เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 83 ภรรยาสั่งสามีทำ
บทที่ 83 ภรรยาสั่งสามีทำ
สวี่หรูเยว่พลันมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที “แม่ของสวี่ชิงทิ้งของเอาไว้มากเลยเหรอคะ”
ฟางหลานซินพยักหน้า “หล่อนน่าจะคิดไม่ถึง ว่าของเหล่านี้ของหล่อนไม่ได้ตกถึงลูกสาวตัวเองเลยสักชิ้น และก็คงจะไม่รู้ไปทั้งชีวิต”
ในที่สุดใบหน้าของสวี่หรูเยว่ก็ยิ้มออก “แม่ มีอะไรบ้าง”
“มีจี้ทองรูปปลาเล็ก ๆ สองชิ้น ยังมีกำไลทองสร้อยทอง แล้วก็ไข่มุกอีกนิดหน่อย แม่ฝังเอาไว้ที่บ้านเก่าของเรา”
ในปีนั้นฟางหลานซินเคยเห็นกับตา หล่อนกลัวว่าจะมีคนเจอเข้าจึงฝังไว้ตลอด ต่อมาหลายปีสถานการณ์ก็ยังไม่ดี ของเหล่านี้จึงยังนำออกมาไม่ได้
สองปีมานี้เพิ่งจะดีขึ้นมาหน่อย หล่อนก็ยังไม่ได้ขุดขึ้นมา ด้วยกลัวว่าจะถูกคนเพ่งเล็ง
นัยน์ตาสวี่หรูเยว่เป็นประกาย “คิดไม่ถึงว่าหล่อนจะทิ้งของไว้ให้สวี่ชิงมากมายขนาดนี้!”
ฟางหลานซินพยักหน้า “หึ แล้วจะมีประโยชน์อะไร ดันรีบตายก่อนเองนี่นะ”
แม้กระทั่งสวี่ชิงนังแพศยาคนนั้น หล่อนก็ยังอยากให้รีบ ๆ ตายไปเลยเหมือนกัน!
…..
หลังพวกสวี่ชิงกินเกี๊ยวเสร็จ เกาจ้านจึงขับรถไปส่งทั้งสองกลับบ้าน
เมื่อคิดว่าไป๋หลางไม่อยู่ โจวจินหนานคงเข้าห้องน้ำลำบาก เขาจึงครุ่นคิดแล้วพูดว่า “เอาอย่างนี้ไหม พวกนายสองคนไปอยู่บ้านฉันสักครึ่งเดือนดีไหม พ่อแม่ฉันไม่อยู่บ้านด้วย”
ที่สำคัญบ้านเขายังมีห้องน้ำในตัวด้วย
ไม่เหมือนพวกสวี่ชิงที่ต้องไปเข้าห้องน้ำรวม
สวี่ชิงยิ้มปฏิเสธ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันช่วยเขาได้”
ตอนค่ำ ๆ พวกเขายังสามารถกอดกันตามสามีภรรยาได้ อยากทำอะไรก็ทำ ถ้าไปอยู่กับเกาจ้านแล้วจะไม่สะดวกเกินไป
เกาจ้านเห็นทั้งสองคนปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ก็ไม่พูดอะไรอีกเช่นกัน ก่อนถามสวี่ชิง “มีอะไรอยากซื้อไหม”
ครั้งนี้สวี่ชิงไม่เกรงใจอีก “ฉันอยากซื้อหม้อใบใหญ่สักใบน่ะค่ะ เส้นผ่าศูนย์กลางหนึ่งเมตร ใหญ่กว่านี้ก็ได้ค่ะ ฉันจะเอาไว้ใช้ตุ๋น”
เกาจ้านพยักหน้าโดยไม่ถาม “ได้ พรุ่งนี้ฉันจะลองหาดู ถ้าเห็นใบที่ขนาดพอดีจะเอามาให้พวกเธอนะ”
ทั้งหมดพูดคุยกันจนถึงบ้าน หน้าประตูหลังเล็กปรากฏคราบเลือดสีน้ำตาลแห้งกรังอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งรอยเลือดนั้นลากยาวไปถึงถนน
แต่ภายในบ้านกลับสะอาดสะอ้าน ไม่มีรอยเลือดใดๆ
แสดงว่าไป๋หลางถูกคนทำร้ายนอกบ้าน แต่อีกฝ่ายหลอกไป๋หลางให้ออกมาได้อย่างไร
โจวจินหนานเหมือนจะรู้ความคิดของเธอ จึงอธิบายให้ฟังว่า “อีกฝ่ายยั่วยุอยู่ด้านนอกไม่หยุด จนไป๋หลางต้องกระโดดข้ามกำแพงออกมา”
สวี่ชิงฟังแล้วก็โมโห “เลวเกินไปแล้ว ถ้าจับได้แล้วก็น่าตัดมือเสียให้เข็ด”
เกาจ้านอยู่ข้าง ๆ ส่งเสียงอย่างอารมณ์ดี “น้องสะใภ้ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะมีด้านรุนแรงแบบนี้”
