เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 257 ตามหาเย่หนาน
บทที่ 257 ตามหาเย่หนาน
สวี่ชิงรู้สึกประหลาดใจที่พี่สะใภ้จินมีของขาดตลาดเอาไว้ในครอบครอง อาทิ คูปองโทรทัศน์ แม้ว่าเธอจะเอามันมาใช้กับครอบครัวตนเองไม่ได้ แต่เธอก็ยังขายมันให้กับคนอื่นได้ และสามารถขายได้ในราคาสิบหรือแปดหยวน
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “พี่เอามันมาให้ฉันก็ได้ แล้วฉันจะเอาเงินให้พี่ตามราคาตลาด”
พี่สะใภ้จินโบกมือ “เงินอะไรไม่เอาหรอก ฉันขาดเงินขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? แค่ของพรรค์นี้มันไม่มีประโยชน์อะไรกับบ้านฉัน อีกอย่างในบ้านยังมีพี่น้องอีกหลายคน มันไม่พอสำหรับทุกคนหรอก เอามาให้เธอดีกว่า พวกเขาจะได้ไม่ต้ต้องคิดมากกัน”
สวี่ชิงยังคงยืนกรานคำเดิม “ถ้าพี่ไม่รับเงิน ฉันก็ไม่อยากได้มันหรอก ฉันจะเอาของมีราคาแบบนี้ไปเปล่า ๆ ได้ยังไง ยังไงซะก็ไม่ได้รีบใช้อยู่ดี”
พี่สะใภ้จินลังเลอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นท่าทางจริงจังของสวี่ชิง “งั้นเธอให้ฉันสักห้าหยวน หรือสามหยวนได้ไหม?”
สวี่ชิงยิ้ม “สามหยวนห้าหยวนอะไรกันคะ ฉันจะเอาให้พี่สิบหยวน เราต้องซื้อขายกันตามราคาตลาดสิ”
เธอพูดและหันกลับไปหยิบเงินให้ ขณะเดียวกันอาการคลื่นไส้ที่ยับยั้งไว้ก่อนหน้าปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ส่งผลให้สวี่ชิงรีบวิ่งไปข้างถังขยะและอาเจียนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เธอกินซุปปลาไปแค่สองสามคำ แต่กลับอาเจียนออกมาจนหมด และเป็นเพราะท้องว่าง จึงได้อาเจียนน้ำกรดในกระเพาะออกมา
รู้สึกราวกับกำลังสำรอกน้ำดีออกมา
เฟิงซูฮวาวางปากกาและกระดาษลงบนโต๊ะ มองดูสวี่ชิงที่จู่ ๆ ก็อาเจียนอย่างผิดปกติ เธอสาวเท้าเล็ก ๆ เดินเข้าไปด้านหลังสวี่ชิงอย่างว่องไว “เกิดอะไรขึ้น?”
เธอถาม และยื่นมือออกไปตรวจสัญญาณชีพจรของอีกฝ่าย
ก่อนจะหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าชีพจรของอีกฝ่ายปกติดี
สวี่ชิงรู้สึกดีขึ้นหลังจากอาเจียนเสร็จ ยืดตัวตรงและทุบหน้าอกเบา ๆ จ้องมองไปที่เฟิงซูฮวาทั้งที่น้ำตาคลอเบ้า “คุณย่า ซุปปลาคาวมากเลยค่ะ”
เฟิงซูฮวาตกใจ “กลิ่นก็ดูใช้ได้นะ แต่ย่ายังไม่ได้ลองชิม เพราะจินหนานบอกว่าต้มให้หลาน”
ตอนที่ได้กลิ่น สวี่ชิงคิดว่ามันจะไม่เป็นอะไร แต่กับคาดไม่ถึงว่ากลิ่นคาวจะติดอยู่ในปาก เธอขยี้ตา ขณะที่พี่สะใภ้จินยื่นแก้วน้ำมาให้เธอล้างปาก
หลังจากจิบน้ำอยู่ครู่หนึ่ง สายตาเธอก็เหลือบไปเห็นไป๋หลาง มันชะงักไปครู่หนึ่ง และคายของในปากออกมา
สวี่ชิงสังเกตเห็นว่าชามอาหารของไป๋หลางมีน้ำซุปสีขาวขุ่น แต่ไป๋หลางไม่แม้แต่จะขยับปาก มันนั่งยอง ๆ และจ้องมาที่เธอด้วยสายตาไร้เดียงสา
เป็นอีกครั้งที่เธออดไม่ได้จะติเตียนทักษะการทำอาหารของโจวจินหนาน
คนฉลาดที่ไม่มีทักษะการทำอาหารควรจะทำบะหมี่หรือข้าวต้มเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นาน สวี่ชิงก็เอาเงินจำนวนสิบหยวนไปแลกคูปองโทรทัศน์ที่มีตราประทับสีแดงกับพี่สะใภ้จิน และปรากฏว่าตราประทับสีแดงบนตั๋วมาจากโรงงานซ่อมรถยนต์ตงฟาง
สวี่ชิงประหลาดใจเล็กน้อย “พี่สะใภ้ ได้คูปองโทรทัศน์มาจากที่ไหนคะ?”
