เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 86 เตรียมคลอดเด็กน้อยตัวอ้วนได้เลย
บทที่ 86 เตรียมคลอดเด็กน้อยตัวอ้วนได้เลย
สวี่ชิงหันขวับไปมองสวี่จื้ออิง เธอคิดไม่ถึงเลยว่าสวี่จื้ออิงหล่อนจะมีความสัมพันธ์กับเย่หนานแม่ผู้ให้กำเนิด
สวี่จื้ออิงคิดว่าสวี่ชิงไม่เชื่อ จึงเบ้ปาก “มองฉันแบบนั้นทำไม หรือคิดว่าฉันโกหก ตอนนั้นฉันยังไม่ได้แต่งงาน ตอนแม่เธอคลอดลูกไม่มีคนดูแลช่วงหล่อนอยู่ไฟเลย ยังให้ฉันไปช่วยทำกับข้าวด้วย แม่ของเธอมีกล่องหนังสีดำอยู่กล่องหนึ่ง ในนั้นมีของล้ำค่ามากมาย แม่ของเธอบอกว่าจะเก็บไว้ให้เธอ ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะ”
สวี่ชิงไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับกล่องหนังสีดำอยู่เลย ถ้ามีกล่องหนังสีดำนั่นอยู่จริง จะต้องถูกฟางหลานซินกับสวี่จือกั๋วซ่อนเอาไว้เป็นแน่
สวี่จื้ออิงเบ้ปากอย่างอิจฉาพลางถอนหายใจ “ฉันก็เคยเห็นมันครั้งเดียวเหมือนกัน ต่อมาก็ไม่เคยเห็นกล่องใบนั้นอีกเลย”
ตอนนั้นพิฆาตสี่เก่า(1)รุนแรงมาก พวกนั้นถือหางทุนนิยมทั้งนั้น อีกทั้งยังมีภัยธรรมชาติผู้คนต้องรัดเข็มขัดทั้งประเทศเพื่อจ่ายหนี้ ในบ้านใครมีเหล็กก็ต้องถูกส่งให้ทางการ
ขนาดมีดหั่นผักประตูเหล็กก็ยังต้องจำใจส่งไปทั้งหมด
ต่อมาสวี่จื้ออิงก็ไม่ได้เห็นกล่องใบนั้นแล้ว จึงคิดว่ามันน่าจะถูกยึดไปแล้วหรือไม่ เย่หนานก็คงเอาไปซ่อน
เย่หนานผู้หญิงคนนั้นเห็นไม่ค่อยพูดกลับฉลาดเฉลียวอย่างมาก
ทำให้หล่อนอยากจะขโมยก็ขโมยไม่ได้
แม้สวี่ชิงจะแปลกใจ แต่ก็ไม่ถามว่ากระเป๋าหนังสีดำใบนั้นมีอะไรอยู่ภายในบ้าง เธอยังไม่ค่อยเชื่อใจสวี่จื้อิง เพราะหล่อนเป็นคนเห็นแก่ตัว จะทำเรื่องช่วยเหลือคนแบบนั้นด้วยหรือ เพียงพูดว่าตอนนั้นไม่มีโอกาส ต่อมาจึงหาไม่เจอแล้วเท่านั้น
สวี่จื้ออิงเบะปากมองสวี่ชิง “เธอก็เห็นแก่ที่ฉันเคยช่วยแม่ไว้แล้วให้ฉันทำธุรกิจด้วยสิ ฉันทำงานคล่องแคล่วมากนะ ไม่เป็นตัวถ่วงแน่นอน”
สวี่ชิงยิ้มทว่าน้ำเสียงหนักแน่นยิ่ง “ไม่ค่ะ!”
