เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 236 เธอไม่คู่ควรที่จะมาพูดเรื่องทางการแพทย์กับฉัน
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80
- บทที่ 236 เธอไม่คู่ควรที่จะมาพูดเรื่องทางการแพทย์กับฉัน
บทที่ 236 เธอไม่คู่ควรที่จะมาพูดเรื่องทางการแพทย์กับฉัน
ใบหน้าของหยวนฮวาแข็งค้าง พลางดึงมือที่กำลังเอื้อมออกไปกลับมา
เฟิงซูฮวาเอื้อมมือออกไปหยิบผลพุทราขึ้นมากิน และน้ำเสียงยังดูขุ่นเคืองเล็กน้อย
สวี่ชิงมองดูทั้งสองคนทำตัวเหมือนเด็กน้อยที่กำลังยั่วโมโหกันไปมา และสงสัยเป็นอย่างมากว่าเรื่องบาดหมางระหว่างพวกนางเป็นเรื่องเดียวกับที่เธอคาดเดาไว้หรือไม่
ในขณะที่กำลังคิดถึงเรื่องนี้ โจวจินหนานก็กลับมาพร้อมกับสวีหย่วนตง
ฉินเสวี่ยเหมยยังคงนั่งหลังตรงรับฟังเรื่องราวความสนุกอยู่ สะบัดผมเปียที่ห้อยตกระแผ่นอกไปข้างหลัง นั่งตัวตรงราวกับนักเรียนตัวน้อย
สวี่ชิงเหลือบมองฉินเสวี่ยเหมย ก่อนยิ้มและลุกขึ้นทักทายสวีหย่วนตง
โจวจินหนานสายตาดีมาก หลังจากจอดรถจักรยาน เขาก็เดินเข้าไปหาเหยียนป๋อชวนและร้องตะโกนเสียงดัง “พ่อครับ มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ใบหน้าของเหยียนป๋อชวนดำทะมึน เอ่ยพึมพำและหันหน้าไปด้านข้างเพื่อแนะนำให้หยวนฮวา “นี่โจวจินหนาน สามีของชิงชิง และเป็นลูกน้องของจี้ชวน”
หยวนฮวาพยักหน้าอย่างสุภาพ “ก็ดีนะ”
โจวจินหนานพยักหน้าตอบรับหยวนฮวาอย่างถ่อมตน และไม่ได้เรียกว่าคุณย่าอย่างโจ่งแจ้ง
ทำให้เหยียนป๋อชวนรู้สึกว่าโจวจินหนานเป็นไอ้เด็กเลวที่พยายามสร้างความรำคาญให้แก่เขาโดยเจตนา
ยิ่งเห็นโจวจินหนานมากเท่าไรก็ยิ่งไม่พอใจมากเท่านั้น
สวีหย่วนตงรู้จักเหยียนป๋อชวนเช่นกัน หลังจากกล่าวทักทายเสร็จสรรพ เขาก็รีบตรงดิ่งไปหาไป๋หลาง
สวี่ชิงมองดูเวลาและเห็นว่าไม่เช้าแล้ว เธอจึงเรียกฉินเสวี่ยเหมยให้ออกไปซื้อเนื้อมาทำอาหารด้วยกัน
เมื่อทั้งสองเดินออกมาจากลานบ้านพร้อมกับตะกร้าใส่ผัก สวี่ชิงก็หันไปหัวเราะเยาะใส่ฉินเสวี่ยเหมย “เธอชอบสวีหย่วนตงจริงเหรอ?”
จู่ ๆ ฉินเสวี่ยเหมยผู้สุภาพเรียบร้อยเสมอมาก็เขินตัวม้วน “ก็เขาดูดีนี่นา”
สวี่ชิงพร้อมเป็นแม่สื่อด้วยความเต็มใจ “เดี๋ยวหลังจากนี้ฉันจะไปคุยกับสวีหย่วนตงให้ แต่ครอบครัวของสวีหย่วนตงมาจากชนบทนะ ได้ยินมาว่าสถานะทางครอบครัวเขาไม่ค่อยดี ที่บ้านเธอจะรับได้หรือเปล่า?”
ฉินเสวี่ยเหมยยิ่งรู้สึกอายขึ้นไปใหญ่ “แค่ฉันรับได้ก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ?”
