เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 190 กดดันทีละน้อย
บทที่ 190 กดดันทีละน้อย
จงจื้อกั๋วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก่อนที่เขาจะตอบสนองอะไร โจวจินหนานก็รีบพุ่งตัวออกไป ปีนป่ายไปที่ชั้นห้า และปีนบันไดทางหนีไปที่หลังคา
กลางคืนมืดสงัด ไฟบนถนนด้านล่างสลัว ๆ ทำให้บนหลังคายิ่งมืดมิด
ร่างเพรียวยืนอยู่บริเวณริมตึก ลมที่พัดผ่านมาทำให้กระโปรงของเธอพลิ้วไสว
โจวจินหนานตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก “ชิงชิง คุณจะทำอะไร?”
เสียงของเขาสั่นเครือโดยไม่รู้ตัว
สวี่ชิงหันกลับมาด้วยท่าทางสงบนิ่ง เท้าข้างหนึ่งเหยียบพื้นอาคารแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ส่วนอีกครึ่งลอยอยู่กลางอากาศ ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความมืดมิดดูสงบมาก ทว่าน้ำเสียงฟังดูเศร้าและไม่สบายใจ “โจวจินหนาน พวกเขาบังคับให้ฉันยอมรับว่าคนในคืนนั้นคือคุณ พอฉันปฏิเสธ พวกเขาก็ไม่เชื่อ”
“แต่คนในคืนนั้นไม่ใช่คุณ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเป็นคุณ! ฉันจะได้ไม่ต้องอึดอัด ไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างวิตกกังวลทุกวัน ไม่ต้องตื่นนอนจากฝันร้ายกลางดึก”
“พวกเขาไม่เชื่อสิ่งที่ฉันพูด ยืนกรานว่าคุณคือคนในคืนนั้น และมีหลักฐานเป็นรูปถ่าย ภาพมันคลุมเครือมาก แต่ฉันมั่นใจว่าไม่ใช่คุณ ทำไมพวกเขาไม่เชื่อสิ่งที่ฉันพูด ถ้าอย่างนั้น ฉันจะกระโดดตึกเพื่อพิสูจน์ว่าคำพูดของฉันเป็นความจริงทั้งหมด!”
จงจื้อกั๋วค่อย ๆ วิ่งขึ้นมา และหลับตาลงเมื่อได้ยินคำพูดของสวี่ชิง
เขาประเมินผู้หญิงคนนี้ต่ำไปจริง ๆ แม้แต่ภาพถ่ายก็ทำให้เธออ่อนข้อไม่ได้
เดิมทีเขาต้องการจะหลอกล่อโจวจินหนาน แต่กับคาดไม่ถึงว่าเธอจะใช้วิธีการแก้ปัญหา โดยสมรู้ร่วมคิดกับโจวจินหนาน
ตอนนั้นมีคนเฝ้าเธออยู่ เธอขึ้นมาที่นี่ได้อย่างไร?
โจวจินหนานรู้สึกถึงช่องอกที่รัดแน่นขึ้นมาทันใด ความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาทุกอณูทำให้เขาหายใจไม่ออก
สวี่ชิงรับรู้ข้อเท็จจริงอย่างแจ่มแจ้ง กระทั่งตอนนี้เธอก็ยังทำให้เขาหลุดพ้นข้อกล่าวหา อีกทั้งยังใช้วิธีการสุดโต่งส่งข้อมูลให้เขา เขาจึงค่อย ๆ เอื้อมมือออกไปหาเธอ “ผมรู้ คุณลงมาก่อน อย่าใส่ใจกับคำพูดของพวกเขาเลย”
สวี่ชิงส่ายหัว “ฉันไม่ลง! ฉันอยากให้ทุกคนรู้ว่าคนพวกนี้กำลังเปลี่ยนขาวให้เป็นดำ ฉัน สวี่ชิงคนนี้ยอมเสียชื่อเสียง แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเสียชื่อเสียงเด็ดขาด คุณมีร่องรอยบาดแผลบนร่างกายมากได้ยังไง พวกเขาลืมไปแล้วเหรอ? แล้วตอนนี้ยังมีหน้ามาใส่ร้ายคุณอย่างไร้เหตุผลอีก!”
“เว้นแต่ว่าพวกเขาจะต้องขอโทษ!”
จงจื้อกั๋วตกตะลึง จะให้ทีมสืบสวนขอโทษอย่างนั้นหรือ?
