เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 271 ไปหาโจวจินหนาน
บทที่ 271 ไปหาโจวจินหนาน
หลังจากสวี่ชิงขึ้นรถสาธารณะแล้วก็เริ่มบังคับให้ตัวเองสบงลง ในเมื่อไม่มีคนแจ้งข่าวร้ายกับตัวเอง งั้นก็หมายความว่าโจวจินหนานไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
เพีบงแค่ว่าทำไมโจวจินหนานต้องไปหลินหวู่ ไม่ใช่ว่าต้องไปเตียนหนานหรอกหรือ
แม้เธออยากจะไปหลินหวู่เสียตอนนี้เพื่อถามให้ชัดเจน แต่ก็รู้ว่ารีบร้อนไปก็ไม่ได้อะไร ต้องกลับไปปรึกษากับเฟิงซูฮวาก่อน
แถมเธอยังตั้งท้องอยู่ด้วย ทำให้ไม่อาจเคลื่อนไหวรวดเร็วเกินไปได้ เพราะสุดท้ายจะเป็นอันตรายต่อเด็ก
หลังจากถึงบ้าน ปิดประตูใหญ่ให้ไป๋หลางเฝ้าอยู่หน้าประตู เธอก็รีบเดินไปตรงหน้าเฟิงซูฮวา ดึงแขนหญิงชราที่นั่งงีบหลับอยู่บนเก้าอี้เอนหลัง “คุณย่า เกิดเรื่องกับจินหนานที่หลินหวู่แล้วค่ะ ฉันอยากไปดูเขา”
เฟิงซูฮวาลืมตาอย่างประหลาดใจ ทำไมนางดูดวงชะตาของโจวจินหนานไม่ออกว่าเขาจะมีภัยกันนะ?
นางหยัดกายขึ้นมาอย่างช้า ๆ ตบหลังมือสวี่ชิง “เกิดเรื่องอะไรขึ้น หลานค่อย ๆ พูดสิ”
“อาเล็ก เกาจ้าน แล้วก็สวีหย่วนตงไปหลินหวู่กันหมด พวกเขาไม่ใช่หน่วยเดียวกัน แต่กลับไปที่หลินหวู่ด้วยกันทั้งหมด เรื่องนี้ต้องมีปัญหาแน่ ฉันไปลองถามเลขาฟาง ถึงได้รู้ว่าโจวจินนานไปหลินหวู่แล้ว”
“จู่ ๆ พวกเขาก็ไปหลินหวู่ ก็น่าจะไปหาโจวจินหนานแน่ๆ”
สวี่ชิงฟังถึงตรงนี้ก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “ใช่แล้ว จินหนานเคยพูดว่าสวีหย่วนตงไม่ได้เป็นเพียงสัตวแพทย์ ฝีมือผ่าตัดของเขาก็ดีเช่นกัน ดังนั้นแล้วหรือว่าจินหนานจะได้รับบาดเจ็บ เขาถึงต้องรีบไปหา”
ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้ถึงไม่ชอบมาพากลยิ่ง!
เธอออกแรงบีบมือเฟิงซูฮวาโดยไม่รู้ตัว
เฟิงซูฮวามุ่นคิ้ว “หลานอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้เลย หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นจริงล่ะก็ จินหนานก็น่าจะไม่ได้มีอันตรายถึงแก่ชีวิตหรอก”
สวี่ชิงขอบตาแดงช้ำ “จะไม่ให้ฉันร้อนใจได้ยังไงกันคะ ฉันไม่เห็นเขาและไม่ได้รับข่าวคราวอะไรเลย ทำได้เพียงรออยู่ที่นี่ ฉันร้อนใจจะตายอยู่แล้ว คุณย่าคะ ฉันอยากไปหาจินหนานที่หลินหวู่”
เฟิงซูฮวาเข้าใจอาการร้อนใจของสวี่ชิงเป็นอย่างดี ลูบผมปลอบเธอเบา ๆ “แต่หลินหวู่ใหญ่ขนาดนั้น หลานจะหาพวกเขาเจอได้ยังไง?”
สวี่ชิงตัดสินใจแน่วแน่มาก “เลขาฟางจะต้องบอกอาเล็กของฉันแน่ ฉันรู้แล้วว่าโจวจินหนานอยู่ที่หลินหวู่ ดูจากท่าทาง พวกเขาก็น่าจะรู้แล้วว่าฉันจะต้องไปหลินหวู่แน่ ๆ ฉันคิดว่าแค่ลงจากรถไฟก็คงมองเห็นพวกเขาได้”
ในเมื่อต้องจับตามองเธอ ดังนั้นเมื่อถูกเธอจับได้แล้ว เลขาฟางจะต้องบอกเหยียนจี้ชวนเป็นคนแรกอยู่แล้ว
ดังนั้นเธอไม่กลัวเลยสักนิดเดียวว่าเมื่อถึงหลินหวู่แล้วจะต้องเดินเตร็ดเตร่ไม่รู้เหนือใต้เหมือนแมลงวันไร้หัว
เฟิงซูฮวาเงียบไปพักหนึ่ง “หลานจะไปก็ได้ แต่จะหุนหันพลันแล่นไม่ได้ ปกป้องเด็กในท้องตัวเองให้ดี”
ในใจกลับสงสัยว่าเหตุใดถึงเกิดเรื่องเกินความคาดหมายขึ้นได้?