พี่สะใภ้จินไม่ได้ปิดบัง “หลานชายฉันส่งมาให้น่ะ บอกว่ามีคนเอามาใช้หนี้เขา”
สวี่ชิงเก็บคูปองโทรทัศน์ใส่กระเป๋าด้วยท่าทางใจเย็น “บังเอิญจัง ขอบคุณพี่สะใภ้นะคะ”
……
โจวจินหนานไปหาเกาจ้าน แต่กับคาดไม่ถึงว่าเหยียนจี้ชวนจะปากสว่างเล่าเรื่องที่เขาถูกทุกตีที่บ้านให้เกาจ้านฟัง
เกาจ้านลูบคางขณะมองโจวจินหนานหัวจรดปลายเท้าด้วยสายตาเชิงหยอกล้อ
ก่อนจะเดาะลิ้น “นึกไม่ถึงเลยว่าสวี่ชิงจะแข็งแกร่งขนาดนี้”
โจวจินหนานชำเลืองมองเขา “นายอยากให้ใครมาตีนายบ้างไหมล่ะ หาเจอหรือยัง?”
คำพูดดังกล่าวจี้จุดเกาจ้านอย่างแรง ใครจะรู้ถึงความสยดสยองในตอนนั้น ถึงแม้จะไม่เห็น แต่ก็ยังจดจำได้ดี
และบางครั้งมันก็กลายเป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างน่าประหลาดใจ
เขาตะคอกใส่โจวจินหนานด้วยถ้อยคำเย็นชา “ช่างเถอะ ฉันไม่ได้มีประสบการณ์เหมือนกับนายนี่ ความเก่งกาจของนายก็ใช้ได้แค่ต่อหน้าฉันเท่านั้นแหละ ทีอยู่ต่อหน้าสวี่ชิงทำตัวแสนเชื่องอย่างกับแมวคราว”
โจวจินหนานเมินเขา และเริ่มพูดอธิบายจุดประสงค์ที่มาเยี่ยมเยียน “เดือนหน้าฉันมีภารกิจที่เตียนหนานตอนใต้ คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหม?”
ท่าทางของเกาจ้านดูจริงจังขึ้นมาทันที “เชี่ย ทำไมนายต้องไปเตียนหนานด้วย? เหยียนป๋อชวนว่าไงบ้าง?”
โจวจินหนานส่ายหน้า “มีบางอย่างที่เหยียนป๋อชวนไม่รู้ อย่างพวกรายชื่อคำสั่งซื้อลำดับที่หนึ่ง แค่สถานที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ที่เตียนหนานอีกแล้ว และมันดูบังเอิญเกินไป”
เกาจ้านตามไม่ทันอยู่พักหนึ่ง “แล้วนายจะเอายังไง จะไปหรือไม่ไป?”
โจวจินหนานพยักหน้า “ไป ยังไงก็ต้องไป”
เกาจ้านขมวดคิ้ว “มันอันตรายเกินไป ไม่ได้ ต้องไปบอกเหยียนจี้ชวนให้ส่งคนอื่นไปแทน”
โจวจินหนานส่ายหน้า “ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าฉันแล้ว และครั้งนี้น่าจะตามหาแม่ของสวี่ชิงเจอ”
เกาจ้านมองไปที่โจวจินหนานอย่างเหลือเชื่อ “นายได้หลักฐานมาเพิ่มเหรอ? หรือว่ามีเงื่อนงำอะไร?”
โจวจินหนานส่ายหน้า “ไม่มี แค่สัญชาตญาณ”
เกาจ้านถึงกับพูดไม่ออก “ช่างสัญชาตญาณของนายปะไร ตอนนี้นายกลายเป็นคนไม่เชื่อถือไปแล้วหรือไง?”
