เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 249 ความเศร้าของโจวจินหนาน
บทที่ 249 ความเศร้าของโจวจินหนาน
ขณะที่เหยียนจี้ชวนและโจวจินหนานสองคนถือของเต็มไม้เต็มมือเข้ามาให้บ้าน ก็มองเห็นเหยียนป๋อชวนลากตัวเจียงเสวี่ยอิงที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงออกไป อีกทั้งมุมปากของเจียงเสวี่ยอิงยังมีเลือดไหล สภาพน่าอนาถยิ่ง
โจวจินหนานจึงรู้ได้ว่าการคาดเดาของสวี่ชิงถูกต้อง
เหยียนจี้ชวนไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์นักจึงตกอกตกใจ “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
พอหยวนฮวาเห็นเหยียนจี้ชวน นางก็พูดอย่างร้อนใจ “เร็ว รีบบอกพี่ใหญ่ไปทีว่าเรื่องของพี่เสวี่ยอิงจะต้องมีอะไรผิดพลาด”
เหยียนจี้ชวนเป็นคนฉลาดเข้าใจอะไรง่าย แม้จะไม่เข้าใจสถานการณ์ แต่ก็ชัดเจนว่ายืนอยู่ข้างเหยียนป๋อชวน “โอ้ ในเมื่อมีบางอย่างผิดพลาด งั้นพวกคุณก็กลับไปถามให้ชัดแล้วกันครับ พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ผมจะอยู่นี่แหละ”
เหยียนป๋อชวนพาเจียงเสวี่ยอิงออกไปขึ้นรถด้านนอกด้วยใบหน้าดำทะมึน หยวนฮวาเห็นเหยียนจี้ชวนไม่สนใจ ก็ทำได้เพียงรีบเดินตามไป
ในสายตานาง แม้ว่าเจียงเสวี่ยอิงจะเรื่องทำไม่ถูกต้อง แต่ถ้าไม่ได้ทำร้ายใครจนถึงแก่ชีวิตก็สามารถให้อภัยได้
อีกอย่างตอนนั้นเหยียนป๋อชวนต้องการจะแต่งงานกับหญิงสาวชาวเหมียวแห่งมณฑลยูนนานจริง ๆ ซึ่งนางย่อมไม่ยินยอมอยู่แล้ว
รอเหยียนป๋อชวนขับรถบึ่งออกไปราวลูกธนูหลุดจากแหล่ง เหยียนจี้ชวนถึงค่อยกลับเข้ามาในลานบ้าน มองสายตาของไป๋หลางที่จ้องโถใบหนึ่งแล้วก็ตกใจ “คางคกน่าเกลียดพวกนั้นมาได้ยังไงเนี่ย”
สวี่ชิงเองก็สงสัยเช่นกัน เมื่อวานตอนที่ปรึกษากับคุณย่า เฟิงซูฮวาบอกว่ามีวิธีที่จะทำให้เจียงเสวี่ยอิงปริปากออกมาได้ จึงออกไปตั้งแต่เช้าตรู่ คาดไม่ถึงว่าจะหาคางคกน่าเกลียดแบบนี้มาได้
ของแบบนี้ไม่น่าจะหาเจอได้ในมณฑลนี้ และไม่รู้เหมือนกันว่าเฟิงซูฮวาหามันมาได้อย่างไร
เฟิงซูฮวายกยิ้มเดินไปหา ใช้ไม้เท้าเขี่ยคางคกในโถ “อย่ามองว่ามันหน้าตาน่าเกลียดอย่างเดียวเชียว ถ้าเป็นแผลหรือเป็นหนอง สามารถนำผิวของคางคกมาประคบปากแผลทำให้แผลหายไวเชียวล่ะ”
เหยียนจี้ชวนตัวสั่นระริกอย่างอดไม่ได้ “น่าขยะแขยงเกินไปแล้ว”
เฟิงซูฮวาให้สวี่ชิงนำแผ่นอิฐมาปิดโถเอาไว้ “เลี้ยงไว้สักสองวัน กลับมาตากแดดทำเป็นยาดีอย่างหนึ่งได้”
เหยียนจี้ชวนมองสวี่ชิงหยิบแผ่นอิฐมาปิดฝาโถแล้วถึงค่อยถามว่าสรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับสวี่ชิง
สวี่ชิงเล่าให้เขาฟังอย่างสังเขปรอบหนึ่ง “ฉันแค่สงสัยและก็อาศัยสัญชาตญาณน่ะค่ะ สายตาหล่อนตอนที่มองฉันดูเยือกเย็นและน่ากลัว แถมยังเอาแต่ถามฉัน คิดว่าน่าจะไม่ยอมแพ้ล่ะมั้งคะ”
เหยียนจี้ชวนฟังจบก็แทบไม่อยากเชื่อเล็กน้อย “คิดไม่ถึงว่าเจียงเสวี่ยอิงจะรู้วิชากู่ด้วย ฉันดูไม่ออกเลยจริง ๆ”
เฟิงซูฮวาเลิกคิ้วพร้อมกับสายตาที่ดูอ่อนโยนลง “หล่อนรู้แค่ผิวเผินเท่านั้น เพราะหล่อนได้รับพิษก็เลยต้องเรียนรู้”
เหยียนจี้ชวนพลันตอบสนองทันที “หล่อนทำร้ายเย่หนาน เย่หนานเองก็วางพิษใส่หล่อนเช่นกัน แต่พิษนี้น่าจะซับซ้อนพอตัว หล่อนถึงดูขาวซีดอ่อนแอเหมือนขาดสารอาหารอย่างไรอย่างนั้น”
เมื่อกล่าวแบบนี้ก็ยิ่งน่าประหลาดใจในตัวแม่ของสวี่ชิงมากขึ้นแล้ว
ตกเย็นเหยียนป๋อชวนได้มาหาด้วยสีหน้าย่ำแย่อย่างมาก
สวี่ชิงเห็นเหยียนป๋อชวนแล้วก็อดกำมือแน่นด้วยความคาดหวังเปี่ยมล้นไม่ได้ เธอมองเขาอย่างตื่นเต้น ไม่รู้ว่าเขาถามข้อมูลอะไรมาจากเจียงเสวี่ยอิงได้บ้าง
เหยียนจี้ชวนที่กำลังเล่นหมากล้อมกับโจวจินหนานก็หยันกายขึ้นเช่นกัน “เป็นอย่างไรบ้าง?”
