เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 237 ใครบ้างที่ไม่มีเรื่องราวในวัยเด็ก
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80
- บทที่ 237 ใครบ้างที่ไม่มีเรื่องราวในวัยเด็ก
บทที่ 237 ใครบ้างที่ไม่มีเรื่องราวในวัยเด็ก
ข้อเสนอแนะที่ฉุกละหุกของหยวนฮวาทำให้ทุกคนตกตะลึง
เหยียนป๋อชวนที่รู้สึกถึงบรรยากาศแปลก ๆ เขาจึงไม่คิดจะอยู่ดื่มที่นี่ คิดว่าจะพาหยวนฮวากลับบ้านหลังรับประทานอาหารเย็นเสร็จ และถามนางว่ามีเรื่องอะไรกับเฟิงซูฮวา
ทว่าหยวนฮวากลับเสนอให้ดื่ม
สวี่ชิงรีบหันไปมองเฟิงซูฮวา เมื่อเห็นว่าคุณย่าไม่ได้คัดค้าน เธอจึงมองไปที่เหยียนป๋อชวน
เหยียนป๋อชวนขมวดคิ้วและพูดว่า “ช่างเถอะ ไว้ค่อยดื่มทีหลัง เรามากินข้าวกันก่อนเถอะครับ เดี๋ยวอีกสักพักหนึ่งจินหนานกับจี้ชวนจะต้องออกไปทำงาน ส่วนผมก็มีธุระที่จะต้องจัดการ”
หยวนฮวาไม่มีความสุข แต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้
ในขณะที่เฟิงซูฮวาดูเฉยเมย ไม่ได้สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
สวี่ชิงรู้สึกได้ถึงความแตกต่างเล็กน้อย เนื่องจากเฟิงซูฮวาแผ่รังสีความเป็นกุลสตรีผู้สูงส่งออกมา
ทุกคนต่างรับประทานอาหารกันเงียบ ๆ ไม่มีใครพูดอะไร ก้มหน้าก้มตากินกันท่าเดียว
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ สวี่ชิงก็ค้นพบว่าเธอกำลังทรมานจากอาหารไม่ย่อย
เหยียนป๋อชวนพาหยวนฮวากลับไปหลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว
เฟิงซูฮวาที่ถือถ้วยน้ำซุปอยู่ดื่มน้ำซุปด้วยท่าทางนุ่มนวล ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองหยวนฮวา
สวี่ชิงส่งทั้งสองคนออกไปและกลับเข้ามา ในขณะที่ฉินเสวี่ยเหมยรีบบอกลาและกลับไป หลังจากนั้นไม่นานโจวจินหนานกับสวีหย่วนตงก็ออกไปเช่นกัน โดยบอกว่าพวกเขามีเรื่องต้องคุยกับเหยียนจี้ชวน
มีเพียงสวี่ชิงกับเฟิงซูฮวาเท่านั้นที่เหลืออยู่ในลานบ้าน
สวี่ชิงที่กำลังเก็บกวาดโต๊ะเหลือบมองเฟิงซูฮวาและไม่พูดอะไร เอาแต่เหลือบมองด้วยความสงสัยเป็นครั้งคราว
เฟิงซูฮวาทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นสายตาที่จับจ้องมา “เอาล่ะ เลิกมองสักที มีอะไรก็ถามมา”
สวี่ชิงที่ถือตะเกียบอยู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ที่คุณย่าไม่ยอมไปหาหมอก็เพราะหยวนฮวาเหรอคะ?”
เฟิงซูฮวายิ้มและไม่ได้พูดอะไรเป็นนัย ๆ
สวี่ชิงครุ่นคิดอีกครั้ง “เป็นเพราะหยวนฮวาชอบคุณปู่ใช่มั้ยคะ? และเป็นศัตรูหัวใจกับคุณย่า?”
