เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 242 เพียงแวบเดียวสวี่ชิงก็มองเห็นหล่อนแล้ว
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80
- บทที่ 242 เพียงแวบเดียวสวี่ชิงก็มองเห็นหล่อนแล้ว
บทที่ 242 เพียงแวบเดียวสวี่ชิงก็มองเห็นหล่อนแล้ว
ฉินกุ้ยจือเดินอย่างฉุนเฉียวพุ่งตัวไปยังบ้านตระกูลสวี่ หลังจากหลี่ต้าหย่งกับสวี่หรูเยว่แต่งงาน ทั้งสองก็อาศัยอยู่ที่ตระกูลสวี่
ช่วงนี้ฟางหลานซินเองก็วางแผนว่าจะย้ายกลับไปบ้านเก่า เพียงแต่บ้านที่นั่นไม่มีคนอยู่หลายปี ยามฝนตกหลังคาจึงรั่วซึม
ฟางหลานซินจึงคิดจะซ่อมหลังคาเรียบร้อยในสองวันนี้ จากนั้นจะพาหลี่ต้าหย่งกับสวี่หรูเยว่ย้ายไป
ที่จริงบ้านในอะพาร์ตเมนต์นี้อยู่ไม่ไหวแล้ว เพียงเดินออกไปรอบหนึ่ง สายตาของคนพวกนั้นที่กวาดมองมาก็เหมือนมีดทิ่มแทงทั่วร่าง
ทำให้หล่อนจำใจต้องแทรกพื้นดินหนี ถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นในตอนกลางวันก็จะไม่ออกไปข้างนอก
อีกทั้งช่วงนี้ทัศนคติต่อหลี่ต้าหย่งก็เปลี่ยนไปไม่น้อย ที่สำคัญตอนเขาออกไปทุกครั้งก็มักจะมีเนื้อถือกลับมา แถมยังให้เงินหล่อนสองร้อยหยวน ทั้งยังสัญญาว่าไว้รอให้ย้ายไปบ้านเก่าจะซื้อทีวีอีกเครื่องหนึ่ง
ปฏิบัติกับสวี่หรูเยว่ก็ยิ่งเหมือนปฏิบัติกับผู้อาวุโส จะกินข้าวก็ตักให้ก่อน ถึงพลบค่ำก็เข้าห้องไปตักน้ำล้างเท้าให้
ฟางหลานซินพลันรู้สึกพึงพอใจนิดหน่อย ในตอนที่ต้องเจอกับสถานการณ์ยากลำบาก แบบนี้นับว่าเป็นบทสรุปที่ดีมากแล้ว
ตอนกินข้าวมื้อเย็นเสร็จกำลังล้างจาน ฟางหลานซินก็ถือโอกาสตอนหลี่ต้าหย่งออกไปจัดการธุระข้างนอกเริ่มสั่งสอนสวี่หรูเยว่ “ฉันดูแล้วหลี่ต้าหย่งเขาอยากจะใช้ชีวิตด้วยกันกับลูกจริงๆ ต่อไปลูกเองก็ต้องทำตัวดี ๆ อย่าใช้แต่อารมณ์ แล้วนี่ไม่ได้นอนบนเตียงเดียวกันกับหลี่ต้าหย่งเหรอ?”
