เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 279 เย่หนานผู้มีอารมณ์ร้อน
บทที่ 279 เย่หนานผู้มีอารมณ์ร้อน
สวี่ชิงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เธอไม่สนใจคนที่ล้อมรอบอยู่เต็มลานบ้าน พุ่งตัวเข้าไปกระโดดกอดคอโจวจินหนาน และยิ่งไม่สนใจคนที่เขายังแบกเอาไว้ข้างหลังด้วย
“โจวจินหนาน คุณทำให้ฉันตกใจเกือบตายแล้ว”
โจวจินหนานยื่นมือไปกอดเธอเอาไว้ ทำได้เพียงก้มหน้าจุมพิตกระหม่อมของเธอ “ผมไม่ทำให้ตัวเองเป็นอะไรไปอยู่แล้ว และผมยังพาแม่ของพวกเรากลับมาด้วย เข้าไปในบ้านกันก่อนเถอะค่อยพูดกัน”
เมื่อสวี่ชิงได้ยินคำว่าแม่ของเรา เธอก็ได้สติกลับมา ถอยหลังก้าวหนึ่ง มองอย่างตกตะลึงไปยังคนด้านหลังของโจวจินหนานที่มีผ้าสีดำคลุมปิดไว้มิดชิด
ทั้งยังไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมา
หรือว่าเกิดเหตุไม่คาดฝันกับแม่ของเธอ? หัวใจของเธอพลันวูบโหวง ส่งผลให้มือสั่นโดยไม่รู้ตัว
เหยียนจี้ชวนรีบจับแขนสวี่ชิง “พาเข้าบ้านก่อนค่อยพูดเถอะ คนก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว มีอะไรก็นั่งก่อนแล้วค่อยเล่า”
ก่อนให้โจวจินหนานแบกเย่หนานไปอยู่ในห้องที่เมื่อคืนพวกเขาไม่ได้เข้ามานอน
ภายในห้องนั้นนอกจากเตียงแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นอีก
โจวจินหนานประคองคนอย่างระมัดระวังวางลงบนเตียงเตา แล้วหันกายนำผ้ามาห่อไว้อย่างดี ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่เผยใบหน้าออกมาเลยสักนิดเดียว
สวี่ชิงมองอยู่ด้านข้างหัวใจเต้นระรัว กระทั่งรู้สึกวูบโหวงด้วยความหวาดกลัว รอจนโจวจินหนานทำทุกอย่างเสร็จสิ้น ถึงค่อยถามเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “แม่ฉันเป็นอะไรคะ?”
“ชิงชิง?”
เสียงแก่ชราดังแว่วออกมาจากห่อผ้า น้ำเสียงอ่อนแรงและแหบพร่า ฟังแล้วเหมือนเสียงของคนที่แก่ชรามากแล้ว
แต่เพียงคำว่าชิงชิงนั้นก็ทำให้สวี่ชิงกลั้นเสียงร้องไห้ไว้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะนั่นแสดงออกซึ่งความรักของคนสายเลือดเดียวกัน
โจวจินหนานเดินเข้าไปกอดไหล่สวี่ชิง “พวกเราจะออกไปกันก่อน แม่ของคุณเจอความลำบากมามาก พวกคุณค่อย ๆ พูดกันนะ”
พูดจบก็ถอยออกมาจากห้องพร้อมกับพวกเหยียนจี้ชวน และปิดประตูห้องอย่างใส่ใจ
สวี่ชิงมองผ้าคลุมสีดำตรงหน้า หัวใจก็เจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง “ฉันขอดูหน่อยได้ไหมคะ”
เย่หนานส่ายหน้า “ตอนนี้แม่น่ากลัวเกินไป กลัวว่าจะทำให้ลูกตกใจ”
สวี่ชิงพูดเจือสะอื้น “แต่ฉันอยากดูหน้าแม่ ฉันไม่กลัวหรอกค่ะ”
น้ำเสียงดื้อดึงนั้นแฝงแววออดอ้อน นั่นเพราะการอยู่ต่อหน้าแม่แท้ ๆ ทำให้เธอเผยมุมออดอ้อนแบบเด็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
เย่หนานทอดถอนใจ ผ่านไปสักพักจึงค่อยๆ ดึงผ้าคลุมกายออก
ตรงหน้าคือหญิงชรารูปร่างผอมแห้งคนหนึ่งที่มีผมขาวเต็มศีรษะ ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยและรอยแผลเป็น นัยน์ตาฝ้าฟางไร้ซึ่งประกายสดใส ดูราวกับคนแก่ที่มีอายุร้อยปีขึ้นไป
สวี่ชิงมองเย่หนานอย่างไม่เชื่อสายตา คาดไม่ถึงว่าหล่อนจะเป็นคนเดียวกับผู้หญิงหน้าตาน่าเอ็นดูในรูปคนนั้น
ทำไมหล่อนแก่ได้ถึงขนาดนี้?
