เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 199 ชายมาดขรึมพูดจาไร้สาระ
บทที่ 199 ชายมาดขรึมพูดจาไร้สาระ
เหยียนจี้ชวนอดจะหัวเราะไม่ได้เมื่อได้ยินคำพูดของสวี่ชิง “น้องสะใภ้ คุณรีบกินเถอะครับ ไม่ต้องมาห่วงพวกเราหรอก พวกเราติดเป็นนิสัยไปแล้วน่ะ ไม่ว่าพวกเราจะทำอะไรก็อดจะแก่งแย่งกันไม่ได้ และโจวจินหนานมักจะได้ที่หนึ่งทุกครั้ง”
สิ่งที่เขาอายที่จะพูดคือพวกเขาต้องแก่งแย่งกันไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ห่างไกล
สวี่ชิงไม่เข้าใจมิตรภาพอันน่าอัศจรรย์เช่นนี้ เธอยิ้มและค่อย ๆ กิน ไม่ได้รีรอให้เกี๊ยวในจานขนาดเล็กหมด เพราะยังมีเกี๊ยวอีกจำนวนมากอยู่ข้างหน้า
แต่เมื่อเงยหน้า เธอกลับพบว่าจานหลายใบว่างเปล่า!
เหยียนจี้ชวนค่อย ๆ ดื่มด่ำกับเหล้า ดวงตาของเขาเปล่งประกายไปด้วยรัศมีเล่ห์เหลี่ยมราวกับสุนัขจิ้งจอก
ราวกับกลัวสวี่ชิงจะต้องอายที่ยังคงนั่งกินคนเดียว ทั้งสามคนจึงเริ่มพูดเรื่องงานอีกครั้ง
สวี่ชิงคิดว่าหลังจากที่กินเสร็จและเหยียนจี้ชวนกับเกาจ้านออกไปแล้ว เธอจะคุยเรื่องเหยียนป๋อชวนกับโจวจินหนาน
แต่กลับไม่คาดคิดว่าโจวจินหนานจะให้เกาจ้านพาเธอไปส่งที่ร้าน ส่วนตัวเขากลับออกไปพร้อมกับเหยียนจี้ชวน
สวี่ชิงรอให้ทั้งสองกลับออกไป และหันไปถามเกาจ้านว่า “พวกเขากำลังจัดการเรื่องของโจวเฉิงเฉียนอยู่เหรอคะ?”
เกาจ้านเหลือบมองสวี่ชิง “ไม่ใช่หรอก แต่ผมพูดไม่ได้น่ะ”
สวี่ชิงถอนหายใจและไม่ได้ถามอะไรออกไปอีก ก่อนจะเดินไปที่ป้ายรถเมล์กับเกาจ้าน
เกาจ้านไม่อาจเดาใจของสวี่ชิงได้ เมื่อมองดูท่าทางของโจวจินหนานก็คล้ายกับว่าสวี่ชิงกำลังจะหย่ากับเขา ทว่าเมื่อดูท่าทางของสวี่ชิงแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น
เขาเอื้อมมือไปจับหลังคอและถามเธอว่า “คุณยังโกรธโจวจินหนานอยู่หรือเปล่า? อันที่จริงเขาไม่ได้ตั้งใจหรอก แต่ไม่มีใครควบคุมการถูกโจมตีจากพิษได้ ตอนแรกที่เขาไปแม่น้ำหวงโหน่ะ เขาไปที่นั่นด้วยหัวใจที่เอาแต่ร้องขอความตาย”
สวี่ชิงมองเกาจ้านด้วยความประหลาดใจ “ร้องขอความตาย?”
เกาจ้านตั้งสติและเริ่มพูดไร้สาระด้วยท่าทางเคร่งขรึม “ใช่ เขาขอให้ผมมัดมือมัดเท้าเขาเอาไว้ แต่เมื่อพิษเริ่มโจมตี หลอดเลือดทั่วทั้งร่างกายก็พองตัวขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือนหลอดเลือดกำลังจะระเบิดออกและพร้อมจะตายได้ทุกเมื่อ จากนั้นเขาเริ่มทนไม่ไหวและวิ่งออกไป เดิมทีเขาอยากจะตาย แต่เจอกับคุณที่ถูกวางยาโดยบังเอิญ”
“ตอนแรกผมอยากจะช่วยคุณ แต่ผมไม่อยากทำผิดพลาด”
หลังจากพูดจบ เกาจ้านก็ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ราวกับรู้สึกผิดต่อโจวจินหนาน
สวี่ชิงเหลือบมองเกาจ้านด้วยความสงสัย แต่จู่ ๆ ก็หันหน้าหนีและกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ เธอเกือบจะเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนี้แล้ว!
