เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 243 เธอช่างหน้าตาเหมือนแม่ของเธอจริง ๆ
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80
- บทที่ 243 เธอช่างหน้าตาเหมือนแม่ของเธอจริง ๆ
บทที่ 243 เธอช่างหน้าตาเหมือนแม่ของเธอจริง ๆ
ตอนสวี่ชิงได้ยินชื่อเจียงเสวี่ยอิงก็ยิ่งตื่นตะลึง
มาจากปักกิ่ง แล้วก็ชื่อเจียงเสวี่ยอิงด้วย
คือลูกบุญธรรมของบ้านตระกูลเหยียน เจียงเสวี่ยอิง?
พอเจียงช่านช่านได้ยินก็มองเจียงเสวี่ยอิงด้วยความกระตือรือร้น “คุณหมอเจียงคะ คุณแม่ของฉันเป็นอย่างไรบ้าง”
เจียงเสวี่ยอิงมองเจียงช่านช่าน น้ำเสียงเย็นชาอย่างยิ่ง “ได้ยินว่าเธอก็เรียนแพทย์มาไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนแรกถึงไม่ปฐมพยาบาลให้คนไข้”
เจียงช่านช่านตะลึงงันพักหนึ่ง เมื่อเผชิญหน้ากับสายตากดดันมีอำนาจของเจียงเสวี่ยอิง ก็อดเอ่ยปากอย่างขลาดเขลาไม่ได้ “ตอนนั้นฉันตกใจมาก อีกทั้งยังไม่มีอุปกรณ์อะไรด้วยค่ะ”
สายตาเจียงเสวี่ยอิงยิ่งเย็นชามากกว่าเดิม “ก็เพราะในสถานการณ์ที่คนไข้ถูกพบไม่ทันเวลาดำเนินการจัดการ ขั้นตอนการช่วยเหลือจึงทำให้เกิดการบาดเจ็บในช่องท้องสองครั้ง ม้ามก็แตก ช้ากว่านี้อีกหน่อยชีวิตแม่ของเธอก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว”
น้ำเสียงที่เข้มงวดพูดจบก็ให้เจียงช่านช่านหลีกทางจากไปอย่างรวดเร็ว
เจียงช่านช่านรู้สึกละอายใจเล็กน้อย น้ำตาคลอเบ้าแต่ไม่กล้าร้องไห้ออกมา อั้นเอาไว้จนหน้าแดง
ในใจสวี่ชิงคิดไม่หยุดว่าทำไมเจียงเสวี่ยอิงถึงมาอยู่เมืองหลวงในมณฑลได้
เหยียนป๋อชวนไม่ได้บอกว่าเธออยู่นี่ หรือไม่รู้ว่าเธอเองก็มาอยู่ในเมืองหลวงของมณฑลแล้ว
เธออดขมวดคิ้วมุ่นไม่ได้ ในใจไม่รู้ว่าทำไมถึงต่อต้านเจียงเสวี่ยอิงคนนี้อย่างมาก
โจวจินหนานสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของสวี่ชิง จึงโอบเธอแล้วถามเสียงเบา “เป็นอะไรไป”
สวี่ชิงส่ายหน้า “ไม่เป็นอะไรค่ะ แค่มีปัญหากวนใจฉันเรื่องหนึ่ง เดี๋ยวค่อยบอกคุณอีกทีแล้วกันค่ะ”
เนื่องจากโจวจินหนานรู้เรื่องซุบซิบมากกว่าสวี่ชิงนิดหน่อย ชั่วพริบตาเขาก็สามารถเดาออกแล้วว่าสวี่ชิงกำลังคิดอะไร แต่ตอนนี้เองก็ไม่ใช่เวลาจะมาพูดเรื่องนี้ จึงพยักหน้า “อืม น้าสะใภ้ถูกเข็นไปที่ห้องไอซียูแล้ว เป็นไปได้มากว่าอีกไม่นานก็คงฟื้นแล้ว”
สวี่ชิงก้มหน้า “งั้นรอหล่อนฟื้นแล้ว ถ้าไม่มีอะไรพวกเราก็กลับบ้านกันดีไหมคะ“
โจวจินหนานตอบรับคำหนึ่งว่าได้ แล้วชำเลืองมองเกาจ้านที่ยืนอยู่ไม่ไกล
เวลาผ่านไปค่อนนาน ผ่านไปครึ่งค่อนคืนในที่สุดก็เป็นเวลาตีสองกว่า ตู้เว่ยหัวก็ฟื้นขึ้นมาแต่กลับเรียกให้เกาจ้านไปหา
สวี่ชิงจ้องเกาจ้านเข้าไปในห้องพักพิเศษรู้สึกกระวนกระวายนิดหน่อย “จบแล้ว ถ้าเกาจ้านตอบตกลงล่ะจะทำยังไง?”