โจวจินหนานบอกว่าหล่อนได้รับความลำบากมามาก เธอจึงเดินไปทั้งที่น้ำตาไหลนองหน้า นิ้วมือสั่นระริกสำรวจใบหน้าของหล่อน “แม่ยังมีชีวิตอยู่ทำไมถึงไม่มาหาฉันเลยคะ? ฉันจะพยายามไม่ทำให้แม่ลำบากแน่นอน”
ปลายนิ้วสัมผัสกับผิวสากเหี่ยวย่นเหมือนเปลือกไม้ ไม่มีเค้าลางของหญิงสาวที่เคยงดงามเมื่อตอนยังสาวอยู่เลย
สวี่ชิงยิ่งร้องไห้หนักขึ้น ภายในดวงตาที่พร่ามัวยังมองเห็นได้ถึงสายตารักใคร่จากดวงตาฝ้าฟางคู่นั้นของเย่หนาน ยื่นมือกอดเย่หนานอย่างไม่สามารถควบคุมได้ “แม่…”
พอกอดแล้วถึงค่อยพบว่าเย่หนานผ่ายผอมจนน่าตกใจ รู้สึกเหมือนกำลังกอดโครงกระดูกคน
สวี่ชิงยิ่งปวดใจ “แม่ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ? เกิดอะไรขึ้นกับแม่?”
เย่หนานพยายามยกยิ้ม ในดวงตามีน้ำตาคลอหน่วยเช่นกัน กอดสวี่ชิงอย่างอดไม่อยู่
ชาตินี้ลูกสาวของหล่อนใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี ในภายภาคหน้าก็มีชีวิตดี ๆ ได้ สิ่งที่หล่อนทำมาทั้งหมดนับว่าคุ้มค่าแล้ว
สวี่ชิงกอดเย่หนานร้องไห้สะอึกสะอื้น ร้องไห้กับความผิดพลาดและเสียใจของเธอในทั้งสองชาติ ทำไมชาติที่แล้วเธอถึงไม่คิดจะออกตามหาแม่กันนะ?
เธอร้องไห้กับความลำบากของเย่หนาน สรุปแล้วหล่อนประสบพบเจอกับอะไรกัน ถึงกลายสภาพมาเป็นเช่นนี้ได้?
ต่อให้เฟิงซูฮวาประสบพบเจอมาทั้งความระทมทุกข์และสู้กับคำวิพากษ์วิจารณ์ ก็ยังดูมีชีวิตชีวากว่าหล่อนมาก
เย่หนานที่ปีนี้อายุสี่สิบปี ทำไมถึงกลายสภาพเป็นเช่นนี้ได้?
พวกโจวจินหนานกับเหยียนจี้ชวนสองสามคนยืนอยู่ตรงลานบ้านได้ยินเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดและเสียใจเล็ดลอดออกมา ในใจก็รู้สึกข่มปร่าด้วยความเศร้าใจ
เหยียนจี้ชวนแตะไหล่โจวจินหนาน “นายพูดสิว่าตัวเองไม่รู้จักทิ้งสัญลักษณ์เอาไว้มันทำให้พวกเราหานายเหนื่อยแทบตายขนาดไหน? และไปทำอีท่าไหนถึงทำรูปกับเสื้อหายได้?”
คืนสองคืนแล้วที่โจวจินหนานไม่ได้หลับไม่ได้นอน จนในดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยดูแดงก่ำ “เพื่อเบนความสนใจคนอื่น คิดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกนายที่มาเจอ”
เหยียนจี้ชวนสงสัยนิดหน่อย “ใครจะตามพวกนายมา?”
อามู่ข้าง ๆ เอ่ยว่า “ไม่รู้ น่าจะเป็นคนหมู่บ้านเย่ทางนั้น สำเนียงฟังดูคุ้นเคยมาก”
โจวจินหนานเสริมอีกประโยคหนึ่ง “ยังมีคนอื่นอีก แล้วในมือก็มีปืนด้วย”
อามู่พยักหน้าติดกัน “ใช่ ๆๆ ไม่เหมือนกับปืนล่าสัตว์ของคนในหมู่บ้านพวกเราเลย”
เหยียนจี้ชวนคิดว่าเรื่องนี้มีคำอธิบายดีมาก “น่าเป็นคนของเจียงเสวี่ยอิงให้มาหา หรือไม่หล่อนก็อาจจะแอบอ้างชื่อของพ่อฉันในการหาคน”
โจวจินหนานมองตาเหยียนจี้ชวน “นายคิดว่าเจียงเสวี่ยอิงหน้าด้านขนาดนั้นจริงเหรอ?”
เหยียนจี้ชวนสบถคำหนึ่ง “คงไม่ใช่มั้ง?”
หรือว่าแม่ของเขาเองก็เข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องนี้ด้วย?