เหยียนป๋อชวนขมวดคิ้ว “นั่งลงแล้วค่อยพูด”
หลังจากพวกเขานั่งลง เหยียนป๋อชวนก็เงียบไปครู่หนึ่ง “พรุ่งนี้ฉันจะกลับปักกิ่งก่อน ดูว่าจะลาหยุดยาวไปยูนนานสักครั้งได้ไหม ส่วนเจียงเสวี่ยอิงก็ให้อยู่ที่นี่ไปก่อน”
เหยียนจี้ชวนประหลาดใจ “หล่อนพูดว่าอะไรบ้าง?”
เหยียนป๋อชวนพยักหน้า “หล่อนบอกว่า หลังจากฉันพบรักกับผู้หญิงยูนนานคนหนึ่ง ก็แอบไปหาครั้งหนึ่ง ต่อมาส่งพัสดุไปให้สองครั้ง ทั้งหมดส่งไปให้แม่ของสวี่ชิง ในนั้นยังมีจดหมายเขียนว่าเป็นคู่หมั้นของฉัน เพียงแต่เย่หนานไม่สนใจ”
เย่หนานที่อายุได้สิบแปดปีในตอนนั้นมีนิสัยและสามโลกทัศน์บิดเบี้ยว เป็นคู่หมั้นของคนอื่นแล้วอย่างไร?
ขอแค่เป็นผู้ชายที่หล่อนชอบ แย่งมาก็ได้แล้ว
เพราะแบบนี้เหยียนป๋อชวนจึงต้องเสียความพยายามในการเกลี้ยกล่อมสอนหล่อนไปมาก ทุกครั้งที่หล่อนทำผิด เหยียนป๋อชวนก็จะคอยสอนหล่อนไม่หยุด
ตอนนี้มองย้อนกลับไปหล่อนเองก็นิสัยดีขึ้นมากแล้ว อย่างน้อยเจียงเสวี่ยอิงก็ไม่อาจยั่วยุหล่อนได้อย่างราบรื่นนัก
เมื่อเจียงเสวี่ยอิงเห็นว่าของที่ส่งไปไม่อาจทำอะไรเย่หนานได้ อีกทั้งความสัมพันธ์ของทั้งสองคนยังดูเหมือนจะดีขึ้น หล่อนก็ตัดสินใจจะไปยูนนานด้วยตัวเอง
พอดีกับที่เหยียนป๋อชวนได้รับหน้าที่ปฏิบัติภารกิจลับในตอนใต้ของเสฉวน และทิ้งข้อความให้เย่หนานว่ารอเขา
เจียงเสวี่ยอิงจึงไปหาเย่หนานแล้วไปพูดกับหล่อน บอกหล่อนว่าตอนนี้เป็นยุคสมัยไหนแล้ว หล่อนกับเหยียนป๋อชวนเป็นสหายปฏิวัติ เป็นคนร่วมอุดมการณ์เดียวกัน
แต่เย่หนานถือว่าเป็นคนบ้านป่าเมืองเถื่อน
ผลลัพธ์จึงโดนเย่หนานตบไปฉากหนึ่ง เจียงเสวี่ยอิงสู้ไม่ได้ สุดท้ายก็ใช้วิธีสกปรก เลียนแบบลายมือของเหยียนป๋อชวนบอกให้หล่อนไปเจอกันที่หลังเขา
เย่หนานผู้ใสซื่อคิดว่าเหยียนป๋อชวนกลับมาแล้ว จึงรีบแต่งหน้าวิ่งไปตามนัดหมายอย่างดีใจ ผลลัพธ์คือถูกกับดักของเจียงเสวี่ยอิง ถูกวางยาพิษและได้รับบาดเจ็บที่ขา
ส่วนเจียงเสวี่ยอิงก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าใด ไม่รู้ว่าถูกเย่หนานวางยาพิษตอนไหนเช่นกัน
สวี่ชิงฟังจบแล้วในใจก็รู้สึกปวดหนึบ เธอกับแม่เหมือนกันตรงที่เมื่อมีความรักก็จะใสซื่อเกินไปเล็กน้อย เพียงเพราะคนอื่นส่งจดหมายปลอมมาให้ฉบับหนึ่งก็เชื่อไปหมด
แต่แม่ของเธอฉลาดและเด็ดขาดกว่าเธอมาก
เหยียนจี้ชวนฟังจบก็รู้สึกสงสัย “เจียงเสวี่ยอิงมาอยู่บ้านพวกเราตั้งแต่อายุสิบสี่ และไม่เคยจากไปมาโดยตลอด หล่อนไปยูนนานคนเดียว จะเป็นไปได้ยังไงที่หล่อนจะสามารถลอบทำร้ายเย่หนานได้สำเร็จล่ะ?”