สวี่ชิงหัวเราะขณะดึงแขนฉินเสวี่ยเหมย “เดี๋ยวฉันถามให้ ว่าจะถามด้วยว่าบ้านเขามีพี่น้องกี่คน แม่สามีร้ายกาจหรือเปล่า”
ใบหน้าของฉินเสวี่ยเหมยแดงก่ำเมื่อได้ยินคำว่าแม่สามีจากปากของสวี่ชิง “เธอล้อฉันอยู่ล่ะสิ”
ทั้งสองคนคุยกันกระหนุงกระหนิงขณะเดินไปซื้อเนื้อบนท้องถนน
ทั่วทั้งลานบ้านตกอยู่ในความเงียบสงบ เฟิงซูฮวาไม่สนใจใครทั้งสิ้น นางล้างมือหลังจากกินพุทราเสร็จ กลับมานั่งที่เดิมและถักเชือกป่านอีกครั้ง
หยวนฮวาต้องการคุยกับนาง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้พูดคุย
ทำได้เพียงหันไปถามโจวจินหนาน “เธอกับสวี่ชิงแต่งงานกันเมื่อไหร่ล่ะ? หลังจากนี้มีแผนอะไรไหม”
“แต่งงานได้สามเดือนกว่าแล้วครับ”
โจวจินหนานตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา สำหรับแผนการในตอนนี้ เขารู้สึกว่ากิจการร้านอาหารขนาดย่อมของสวี่ชิงกำลังไปได้ดี คุ้มรายได้และผู้คนก็มีความสุขกันถ้วนหน้า ทุกครั้งที่สวี่ชิงวางแผนอะไร รูปลักษณ์ที่มั่นใจและมองโลกในแง่ดีของเธอมักจะแพร่กระจายไปสู่ผู้คนรอบข้างด้วยเช่นกัน
ดังนั้นทุกคนจึงรับรู้ได้ถึงพลังบวกที่เพิ่มขึ้นในตัวเธอ
หยวนฮวาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฉันบอกพ่อเธอว่าชิงชิงเพิ่งอายุสิบเก้าปี ควรจะกลับไปเรียนให้จบก่อน ตอนนี้มีภาคเรียนกลางคืนไม่ใช่เหรอ ให้เธอไปลงเรียนกลางคืนก็ได้ ในอนาคตจะได้มีงานการมั่นคง ทำผลประโยชน์ต่อสังคม”
เฟิงซูฮวาเงยหน้ามองหยวนฮวา ก่อนจะก้มหน้าลงและถักเชือกป่านต่อ
เพียงแวบเดียวเท่านั้นแต่กลับทำให้หยวนฮวาหายใจไม่ออก ราวกับมีบางอย่างมาอุดที่ลำคอ จนไม่สามารถพูดอะไรได้
สายตาประชดประชันนั้นราวกับมีดแหลมคมทิ่มแทงหัวใจของหยวนฮวา ฉีกความทรงจำเก่า ๆ ให้เปิดออก
ความทรงจำที่นางไม่อยากนึกถึง
โจวจินหนานค่อย ๆ พูดตอบเมื่อเห็นหยวนฮวาเงียบไป “ตราบใดที่หล่อนชอบ ผมจะสนับสนุนทุกอย่างที่สวี่ชิงทำครับ”
หยวนฮวาไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเฟิงซูฮวายังคงอยู่ที่นั่น และนางก็ไม่สามารถพูดหักล้างอะไรได้
เหยียนป๋อชวนเห็นด้วยกับความคิดของโจวจินหนาน “ตอนนี้ชิงชิงสบายดี ขอแค่เธอได้ทำอะไรที่หล่อนชอบก็พอ”
หยวนฮวาไม่พูดอะไร ได้แต่มองไปที่เฟิงซูฮวาเงียบ ๆ หยิบถ้วยชาขึ้นมาเป่าและดื่ม
เหยียนป๋อชวนชำเลืองมองแม่เฒ่าทั้งสองคน ก่อนจะหันหน้าไปมองโจวจินหนาน และเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องงาน
สวีหย่วนตงกลับมาหลังจากออกไปเล่นกับไป๋หลาง และกล่าวทักทายหยวนฮวาด้วยรอยยิ้ม “ผมได้ยินมาว่าผู้อำนวยการเหยียนเก่งทางด้านการแพทย์มาก มีบทความมากมายที่ได้ตีพิมพ์ แถมตอนนี้ยังช่วยสอนพวกนักศึกษาด้วย”
หยวนฮวาหน้าบึ้ง “ก็แค่ชื่อเสียงจอมปลอมน่ะ ไม่ได้เก่งกาจอย่างที่เขาเล่าขานกันหรอก”
โจวจินหนานที่กำลังพูดคุยกับเหยียนป๋อชวนอยู่หันศีรษะกลับมาทันที “สวีหย่วนตง นายเป็นสัตวแพทย์ จะมาพูดอะไรเรื่องทางการแพทย์ อย่าปล่อยไก่นักเลย รีบไปตัดฟืนซะ”
สวีหย่วนตงหัวเราะและรีบวิ่งไปตัดฟืน
หยวนฮวาเริ่มนั่งกระสับกระสาย นางสัมผัสได้ถึงรอยยิ้มเสียดสีบนมุมปากของเฟิงซูฮวาที่เผยชัดขึ้นเรื่อย ๆ
สวี่ชิงซื้อปลาไนตัวใหญ่สองตัวและเนื้อแกะห้าถึงหกชั่งกลับมา ก่อนจะตรงดิ่งไปทำอาหารในห้องครัวกับฉินเสวี่ยเหมย
ในตอนท้ายเหยียนป๋อชวนกับโจวจินหนานไม่มีอะไรจะคุยกันมากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงเล่นหมากรุกกัน ในขณะที่สวีหย่วนตงนั่งอยู่ด้านข้างคอยมองการต่อสู้
ทุกคนกำลังยุ่งมาก แม้แต่เฟิงซูฮวาก็กำลังนั่งถักเชือกป่านสีดำเงียบ ๆ ขณะที่หยวนฮวายังคงนั่งไม่ติดที่ นางรอคอยจนกระทั่งเฟิงซูฮวาเดินออกไปจากประตูบ้านแล้วจึงตามอีกฝ่ายไป
เท้าขนาดเล็กของเฟิงซูฮวาไม่สามารถก้าวได้เร็วนัก นางจึงต้องทิ้งน้ำหนักลงไปที่ไม้เท้า ทำให้หลังงองุ้ม
หยวนฮวาไล่ตามนางทันภายในสองสามก้าว “จิ่นซู ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่าเธอเกลียดฉัน แต่ทั้งหมดที่ฉันทำไปก็เพื่อผลประโยชน์ของฉงกวง”
เฟิงซูฮวาหันไปมองหยวนฮวาด้วยดวงตาฉายแววเย็นชา “ทำไมฉันจะต้องเกลียดเธอด้วย ฉงกวงตายไปแล้ว และเธอนั่นแหละที่ฆ่าเขาทางอ้อม!”