เฟิงซูฮวาหุบยิ้มลง ขณะที่ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย “หยวนฮวาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยทางการแพทย์ ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะเป็นกลียุค แต่ก็ยังไม่เกิดสงคราม มหาลัยของหล่อนกับปู่ของหลานอยู่ติดกัน ไม่รู้ว่าไปรู้จักกันอีท่าไหน”
ทั้งสองต่างชมชอบพอกัน และความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปด้วยดี
หยวนฮวามีบุคลิกที่ร่าเริงมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ เหมือนกับเด็กผู้ชาย มักจะทำงานเพื่อสังคมกับสวี่ฉงกวงเป็นครั้งคราว ต่อสู้กับกองกำลังศักดินาไปพร้อมกับเขา และขับไล่คู่หมั้นที่อยู่ในบ้านได้จนสำเร็จ
พวกเขาทั้งคู่ล้วนมีการศึกษา เหตุใดจึงจะมาแต่งงานกับคู่หมั้นที่ไร้ความรู้สึกด้วย
สวี่ฉงกวงถูกโน้มน้าวใจจนสำเร็จ อีกทั้งยังมีความรู้สึกต่อหยวนฮวา ครั้งหนึ่งเขาถึงได้เขียนจดหมายหาเฟิงซูฮวาเพื่อขอยุติการแต่งงาน
เฟิงซูฮวายังคงจำตอนนั้นได้ดี ในจดหมายถูกเขียนไว้ว่า “ความทะเยอทะยานของตัวพี่สูงเหลือเกิน หวั่นเกรงที่จะรวมใจเป็นหนึ่ง กลัวว่าสุดท้ายจะทำให้น้องทุกข์ทรมาน”
หวั่นเกรงที่จะรวมใจเป็นหนึ่ง สุดท้ายก็ทำให้ทุกข์ทรมาน!
เฟิงซูฮวาที่ตอนนั้นอายุสิบเจ็ดปี แม้ว่าจะไม่เคยได้ไปโรงเรียน แต่เธอก็มีครูหญิงคอยสอนอยู่ที่บ้าน เธอเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องและมีความคิด เมื่อเห็นว่าสวี่ฉงกวงขอยุติการแต่งงาน เธอก็ไม่ได้ดึงดันแม้ว่าจะชอบเขามากก็ตาม
ทว่าพ่อของเฟิงซูฮวากลับไม่เห็นด้วย รู้สึกว่าการหย่าร้างเป็นการดูถูกลูกสาวของตน และยืนกรานจะส่งเฟิงซูฮวาไปตามสวี่ฉงกวงที่เมืองเยียนจิง
หลังจากที่พบกัน สวี่ฉงกวงหวนนึกถึงมิตรภาพตลอดช่วงเวลาที่เติบโตมาด้วยกันและดูแลเฟิงซูฮวาเป็นอย่างดี แม้ว่าหยวนฮวาจะคอยแอบบอกสวี่ฉงกวงให้รีบส่งเฟิงซูฮวากลับไปโดยด่วนก็ตาม เรื่องพรรค์นี้จะเป็นต้องรีบตัดทิ้งให้ไว
ไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาในอนาคต
ถึงกระนั้นสวี่ฉงกวงไม่อาจอดกลั้นส่งสาวน้อยให้กลับบ้านเพียงลำพัง โดยคิดจะพาหล่อนส่งด้วยตนเองในช่วงวันหยุด คงจะดีกว่านี้หากมีใครอยู่ด้วยระหว่างทาง
แต่แล้วอุบัติเหตุก็เกิดขึ้น สวี่ฉงกวงป่วยหนักและมีไข้ขึ้นสูง
ในเวลานั้นหยวนฮวายืนกรานจะส่งตัวเขาไปรักษาที่โรงพยาบาลของคริสตจักร แต่เฟิงซูฮวาไม่เห็นด้วยเพราะสภาพแวดล้อมตอนนั้นวุ่นวายมาก หล่อนยืนกรานที่จะฝังเข็มและใช้ยาแพทย์แผนจีนในการักษาสวี่ฉงกวงทั้งภายในและภายนอก