สวี่ชิงยืดกายกอดเฟิงซูฮวา “คุณย่าวางใจค่ะ ฉันไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น ทั้งยังมีพวกอาเล็กอยู่ จะต้องไม่มีอันตรายเกิดขึ้นกับฉันแน่ เพียงแค่ตอนแรกที่ฉันได้ยินว่าเขาบาดเจ็บสาหัส ดูเขาคนนี้สิ หัวใจฉันก็ตกไปอยู่ตาตุ่มแล้ว”
เฟิงซูฮวาครุ่นคิด “ได้ เธอไปหลินหวู่เถอะ เดี๋ยวสักพักย่าจะเตรียมของไว้ให้ เธอต้องคอยระวังด้วยว่าจะมีเหตุการณ์เหนือความคาดหมายอะไรขึ้นหรือเปล่า”
สวี่ชิงพยักหน้า “ตอนนี้ฉันต้องไปบอกพวกผางจิ้งหัวสักหน่อย สองสามวันนี้ต้องให้พวกเขาดูแลเรื่องในร้าน แล้วถือโอกาสไปซื้อตั๋วรถไฟด้วย”
พูดจบก็ไม่รั้งรอลากจักรยานแล้วเรียกไป๋หลางออกนอกประตูไปด้วยกัน
ตอนมาถึงร้านก็เป็นตอนที่ในร้านงานยุ่งที่สุดพอดี สวี่ชิงมองรอบหนึ่งแล้วก็ตัดสินจไปซื้อตั๋วรถไฟก่อน
เธอเดินมุ่งตรงไปยังช่องขายตั๋ว กลับคิดไม่ถึงว่าระหว่างทางจะเจอกับหลูเว่ยตง
พูดให้ถูกคือหลูเว่ยตงเป็นคนขวางสวี่ชิงเอาไว้อย่างจงใจ “ชิงชิง สองสามวันมานี้ทำไมเธอไม่อยู่ในร้านเลย?”
เพราะในใจสวี่ชิงตอนนี้คิดแต่เรื่องโจวจินหนานจนวุ่นวายใจ พอเห็นหลูเว่ยตงขวางทางตัวเองก็โมโหขึ้นมาทันที “หลบไป!”
ดวงตาหลูเว่ยตงมืดครึ้ม “ฉันถามเธอไม่ใช่เพราะเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องงานน่ะ”
สวี่ชิงเพียงใช้สายตาเย็นชามองเขา นัยน์ตาเจือไปด้วยไฟโทสะ เพียงคำพูดไร้สาระคำเดียวเธอก็ไม่อยากจะพูดกับเขา
หลูเว่ยตงเองก็โมโหนิดหน่อยเช่นกัน เขาทำทุกอย่างก็เพราะหวังดีกับเธอ สวี่ชิงไม่เพียงไม่ชื่นชม ยังปฏิบัติกับเขาด้วยท่าทางโกรธเคือง น้ำเสียงจึงพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาและเป็นทางการ “แผนการที่เธอส่งไปเรื่องของการเปิดร้านอาหารบนรถไฟนั่น ตอนนี้มีสองสามร้านที่กำลังยื่นข้อเสนอเหมือนกัน เธอไม่กังวลเลยเหรอว่าสุดท้ายธุรกิจนี้จะตกไปอยู่ในมือคนอื่น”
สวี่ชิงเดาผลลัพธ์นี้ได้ตั้งนานแล้ว ตอนหลี่กั๋วหัวยังอยู่ เพราะว่าความสัมพันธ์เอื้อผลประโยชน์ให้กัน ถึงสามารถใช้เส้นสายได้
ตอนนี้หลูเว่ยตงรับผิดชอบหน้าที่เรื่องนี้ต่อ แม้ว่าสุดท้ายหลี่กั๋วหัวกับคนเบื้องบนอนุญาต แต่ด่านแรกที่จะต้องผ่านก็คือหลูเว่ยตง
แต่เธอเองก็ไม่คิดจะเกี่ยวข้องอะไรกับหลูเว่ยตงเช่นกัน ใบหน้าเย็นชา “แล้วแต่เถอะ!”
หลูเว่ยตงพลันแค่นหัวเราะขึ้นมา “คิดไม่ถึงว่าฉันจะทำให้เธอเกลียดฉันถึงขั้นนี้ แม้แต่ธุรกิจก็ยังสามารถปล่อยมือไม่เอาได้หรือ”
สวี่ชิงไม่สนใจหลูเว่ยตง เดินชนเขาแล้วสาวเท้าเร็ว ๆ ไปช่องขายตั๋ว
หลูเว่ยตงโมโหสวี่ชิงจริง ๆ แล้ว เขาเองก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน “สวี่ชิง! สักวันเธอจะต้องเสียใจภายหลัง!”