หากถามว่ามีการทะเลาะกับโจวจินหนานหรือไม่ แน่นอนว่าไม่มี
เหตุผลหลักคือทั้งสองฝ่ายไม่ชอบหน้ากัน คอยสร้างปัญหาและหัวเราะเยาะกันและกัน
หากโจวจินหนานกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ในการสืบสวนครั้งนี้ มันจะเป็นการตบหน้าเขาอย่างแรกต่อหน้าหน่วยงานซี
จงจื้อกั๋วชะงักไปครู่หนึ่ง ถ้าเขาไม่แสดงท่าที สวี่ชิงผู้ตื่นตระหนกจะต้องกระโดดลงไปแน่ และเรื่องทุกอย่างจะบานปลายขึ้น!
สวี่ชิงมองดูสีหน้าของจงจื้อกั๋วอย่างใกล้ชิด ดวงตาคู่นั้นดูสว่างไสวในความมืดเป็นพิเศษ ราวกับมีเปลวไฟเล็ก ๆ สองกองอยู่ในนั้น เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและดื้อดึง
หัวใจของโจวจินหนานกระโจนออกมาอยู่ที่ลำคอ เขาไม่เคยตื่นตระหนกเท่านี้มาก่อน
ไม่มีแม้แต่ความสงบนิ่งและไม่แยแสของการลุยทุ่งระเบิดในป่าใหญ่ เพียงแต่ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง “ชิงชิง ลงมาเถอะ คุณทำแบบนี้มันไม่คุ้มหรอก”
จงจื้อกั๋วรีบใช้โอกาสนี้พูดเกลี้ยกล่อม “ใช่แล้วสหายเสี่ยวสวี่ ถึงจะเข้าผิดกันไปบ้าง แต่เรายังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวน ที่ทำอย่างนี้จะได้มั่นใจว่าเราไม่ได้กล่าวหาคนผิด”
สวี่ชิงหยุดโจวจินหนานไม่ให้ก้าวมาข้างหน้า “โจวจินหนาน คุณหยุด! หัวหน้าจง คุณคิดว่าฉันเอาความตายมาขู่คุณหรือไง? ฉันจะทำจริงต่างหาก! ในเมื่อคุณไม่ยอมประนีประนอมและพยายามเกลี้ยกล่อมฉันให้ยอมความ ฉันก็จะพิสูจน์ตัวเองว่าฉันไม่ได้โกหก และตั้งแต่ต้นจนจบฉันไม่ได้พูดโกหกเลยสักนิด”
ขณะที่กำลังพูด ร่างของเธอก็โงนเงนราวกับกำลังล้มลง
โจวจินหนานตื่นตระหนกจนรีบวิ่งเข้าไปหาสวี่ชิง โอบกอดสวี่ชิงเอาไว้เมื่อเห็นว่าสวี่ชิงเริ่มเอนหลังลง
การกระทำของเขาว่องไวมากจนจงจื้อกั๋วยังมองไม่ทัน โจวจินหนานรีบดึงสวี่ชิงเข้ามายังสถานที่ปลอดภัย อดไม่ได้ที่จะสัมผัสเหงื่อบนหน้าผาก
หากโจวจินหนานช้ากว่านี้ สวี่ชิงคงจะหล่นลงไป ถ้าเกิดเธอตายหรือพิการ ใครจะรับผิดชอบ?
เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีเหตุผล อีกทั้งโจวจินหนานยังยึดไว้ไม่ปล่อยมือ
โจวจินหนานกอดเอวของสวี่ชิงแน่น ร่างของเขาสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว จนสวี่ชิงที่เอนกายอยู่ในอ้อมกอดของเขารู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดแปลกไปของโจวจินหนาน
“จงจื้อกั๋ว! ตอนนี้คุณพอใจกับคำตอบแล้วหรือยัง? ผมจะเขียนเอกสารติเตียนเกี่ยวกับการสืบสวนที่อุกอาจของคุณ”
จงจื้อกั๋วชะงักไปครู่หนึ่ง สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือการจิกกัดกลับของโจวจินหนาน
ทว่าเขาเองก็เป็นจิ้งจอกเฒ่ามากประสบการณ์เช่นกัน จึงยกยิ้มขึ้น “ดูเหมือนว่าข้อมูลที่ได้รับการรายงานมาจะไม่ถูกต้อง ทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด พวกเราเองก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น อีกอย่างพวกเราได้เห็นแล้วว่าสามีภรรยาคู่นี้มีความสัมพันธ์อันดีงามต่อกัน แต่พวกผมคงไม่สามารถมีความสุขไปกับพวกคุณได้”
สวี่ชิงตีแขนโจวจินหนานเพื่อส่งสัญญาณให้เขาปล่อยมือ ยืนตัวตรงและจ้องเขม็งไปที่จงจื้อกั๋วด้วยแววตาที่ลุกโชน “พวกคุณเชื่อถือรายงานที่ไม่ระบุชื่อ อีกทั้งยังใส่ร้ายผู้อื่นด้วยความประมาทเลินเล่อไม่ใช่เหรอ? แล้วแบบนี้ฉันจะรายงานว่าหน่วยงานของคุณทำงานไม่เคร่งครัด กระตือรือร้นแต่จะสร้างความดีความชอบให้ตัวเองบ้างได้ไหมล่ะ?”