เธอปฏิเสธอย่างเด็ดขาดไม่ไว้หน้าหล่อนเลยสักนิดเดียว
เพราะประสบการณ์ในชาติก่อนสอนเธอว่า เมื่อไรที่ควรปฏิเสธก็ควรปฏิเสธ ไม่อย่างนั้นสุดท้ายแล้วคนที่เจ็บปวดจะมีแค่ตนเอง
เฟิงซูฮวาจ้องสวี่จื้ออิง “พอแล้ว เก็บความคิดของเธอไปเสีย พรุ่งนี้ไม่ว่าเธอจะหายแล้วหรือไม่ก็กลับบ้านนอกไปให้หมด ถ้ามีความสามารถก็ค่อยทำมาหากินในเมือง ถ้าไม่มีก็อยู่เฝ้าไร่นาพวกนั้นให้ดี ไม่ว่าต่อไปชิงชิงจะทำอะไร มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกหล่อน”
สวี่จื้ออิงหน้ามุ่ย “แม่คะ ต่อให้ฉันจะไม่ใช้ลูกแท้ ๆ แต่พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ”
เฟิงซูฮวาโบกมือปัด “ไม่ต้องบอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ฉันเลี้ยงพวกแกมาจนโต แต่งงานมีครอบครัวของตัวเองแล้ว หน้าที่ของฉันถือว่าเสร็จสมบูรณ์ ไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”
สวี่จื้ออิงไม่ยอม “เดี๋ยวรอให้แม่แก่จนขยับไม่ได้แล้ว แม่ก็ยังต้องให้พวกเราดูแลแม่อยู่ดี”
เฟิฃซูฮวาถอนหายใจส่ายหน้า “พวกแกนี่นะ ทำฉันวางใจไม่ได้เลย เอาล่ะพูดเรื่องนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ พรุ่งนี้ถ้าพวกแกยังไม่ไปฉันจะให้พ่อของเอ้อร์ซีมารับพวกแกกลับบ้าน”
สวี่จื้ออิงไม่พูดอะไรแล้ว สามีของหล่อนคนนั้นมองเฟิงซูฮวาเป็นหญิงชราหม้าย เท้าเล็กที่เป็นภาระ เดินเหินก็ไม่สะดวก กลัวว่าต้องมาเลี้ยงนางตอนแก่ ดังนั้นจึงไม่ยอมให้หล่อนมาใกล้ชิดบ้านแม่มากนัก
เนื่องจากหญิงชราไม่มีเงินไม่มีพลัง ก็มีแค่บ้านหลังนี้ ซึ่งก็คงยกให้ลูกชายสวี่จื้อกั๋วเช่นกัน
ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้หล่อนมาที่นี่ เพราะหลังจากนี้จะได้ไม่ต้องดูแลคนแก่ในภายหลัง
สวี่ชิงคุยธุระกับผางเจิ้งหัวหมดแล้ว จึงเหลือแค่ต้องไปสถานีรถไฟเพื่อคุยกับผู้อำนวยการพั่ง
เฟิงซูฮวาได้ยินว่าสวี่ชิงกำลังจะไปแล้วก็ลุกขึ้น “ชิงชิง เธอมาที่ห้องบ่าสักเดี๋ยวสิ เอ้อร์ซี เธออยู่เป็นเพื่อนพี่ใหญ่โจวไปก่อนนะ”
สวี่ชิงเดาว่าคุณย่ามีเรื่องจะพูดกับเธอ และยังบอกผางเจิ้งหัวให้อยู่เป็นเพื่อนโจวจินหนาน ที่จริงแล้วก็เพื่อให้คอยดูสวี่จื้ออิงไม่ให้มาแอบฟัง
คุณย่ายังฉลาดไม่เปลี่ยน
เมื่อเข้ามาในบ้าน เฟิงซูฮวาก็ปิดประตูแล้วปีนขึ้นเตียงเตาหยิบกุญแจดอกหนึ่งออกมา
สวี่ชิงถึงเพิ่งสังเกตเห็นกล่องไม้หอมที่ถูกปิดล็อคเอาไว้ ก่อนหน้านี้ยังไม่เห็นมี เดาว่าเพื่อป้องกันสวี่จื้ออิงมาเห็น
เฟิงซูฮวาพลิกของใต้กล่องไม้หอมเนิ่นนาน ก่อนหยิบห่อผ้าสีดำห่อหนึ่งออกมา ลงกลอนที่กล่อง แล้วส่งห่อผ้าให้สวี่ชิง “สิ่งของพวกนี้หลานเก็บเอาไว้ให้ดี ต่อไปมันจะมีประโยชน์กับตัวหลานเอง ข้างในมียาลูกกลอนกินวันละหนึ่งเม็ด แล้วก็ต่อไปหลานอาจจะยุ่งขึ้น อย่าลืมฝึกฝังเข็มทุกวันด้วย”
สวี่ชิงรู้สึกผิดเล็กน้อย ตั้งแต่แต่งงานจนถึงตอนนี้ เธอยังไม่เคยหยิบเข็มทองเหล่านั้นที่คุณย่าให้มาออกมาเลย
เฟิงซูฮวาตบมือเธอ “เรื่องนี้ไม่ต้องรีบร้อน เธอมองเยอะ ๆ ไตร่ตรองเยอะ ๆ เข้าไว้จะมีสักวันที่พรสวรรค์จะเปล่งประกายออกมา หากไม่มีพรสวรรค์ สอนให้ทั้งชีวิตก็ไม่มีประโยชน์”
สวี่ชิงเก็บห่อผ้าสีดำใส่กระเป๋าสะพายที่ติดตัวมาด้วย “คุณย่า กลับไปฉันจะตั้งใจเรียนนะคะ”
เฟิงซูฮวายิ้มลูบมือสวี่ชิงไปมา นิ้วตรวจจุดชีพจรที่เธอไม่เคยตรวจมาก่อนด้วยสายตาพึงพอใจ นางรู้ว่าร่างกายของเด็กคนนี้มีพื้นฐานดี
ในใจก็ประหลาดใจไม่น้อยเช่นกัน ร่างกายของสวี่ชิงเหมาะที่จะเป็นภาชนะกำเนิดกู่เป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามีแค่คนที่เหมี่ยวเจียงเท่านั้นที่มีคุณสมบัตินี้ อีกอย่างคือการได้อาบยาต้มตั้งแต่เด็ก หรืออีกอย่างก็คือการได้รับถ่ายทอดมาจากมารดา
ดูแล้วสวี่ชิงน่าจะได้คุณสมบัตินี้มาจากมารดาของเธอ ถ้าอย่างนั้นเย่หนานยังมีสถานะอะไรอื่นอีกกันนะ ทั้งยังเป็นไปได้ว่าจะไม่ธรรมดาด้วย?
