เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 233 อดีตที่ผ่านมา
บทที่ 233 อดีตที่ผ่านมา
ก่อนเข้านอน สวี่ชิงก็ได้พูดคุยกับโจวจินหนานว่าควรพาคุณย่าไปตรวจสุขภาพโดยเร็ววัน
โจวจินหนานไม่เข้าใจว่าเหตุใดสวี่ชิงจึงกระวนกระวายใจขนาดนั้น แม้เฟิงซูฮวาจะมีขาและข้อเข่าที่ไม่ดี นางก็ยังมีท่าทางร่าเริงแจ่มใสและสุขภาพกายแข็งแรง ซึ่งนับว่าดีกว่าผู้สูงอายุหลายคนในวัยเดียวกัน
แต่เขาไม่อยากเอ่ยถามสวี่ชิงมากมาย จึงตอบกลับไปว่าอีกไม่กี่วันจะจัดการให้เรียบร้อย
เมื่อตื่นนอนแต่เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้น ฝนฤดูใบไม้ร่วงก็ตกลงมา ทำให้ใบไม้ที่เหี่ยวเฉาและแห้งเหลืองตกลงเกลื่อนพื้น ส่งผลให้ลานบ้านเล็กๆ ดูหม่นหมองลง
พอฝนตกอากาศก็หนาว
สวี่ชิงคว้าเสื้อคาร์ดิแกนมาสวมใส่ เมื่อเดินออกไปนอกห้อง เธอก็พบว่าเฟิงซูฮวาตื่นแล้ว นางสวมเสื้อโค้ทสีน้ำเงินเข้มติดกระดุมสองแถวนั่งอยู่ใต้ชายคามองดูสายฝน
ดวงตาของนางหรี่ลงครึ่งหนึ่ง พร้อมกับสีหน้ายุ่งยากใจ
สวี่ชิงคุกเข่าลงตรงหน้าเฟิงซูฮวา เอื้อมมือไปจับมือบางที่เย็นเฉียบ “คุณย่า ทำไมตื่นเช้าจัง? อยากกินอะไรไหมคะ?”
เฟิงซูฮวาหันมองสวี่ชิง แววตาของนางเต็มไปด้วยความเอ็นดู “ย่าไม่ใช่เด็กแล้วนะ คิดจะเอาอาหารมาหลอกล่อตอนช่วงอารมณ์ไม่ค่อยดีอย่างนั้นหรอ?”
สวี่ชิงขมวดคิ้วขึ้นทันที “คุณย่าอารมณ์ไม่ดีหรอคะ? หรือเป็นเพราะฝนตก?”
เฟิงซูฮวาเอื้อมมือไปลูบผมของสวี่ชิง “อีกไม่กี่วันจะครบรอบยี่สิบปีที่คุณปู่จากไปแล้ว เวลาช่างผ่านไปไวเหลือเกิน คุณปู่ของเธอจากไปได้ยี่สิบปีแล้วนะ”
สวี่ชิงไม่เคยพบคุณปู่มาก่อน อีกทั้งรูปถ่ายที่บ้านก็ไม่มี
แต่ได้ยินมาว่าคุณปู่เป็นลูกชายของครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย เขาหน้าตาดี เรียนมหาวิทยาลัยเยี่ยนชิง แต่โชคไม่ดีที่สุดท้ายแล้วเขากลับล้มป่วยและจากไป
เธอจับมือของเฟิงชูฮวาก่อนจะนำมาสัมผัสเข้ากับใบหน้าของตนเอง “คุณปู่ต้องสบายดีอยู่ในโลกนั้นอย่างแน่นอน คุณย่าไม่ต้องห่วงนะคะ”
เฟิงซูฮวายิ้มออกมา “เขาสบายจนเคยตัว ไปอยู่ที่นั่นเพียงลำพังคงลำบากแย่”
สวี่ชิงอยากรู้เรื่องเพิ่มเติม “แล้วคุณปู่กับคุณย่าเจอกันได้อย่างไรคะ?”
แววตาของเฟิงซูฮวาเปล่งประกาย “เรารู้จักและมีสัญญาหมั้นหมายกันตั้งแต่เด็ก เนื่องจากครอบครัวทางฝั่งย่าค่อนข้างใหญ่ จำเป็นต้องส่งเรียนกันเยอะ ส่วนผู้หญิงก็มีประเพณีรัดเท้าตั้งแต่เด็ก แต่หลังจากที่คุณปู่ได้ไปโรงเรียนเขาก็เริ่มมีความคิดแบบใหม่ เขารู้สึกว่าประเพณีรัดเท้านั้นล้าสมัยไปแล้วจึงไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้”
สวี่ชิงคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกของผู้คน ณ เวลานั้น คนหนึ่งได้รับการศึกษาขั้นสูง แต่อีกคนจมอยู่ในอุดมการณ์ศักดินายุคเก่า ทั้งสองจึงขัดแย้งกัน
เป็นการแต่งงานที่ไม่มีความยุติธรรม
ดังนั้นฝ่ายที่มีการศึกษาสูงกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายแรกที่ปฏิเสธการแต่งงาน
“แล้วทำไมถึงได้แต่งกันคะ?”