จงจื้อกั๋วไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าคนอายุน้อยอย่างสวี่ชิงจะกดดันเขาทีละน้อย และให้เขายอมรับความผิดพลาดในการทำงาน
เขาอ้าปากจะอธิบาย
แต่สวี่ชิงกลับพูดขัดจังหวะ “ในฐานะภรรยาของโจวจินหนาน ฉันหวังว่าเรื่องทุกอย่างจะจบลงที่นี่! พวกคุณจะมารู้เรื่องที่ฉันไม่รู้ได้ยังไง? หรือพวกคุณอยู่ในที่เกิดเหตุ? ถ้าพวกคุณอยู่ในที่เกิดเหตุ ทำไมตอนนั้นถึงปฏิเสธที่จะช่วยฉันล่ะ?”
“ถ้าพวกคุณยังขืนพูดเรื่องนี้ต่อไป ฉันจะฟ้องกลับเรื่องที่บังคับให้ฉันสารภาพในวันนี้แน่นอน!”
จงจื้อกั๋วพูดไม่ออก สวี่ชิงพูดถึงคำที่เขาต้องการอธิบายหมดแล้ว และเขาไม่ก็สามารถพูดออกไปได้
ทำได้เพียงพยายามพูดไกล่เกลี่ยอย่างเต็มที่ “บอกว่าเข้าใจผิดก็คือเข้าใจผิดสิครับ หลังจากนี้ไปพวกเราจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับโจวจินหนานด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร “ต้องขอโทษด้วยนะ วันนี้เข้าใจกันไปผิดยกใหญ่เลย อันที่จริงเราไม่ค่อยเชื่อตั้งแต่ได้รับรายงานมาแล้วล่ะ ยังไงซะบุคลิกของคุณก็ชัดเจนมากแล้ว แค่เราได้รับรายงานมาและต้องสืบสวนเท่านั้นเอง”
หัวข้อบทสนทนาเริ่มเปลี่ยนไป “อีกอย่างจะมากล่าวหาว่าพวกเราเข้มงวดไม่ได้ พวกคุณเองก็รู้ดีว่าหลายปีก่อนมีสิ่งเลวร้ายมากมายเกิดขึ้นในสถานที่อาศัยของปัญญาชน หญิงสาวหลายคนปิดบังเรื่องนี้เอาไว้เพื่อรักษาชื่อเสียงของตนเองและเพื่อให้ได้กลับมาในเมือง เพราะฉะนั้น…”
สีหน้าของสวี่ชิงมืดหม่นลง “เพราะงั้นคุณเลยคิดว่าฉันกำลังปิดบังอะไรอยู่เหรอคะ?”
จงจื้อกั๋วรีบโบกมือ “ไม่ใช่ครับไม่ใช่ สหายเสี่ยวสวี่เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว พวกเราแค่มาสืบสวน ไม่ได้มีอะไรทั้งนั้น พวกเขาเชิญกลับไปก่อนได้เลยครับ”
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ผมจัดเตรียมรถให้พาพวกคุณไปส่งแล้วครับ ต้องขอโทษสำหรับเหตุการณ์ในวันนี้จริง ๆ เอาไว้กลับไปแล้วผมจะเขียนรายงานสถานการณ์ คนที่รายงานเรื่องนี้มาจะต้องมีเจตนาที่ไม่ดีแน่ ๆ”
สวี่ชิงจ้องเขม็งไปที่จงจื้อกั๋ว “รายงานนิรนามถูกส่งมาจากที่ไหนคะ?”
จงจื้อกั๋วลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ผมบอกไม่ได้ครับ แต่ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้จะต้องจบลง และมันจะไม่เกิดขึ้นอีก!”
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
หน่วยสืบสวนนี้แปลก ๆ นะคะ รับสินบนมาจากตระกูลหูหรือเปล่าเนี่ย
ไหหม่า(海馬)