เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 255 ไปฆ่าไป๋หลาง
บทที่ 255 ไปฆ่าไป๋หลาง
อามู่เงียบเป็นเวลานาน สีหน้าของเขาดูอึดอัดมากขึ้น และหลังจากที่ตัดสินใจได้แล้ว เขาก็โบกมือให้สวี่ชิงและเริ่มทำท่าทาง
โจวจินหนานอธิบายกับสวี่ชิงอีกครั้ง “เขาบอกว่าเขาไปจากสถานพยาบาลไม่ได้ เพราะเขายังต้องตอบแทนน้ำใจ เขาไม่อยากให้คุณจากไป แต่เข้าใจดีว่าคุณคงมีธุระ เพราะงั้นเขาจะหาเวลาไปเยี่ยมคุณในเมืองแทน”
สีหน้าของสวี่ชิงดูโศกเศร้าขึ้น “คุณไปกับฉันได้นะคะ ออกไปทำงาน พอได้เงินมาแล้วค่อยมาจ่ายพวกเขาคืน”
อามู่ส่ายหน้า แสดงท่าทางตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
“เขาบอกว่าทุกคนที่นี่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่มีใครรังเกียจที่เขาหูหนวกและเป็นใบ้ เขาชอบที่นี่มาก อยากอยู่ที่นี่ต่อ คุณไปจัดการธุระของคุณเถอะ เขาจะหาเวลาไปเยี่ยมคุณแน่นอน รอจนกว่าลูกพลับบนภูเขาจะสุกงอม เมื่อนั้นเขาจะเด็ดเอาไปฝากคุณ”
สวี่ชิงยิ้มและพยักหน้าหลังจากฟังคำอธิบายของโจวจินหนาน “ก็ได้ ฉันจะรอคุณอยู่ในเมืองนะ”
อามู่พยักหน้าอย่างมีความสุข ยิ้มกว้างจนตาหยี เผยให้เห็นฟันขาวซี่ใหญ่ ดูเรียบง่ายและซื่อสัตย์
หลังจากที่รถยนต์ของพวกสวี่ชิงวิ่งออกมาจากประตูสถานพยาบาลผู้สูงอายุแล้ว อามู่ก็วิ่งไล่ตามมาจากระยะไกล และโบกมือให้รถครั้งแล้วครั้งเล่า
สวี่ชิงมองลอดออกจากกระจกหลังรถเฝ้าดูร่างของอามู่ที่มีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งร่างของเขาหายลับไป “ฉันรู้สึกว่าอามู่เป็นคนดีจริง ๆ และไม่ได้เสแสร้งนะคะ”
โจวจินหนานเงียบไปครู่หนึ่ง และพูดว่า “เขาอาจจะเป็นคนดี แต่เขาน่าจะมีความลับอยู่ในใจ”
สวี่ชิงเข้าใจแจ่มแจ้ง “จะเกี่ยวข้องกับแม่ของฉันหรือเปล่านะ? เขารู้หรือเปล่าว่าแม่ของฉันอยู่ที่ไหน?”
ยิ่งคิดมากเท่าไรก็ยิ่งมีความเป็นไปได้มากเท่านั้น และรีบตบเบาะหลังของโจวจินหนาน “เร็วเข้า เรากลับไปถามอามู่กันเถอะค่ะ เขาน่าจะรู้เรื่องทุกอย่าง”
หัวใจของเธอเต้นระรัวเมื่อนึกถึงความเป็นไปได้
แต่โจวจินหนานรู้สึกว่ามันไม่ง่ายเช่นนั้น “กลับไปก็ถามอะไรมากไม่ได้หรอก ถ้าเขาไม่อยากบอก เราก็ถามมากไม่ได้”
อามู่ไม่ใช่ศัตรู จึงไม่สามารถใช้วิธีการพิเศษมาบีบบังคับสอบปากคำเขาได้
สวี่ชิงคิดไม่ออก “ถ้าเกี่ยวข้องกับแม่ฉันจริง ๆ ทำไมแม่ถึงไม่ยอมมาเจอฉันล่ะคะ?”
โจวจินหนานเองก็คิดไม่ออกเช่นกัน “อาจจะมีความลับอย่างอื่นซ่อนอยู่”
จู่ ๆ สวี่ชิงก็รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาอีกครั้ง “หรือว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส และไม่ได้มีชีวิตอยู่ในโลกนี้แล้ว?”