หยวนฮวาส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ จิ่นซู เธอก็รู้ว่าทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุ เราต้องเชื่อในหลักวิทยาศาสตร์ และต้องเชื่อในเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงสิ”
เฟิงซูฮวายังคงจ้องมองไปที่หยวนฮวาอย่างเย็นชา “พอเถอะ อย่ามาพูดเรื่องทางการแพทย์อะไรกับฉันเลย เพราะเธอไม่คู่ควร!”
หลังจากพูดจบ นางก็ยกไม้เท้าหันหลังเดินจากไปด้วยความขุ่นเคือง เท้าเล็ก ๆ เหยียบย่ำพื้นด้วยความโกรธ
หยวนฮวาไม่ได้เดินตามไป เพียงแต่เฝ้ามองแผ่นหลังของเฟิงซูฮวาเงียบ ๆ นางไม่เคยรู้สึกว่าตนเองคิดผิด มีแต่เฟิงซูฮวาที่ถูกลัทธิศักดินาครอบงำ และยืนกรานในหลักการแพทย์พื้นบ้าน
โดยการใช้ยาพิษร้ายแรง
ขณะที่สวี่ชิงออกมาเทน้ำเสีย เธอก็บังเอิญเห็นหยวนฮวาไล่ตามคุณย่าออกมา จึงเดินตามไปเงียบ ๆ ซ่อนตัวอยู่ที่ประตูและเฝ้าดูทั้งสองคนยืนเถียงกัน
เนื่องจากระยะทางที่ห่างไกลทำให้เธอไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังถกเถียง แต่เห็นได้ชัดว่าเฟิงซูฮวาโกรธมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่สวี่ชิงเห็นเฟิงซูฮวาโกรธจัด มันเป็นความขุ่นเคืองที่แฝงไปด้วยความดื้อรั้นและความคับข้องใจที่ต้องอดกลั้น แม้แต่แผ่นหลังที่เดินโขยกเขยกออกไปยังแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจอย่างแรง
ดูเหมือนว่าความคับแค้นใจระหว่างคุณย่ากับเฟิงซูฮวาจะหนักหนาสาหัสมาก
เธอถอยหลังกลับในขณะที่ไม่มีใครสังเกต และไปทำอาหารต่อ
สำหรับมื้ออาหารกลางวัน สวี่ชิงทำซุปวุ้นเส้นเนื้อแกะที่เป็นอาหารชื่อดังของท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีปลาไนราดซอสแดง ปลาไนในแม่น้ำเหลืองประจำจังหวัดได้กลายมาเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียง ทำให้การซื้อปลาไนแม่น้ำเหลืองเป็นเรื่องง่าย
อีกทั้งยังทำไข่ผัดกับหัวหอมง่าย ๆ ยำวุ้นเส้นปวยเล้ง และผัดเห็ดหูหนู
อาหารมีทั้งจานใหญ่จานเล็ก แต่โดยปกติแล้วจะเน้นเสิร์ฟในหม้อขนาดเล็ก
สวี่ชิงคิดว่าคุณย่าอารมณ์ไม่ดี และไม่ต้องการดื่มเหล้า เธอจึงคิดจะรีบกินให้เสร็จ และขอให้เหยียนป๋อชวนพาหยวนฮวาออกไปโดยเร็วที่สุด
เธอต้องการจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่ไม่คาดคิดว่าหยวนฮวาจะพูดชักชวนให้ดื่ม “ป๋อชวน วันนี้เป็นวันดี แม่กับป้าเฟิงเคยรู้จักกัน เพราะงั้นมาดื่มกันเถอะ”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เดาว่าคุณปู่สวี่โดนพิษกู่มา แล้วย่าหยวนพาไปรักษาแพทย์แผนปัจจุบันแทนที่จะมาให้ย่าเฟิงรักษาแบบศาสตร์พื้นบ้านจนปู่สวี่ตายเพราะพิษกู่แน่ๆ เลย
ไหหม่า(海馬)