สวี่ชิงเห็นเฟิงซูฮวานิ่งคิดไม่พูดไม่จา ก็เริ่มรู้สึกกังวล “คุณย่า เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของฉันเหรอคะ”
ตอนนี้สิ่งที่เธอเป็นห่วงคือการไม่สามารถนำลูกที่เสียไปกลับคืนมาได้ ขออย่าให้เป็นเพราะผลกระทบจากการได้ชีวิตใหม่จนไม่สามารถพาเขากลับมาได้เลย
เฟิงซูฮวายิ้ม “ไม่มีปัญหาอะไร ไม่เพียงแต่ไม่มีปัญหา ยังดีมาก ๆ อีกด้วย กลับไปเตรียมตัวคลอดเด็กตัวขาว ๆ อ้วน ๆ ได้เลย”
สวี่ชิงเขินอายไม่น้อย หรือเป็นเพราะเธออยากมีลูกมากจนแสดงออกมากเกินไป? เธอกอดแขนเฟิงซูฮวาแล้วออดอ้อน “คุณย่าคะ คุณย่าอำฉันอีกแล้วนะคะ”
เฟิงซูฮวาหัวเราะยกใหญ่
ในใจสวี่จื้ออิงราวกับถูกสะกิด หล่อนอยากรู้นักว่าเฟิงซูฮวาพาสวี่ชิงไปทำอะไรในบ้านนั้น ไม่แน่นางอาจจะให้ของล้ำค่าอะไรสวี่ชิงก็เป็นได้
ถ้าอย่างนั้นกล่องที่ล็อคเอาไว้สองใบนั้นอาจจะมีของล้ำค่าอะไรก็เป็นได้
แต่โจวจินหนานกับผางเจิ้งหัวยังอยู่นี้ หล่อนเองก็ไม่กล้าไปแอบฟังเช่นกัน
รอจนสวี่ชิงกับเฟิงซูฮวาออกมา สายตาของหล่อนก็กวาดมองบนร่างของทั้งสองอย่างละเอียด และหยุดที่กระเป๋าของสวี่ชิง สงสัยนักว่าในนั้นเป็นของสิ่งใด
แต่รู้สึกว่าจะไม่เหมือนกัน
สวี่ชิงให้เฟิงซูฮวารอข่าวดีของเธออยู่ที่บ้าน แล้วก็พาโจวจินหนานไปสถานีรถไฟต่อ
นี่เป็นครั้งแรกที่พาโจวจินหนานขี่รถมาด้วย และดูเหมือนเธอจะชินกับการขี่จักรยานแบบนี้แล้ว
บางคนที่ผ่านไปมาถึงกับประหลาดใจเมื่อมองเห็นหญิงสาวร่างผอมบางขี่จักรยานให้ผู้ชายตัวโตนั่ง ช่างหาได้ยากมากจริง ๆ แต่หลังจากมองหน้าของโจวจินหนานแล้วก็พลันกระจ่าง ที่แท้เป็นเพราะเขาตาบอดนี่เอง
สวี่ชิงไม่สนใจสายตาคนเหล่านั้น พูดสิ่งที่ค้างคาใจกับโจวจินหนาน “เมื่อกี้คุณได้ยินอาเล็กฉันพูดใช่ไหมคะ หล่อนบอกว่าแม่ของฉันทิ้งของล้ำค่าไว้ให้ฉันไว้ จนถึงตอนนี้ฉันเห็นแค่รูปภาพและกระดาษไม่กี่ใบเอง ของพวกนั้นจะต้องถูกพวกเขาเก็บซ่อนเอาไว้อย่างแน่นอน”
หมายความว่าในชีวิตก่อน จู่ ๆ สวี่จิ้อกั๋วก็คิดทำธุรกิจขึ้นมา เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะยืมของล้ำค่าที่เย่หนานทิ้งไว้มาเป็นเงินลงทุน
โจวจินหนานไม่แน่ใจนักจึงไม่ออกความคิดเห็น “ไว้ลองให้คนลองไปตรวจดู เบาะแสยังน้อยเกินไป น่าจะหาลำบาก”
สวี่ชิงขี่จักรยานพลางครุ่นคิดไปด้วยว่าจะทำอย่างไรให้สวี่จื้อกั๋วกับฟางหลานซินยอมคายของเหล่านั้นออกมา!
………………………………………………………………………………………………………………………….
พิฆาตสี่เก่า เป็นสโลแกนในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ปลุกให้เยาวชนลุกขึ้นมาพิฆาตสี่เก่าอันได้แก่ ประเพณีเก่า วัฒนธรรมเก่า นิสัยเก่า ความคิดเก่า
สารจากผู้แปล
แม่ของชิงชิงจะต้องเป็นคนเผ่าเดียวกับคุณย่าแน่เลย
นังแม่เลี้ยงยังจะอมของของชิง ๆ ไว้อีกเหรอ
ไหหม่า(海馬)