เนื่องจากหล่อนก็ไม่คุ้นพื้นที่ด้วย
เหยียนป๋อชวนมุ่นคิ้ว “แสดงว่าหล่อนกับคนที่ยูนนานยังไม่ได้ตัดขาดการติดต่อ หากถามมากกว่านี้หล่อนคงไม่พูดอะไรอีก มีแต่ฉันต้องไปตรวจสอบเอง”
เหยียนจี้ชวนทอดถอนใจ “คิดไม่ถึงว่าว่าพี่จะเนื้อหอมขนาดนี้ ทำให้ผู้หญิงกินน้ำส้มสายชูต่อสู้กันเพื่อพี่ได้ สุดท้ายยังสร้างเรื่องใหญ่โตถึงขนาดนี้ด้วย”
เหยียนป๋อชวนมองเหยียนจี้ชวนแวบหนึ่ง มองสวี่ชิงด้วยสายตาเศร้าเสียใจนิดหน่อย “เป็นพ่อเองที่ไม่ได้ปกป้องแม่ของลูก คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พ่อมันไม่ได้เรื่องเอง”
พูดอยู่ก็อดตาแดงไม่ได้ น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย
สวี่ชิงกุมมือเขาปลอบใจว่า “พ่อคะ อย่าโทษตัวเองเลย ใครบ้างจะอยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
ยิ่งไม่มีใครคิดว่าชีวิตจะถูกงูพิษจับตาอยู่ข้าง ๆ มาโดยตลอด
เหยียนป๋อชวนกับเหยียนจี้ชวนนั่งมาจนเกือบสี่ทุ่มถึงค่อยพากันกลับ
สวี่ชิงถามเหยียนป๋อชวนว่าพรุ่งนี้จะกลับไปปักกิ่งเมื่อไร หลังทราบเวลาแล้วก็รอให้ทั้งสองกลับไป จากนั้นกลับเข้าห้องมาเริ่มทำงาน หยิบรองเท้าที่ทำไปแล้วครึ่งหนึ่งออกมาเตรียมจะทำคืนนี้ให้เสร็จ
โจวจินหนานหาชามใส่อาหารให้ไป๋หลางใหม่ หลังจากเอาอกเอาใจมันสักพักก็เข้าห้องไปล้างหน้าแปรงฟัน ก็เห็นสวี่ชิงนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง เริ่มทำการเย็บพื้นรองเท้า
คิดแล้วก็เดินเข้าไปนั่งลง “ผมมีใส่อยู่แล้ว ไม่ต้องรีบนั่งทำหรอก”
สวี่ชิงโบกมือ “ไม่ได้ทำให้คุณ ทำให้พ่อของฉันสองคู่ ฉันเห็นรองเท้าเขามีแต่รองเท้าหุ้มส้น ยูนนานทางนั้นอากาศร้อน ใส่รองเท้าหนังมันอับเกินไป”
โจวจินหนานสางผม มองสวี่ชิง “ไม่ใช่ของผมเหรอ รองเท้านี้ไม่ใช่ว่าทำตามขนาดเท้าผมเหรอ?”
สวี่ชิงยกยิ้ม “ใช่น่ะสิคะ ฉันเห็นเท้าของพ่อฉันขนาดไม่ต่างกับเท้าคุณเท่าไหร่ น่าจะไม่มีปัญหา”
โจวจินหนานเศร้าเล็กน้อย มองเข็มในมือสวี่ชิงพลางรู้สึกว่าตั้งแต่พ่อตากลับมา ก็ไม่ใช่เรื่องดีสักนิดเดียว!
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เป็นไปได้ไหมว่าเย่เหม่ยกับเจียงเสวี่ยอิงจะรู้จักกัน?
พี่หนานขี้น้อยใจจริง เหมือนเด็กโดนแย่งความรักงี้เหรอ
ไหหม่า(海馬)