ใบหน้าของสวี่หรูเยว่แสดงความรังเกียจ “เท้าเขาเหม็นจะตายค่ะแม่”
ฟางหลานซินจ้องตาหล่อนแวบหนึ่ง “ลูกดูสิว่าตอนนี้ลูกอยู่ในสภาพแบบไหน ยังคิดจะหาคนแบบไหนได้อีก รอให้พวกเราย้ายไปบ้านเก่า หลี่ต้าหย่งสามารถหาเงินได้ บ้านยังจะซื้อทีวีอีก แบบนี้คนพวกนั้นมีแต่จะอิจฉาลูก”
ตลอดมาหล่อนคิดว่าความจนน่าตลกไม่เท่าโสเภณี* ประสบการณ์ผ่านความอดอยากทำให้ในสายตาของหล่อนนั้นอย่างอื่นก็ไม่สำคัญเท่ากับการมีเงิน
*หมายถึง สังคมบูชาเงิน โสเภณีในที่นี่ไม่ใช่สาวขายบริการแต่หมายถึงการกระทำผิดศีลธรรมไม่แยกถูกผิดขอแค่มีเงิน
สวี่หรูเยว่นิ่วหน้าไม่พูดไม่จา ตอนนี้หล่อนเหมือนกับในตอนนั้น ทั้งรังเกียจและขยะแขยงหลี่ต้าหย่ง และทั้งหวังว่าเขาจะมาดูแลตัวเองได้
ฟางหลานซินมองสีหน้าดูถูกเต็มใบหน้าของสวี่หรูเยว่ก็คิดจะเอ่ยปาก แต่ได้ยินเสียงทุบประตูดังสะท้านฟ้าจากประตูห้องรับแขกเสียก่อน
หล่อนตกใจจนมือไม้อ่อน ถ้วยชามตะเกียบตกลงไปในอ่าง
ถึงอย่างนั้นก็ยังคิดว่าสวี่จื้อกั๋วกลับมาแล้ว แม้จะไม่ได้เจอหน้าอีกฝ่ายมานาน แต่คนแรกที่หล่อนคิดถึงยามได้ยินเสียงเคาะประตูก็คือสวี่จื้อกั๋ว
ชะงักพักหนึ่ง ถึงค่อยเดินไปเปิดประตู
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นฉินกุ้ยจือพุ่งเข้ามา “หลี่ต้าหย่ง! หลี่ต้าหย่ง แกออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้”
ฟางหลานซินมุ่นคิ้ว “ดึกดื่นป่านนี้จะตะโกนหาอะไร ต้าหย่งไม่อยู่”
สองวันก่อนฉินกุ้ยจือเพิ่งโผล่มาที่บ้านฟางหลานซิน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่คลายโทสะ มองฟางหลานซินเขม็ง “ยัยแก่แพศยาหน้าไม่อาย ตัวเองเป็นคนยังไงก็เลี้ยงลูกสาวออกมาแบบนั้น ฉันขอบอกเธอไว้นะฟางหลานซิน อย่าคิดว่าลูกชายบ้านฉันแต่งเข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านเธอ แล้วเธอจะอยู่อย่างสุขสบายได้”
คำว่าแพศยาคำเดียวก็ทำให้ฟางหลานซินโมโหจะหน้าแดงก่ำ “ฉินกุ้ยจือ ปากน่ะพูดให้มันดีๆหน่อย เรื่องที่เธอพังบ้านของฉัน ฉันยังไม่คิดบัญชีกับเธอเลย วันนี้เธอก็ยังมาหาเรื่องอีก งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน”
ฉินกุ้ยจือรูปร่างสูงใหญ่มีเรี่ยวมีแรง ตรงเข้าไปหาฟางหลานซินสองก้าว “ไม่เกรงใจเหรอ มาสิ! ฉันอยากจะเห็นว่าเธอจะไม่เกรงใจยังไง”
สองคนปะทะฝีปากแล้วก็เริ่มผลักกัน สุดท้ายฟางหลานซินก็จิกผมของฉินกุ้ยจือ ฉินกุ้ยจือเองก็ข่วนหน้าฟางหลานซิน
ทั้งสองตรงเข้าโรมรันพันตูพัลวัน สวี่หรูเยว่เห็นแม่ตัวเองเสียเปรียบก็พุ่งเข้าไปช่วยเหลือ
ฉินกุ้ยจือผลักสวี่หรูเยว่ทีเดียว ตัวคนก็กวาดของบนโต๊ะน้ำชาจนแตก
บนโต๊ะน้ำชามีโหลใส่ของดองที่เปิดค้างไว้โหลหนึ่ง และสวี่หรูเยว่ก็ล้มคว่ำทับลงไป…
………………..