เฟิงซูฮวายิ้ม“เพราะเขาทนไม่ได้ยังไงล่ะ เราจึงตกลงแต่งงานกันแล้วค่อย ๆ พัฒนาความรู้สึกไปเรื่อย ๆ คุณปู่เป็นคนดีมาก มีน้ำใจ อ่อนโยน เขาปฏิบัติต่อย่าดีมาก ตอนที่รู้ว่าย่าไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ เขาก็ไม่เรียกร้องให้มีการหย่า กลับรับเลี้ยงเด็กสามคนแทน”
สวี่ชิงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย: “แล้วทำไมคุณย่าถึงตั้งท้องไม่ได้คะ?”
เนื่องจากเฟิงซูฮวามีทักษะด้านการแพทย์สูงมาก เพียงแค่จับชีพจรก็สามารถรู้ได้ว่ามีปัญหาในการตั้งครรภ์อย่างไร
เฟิงซูฮวาหลับตา แววตาที่เป็นประกายถูกปิดลง “เพราะว่าสุขภาพของย่าไม่ดี ทำไมหลานเอาแต่ถามเยอะจริง เมื่อกี้ถามว่าย่าอยากกินอะไรใช่ไหม ย่าอยากกินซุปเครื่องในแกะ”
สวี่ชิงตบศีรษะของตนเอง “โอ้ ลืมไปสนิทเลย ตอนนี้ฉันต้องออกไปซื้อของ ไว้ตอนเที่ยงจะกลับมาทำให้นะคะ”
พวกเขากินอาหารเช้าอย่างเรียบง่าย แล้วรอจนกว่าผางเจิ้งหัวและหู่จือจะมารับอาหารไป จากนั้นสวี่ชิงกับโจวจินหนานก็ไปตลาดด้วยกันเพื่อซื้อเครื่องในแกะ
เนื่องจากฝนตก ผู้คนในตลาดจึงมีไม่มากนัก พ่อค้าแม่ค้าสองสามรายสวมกระสอบและซ่อนตัวอยู่ใต้เพิงหญ้าข้างๆ เพื่อหลบฝน
สวี่ชิงใช้เงินหนึ่งหยวนซื้อเครื่องในแกะหนึ่งชุดซึ่งประกอบไปด้วยหัวแกะและกีบสี่กีบ เธอคล้องด้วยเชือกฟางเพื่อให้โจวจินหนานถือ จากนั้นก็เดินไปที่ร้านขายของชำซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนักเพื่อซื้อผงพริกไทย
เมื่อเดินออกมาจากร้านขายของชำ จู่ๆ ก็มีใครบางคนเดินเข้ามาขวาง “สหาย มีคูปองทีวีไหม”
เนื่องจากสวี่ชิงถือร่มโดยก้มศีรษะลง ทำให้มันบดบังทัศนวิสัยของอีกฝ่าย เขาจึงมองไม่เห็นรูปลักษณ์ของเธอ
สวี่ชิงรู้สึกคุ้นเคยกับน้ำเสียงนี้ เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะพบเข้ากับหลี่ต้าหย่ง
เขาสวมชุดกีฬาสีน้ำเงินที่มีแถบสีขาว จ้องมองเธออย่างจริงจัง และเมื่อเห็นว่าบุคคลตรงหน้าคือสวี่ชิง ใบหน้าของเขาก็หุบยิ้มลงทันทีก่อนจะหันหลังและเดินจากไป
หากรู้ว่าคนที่เดินออกมาคือสวี่ชิงเขาจะไม่เอ่ยถามเช่นนั้น ช่างน่าอับอายเสียจริง!
สวี่ชิงรู้สึกประหลาดใจ เหตุใดคนอย่างหลี่ต้าหย่งจึงมีคูปองทีวีได้ เธอต้องการซื้อทีวีเพื่อบรรเทาความเบื่อหน่ายให้เฟิงซูฮวา
หากพวกเขากลับบ้านดึก อย่างน้อยคุณย่าเฟิงชูฮวาที่อยู่บ้านคนเดียวจะได้ไม่เบื่อ นางจะได้ไม่ออกไปไหนและมีทีวีไว้ดูยามเบื่อหน่าย
โจวจินหนานยืนรอสวี่ชิงอยู่อีกฝั่งตรงข้ามของถนน แต่เมื่อเขาเห็นหลี่ต้าหยงก็รีบเข้าไปหาสวี่ชิงทันที วางเครื่องในที่แบกอยู่ลง แล้วเดินเข้าไปหาเธอสองสามก้าว “ไม่มีอะไรใช่ไหม?”