โจวจินหนานกอดไหล่ของเธอเอาไว้ “วางใจได้ เกาจ้านไม่ตกลงหรอก”
สวี่ชิงปรายตามองเจียงช่านช่านที่นั่งร้องไห้มาโดยตลอดอยู่ข้างกันแวบหนึ่ง จนรู้สึกจนปัญญาและหมดแรง
เกาจ้านเข้าไปในห้องผู้ป่วยแล้วเดินไปที่เตียงผู้ป่วย มองจมูกที่ใส่เครื่องช่วยหายใจของตู้เว่ยหัว เงียบพักหนึ่งถึงค่อยเอ่ยปากเรียก “น้าสะใภ้”
ตู้เว่ยหัวค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เอ่ยปากอย่างยากลำบากเล็กน้อย “เสี่ยวเกา เธอมาได้แบบนี้ฉันดีใจมาก…”
เกาจ้านขมวดคิ้ว “นี้เป็นเรื่องที่ผมสมควรทำครับ”
ตู้เว่ยหัวส่ายหน้าตอนเอ่ยปากพูด ลมหายใจถี่กระชั้นเล็กน้อย “ไม่ เธอมาได้ก็หมายความว่าเหล่าเจียงมองคนไม่ผิดตั้งแต่แรก ต่อไปช่านช่านแต่งกับเธอแล้ว พวกเราก็หมดห่วง ฉันรู้ว่าครั้งนี้ฉันคงอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว….”
“แต่…พวกเราไม่ห่วงเรื่องช่านช่านไม่ได้ เกาจ้าน…..ถ้าเป็นไปได้…….”
เกาจ้านไม่รอให้ตู้เว่ยหัวพูดจบ ก็ตัดบทอย่างรวดเร็ว “น้าสะใภ้วางใจ ผมจะช่วยช่านช่านหาบ้านสามีที่ดีให้ และจะไม่ให้ใครรังแกเธอได้เช่นกัน”
ตู้เว่ยหัวยังมีคำที่อยากจะพูด แต่กลับพูดไม่ออก ได้แต่จ้องตาเกาจ้าน
เกาจ้านเงียบพักหนึ่ง “น้าสะใภ้ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรอื่นแล้ว ผมขอตัวออกไปก่อน คุณรักษาตัวด้วย คุณหมอบอกว่าคุณไม่มีปัญหาอะไรใหญ่แล้ว เหลือแค่เพียงใช้เวลาพักฟื้นสักระยะก็หายแล้ว”
ตอนเตรียมหมุนตัวจะไป ตู้เว่ยหัวก็พูดขึ้นอย่างกะทันหัน “ฉันรู้เนื้อหาของคำสั่งหมายเลขหนึ่ง และก็รู้ว่าทำไมโจวจินหนานถึงได้แต่งงานกับสวี่ชิง และยิ่งรู้ว่าพวกเธอทำมากมายขนาดนี้เพื่อปกป้องใคร”
เกาจ้านหันกลับมามอง สายตาเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ดังนั้นน้าสะใภ้จึงคิดจะข่มขู่ผมเหรอ ใช้ความปลอดภัยของคนมากขนาดนี้เพื่อขู่ผมงั้นเหรอ?”
ตู้เว่ยหัวหายใจถี่ สักพักถึงจะกลับมาปกติ ตอนพูดหอบหนักอย่างรุนแรง “ฉันเองก็ไม่อยากทำ ช่านช่านเป็นเด็กรู้ความ ทำไมเธอถึงไม่เคยมองเธอเลย ถ้า…”
เกาจ้านพลันหลุดหัวเราะเสียงเย็นชา มือซ้ายล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบมีดพับสวยงามออกมาเล่มหนึ่ง หยิบมีดออกมา แล้วจี้ไปที่แขนขวาของตัวเองอย่างรวดเร็ว
เดิมทีแขนขวาที่ยังมีผ้าพันแผลพันอยู่ ก็พลันมีเลือดไหลซึมออกมา
ลอดผ่านง่ามนิ้วแล้วหยดลงบนพื้นด้านล่าง
ตู้เว่ยหัวเบิกตาอย่างคาดไม่ถึง ทำเอานางพูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียวนานครึ่งค่อนวัน
เกาจ้านยิ้มเย็น “น้าสะใภ้ ตั้งแต่พวกเราเข้ากองทัพ ชีวิตและหน้าที่ก็ถูกผูกเอาด้วยกัน คำสั่งสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งหมด คุณคิดจะใช้วิธีนี้บังคับผม งั้นผมก็ได้เพียงบอกคุณว่าภารกิจรั่วไหล งั้นพวกเราก็ต้องตายในหน้าที่ด้วยกันทั้งหมด!”
“ถ้าคุณยังคงขู่ผม งั้นวันนี้ผมจะมอบชีวิตของผมคืนให้คุณ”
พูดอยู่ก็ยกมีดขึ้นแล้วปักที่ต้นขาอย่างแรง
ตู้เว่ยหัวร้องเรียกคำหนึ่งอย่างหวาดกลัว “เกาจ้าน!”