สวี่ชิงกับโจวจินหนานกลับมาถึงบ้านก็นอนหลับไม่สนิท เดิมทีวางแผนจะตื่นเช้า แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเพิ่งเอนตัวลงนอน เกาจ้านก็วิ่งมาหาแล้ว
บอกว่าตู้เว่ยหัวบาดเจ็บหนักอยู่ที่โรงพยาบาล จึงมาเรียกโจวจินหนานให้ไปด้วยกัน
พอสวี่ชิงได้ยินว่าเป็นตู้เว่ยหัวก็รีบลุกขึ้นมาเปลี่ยนชุดเช่นกัน เนื่องจากหล่อนเป็นภรรยาของหัวหน้าหน่วยพวกโจวจินหนาน และเจียงช่านช่านยังชอบเกาจ้านด้วย ตอนนี้ได้รับบาดเจ็บหนัก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปดูหน้ากัน ถึงแม้ตอนนี้เกาจ้านจะเป็นฝ่ายถูกกระทำมากสุดก็ตาม
ดังนั้นเธอจึงจะตามไปดู ไม่อยากให้เกาจ้านตกอยู่ในสถานการณ์เป็นฝ่ายถูกกระทำ ทำให้ตัดสินใจทำเรื่องที่ตัวเองต้องเสียใจภายหลัง
โจวจินหนานช่วยสวี่ชิงสวมเสื้อคลุม “พวกเราไปเยี่ยมหน่อยเถอะ หากไม่มีปัญหาก็กลับมาเร็วหน่อย”
ที่สำคัญเขากังวลว่าการตั้งครรภ์และอดนอนแบบนี้จะส่งผลกระทบต่อร่างกายของสวี่ชิง
สวี่ชิงยิ้มแล้วตบแขนเขาปุๆ “วางใจเถอะค่ะ ถ้าฉันฝืนต่อไปไม่ไหวจะบอกคุณเอง”
ที่ทำให้สวี่ชิงประหลาดใจก็คือ ตอนพวกเขาอยู่ที่โรงพยาบาล ก็เจอเข้ากับหลี่ต้าหย่งกับสวี่หรูเยว่ พร้อมกับฟางหลานซิน
หลี่ต้าหย่งกอดสวี่หรูเยว่ ตรงอกเสื้อเต็มไปด้วยรอยเลือด กอดทั้งที่ตาแดงก่ำ สุดท้ายก็โผกอดฟางหลานซินแน่นแล้วร้องไห้ไปด้วย
สวี่ชิงมองทั้งสามคนที่กอดกันอยู่ตรงหน้าก็ชะงักไปพักหนึ่ง มองทั้งสามวิ่งไปทางห้องฉุกเฉินก็แปลกใจนิดหน่อย สวี่หรูเยว่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้อย่างไร
เพียงแต่เธอยังต้องไปหาตู้เว่ยหัว จึงไม่มีเวลาไปฟังเรื่องซุบซิบ พูดกับโจวจินหนานข้างกายว่า “พวกเรารีบไปกันเถอะค่ะ”
เกาจ้านที่มีนิสัยร่าเริงตลอดทางกลับเงียบเป็นพิเศษในตอนเดินกลับมา สีหน้าตอนนี้ยิ่งดำทะมึน
สวี่ชิงยังคิดได้ เกาจ้านเองก็คิดได้เช่นกัน ดังนั้นจึงหงุดหงิดเป็นพิเศษ
ทั้งสามเดินไปยังห้องผ่าตัดที่สามอย่างเงียบๆ หน้าห้องผ่าตัดมีเจียงช่านช่านนั่งตาบวมอยู่
มองเห็นโจวจินหนานกับเกาจ้าน ก็คล้ายกับมองเห็นยาชุบชีวิต “พี่โจว เกาจ้าน แม่ฉันท่าน…”
โจวจินหนานพูดปลอบใจคำหนึ่ง “เธออย่าร้องไห้ไปก่อนเลย น้าสะใภ้จะต้องไม่เป็นอะไร”