เกาจ้านยังคงเล่าต่ออีกยืดยาว แต่เมื่อเห็นว่าสวี่ชิงไม่สนใจ เขาก็ทำอะไรไม่ถูกและเอื้อมมือออกไปเกาหัว การแต่งงานของน้องสะใภ้ช่างโชคร้ายยิ่งนัก
ให้คิดหาวิธีการแก้ไขเอาเองแล้วกัน
เดิมทีสวี่ชิงต้องการจะถามเรื่องเหยียนป๋อชวนกับเกาจ้าน แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายพูดเรื่องไร้สาระด้วยท่าทางจริงจัง เธอจึงปล่อยวางเรื่องดังกล่าว กลับไปถามโจวจินหนานคงจะน่าเชื่อถือกว่า
……
ในฝั่งของสวี่หรูเยว่เองก็หวาดกลัวแทบตายเช่นกัน หลังจากถูกเปิดโปงเรื่องลูกอย่างไม่คาดคิด แม่เฒ่าโจวก็มาด่วนจากไปอีก
แม้ว่าหลังจากนั้นบ้านสกุลโจวจะไม่ได้ตำหนิหล่อนก็ตาม
แต่ตอนนี้หล่อนไม่ได้สนใจว่าลูกจะเป็นอย่างไร เพียงต้องการหย่ากับโจวจินซวนให้เร็วที่สุด และเป็นการดีที่สุดที่หลังจากนี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบ้านหลังนั้นอีก
ฟางหลานซินไม่คาดคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดจะกลายมาเป็นแบบนี้!
สวี่หรูเยว่ไม่ได้กำจัดเด็กในท้อง อีกทั้งยังทำให้แม่เฒ่าโจวเป็นลมล้มตึงจนโดนพรากชีวิตไป แล้วพวกหล่อนจะต้องชดใช้อย่างไร?
เมื่อมองไปยังเย่เหม่ยที่ยังคงกินดีอยู่ดีในบ้าน หล่อนก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้น “เธอไม่ได้บอกว่าจะช่วยจัดการสวี่ชิงหรือไง? ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้?”
เย่เหม่ยรู้สึกไม่พอใจกับอาหารที่จืดชืดมีแต่น้ำตลอดช่วงสองวันที่ผ่านมา ใบหน้าของหล่อนมืดหม่นลงเมื่อเห็นท่าทางกล้าแสดงออกของฟางหลานซิน “นั่นเป็นเพราะพวกเธอมันไร้สมองเอง จะมาโทษฉันได้ยังไง? สวี่หรูเยว่ก็บอกว่าสวี่ชิงท้องอยู่ไม่ใช่หรือไง ตอนนี้เธอควรจะหาวิธีกำจัดลูกมันได้แล้ว”
จะกระทำการใหญ่ใจต้องนิ่งพอ ในเมื่อสวี่ชิงปฏิเสธที่จะมอบแหวนให้ หล่อนก็ทำให้ชีวิตของอีกฝ่ายต้องยุ่งเหยิง
เมื่อใดที่แมงมุมพิษของเขตแม้วมาถึง หล่อนก็จะรอดูว่าสวี่ชิงจะหยิ่งทะนงไปได้ถึงไหน
แต่สิ่งเดียวที่เย่เหม่ยรู้สึกเสียใจคือเมื่อมันมาถึงแล้ว เธอกลัวว่าการตรวจสอบทางจราจรจะเข้มงวดจนทำให้พิษของมันเหลือน้อยเกินไป!
สวี่หรูเยว่ใจเต้นแรง “เธอกำลังจะบอกว่าเธอมีวิธีการทำให้สวี่ชิงเก็บเด็กในท้องเอาไว้ไม่ได้ใช่ไหม?”
เย่เหม่ยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “มีหลายวิธี ทั้งภัยทางธรรมชาติ อุบัติเหตุจากคน และอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่ใช่แค่อย่างที่เธอคิดหรอก ฉันแค่ช่วยเธอคิด สุดท้ายแล้วฉันคงไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิดหรอกใช่ไหม?”
ฟางหลานซินรู้สึกว่าความคิดดังกล่าวไม่เข้าท่า “หรูเยว่ ลูกอย่ารีบร้อน เรามาช่วยกันคิดดีกว่า”
พวกหล่อนประสบกับความสูญเสียต่อหน้าสวี่ชิงมากเกินไป จะทำอะไรหุนหันพลันแล่นไม่ได้
เย่เหม่ยยิ้มเยาะ “จะว่ากลัวก็กลัวนั่นแหละ ไม่แปลกใจที่ถูกกลั่นแกล้งจนตาย ความสามารถที่เธอใช้จัดการเย่หนานหายไปไหนแล้วล่ะ?”
ฟางหลานซินเพิกเฉยต่อหล่อน เพราะวิธีการที่ก้าวร้าวไม่อาจใช้ได้ผลกับหล่อน
สวี่หรูเยว่เบื่อหน่ายเต็มทน พอไม่มีอะไรทำ ฟางหลานซินกับเย่เหม่ยก็เอาแต่ต่อล้อต่อเถียงกันอยู่ที่บ้านได้ทั้งวี่ทั้งวัน หล่อนลุกขึ้นยืนอย่างหงุดหงิดและเดินกระแทกเท้าออกจากประตูไป
เย่เหม่ยที่อยู่ข้างหลังพูดขึ้นว่า “ดูลูกสาวที่เธอเลี้ยงดูมาสิ ไม่รู้จักประพฤติตัวให้เรียบร้อยเลย!”