สวี่ชิงเขินเล็กน้อย “ฉันเป็นพวกร้ายมาร้ายกลับค่ะ หลายครั้งการมีคุณธรรมเกินไปก็ไม่ไหว กลับกันจะทำให้ในท้ายที่สุดโดนคนอื่นรุมรังแก”
ตัวอย่างเช่นเธอเองในชาติที่แล้วที่สนใจหลายอย่างมากเกินไป จนทำให้ตัวเองสูญเสียไปมากมาย
เกาจ้านถอนหายใจ “พวกนายช่างสมกับเป็นคู่สามีภรรยา ความคิดเหมือนกันอย่างกับแกะ ตอนอยู่ในกองทัพโจวจินหนานเองก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกัน ร้ายมาร้ายกลับไม่คิดจะพูดกับอีกฝ่ายให้มากความ”
สวี่ชิงคิดว่าไม่มีตรงไหนแปลก “เดิมทีมันก็ควรเป็นแบบนี้อยู่แล้วนี่คะ อีกทั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขาก็ไม่มีความเมตตาเหมือนกัน หยิบอาวุธของพวกเรามาทำร้ายพวกเราเอง การฆ่าพวกเขาก็คือการทำแทนบัญชาของสวรรค์แล้ว”
เกาจ้านตบไหล่โจวจินหนานปุ ๆ “นายโชคดีจังนะ แต่งภรรยาได้ไม่กี่วัน แม้แต่การพูดการจาก็ใกล้จะเหมือนนายเต็มทีแล้ว”
สวี่ชิงยิ้มอย่างขัดเขินเล็กน้อย
หว่างคิ้วโจวจินหนานคลายออก เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ค่อนข้างดี
หลังจากรอเกาจ้านจากไป สวี่ชิงก็ประคองโจวจินหนานนั่งบนเก้าอี้พิงหลัง แล้วไปต้มชากลับมาพร้อมแก้วชาสองใบ “งั้นพวกเราไปเยี่ยมไป๋หลางเมื่อไรก็ได้หรือเปล่าคะ”
โจวจินหนานแปลกใจเล็กน้อย สวี่ชิงให้ความสำคัญกับไป๋หลางสูงขนาดนี้เชี่ยวเหรอ “ได้สิ แต่ว่าสองวันนี้ยังไม่ต้องไปหรอก มันขี้เหร่เกินไป”
สวี่ชิงได้ยินเกาจ้านก็เคยพูดแบบนี้ ตอนนี้โจวจินหนานก็พูดด้วยอีกคน ก็แปลกใจนิดหน่อย “ไป๋หลางมันจะขี้เหร่ถึงขนาดไหนกันคะ อีกอย่างเดิมทีมันก็ไม่ใช่หมาที่หน้าตาดีเหมือนกัน”
โจวจินหนานคิดสักพัก “เพราะฟื้นฟูบาดแผล และป้องกันการติดเชื้อ จึงโกนขนมันออกทั้งหมด”
สวี่ชิง “…”
เธอไม่กล้าคิดถึงสุนัขที่ไม่มีขนว่าจะมีสภาพเป็นอย่างไรเลย นั่นน่าจะขี้เหร่มาก ๆ เป็นแน่
ไป๋หลางไอคิวสูงขนาดนั้น น่ากลัวว่ามันจะเสียใจแย่แล้ว
สวี่ชิงกุมแก้วชาแล้วเริ่มพูดเรื่องของเธอ “ฉันคิดว่าพรุ่งนี้จะไปสถานี ก่อนจะแต่งงานฉันเคยคุยกับผู้ดูแลไว้แล้วครั้งหนึ่ง พรุ่งนี้จะไปแย่งชิงเซ็นสัญญากันแล้ว หลังจากนั้นก็ต้องเริ่มตั้งแผงลอยแล้วค่ะ”
โจวจินหนานไม่เข้าใจ “พรุ่งนี้ให้ผมไปเป็นเพื่อนสิ”
สวี่ชิงพยักหน้า “ได้สิคะ แต่ว่าก่อนจะไปฉันอยากไปหาผางเจิ้งหัวก่อน คนที่ทำกับข้าวตอนเราไปบ้านคุณย่าคนนั้นน่ะค่ะ”
โจวจินหนานแปลกใจเล็กน้อย “ไปหาเขาทำไม”
แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็น แต่การรับฟังของเขานั้นดีมาก รู้ได้ว่าผางเจิ้งหัวคนนั้นอายุไม่มากนัก น่าจะอายุพอ ๆ กับสวี่ชิง
สวี่ชิงวางแก้วชาลง คุกเข่าลงด้านหน้าโจวจินหนาน ยื่นมือไปจับมือเขาตรงที่พักแขน “ฝีมือการทำอาหารของเขาดีมาก ฉันอยากทำร้านอาหารจานด่วนด้วยกันกับเขา เป็นอาหารแบบเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า พอลูกค้ามาก็ตักอาหารขายได้เลยทันที ชุดหนึ่งขาย 8 เหมา อีกชุด6 เหมา แบบนี้จะประหยัดเวลาในการทำมากขึ้นและน่าจะทำเงินได้”