สวี่ชิงทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่หันกลับไปมองและเดินเข้าไปในช่องขายตั๋ว ต่อแถวซื้อตั๋วรถไฟไปหลินหวู่หนึ่งใบ
หลังซื้อตั๋วแล้วก็กลับมา ซึ่งในร้านไม่ยุ่งแล้ว เธอเดินไปหลังร้านหาผางเจิ้งหัว บอกเขาคำหนึ่งว่าจะออกไปข้างนอกสองสามวัน
ผางเจิ้งหัวเองก็ไม่ได้ถามอะไรมาก “ได้ เดินทางระวังด้วย ถ้ามีเรื่องอะไรเธอก็บอกฉันได้ คุณย่าทางนั้นฉันจะช่วยดูให้เอง เธอไม่อยู่สองสามวันนี้จะให้น้าเชียวเฟิ่งไปอยู่เป็นเพื่อนคุณย่า”
สวี่ชิงซาบซึ้งใจที่จะเจอกลุ่มคนที่ทั้งใจดีทั้งจริงใจ ครุ่นคิดแล้วเตือนผางเจิ้งหัว “ฉันอาจจะไม่ได้ไปแค่สองหรือสามวัน ถ้าคนของสถานนี้มาหารือกับนายเรื่องอะไร นายห้ามตกปากรับคำเด็ดขาด แล้วก็ร้านนี้ของพวกเราได้เซ็นสัญญากับสถานีรถไฟไว้แล้วสามปี ไม่ว่าพวกเขาจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายอะไร นายก็ไม่ต้องสนใจ บอกแค่ว่ารอฉันกลับมาค่อยว่ากัน”
เธอกลัวว่าตอนที่เธอไม่อยู่ หลูเว่ยตงจะลอบแทงข้างหลัง
เนื่องจากชาติที่แล้วคนที่ทำธุรกิจจนกิจการใหญ่โตได้ไม่เพียงต้องฉลาด ยังต้องใช้อุบายเล็กน้อยบางอย่างด้วย
ผางเจิ้งหัวพยักหน้าติดๆ กัน “เธอวางใจ ฉันรู้ว่าต้องรับมือยังไง อีกทั้งถ้าเกิดเรื่องพวกเราจะอดทนเอาไว้ให้มากที่สุด”
สวี่ชิงบอกผางเจิ้งหัวเรื่องวัตถุดิบที่ต้องใช้สองสามวันนี้อีกเรื่อง ยังมีการซื้อกะหล่ำปลี หัวไชเท้า และมันฝรั่งในฤดูหนาว
หลังจากฝากฝังทุกอย่างแล้ว สวี่ชิงก็ถึงค่อยกลับบ้านอย่างวางใจ เตรียมกระเป๋าออกเดินทางในวันพรุ่งนี้
เฟิงซูฮวาให้กระเป๋าใบหนึ่งกับสวี่ชิง มีรอยนูนออกมาจนสัมผัสได้ว่าเป็นรูปขวด ทำให้สวี่ชิงตะลึงเล็กน้อย “คุณย่า ย่าใส่อะไรให้หนูคะเนี่ย”
“ยารักษาโรคมาลาเรีย แล้วยังมียาแก้พิษงูกับขี้ผึ้งนิดหน่อย ขี้ผึ้งเหล่านั้นสามารถแก้พิษธรรมดาได้ ถ้าอาการหนักถึงตอนนั้นเธอก็ต้องแสดงความสามารถด้วยตัวเอง”
สวิ่ชิง “……”
แสดงความสามารถด้วยตัวเองนี้ เธอไม่กล้าแสดงเลยจริง ๆ
เฟิงซูฮวาช่วยสวี่ชิงเอาของใส่ในกระเป๋า “ระหว่างทางระมัดระวังหน่อย ไม่มีเรื่องอะไรก็รีบกลับมา”
สวี่ชิงยื่นมือไปกอดย่า “ฉันให้เงินคุณย่าไว้นะคะ อยากกินอะไรก็ไปซื้อ คุณน้าเชียวเฟิงจะมาอยู่เป็นเพื่อนคุณย่า”
เฟิงซูฮวาหัวเราะ “ย่าไม่ใช่เด็กเสียหน่อย เธอยังกังวลย่าจะหิวอยู่อีก เธอน่ะเดินทางก็ดูแลตัวเองแล้วก็เด็กน้อยในท้อง ดีที่ตอนนี้เธอยังไม่คลอด ถ้าคลอดลูกแล้ว อยากไปคงไม่ง่ายขนาดนี้”
พูดถึงเด็กในท้อง สวี่ชิงก็กดความคิดวุ่นวายต่าง ๆ นานาในหัวไว้ เพียงรอให้ท้องฟ้าสว่างจึงค่อยออกเดินทาง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
แพ้แล้วพาลนี่หว่า เขาไม่รับรักก็เลยจะตัดทางทำมาหากินเขางี้?
ชิงชิงระวังตัวด้วยนะ ทำไมต้องฉายเดี่ยวตลอดเลยเนี่ย
ไหหม่า(海馬)