ใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อได้แต่งงานกับพ่อของฉันเหมือนกัน!”
“วิธีการของคุณมันวิเศษวิโสมาจากไหนล่ะ!”
ถังซิ่วอวิ๋นไม่ได้ขุ่นเคือง เธอก้าวไปด้านหน้า ก่อนจะผลักรถเข็นของเจียงเสวี่ยไปรอบ ๆ
“ใช่ ฉันไม่ปฏิเสธว่าฉันก็ใช้วิธีนั้น แต่สิ่งที่ฉันทำมันเป็นวิธีที่ฉลาดกว่ามาก หากฉันใช้มันกับใคร คงไม่มีใครไม่พอใจหรอก”
“ไม่ต้องกล่าวถึงเธอ ต่อให้พ่อของเธอจะรู้ว่าฉันขุดหลุมจับเขา แต่เขาก็ยังยินดีที่จะกระโดดลงไป!”
“เพราะฉะนั้นฉันไม่เหมือนกับเธอ ที่งุ่มง่าม แม้จะใช้กลอุบายแต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ แถมยังต้องกลายเป็นคนเลวทรามเพราะความโง่เขลาของตัวเองอีก!”