สวี่ชิงส่ายศีรษะ “ไม่มีอะไร เขาแค่เข้ามาถามว่ามีคูปองทีวีหรือยัง เอ๊ะ พี่รู้จักเขาด้วยหรอ? ”
โจวจินหนานไม่เคยได้พบหน้าหลี่ต้าหย่งเลยหลังจากที่เขากลับมามองเห็น
โจวจินหนานพยักหน้าลงเล็กน้อย “เคยเจอกันก่อนจะกลับบ้าน”
หลังจากที่ดวงตาเขากลับมาเป็นปกติ เขาก็เคยไปพบคน ๆ นั้นมาก่อน แต่ไม่ได้บอกให้สวี่ชิงได้รับรู้
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น สวี่ชิงจึงเอ่ยถามต่อ “หลี่ต้าหย่งได้มันมาจากไหน ทุกครั้งที่ฉันมาถึงเครื่องโทรทัศน์ก็ขายหมดแล้ว และมันยากมากที่จะได้คูปองทีวี คุณหามาให้หน่อยได้ไหม? ”
โจวจินหนานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เดี๋ยวให้เกาจ้านจัดการให้ เขาต้องมีมันแน่นอน”
สวี่ชิงเริ่มรู้สึกละอายเมื่อเกาจ้านมักจะเป็นธุระให้ทุกอย่างที่เธอต้องการเสมอ “โทรชวนเขามากินมื้อกลางวันด้วยกันนะ หากรบกวนเขาเพียงอย่างเดียวมันน่าเกลียด”
โจวจินหนานไม่ได้พูดอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ค่อยพึงพอใจสักเท่าไร
คาดไม่ถึงว่าเมื่อทั้งสองกลับมาถึงบ้าน เกาจ้านจะอยู่ที่นั่นพอดี เขานั่งพูดคุยพร้อมกับเหม่อมองสายฝนอยู่ใต้ชายคากับเฟิงซูฮวา
ดูแล้วเป็นการสนทนาที่ดี
เมื่อเห็นโจวจินหนานเดินเข้ามาพลางของเต็มไม้เต็มมือเขาก็ปรบมือขึ้น “มาถูกที่แล้ว ที่นี่มีแต่ของที่ฉันชอบกินทั้งนั้น”
สวี่ชิงยิ้มมีความสุข “ฉันบอกให้จินหนานโทรหาคุณระหว่างทาง กินซุปเครื่องในแกะเพื่อขับไล่ความหนาวเย็นกันเถอะ”
เกาจ้านมีท่าทางร่าเริงและลงมือช่วยสวี่ชิงทำความสะอาด ของพวกนี้มีกลิ่นเหม็นและล้างทำความสะอาดยากมาก
เฉพาะคนที่ชอบกินเท่านั้นจึงสามารถพูดได้ว่ามันไม่ได้ยากลำบาก ตัวอย่างเช่นเกาจ้าน เขาดูมีความสุขมากที่ได้ล้างเครื่องในพลางพูดคุยกับโจวจินหนาน “เจอตัวสวี่จื้อกั๋วแล้ว เขาไม่มีผู้หญิงคนอื่นหรอก แต่ว่าช่วงนี้ติดการพนันเข้าขั้นหนัก ดูท่าทางแล้วน่าจะเลิกยาก”
สวี่ชิงสีหน้าเคร่งเครียดแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เกาจ้านจึงเอ่ยปากเตือนสวี่ชิง “เธอต้องระวังตัวนะ ถ้าเขาเป็นหนี้เยอะ คนพวกนั้นอาจมาตามทวงเงินจากเธอได้ เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นลูกสาวของเขา”
โจวจินหนานขมวดคิ้วขึ้นสีหน้าของเขาเคร่งขึม “ถ้ากล้าก็ลองดู!”
เกาจ้านยักไหล่ “มันก็ยากที่จะพูดนะ แต่ฉันส่งคนไปเฝ้าจับตามองแล้ว เดี๋ยวฉันต้องกลับที่คาสิโนนั้นด้วยนะ!”
หลังจากพูดจบ เขาก็มองไปที่สวี่ชิงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าราวกับกำลังอ้อนวอนขอคำชม
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
คุณย่าคงเตรียมส่งมอบตำแหน่งให้ชิงชิงแล้วสินะคะ ดูท่าทางปลงแล้วอย่างไรอย่างนั้นเลย
เกาจ้านเป็นทุกอย่างให้ครอบครัวนี้จริงๆ
ไหหม่า(海馬)