ถ้าเป็นแบบนั้น เกิดกลับไปแล้วพี่ใหญ่ของเขารู้ขึ้นมา เกรงว่าครอบครัวได้ถึงคราวแตกหักแน่
เขาพลันรู้สึกปวดหัวจนไม่อยากจะคิดต่อ รีบเปลี่ยนหัวข้ออื่น “เกิดอะไรขึ้นกับแม่ของสวี่ชิงกัน?”
โจวจินหนานไม่ตอบเขา ที่สำคัญคือไม่รู้จะพูดยังไง
ตอนที่เห็นรูปร่างหน้าตาของเย่หนาน เขาก็ตกใจเช่นกัน เนื่องจากเย่หนานในความทรงจำของเขาคือคนที่มีหน้าตาเหมือนในรูปภาพ ต่อให้แก่กว่านี้หน่อยหนึ่ง ก็ไม่ถึงกับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
หล่อนดูแก่ชราเกินไป
สวี่ชิงกอดเย่หนานร้องไห้อยู่พักหนึ่ง เย่หนานถึงค่อยเงยหน้ามาลูบหลังเธออย่างรักใคร่เอ็นดู “ไม่ต้องร้อง ๆ จินหนานบอกว่าลูกท้องแล้ว คนท้องไม่ควรร้องไห้ ไม่งั้นเด็กที่คลอดออกมาจะชอบร้องไห้”
สวี่ชิงใช้หลังมือเช็ดน้ำตาพลางสูดจมูก “แม่ สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นคะ หรือว่าโดนพิษ พวกเรากลับไปหาคุณย่ากันดีไหม? ท่านเก่งมาก จะต้องรักษาได้แน่”
เย่หนานยกยิ้ม ยื่นมือมาลูบใบหน้างดงามราวกับดอกไม้ดอกหนึ่งของสวี่ชิง สามารถมีชีวิตที่ดีได้ก็ได้มากแล้ว “ไม่เป็นไรจ้ะ ร่างกายของแม่ได้รับความเสียหาย ไม่ต้องกังวล ไม่ตายในเวลาอันสั้นนี้ได้หรอก”
สวี่ชิงรู้สึกอยากร้องไห้อีกแล้ว “แม่จะตายได้ยังไง? ตายไม่ได้นะคะ แม่กับพ่อต้องได้อยู่ด้วยกันแล้วมีชีวิตที่ดี”
รอบยิ้มบนใบหน้าเย่หนานพลันหายไปในทันที ใบหน้าเหี่ยวย่นพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา นัยน์ตาฉายแววเคียดแค้น “เขาไม่คู่ควร! ห้ามพูดถึงเขา ถ้าแม่ได้เจอเขา แม่จะวางยาพิษให้เขาตาย ๆ ไปซะ”
สวี่ชิงรู้ว่าเย่หนานเข้าใจเหยียนป๋อชวนผิด จึงดึงมือแล้วปลอบประโลมเสียงเบา “แม่ แม่เข้าใจคุณพ่อผิดไปแล้วนะคะ หลายปีมานี้เขายังรอแม่มาโดยตลอด เขายังคอยตามหาแม่ แต่คนในหมู่บ้านบอกว่าแม่หนีไปกับชายหนุ่มคนหนึ่งแล้ว เรื่องนี้ทำให้พ่อเสียใจมาก และไม่ยอมแต่งงานกับคนอื่นเลย”
เย่หนานแค่นเสียงหึ “เจียงเสวี่ยอิงคนนั้นไม่ใช่ว่าเป็นคู่หมั้นคนรักในวัยเด็กของเขาหรอกหรือ เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะไม่แต่ง? เขาต้องหลอกลูกแน่ ยังมียัยเจียงเสวี่ยอิงนั่นอีก กลับไปแม่จะวางยาฆ่าหล่อนด้วยอีกคน”
สวี่ชิงพลันรู้สึกอยากหัวเราะขึ้นมาดื้อ ๆ แม้แม่ของเธอภายนอกจะดูแก่ชรา แต่ยังคงอารมณ์ร้อนเหมือนหนุ่มสาวไม่เปลี่ยน
ขนาดตอนนี้ยังมีกะใจอยากวางยาพิษคนถึงสองคนได้
สวี่ชิงกอดเย่หนาน “แม่เชื่อฉันนะคะ ไว้กลับไปเจอพ่อแล้ว พวกคุณต้องคุยกันดี ๆ ทำความเข้าเรื่องเข้าใจผิดในตอนนั้น พวกเราสามคนจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันแล้วนะคะ”
เย่หนานขมวดคิ้ว คิดถึงสภาพตัวเองที่ดูแก่เกินไป ก็หันหน้าไปอีกทาง “แม่จะไม่เจอเขา!”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ได้เจอแม่แล้วนะชิงชิง พาแม่กลับไปให้คุณย่ารักษาให้ได้นะ
รู้เลยว่าชิงชิงได้นิสัยใจร้อนกับความโหดมาจากใคร
ไหหม่า(海馬)