“ฝีมือทำอาหารของผางเจิ้งหัวดีเพียงนั้น ร้านจะต้องขายดีแน่นอน อีกทั้งลูกค้าที่สถานีรถไฟก็เยอะมาก สถานีรถไฟในมณฑลของเราก็ถือว่าใหญ่มากสถานีหนึ่ง ทั้งคนจากทางใต้และคนจากทางเหนือต่างก็มาเปลี่ยนรถกันที่นี่ทั้งนั้น ท้องหิวก็ต้องแวะกิน มีอาหารจานด่วนแบบนี้จะทำธุระอะไรก็สะดวกอย่างมาก”
โจวจินหนานไม่ค่อยเข้าใจว่าอะไรคือร้านอาหารจานด่วน แต่จากที่ได้ฟังสวี่ชิงพูด รู้สึกว่าจะเหมือนการตักข้าวแกงในโรงอาหาร
สวี่ชิงกุมมือของเขาปลายนิ้วลูบเบา ๆ บนหลังมือ อธิบายเสียงเบา “แต่ฉันอยากปรึกษากับคุณก่อน ถ้าคุณอนุญาตฉันถึงจะไปหาเขา เพราะต้องทำธุรกิจด้วยกัน อีกทั้งฉันยังเป็นผู้หญิง หลังจากนี้ต้องโดนคนเอาไปพูดแน่”
โจวจินหนานเงียบคิดสักพัก “ถ้าผมไม่อนุญาต ไม่ใช่ว่าคุณก็จะยังไปหาเขาหรือ”
สวี่ชิงยิ้ม โน้มใบหน้าแนบกับหน้าอกของเขา “ใช่ค่ะ คุณเป็นสามีของฉัน ฉันจะไม่ทำให้คุณไม่สบายใจอยู่แล้ว อีกทั้งฉันก็แค่ทำเพื่อหาเงิน จะมีเรื่องอะไรกับเขาได้”
“อีกอย่าง ไม่ว่าจะเทียบกันตรงไหน เขาก็ยังด้อยกว่าสามีของฉันอยู่ดี แล้วฉันจะกอดทองทิ้งหยกได้ยังไงล่ะคะ”
แค่คำว่าสามีของฉันคำเดียว ก็ทำให้โจวจินหนานยอมรับได้สำเร็จแล้ว เขาพยักหน้า “ถ้าคุณคิดว่าดี งั้นก็ร่วมมือกับเขาเถอะ ผมเชื่อคุณ”
สวี่ชิงยิ้มก็ลุกขึ้นยืนเข้าไปในอ้อมกอดของเขา โอบรอบคอของเขาแล้วจูบเบา ๆ ที่มุมปาก “ตายจริง ทำไมคุณถึงดีขนาดนี้กันคะ คุณรู้ไหม ที่ฉันดีใจไม่ใช่เพราะได้ร่วมมือกับผางเจิ้งหัวหรอกนะ แต่เป็นเพราะประโยคนี้ของคุณที่ว่าฉันเชื่อคุณ”
พูดแล้วเธอก็จูบที่ริมฝีปากของโจวจินหนาน “คำนี้มันทำให้ฉันตื้นตันใจมากจริง ๆ นะคะ ทำไมคุณถึงดีขนาดนี้”
โจวจินหนานไม่ชินกับการจูบอย่างแนบชิดด้านนอกห้องนอนมาก่อน ทว่าด้วยกลิ่นหอมที่อยู่ในอ้อมกอดนี้ แล้วไหนจะจูบแล้วจูบเล่านั่นอีก
เขาจะทนไหวได้อย่างไร วงแขนทั้งคู่จึงกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ประคองกอดสวี่ชิงเอาไว้ในอ้อมแขนจนแทบจะหลอมรวมเข้าไปในร่าง อีกมือประคองด้านหลังศีรษะเธอ พร้อมตระโบมจูบอย่างดุดันและบ้าคลั่ง
แม้จะจูบมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง เธอกลับยังเหมือนมือใหม่ พัวพันอุดตลุด
ราวกับคนกระหายน้ำท่ามกลางทะเลทรายได้พบแหล่งน้ำแล้วกลืนกินทุกอย่างโดยไม่สนใจสิ่งใด
สวี่ชิงเริ่มเสียใจภายหลังแล้ว ถ้ารู้เร็วกว่านี้ เธอคงไม่กล้าหยอกล้อผู้ชายคนนี้แล้ว
………………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เป็นคู่ที่เหมาะสมกันดีนะคะ โหดทั้งคู่เลย แถมพี่หนานก็หึงแรงมาก หึงแม้กระทั่งหมา ไป๋หลางคงอยากถามว่าผมผิดอะไร
นึกเสียใจช้าไปแล้วไหมชิงชิง ยอมรับเถอะค่ะ ๕๕๕
ไหหม่า(海馬)