เพียงแค่คืนเดียวไข้ของสวี่ฉงกวงก็ลดลง อาการบาดเจ็บบนร่างกายก็ทุเลาลงเช่นกัน
แต่หยวนฮวากลับเริ่มดูถูกดูแคลน โดยรู้สึกว่าโชคแค่เข้าข้างเฟิงซูฮวาเท่านั้น อีกทั้งยังรู้สึกว่าแพทย์แผนตะวันตกมีความน่าเชื่อถือมากกว่า
หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น สวี่ฉงกวงก็มองดูเฟิงซูฮวาด้วยความชื่นชม และรู้สึกว่าเฟิงซูฮวาไม่ใช่หญิงสาวประเภทที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว
หล่อนเฉลียวฉลาด ใจเย็น และดูสงบนิ่งไม่สมกับวัย อีกทั้งยังมีอากัปกิริยาที่ทางบ้านปลูกฝังมาอย่างดี แม้ว่าจะนั่งนิ่ง แต่กับดูสง่างามและสูงส่ง
ไม่ใช่เด็กหญิงขี้แยในความทรงจำของเขาอีกต่อไป หล่อนกลายมาเป็นคนที่มี่เสน่ห์
สวี่ฉงกวงรู้สึกดีต่อหยวนฮวา เพราะเขาไม่เคยเห็นหญิงสาวที่เป็นกันเองแบบนี้มาก่อน ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังชื่นชอบเฟิงซูฮวา หญิงสาวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ สวยและสง่างาม
ความสัมพันธ์ของทั้งสองเบ่งบานขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่เฟิงซูฮวาอาศัยอยู่กับสวี่ฉงกวงที่เยียนจิงเป็นเวลาหนึ่งปี แม้จะรู้ว่าหยวนฮวาศึกษาแพทย์แผนตะวันตกอยู่ แต่นั่นกลับไม่การซ้อนทับกัน
ชายหนุ่มกับหญิงสาวแอบกระทำเรื่องต้องห้ามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหลังจากนั้นไม่ช้าเฟิงซูฮวาก็ตั้งครรภ์ จนทำให้สถานการณ์เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อย ๆ
สวี่ฉงกวงตัดสินใจพาเฟิงซูฮวากลับบ้าน
บ้านของพวกเขาอยู่ทางชายแดนของจังหวัดกานซูกับจังหวัดเสฉวน เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ควรค่าแก่การกลับไป
ประจวบเหมาะกับหยวนฮวาที่เป็นชาวกานซูแต่ดั้งเดิม เธอต้องการจะกลับไปพร้อมกับสวี่ฉงกวงและเฟิงซูฮวา
สวี่ฉงกวงตระหนักได้ว่าหยวนฮวาเป็นคนบ้านเดียวกัน อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้แย่นัก จึงคอยดูแลกันระหว่างเดินทาง
ทว่าตอนนั้นรถไฟยังไม่สะดวกสบายนัก มีรถไฟแล่นผ่านไปมาแค่ไม่กี่วันเท่านั้น สวี่ฉงกวงจึงแนะนำให้ขึ้นรถไฟไปยังจังหวัดเสฉวนที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อน
หากไปถึงจังหวัดเสฉวนแล้ว การเดินทางไปจังหวัดกานซูจะค่อนข้างสะดวกมากขึ้น อีกทั้งยังเงียบสงบกว่าฝั่งเยียนจิง
เมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดเสฉวน หยวนฮวาบังเอิญเห็นใครบางคนกำลังข่มเหงหญิงชราอยู่บนท้องถนน จึงก้าวออกไปต่อสู้กับความอยุติธรรม
แต่แล้วพวกเขาก็พบเข้ากับปัญหาใหญ่หลวง กองกำลังท้องถิ่นเริ่มออกอาละวาด
สวี่ฉงกวงถูกฟันขณะเข้าไปช่วยเหลือหยวนฮวา และไม่คาดคิดว่ามีดเล่มดังกล่าวจะมีพิษ
หยวนฮวาที่สัมผัสเข้ากับมือของเขาถูกพิษเช่นกัน
เฟิงซูฮวาล้างพิษให้หยวนฮวาก่อนแล้วจึงไปช่วยสวี่ฉงกวง ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสเข้ากับพิษกู่
เฟิงซูฮวามองดูเนื้อของสวี่ฉงกวงที่เน่าเปื่อยลงด้วยตาเปล่า ก่อนจะใช้มีดควักเนื้อเน่าบนแขนของสวี่ฉงกวงอย่างไร้ความปรานี แล้วจึงพาเขาไปหาหมอ
มันเป็นพิษที่มีเพียงหมอเท่านั้นจะรักษาได้
หยวนฮวาหยุดการกระทำของเฟิงซูฮวาและยืนกรานจะส่งสวี่ฉงกวงไปที่โรงพยาบาลของทางรัฐ หล่อนร้องตะโกนใส่หน้าเฟิงซูฮวาว่า “แผลของเขากำลังจะเน่า ต้องพาที่โรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดห้ามเลือดก่อน ดีกว่ามัวมาให้ยาแก้อักเสบแบบนี้ เธอจะทำให้เขาตายกันพอดี”
ทว่าเฟิงซูฮวากลับปฏิเสธ ครูหญิงที่เคยบ่มสอนเธอกล่าวไว้ว่ามีผู้มากพรสวรรค์หลายคนจากทางตอนใต้ของจังหวัดเสฉวนกับจังหวัดกานซูเชี่ยวชาญเรื่องการใช้ยาพิษ และยังมีผู้ที่รู้จักการล้างพิษอีกมากมาย
หล่อนผลักหยวนฮวา และแบกสวี่ฉงกวงออกไป
เฟิงซูฮวายังคงจำได้ดีว่าวันนั้นฝนตกหนัก เม็ดฝนที่ตกลงมากระทบใส่ใบหน้าของนางเจ็บปวดมากราวกับใบมีดคม นางเดินออกมาพร้อมกับสวี่ฉงกวงที่อยู่บนหลัง แต่แล้วกลับถูกหยวนฮวาผลักจนล้มไปกองกับพื้น
หล่อนยังคงยืนกรานจะลุกขึ้นและแบกสวี่ฉงกวงไว้บนหลัง เพราะรู้สึกได้ว่าลมหายใจของสวี่ฉงกวงแผ่วเบาลงเรื่อย ๆ หากมัวชักช้ากว่านี้ เกรงว่าจะรักษาเขาไว้ไม่ได้
รูปร่างของหล่อนผอมบาง แต่กับต้องมาแบกสวี่ฉงกวงที่สูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรไว้บนหลัง เดินตรากตรำไปข้างหน้าด้วยความยากลำบาก หน้าท้องเริ่มสั่นระริกและเจ็บระบม สายธารอุ่นร้อนไหลลงมาตามขา ตกลงไปยังข้อเท้า ปะปนไปกับสายฝน
หล่อนรับรู้ถึงสิ่งที่กำลังสูญเสียไป แต่ก็ไม่อาจทอดทิ้งสวี่ฉงกวงไว้เบื้องหลังได้
หยวนฮวายังไม่ยอมแพ้ รีบเข้าไปจับแขนของเฟิงซูฮวาแน่น “ทำไมเธอถึงได้ดื้อดึงขนาดนี้ สวี่ฉงกวงคงจะตายด้วยน้ำมือเธอในไม่ช้า”
น้ำตาของสวี่ชิงเอ่อล้นออกมาเมื่อได้ยินเรื่องเล่าของเฟิงซูฮวา
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
อ้าว ปู่เหยียบสองเรือพร้อมกันเหรอ งี้ก็น่าสงสารทั้งย่าเฟิงย่าหยวนเลย
ไหหม่า(海馬)