เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 91 เก็บความลับเอาไว้ไม่อยู่
บทที่ 91 เก็บความลับเอาไว้ไม่อยู่
สวี่ชิงยิ้ม “ได้ค่ะ ผู้ชายหรือว่าผู้หญิงคะ”
โจวจินหนานไม่เข้าใจว่าทำไมสวี่ชิงถึงถามแบบนี้ “ผู้ชายคนหนึ่งผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้ชายชื่อว่าเหอเหลียงผิง ผู้หญิงชื่อว่าซูโม่”
สวี่ชิงแปลกใจ “ซูโม่สวยไหมคะ”
โจวจินหนานส่ายหน้า “ไม่รู้”
เขารู้จักซูโม่ก็เพราะเหอเหลียงผิง เพราะว่าสองคนนั้นโตมาด้วยกันที่เขตค่ายทหาร
ส่วนหล่อนหน้าตาอย่างไรนั้น เขาก็ไม่ได้สังเกต
สวี่ชิงพูดเจือหัวเราะ “ต่อไปถ้ามีคนถามคุณว่าภรรยาสวยไหม คุณต้องตอบว่าสวย! ห้ามตอบว่าไม่รู้นะคะ ได้ยินหรือเปล่า”
โจวจินหนานฟังแล้วพยักหน้า “ได้”
สวี่ชิงเข้าไปจูบโจวจินหนาน “แบบนี้สิถึงจะถูก”
เธออารมณ์ดีเพราะว่าร้านที่จะเปิดนั้นต้องใช้เงินตกแต่งอีกมาก แต่ตอนนี้เธอไม่ต้องกังวลอีกแล้ว ไว้รอให้ฟางหลานซินเอาของมาให้เมื่อใด เธอก็ไปซื้อมาได้หมดแล้ว
โจวจินหนานลูบแก้มป้อย ๆ พลางยิ้มออกมา
ตกดึกหลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ สวี่ชิงก็เปลี่ยนชุดเป็นกระโปรงผ้าฝ้ายสบาย ๆ ห้อยขานั่งตรงเตียง หยิบเข็มทองออกมาแล้วฝังเข็มลงไปที่จุดฝังเข็มตามแขน
ที่จริงก็ไม่ได้เจ็บมากมายอะไร แต่ก็อดร้องอุทานขึ้นมาเสียงหนึ่งไม่ได้
โจวจินหนานเพิ่งจะเอนตัวนอน ก็รีบลุกขึ้นมา “เป็นอะไร”
สวี่ชิงรีบทำตัวให้เป็นปกติ “ไม่มีอะไรค่ะ ๆ คุณย่าสอนฉันฝังเข็ม ตอนนี้ฉันกำลังเรียนอยู่”
โจวจินหนานไม่พูดไม่จา ส่งแขนมาไว้ตรงหน้าสวี่ชิง “ใช้แขนผมฝึกเถอะ ผิวหนังผมหนาไม่เป็นไรหรอก”
แค่คิดถึงแขนขาเรียวบางนุ่มนิ่มเหมือนเต้าหู้ของภรรยาเขาก็ไม่กล้าใช้แรงแล้ว เพราะกลัวว่าถ้าใช้แรงสักนิดจะทำให้แตกสลายได้
ดังนั้นเขาจะทนให้สวี่ชิงเอาตัวเองมาทดลองได้อย่างไร
จริง ๆ แล้วสวี่ชิงก็ไม่กล้าใช้ตัวเองทดลองเช่นกัน เมื่อมองแขนที่ยื่นมาตรงหน้าอย่างเที่ยงตรงก็ไม่ลังเลสักวินาทีเดียว “จริงหรือคะ เจ็บนิดหนึ่งนะคะ”
โจวจินหนานแสดงออกอย่างเด็ดเดี่ยว “ไม่เป็นไร เจ็บนิดเดียวผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก”
สวี่ชิงเองก็ไม่เกรงใจแล้วเช่นกัน เธอจับมือของโจวจินหนาน ฆ่าเชื้อที่เข็มก่อนจากนั้นค่อย ๆ ฝั่งเข็มลงไป
ตอนปักเข็มนั้นต้องทำอย่างรวดเร็ว จากนั้นค่อย ๆ หมุนเพื่อกระตุ้นตำแหน่งที่ฝั่งลงไป
พอได้ฝังเข็มคนอื่น สวี่ชิงก็ไม่มีความวิตกกังวลใจเหลืออีก ท่าทางจึงดูชำนาญอย่างมากจนอดภูมิใจเล็ก ๆ ไม่ได้ “คุณย่าบอกว่าฉันเรียนรู้ไว ต่อไปไม่แน่ว่าฉันอาจสามารถเปิดคลินิกรักษาคนได้จริง ๆ แล้วมั้งคะเนี่ย”
โจวจินหนานให้กำลังใจ “อืม คุณฉลาดขนาดนี้ต้องทำได้แน่”
สวี่ชิงหัวเราะ แล้วเข้ามาใกล้หน้าโจวจินหนาน “คุณนี่รู้จักพูดจริง ๆ ”
พูดจบก็จูบซับที่มุมปากของเขา “นี่เป็นรางวัลของคุณสำหรับการให้กำลังใจฉัน”
โจวจินหนานยกยิ้ม ยื่นมืออีกข้างไปลูบศีรษะของสวี่ชิง ทั้งยังเต็มไปด้วยความรักและอ่อนโยน