หล่อนไม่อยากบีบบังคับเกาจ้านจนเขาต้องตาย และไม่ได้จะไปเปิดโปงภารกิจจริง ๆ เพียงแค่คิดจะขู่เกาจ้านให้เขาแต่งงานกับเจียงช่านช่านลูกสาวตนเท่านั้น เนื่องจากเจียงช่านช่านชอบเขาถึงขนาดนั้น
อีกทั้งในสายตาของหล่อน ไม่ว่าจะด้านไหน เจียงช่านช่านก็เพียบพร้อมเหมาะสมกับเกาจ้านทุกอย่าง
เสียงร้องด้วยความตกใจของตู้เว่ยหัวเรียกให้พยาบาลเดินเข้ามา กระวีกระวาดพาเกาจ้านออกไปจากห้องพักผู้ป่วย
สวี่ชิงเห็นในมือเกาจ้านโชกไปด้วยเลือดก็ตกใจเช่นกัน รีบตามไปล้อมเขาพร้อมกับโจวจินหนาน
ไม่รอให้พวกเขาพูด เกาจ้านก็ใช้สายตาเย็นชามองไปทางเจียงช่านช่านด้านข้างก่อน “ฉันไม่อยากใช้หนี้ให้พวกเธอตระกูลเจียงไปตลอดชีวิต ดังนั้นเธอต้องการอะไรก็สามารถบอกมาได้ แม้ว่าจะเป็นชีวิตของฉันก็ย่อมได้! แต่ฉันขอปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเธอ”
เจียงช่านช่านทั้งตกใจทั้งกลัวมองเกาจ้าน นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนเคยเห็นเกาจ้านเย็นชาขนาดนี้
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าพวกเขาจะก่อกวนขนาดไหน แม้ว่าเกาจ้านจะปฏิเสธอย่างเย็นชา แต่ในสายตาของเขาก็ไม่มีประกายความชิงชังอย่างในตอนนี้เลย เหมือนหลังจากเสียเลือดก็โกรธอย่างกระหาย
อดถอยหลังสองสามไม่ได้ ส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่ใช่นะ เกาจ้าน ฉันไม่ได้อย่างนั้น”
เกาจ้านกลับไม่มีความอดทนจะฟังที่หล่อนพูด “นี้คือครั้งสุดท้าย!”
พูดจบก็ถูกโจวจินหนานกับพยาบาลประคองไปเย็บแผล
แม้ว่าสวี่ชิงจะรู้สึกว่าวิธีการของเกาจ้านจะบ้าบิ่นไปหน่อย แต่เมื่อมองสีหน้าตกใจจนซีดขาวของเจียงช่านช่าน เธอก็คิดว่าได้ผลทีเดียว
มองโจวจินหนานกับเกาจ้านเข้าไปในห้องทำแผลแล้ว ถึงค่อยหันมาหาเจียงช่านช่าน “ความรู้สึกไม่ใช่ว่าจะใช้แต้มต่ออะไรมาแลกได้ การพวกคุณทำแบบนี้ ก็จะยิ่งทำให้เกาจ้านหมดความอดทนเสี้ยวสุดท้ายกับพวกคุณ”
เจียงช่านช่านร้องไห้ขึ้นมา “คุณไม่เข้าใจ!”
นัยน์ตาสวี่ชิงแผ่ประกายเย็น น้ำเสียงเองก็เย็นชายิ่ง “ฉันต้องไม่เข้าใจอยู่แล้ว แต่ฉันรู้ว่าตอนนี้เหตุที่คุณยังสามารถพูดกับเกาจ้านได้ เป็นชีวิตของพ่อคุณที่แลกมา แต่เจตนาแรกของพ่อคุณแล้ว ต้องการให้มันลงเอ่ยแบบนี้จริงเหรอ ผู้หญิงคนหนึ่งที่แม้แต่รักตัวเองยังทำไม่ได้ ยังต้องการให้คนอื่นรักคุณอีกอยู่หรือ?”
พูดจบก็หมุนตัวเตรียมไปห้องทำแผลก็เห็นเจียงเสวี่ยอิงที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไร่ยืนอยู่ข้างเธอ
ใบหน้าที่ไร้หน้ากากอนามัยของเจียงเสวี่ยอิงนั้นขาวมาก ขาวแบบอมชมพูระเรื่อ เงาร่างใต้แสงไฟราวกับว่ากำลังโปร่งแสงอยู่
กระทั่งวินาทีสุดท้าย แสงเงาสลัวๆก็สามารถทะลุร่างของเธอได้
เจียงเสวี่ยอิงจ้องสวี่ชิงด้วยสายตาเย็นยะเยือกคู่นั้น เอ่ยเสียงเบา “เธอช่างหน้าตาเหมือนแม่ของเธอจริง ๆ!”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
นั่นนน คู่แข่งของรุ่นแม่ปรากฏตัวแล้ว จะทำยังไงต่อไปนะ
ไหหม่า(海馬)