โจวจินหนานไม่ได้รีบร้อน และเริ่มวิเคราะห์ให้เกาจ้านฟัง “หลุมศพของเย่หนานว่างเปล่า ในขณะที่เราเจอเย่เหม่ยในตัวจังหวัด และเจออามู่ที่สถานพยาบาลผู้สูงอายุ ข้อมูลพวกนี้บ่งบอกว่าเย่หนานจะต้องอยู่ในจังหวัด หรือที่ไหนสักแห่ง จะต้องไม่ใช่เตียนหนาน”
“แต่เมื่อไม่นานมานี้เย่เหม่ยหายตัวไป ส่วนอามู่ที่อยู่ในสถานพยาบาลก็ไม่ยอมออกมา นั่นหมายความว่าเย่หนานจะต้องอยู่ที่เตียนหนาน สถานที่ที่ไม่น่าเป็นไปได้มากที่สุดคือสถานที่ที่เป็นไปได้มากที่สุด”
เกาจ้านยังคงมึนงง “แต่อะไรคือสิ่งที่เชื่อมโยงข้อมูลพวกนี้?”
โจวจินหนานวาดวงกลมบนโต๊ะ “การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของอามู่เป็นการบ่งชี้ว่าเย่หนานอยู่ในจังหวัด หรือแม้แต่บนภูเขาที่ใกล้กับสถานพยาบาล แต่เพราะเย่เหม่ยเจอบางอย่างที่ผิดปกติ หล่อนถึงได้หายตัวไป”
มองดูเกาจ้านที่ยังตามไม่ทัน “เย่หนานรักลูกสาวมาก หล่อนรู้ว่าคุณย่าเฟิงจะคอยปกป้องชิงชิง แต่หล่อนจะต้องมีเหตุผลบางอย่างถึงเลือกที่จะซ่อนตัวอยู่แบบนี้”
เกาจ้านรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างกะทันหัน “งั้นนายหมายความว่าเย่หนานเป็นคนจัดการทุกอย่างเหรอ?”
โจวจินหนานพยักหน้า และดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น
เกาจ้านยังคงรู้สึกว่ามีช่องโหว่มากมาย แต่หลังจากที่สวี่ชิงกับโจวจินหนานแต่งงานกัน ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นดูแตกต่างออกไปอย่างมาก
ในคืนที่เฝ้าศพเฉินหยิง เกาจ้านตามจับคนที่ปลอมตัวเป็นผีในห้องน้ำได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องออกแรงแม้แต่น้อย
นอกจากนี้ก่อนที่สวี่ชิงจะถูกวางยาพิษที่สถานีรถไฟ ยังมีแมงมุมขาแดงโผล่มาจากไหนไม่รู้
เจียงเสวี่ยอิงถูกเปิดเผยตัวทันทีที่เดินทางมาถึงเมืองเอกประจำมณฑล
ถ้าตอนนั้นเจียงเสวี่ยอิงสามารถทำร้ายเย่หนานได้จริง ๆ เย่หนานที่มีความคิดละเอียดรอบคอบแบบนี้ จะปรากฏกายให้เห็นอย่างง่ายดายเชียวหรือ?
ทว่าหลายสิ่งที่มองไม่เห็นเกิดขึ้นราวกับมีใครบางคนช่วยพวกเขาไว้
เกาจ้านยังคงคิดไม่ออก “นายคิดว่าไง?”
โจวจินหนานตบไหล่เกาจ้านเบา ๆ “ฉันจะไปตามหาเย่หนาน อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับสวี่ชิงล่ะ”
เกาจ้านไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับความคิดของโจวจินหนาน ถึงได้เชื่อมโยงสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลเข้าด้วยกันได้อย่างมีเหตุผล
ถึงกระนั้นก็ยังรู้สึกกังวล “นายลืมไปแล้วเหรอว่านายถูกวางยาพิษได้ยังไง? ฉันกลัวว่าถ้านายไปที่นั่นอีก นายจะตกอยู่ในอันตราย อีกอย่างตอนนี้นายย้ายหน่วยแล้ว ไม่มีอาวุธติดตัว นายจะไปสู้กับอีกฝ่ายได้ยังไง?”
โจวจินหนานเม้มปาก “ฉันจะต้องเข้าใจเรื่องทุกอย่างให้ได้ ต่อจากนี้ไปฉันจะไม่ใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดกลัวอีก”
เกาจ้านมองไปที่โจวจินหนาน “นายอย่าลืมว่าสวี่ชิงกำลังท้องอยู่ คิดให้ดีก่อนนะ”
ดวงตาของโจวจินหนานมืดหม่นลง “ฉันจะระวัง”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ปฏิบัติภารกิจปลอดภัยจนอยู่ทันเห็นหน้าลูกนะพี่หนาน
ไหหม่า(海馬)