ยิ่งได้อยู่กับสวี่ชิงนานเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอเป็นคนสดใสและคิดบวกมากคนหนึ่ง ในบางครั้งก็รู้สึกสุขุม บางครั้งก็รู้สึกซุกซน
กับคนที่เธอไม่ชอบ เธอก็สามารถเผาผลาญคนคนนั้นด้วยไฟโทสะได้อย่างเด็ดขาด
ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะอยากเข้าใกล้เธอมากกว่านี้ เอาใจเธอและทำให้เธอมีความสุขแบบนี้ตลอดไป
สวี่ชิงเพิ่งปักเข็มลงไปก็มีคนมาเคาะประตู
และยังเคาะรัวอย่างร้อนรนอีกด้วย
สวี่ชิงมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนัง ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว
“หรือว่าจะเป็นพี่ใหญ่เกา คุณนั่งก่อน ฉันจะลองเดินดู”
สวี่ชิงพูดแล้วก็สวมเสื้อผ้าอย่างเร่งรีบ ก่อนสวมรองเท้าแล้ววิ่งออกไป
แล้วก็เป็นเกาจ้านจริง ๆ พอเกาจ้านเห็นสวี่ชิงก็รีบพูด “รีบไปกันเถอะ ฟางหลานซินออกจากบ้านไปทางทิศตะวันตกแล้ว”
สวี่ชิงรู้ว่านั่นคือบ้านเก่าของเธอ เธออยู่ที่นั่นมาตลอดตั้งแต่เด็ก หลังจากห้าขวบถึงค่อยย้ายมาอยู่ในเขตพื้นที่โรงงาน จึงรีบประคองโจวจินหนานออกมา
พอขึ้นมานั่งรถของเกาจ้าน รถก็พุ่งไปทางทิศตะวันตกทันที
ระหว่างทางเกาจ้านอธิบายง่าย ๆ ว่า “เพื่อความสะดวก ฉันให้ทหารสอดแนมสองคนจับตาเอาไว้ แล้วบอกว่าถ้าหล่อนเข้าบ้านไปก็รีบมาแจ้งฉันทันที ตอนนี้คาดว่าน่าจะอยู่ในบ้านนั้นแหละ”
สวี่ชิงเดาว่าฟางหลานซินคงไปเอาสิ่งของออกมาจากที่บ้านนั้น คิดจะทำตอนฟ้ามืด กลับมาจะได้ไม่มีใครรู้สินะ
เกาจ้านขับรถเร็วมาก ส่วนสวี่ชิงคอยบอกทาง พอใกล้จะถึงที่หมายก็ปิดไฟหน้ารถค่อย ๆ ขับช้าลง
สวี่ชิงลากโจวจินหนานมาที่หน้าบ้านร้าง แล้วก็เห็นว่าภายในสวนนั้นมีเงาตะคุ่ม ๆ กำลังใช้จอบขุดดินอยู่ตรงนั้น
ทั้งหมดผลักประตูที่ผุพังเข้าไป การเคลื่อนไหวของพวกเขาดังมาก
ในปีนั้นฟางหลานซินเอากระเป๋ามาฝังไว้ใต้ต้นไม้ จนหลายปีผ่านไป แม้ต้นชิ่งจะตายไปสองปีก่อนแล้ว แต่ก็ยังมีรากไม้ที่เติบโตอยู่ใต้ดิน
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะขุดขึ้นมา หล่อนเสียเวลาทั้งวันก็ยังขุดกระเป๋าขึ้นมาไม่ได้
บัดนี้พอได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว ก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อทิ้งจอบในมือ หยิบไฟฉายส่องไป กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นสวี่ชิง!
สวี่ชิงอีกแล้ว!
ฟางหลานซินโกรธจนตัวสั่น “พวกแกมาทำอะไร!”
สวี่ชิงยิ้มตาหยีให้ “ดึกขนาดนี้คุณมาทำอะไรหรือคะ ขุดหาสมบัติอะไร ให้พวกเราช่วยไหม”
ฟางหลานซินมองเธอเหมือนเห็นผี “ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งนั้น ฉันก็แค่มาดูเฉย ๆ”
ตอนกลางวันที่หล่อนออกจากบ้านสองสามครั้งก็คิดว่าไม่น่ามีคนจับตามอง ตอนกลางคืนก็ออกไปด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีใครตามไม่ใช่เหรอ
แล้วสวี่ชิงมาที่นี่ได้อย่างไร!