สวี่หรูเยว่ออกไปสูดอากาศข้างนอก และพบเข้ากับหลี่ต้าหย่งทั้งที่ยังไม่ทันได้ก้าวออกนอกประตู
หากพูดให้ถูกคือหลี่ต้าหย่งนั่งยอง ๆ รอคอยอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าลานบ้าน เขาแค่อยากให้สวี่หรูเยว่ออกเพื่อพูดคุยกันดี ๆ
ในขณะที่รออยู่ สวี่หรูเยว่ก็เดินออกมา เขารีบวิ่งเข้าไปหาหล่อนด้วยความตื่นเต้น “หรูเยว่ ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม?”
สวี่หรูเยว่กำลังหงุดหงิดแทบตาย อีกทั้งขมวดคิ้วอย่างไร้ความอดทน “จะคุยอะไร? ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย!”
หลี่ต้าหย่งหยุดสวี่หรูเยว่ไว้ “เธอทำให้ผู้เฒ่าบ้านสกุลโจวโกรธแทบตาย เธอยังคิดว่าตัวเองจะมีชีวิตดี ๆ กับโจวจินซวนอยู่อีกเหรอ? ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องลูกของฉันอยู่นะ ตราบใดที่เธอเต็มใจ ฉันก็จะไปหาเงินมาสนับสนุนเธอได้แน่”
สวี่หรูเยว่หยุดหลบซ่อน กอดอกและหันไปมองหลี่ต้าหย่งอย่างดูถูกเหยียดหยาม “นายน่ะเหรอ? อยากจะอยู่กับฉันจริง ๆ เหรอ?”
หลี่ต้าหยงพยักหน้า “จริงสิ!”
สวี่หรูเยว่พูดอย่างเย็นชา “งั้นก็ง่ายมาก เมื่อไหร่ที่นายกำจัดเด็กในท้องของสวี่ชิงได้ ฉันจะแต่งงานกับนาย”
……
หลังจากที่โจวจินหนานกับเหยียนจี้ชวนจากไป พวกเขาก็ไม่กลับมาอีกเป็นเวลาสามวัน
งานศพของเฉินหยิงเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นถูกปิดเอาไว้เป็นความลับ ไม่มีข่าวสะพัดออกไปภายนอก
สวี่ชิงยังคงเป็นกังวลกับโจวจินหนานเล็กน้อย ในขณะที่เฟิงซูฮวาสั่งให้เธอคัดลอกใบสั่งยา แต่เธอกลับเขียนผิดทั้งหมด
เฟิงซูฮวามองดูสวี่ชิงที่ใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแผ่นกระดาษที่อยู่ใต้มือเธอ “จิตใจหลานช่างยุ่งเหยิงนัก”
สวี่ชิงวางปากกาลงและหันไปมองเฟิงซูฮวา “คุณย่าคะ ฉันอยากรู้วิธีเลี้ยงกู่”
เฟิงซูฮวามองดูสวี่ชิงด้วยความประหลาดใจ “ทำไมจู่ ๆ ถึงได้อยากรู้ขึ้นมาล่ะ?”
สวี่ชิงเท้าคาง “ฉันอยากเรียนรู้วิธีเลี้ยงดูกู่ แล้วก็วิธีรักษาด้วยค่ะ โรคอื่นสามารถรักษาด้วยวิธีการแพทย์แผนจีนกับตะวันตก แต่โรคนี้ไม่มีวิธีเลย”
เฟิงซูฮวาหัวเราะและลูบศีรษะของสวี่ชิง “เพื่อโจวจินหนานใช่ไหม? เอาไว้พรุ่งนี้ย่าจะสอนหลานให้ แต่หวังว่าหลานจะไม่ต้องการใช้มันไปตลอดชีวิตนะจ๊ะ”
ท้ายที่สุดมันก็ไม่ใช่วิชาที่ดีนัก
สวี่ชิงครุ่นคิด “ถ้าฉันเรียนรู้ตอนนี้ มันจะส่งผลต่อลูกในท้องไหมคะ?”
ทันทีที่พูดจบ เสียงโครมครามก็ดังมาจากลานบ้าน ราวกับเสียงของก้อนหินหล่นกระทบบนพื้น
น่าประหลาดที่เสียงดังขนาดนี้ แต่ไป๋หลางกลับไม่ส่งเสียง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
หลอกใช้ต้าหย่งอีกแล้วนะหรูเยว่
ไป๋หลางโดนจัดการไปก่อนจะเห่าเตือนแล้วหรือเปล่า
ไหหม่า(海馬)