ไม่เช่นนั้นทำไมถึงไม่มาหาเธอ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องซ่อนตัวด้วยซ้ำ
ในชั่วชีวิตที่ผ่านมา ตลอดหลายปีเย่หนานไม่เคยตามหาเธอเลย หากยังมีชีวิตอยู่ นั่นคงหมายความว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจใยดีลูกสาวนัก ถึงได้เลือกที่จะลืมทุกสิ่งอย่าง
แต่เย่หนานกลับเดินทางออกมาไกลเพื่อตามหาเหยียนป๋อชวน อีกทั้งยังดิ้นรนให้กำเนิดเธอ เห็นได้ชัดว่าหล่อนก็รักลูกเช่นกัน
เฟิงซูฮวากุมมือสวี่ชิง “อย่าคิดมากเลย ที่แม่ไม่มาหาหลาน หล่อนก็คงจะมีเหตุผลของหล่อน หรือบางทีอาจจะยังไม่ถึงเวลา ตราบใดที่หล่อนยังวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ พวกเธอสองแม่ลูกจะต้องได้เจอกันสักวัน”
สวี่ชิงรู้สึกหมดอาลัยตายอยากมาตลอดทาง ทันทีที่มาถึงบ้านเธอก็รีบกลับเข้าไปจัดแจงห้อง และล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
อยากนอนพักผ่อนสักหน่อยเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ที่เศร้าหมอง
เฟิงซูฮวารอจนกระทั่งสวี่ชิงผล็อยหลับไป จึงเรียกโจวจินหนานออกมาพูดคุยที่หน้าประตู ลดเสียงลงต่ำ “ย่าเดาว่าแม่ของชิงชิงคงจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ย่ามีอะไรจะคุยกับเธอสักหน่อย และเธอควรเตรียมใจไว้ให้ดี”
โจวจินหนานมองดูเฟิงซูฮวาด้วยท่าทางกระวนกระวาย “คุณย่า มีอะไรหรือเปล่าครับ? เกิดอะไรขึ้นกับชิงชิง?”
เฟิงซูฮวาโบกมือ “ไม่หรอก ไม่ต้องกังวลไป เดิมทีหลานกับชิงชิงมีความสัมพันธ์ที่ตื้นเขินนัก เป็นสามีภรรยากันไม่ได้นาน เพราะว่าชิงชิงน่ะเป็นคนจิตใจดีแต่อับโชค ตอนแรกที่หลานบอกย่าว่าจะแต่งงานกับชิงชิง ย่าได้ตรวจดูดวงชะตาของหลานทั้งสองแล้ว”
“แต่พอชิงชิงยุติความสัมพันธ์กับทางครอบครัวและกลับมาที่นี่ ความสัมพันธ์สามีภรรยาระหว่างพวกหลานก็ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น รวมถึงโชคของชิงชิงที่แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน หลานอาจจะไม่เชื่อที่ย่าพูดแบบนี้ แค่รับฟังก็พอแต่อย่าเก็บไปใส่ใจ เพราะหลานตัดสินใจทุกอย่างได้ด้วยตนเอง”
โจวจินหนานไม่อยากเชื่อเรื่องนี้ แต่หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นได้บีบบังคับให้เขาเชื่อสนิทใจ
นอกจากนี้ท่าทางของเฟิงซูฮวายังดูจริงจังมาก จนอดพยักหน้าไม่ได้ “คุณย่าบอกผมทีครับ”
เฟิงซูฮวาเหลือบมองไปที่ลานบ้าน และลดเสียงลงเล็กน้อย “ย่าเดาว่าเย่หนานส่งต่อโชคลาภให้ลูกสาว หลานกับชิงชิงจะต้องปรองดองกันสงบสุข”
โจวจินหนานรู้สึกหายใจไม่ออก ความเจ็บปวดยังคงซุกซ่อนอยู่ในหัวใจ ทำได้เพียงพยักหน้า “ผมจะทำครับ”
เฟิงซูฮวายิ้มและรีบโบกมือ “เอาล่ะ หลานเข้าไปพักผ่อนกับชิงชิงเถอะ ย่ายังอยู่ที่นี่ พวกเราจะต้องไม่เป็นอะไร แม่ของชิงชิงจะต้องกลับมาแน่นอน”
โจวจินหนานไม่รู้ว่าควรจะเชื่อเรื่องนี้ดีหรือไม่ เขาขมวดคิ้วและเดินเข้าไปในห้อง
ถึงกระนั้นมักจะมีเหตุการณ์แปลกประหลาดที่ไม่สมเหตุสมผลมากมายเกิดขึ้นท่ามกลางหมู่ผู้คน อาทิ เด็กน้อยจะรู้สึกหวาดกลัวมากเมื่อต้องออกจากบ้านกลางดึก ร้องไห้ไม่หยุดหลังจากตกใจกลัว จนต้องนำเสื้อผ้าของเด็กออกไปข้างนอกเรียกหาผีสาง
และเมื่อเรียกหา ทุกอย่างก็กลับเป็นปกติทันที
โจวจินหนานขมวดคิ้วแน่น ปล่อยวางความคิดที่ยุ่งเหยิงในใจและเดินเข้าไปในห้อง
เขานั่งลงข้างเตียง มองดูสวี่ชิงที่กำลังหลับสนิท ไม่ง่ายเลยที่เธอจะหลับสนิททั้งที่จิตใจเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
เขาเอื้อมมือออกไปเกลี่ยผมหน้าม้าที่แตกกระเจิงอย่างนุ่มนวล ใช้ปลายนิ้วสัมผัสแก้มใส ทั้งที่ภายในใจยังรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของเฟิงซูฮวาที่ว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากันไม่ได้นาน
เว้นแต่จะมีบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เขาจะไม่ยอมปล่อยสวี่ชิงไปอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นความเข้าใจผิดครั้งใหญ่หลวงระหว่างพวกเขาได้รับการแก้ไขแล้ว จะมีอุปสรรคอะไรที่ไม่สามารถเอาชนะได้อีก?
โจวจินหนานรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อคิดเช่นนั้น นึกถึงสีหน้าแน่วแน่ของสวี่ชิงที่พยายามจะปกป้องเขา ยกโทษให้เขาโดยที่ไม่รู้ลำบากใจ ดังนั้นเธอก็จะต้องชอบเขาเช่นกัน
เมื่อคิดเช่นนั้นก็รู้สึกสบายใจขึ้น ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้าง ๆ สวี่ชิง โอบแขนรอบตัวเธอ จ้องมองเธอโดยที่ไม่รู้สึกง่วง
สวี่ชิงตกอยู่ในความฝันที่ยุ่งเหยิง และต้องการจะตื่นขึ้น ทว่าเธอไม่สามารถตื่นได้ และรู้สึกถึงความเปียกชื้นบริเวณใบหน้า
ภายในใจคิดสงสัยว่าไป๋หลางอาจจะนอนอยู่ด้านข้างและเลียหน้าเธอหรือเปล่า?
เธอปัดป่ายมืออย่างแรงเพื่อขับไล่ไป๋หลาง แต่กับสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ไล่ระดับลงมา เลื่อนผ่านจมูกไปยังริมฝีปาก ดูดอยู่สักพักหนึ่งและเลื่อนต่ำลงไปอีกครั้ง…
สวี่ชิงตื่นตระหนก ดีดดิ้นพยายามจะตื่นขึ้นมา แต่ทันใดนั้นกลับเงียบสงบลง เพราะลมหายใจอันร้อนผ่าวนั้นช่างคุ้นเคยเหลือเกิน
กลายเป็นโจวจินหนาน!
อีกทั้งยังปล่อยให้เขากำเริบเสิบสาน เข้ามายุ่งกับความฝันท่ามกลางหมอกควันที่ยังไม่จบสิ้น
ในความฝันยังคงยุ่งเหยิงอยู่มาก และรับรู้ได้ถึงเสียงเรียกครวญครางเบา ๆ “ชิงชิง ชิงชิง…”
เธอมองไปที่ต้นทางของเสียง และเห็นเพียงหมอกสีขาว ขยี้ตาอย่างแรง พยายามมองดูว่าใครอยู่ในหมอก แต่ความเจ็บแปลบกลับประทุขึ้นมากลางหน้าอก ทำให้เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงครวญคราง
เธอตบเข้าที่ใบหน้าของโจวจินหนานโดยไม่ทันได้คิด!
โจวจินหนานรีบลุกขึ้นนั่งตัวตรง ใช้ฝ่ามือกุมใบหน้าที่แสบร้อน
และตระหนักได้ว่าฝ่ามือของสวี่ชิงไร้ความปรานีมากเพียงใด
สวี่ชิงตบหน้าอีกฝ่ายจนได้สติตื่นขึ้นมา แต่เมื่อคิดได้ว่าเธอเพิ่งตบหน้าโจวจินหนานไป เธอก็ไม่กล้าตื่นขึ้นมาอีกเลย
เธอกล้าดีอย่างไรถึงได้ตบหน้าผู้ชายของตนเอง!
หากไม่ตื่นขึ้นมาคงไม่เป็นไร เธอกระพริบตาถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จ้องมองไปที่โจวจินหนาน และแสร้งทำเป็นสับสน “เกิดอะไรขึ้นกับหน้าคุณ? ฉันฝันว่าไป๋หลางเลียหน้าฉัน”
ใบหน้าของโจวจินหนานมืดหม่นลงทันที และเดินออกไปข้างนอกเงียบ ๆ
สวี่ชิงรู้สึกได้ว่าโจวจินหนานกำลังโกรธจัด เธอจึงจัดแจงเสื้อผ้าและลุกขึ้นนั่ง “คุณจะไปไหน?”
“ไปฆ่าไป๋หลาง!”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เย้ย พี่หนานใจเย็น ไป๋หลางทำไรผิดถึงได้จะไปฆ่าน้อง
เกิดเป็นหมาพี่หนานมันก็ลำบากหน่อยนะ
ไหหม่า(海馬)