เจียงช่านช่านยิ่งร้องไห้อย่างหนัก “ตอนฉันมาส่งแม่ก็ช็อกไปแล้ว เพื่อปกป้องฉัน ท่านถึงได้บาดเจ็บหนักแบบนี้”
ร้องไห้ไปก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟังไปด้วย
เพราะใกล้จะถึงเทศกาลจงชิวแล้ว ตู้เว่ยหัวจึงพาเจียงช่านช่านกลับไปทำความสะอาดสุสานบรรพบุรุษ
ทางไปกานเป่ยส่วนใหญ่เป็นถนนบนภูเขาคดเคี้ยว ทางด้านหนึ่งยังเป็นร่องหุบเขาลึก
สองวันนี้ฝนตกถนนลื่น ตอนรถบัสกำลังหักล้อก็เกิดเสียหลัก ทำให้รถพลิกกลับไหลลงข้างทางตรงร่องหุบเขาลึก
ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด ตู้เว่ยหัวกอดลูกสาวไว้แน่น
เจียงช่านช่านไม่เป็นไร แต่หล่อนกลับได้รับบาดเจ็บสาหัส
สวี่ชิงฟังจบในใจก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้ แม้ตู้เว่ยหัวจะชอบกระทำเกินกว่าเหตุ แต่หล่อนก็รักลูกสาวจนยอมแลกด้วยชีวิตอย่างแท้จริง
เกาจ้านฟังตลอดจนจบโดยที่หัวคิ้วขมวดเป็นปมแน่นไม่พูดไม่จา โจวจินหนานเดิมทีเป็นคนปลอบใจคนไม่เป็น เพียงพูดสองประโยคอย่างแห้งแล้ง “เธอวางใจ โรงพยาบาลของเมืองหลวงในมณฑลเก่งมาก จะต้องไม่เป็นอะไรแน่”
เจียงช่านช่านร้องไห้ขึ้นมาอีก “แต่คุณหมอบอกว่าสถานการณ์ของแม่ฉันอันตรายมาก”
เพิ่งสิ้นเสียง ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก กลุ่มแพทย์ก็เดินออกมาจากข้างใน
คนที่เดินมาหน้าสุดเป็นหมอผู้หญิงร่างผอมสูงคนหนึ่ง ดวงตาภายตาหน้ากากอนามัยดูเย็นชา หางตาปรากฏริ้วรอย ชัดว่าไม่ใช่หญิงสาว
สวี่ชิงไม่รู้ว่าเหตุใดในบรรดาคนเยอะขนาดนี้ สายตาเธอกลับมองเห็นหมอหญิงคนนั้น ในแวบเดียวก็อดกวาดมองบนร่างของหล่อนไม่ได้
เจียงช่านช่านร้องไห้เดินเข้าไปถามสถานการณ์ของแม่ “คุณหมอ คุณหมอ ตอนนี้แม่ของฉันเป็นยังไงคะ พ้นขีดอันตรายแล้วใช่ไหม”
หมอข้างๆ คนหนึ่งอธิบายให้เจียงช่านช่านอย่างอดทนมาก “คุณอย่าเพิ่งร้อนใจ แม่ของคุณโชคดีมาก นี่คือคุณหมอเจียงเสวี่ยอิงจากปักกิ่ง เป็นผู้เชี่ยวชาญ…..”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
หรูเยว่โดนไปขนาดนั้นจะแท้งไหมเนี่ย สาหัสอยู่นะ
นี่คืออาหญิงที่แอบชอบพ่อชิงชิงอยู่สินะ
ไหหม่า(海馬)