หล่อนจะรู้ได้อย่างไรว่าทหารที่จับตาหล่อนอยู่สองคนนั้นเป็นทหารสอดแนมฝีมือดีที่สุด จะให้หล่อนจับได้ง่าย ๆ ได้อย่างไรกัน
สวี่ชิงหัวเราะขบขัน “ฉันก็ว่าแล้วว่าทำไมตอนแรกหัวเด็ดตีนขาดยังไงคุณก็ไม่ยอมขาย แล้วยังไม่ยอมปล่อยเช่า ยังบอกอีกว่าจะทิ้งที่นี่ไว้เป็นความทรงจำของครอบครัว อะไรคือการรอจนแก่เฒ่าแล้วจะกลับมาอยู่ที่นี่กัน หึ ๆ คิดไม่ถึงจะว่าคุณก็แค่กลัวว่าจะมีคนมาขุดเจอสมบัติก็เท่านั้น”
ฟางหลานซินสะกดอาการตกใจเอาไว้ หล่อนกลัวจริง ๆ ว่าสวี่ชิงจะมาเอาของล้ำค่าไป แล้วหล่อนก็จะไม่ได้อะไรเลยสักอย่างเดียว
หล่อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งนั้น พวกแกไสหัวไป! สวี่ชิง แกอย่าให้มันมากเกินไป ในเมื่อแกทำเหมือนไม่รู้จักพวกเราแล้ว ก็ไม่ต้องสนใจพวกเราอีก”
สวี่ชิงมองฟางหลานซิน “ฉันไม่สนใจพวกคุณหรอกค่ะ ฉันก็แค่จะมาเอาของที่สมควรเป็นของฉันคืนมา! ฉันเคยบอกแล้วไงว่าให้คุณหยุดคิดว่าจะได้เงินจากฉันแม้แต่แดงเดียว ยิ่งไม่ต้องฝันเลยว่าคุณจะมาอมสมบัติที่แม่ของฉันทิ้งเอาไว้”
เกาจ้านที่ยืนข้าง ๆ รอไม่ไหว “น้องสะใภ้ ให้พวกเราช่วยขุดเลยไหม”
สวี่ชิงขอบคุณ “ได้ค่ะ รบกวนคุณแล้วจริง ๆ”
เกาจ้านโบกมือชายหนุ่มสองคนก็กระโดดลงมาจากหลังคาโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง ไม่อาจรู้เลยว่าพวกเขาขึ้นไปอยู่บนนั้นตั้งแต่เมื่อไร
ฟางหลานซินยืนนิ่งไม่ยอมถอยไปไหน “สวี่ชิง นี่แกทำเกินไปแล้วนะ!”
ใบหน้าสวี่ชิงพลันเย็นชาลง “ถอยไป!”
ฟางหลานซินนั่งตรงที่ที่หล่อนเพิ่งขุดเมื่อครู่ พูดอย่างไร้ยางอายว่า “ดูสิใครมันกล้าแตะต้อง ข้ามศพฉันไปก่อนเถอะ พวกแกอยากลองดูไหมล่ะ!”
สวี่ชิงหยิบจอบที่ฟางหลานซินขว้างทิ้งเมื่อครู่ขึ้นมา “ดี คุณไม่ยอมหลบใช่ไหม งั้นฉันขอขุดหลุมฝังศพคุณก่อนเลยแล้วกัน!”
พูดแล้วก็ขุดดินสาดใส่ร่างของฟางหลานซิน
ทั้งศีรษะทั้งหน้าของฟางหลานซินเต็มไปด้วยดิน หล่อนถึงกับกรีดร้องแล้วพุ่งเข้าหาสวี่ชิงทันที
ชายหนุ่มสองคนเคลื่อนไหวเร็วกว่า จับตัวฟางหลานซินเอาไว้ได้ทัน แล้วโยนร่างของฟางหลานซินมัดเชือกติดกับต้นไม้
เกาจ้านนำสองคนนั้นให้เร่งขุดดิน สวี่ชิงยืนส่องไฟฉายอยู่ข้าง ๆ พวกเขา
ตอนที่ขุดไปได้ลึกประมาณหนึ่งเมตรกว่า ก็มองเห็นมุมหนึ่งของกระเป๋าแล้ว
ฟางหลานซินมองด้วยสายตาหวาดกลัว กล่องถูกสวี่ชิงพบแล้ว การตายอย่างน่าเวทนาของเย่หนานก็คงปิดเอาไว้ไม่อยู่แล้ว!
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
คิดว่าจะไม่มีใครรู้เหรอนังแม่เลี้ยง ชิงชิงเกิดมาชาตินึงแล้ว ไม่ยอมเสียเหลี่ยมหล่อนหรอก
ไหหม่า(海馬)