เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 189 สวี่ชิงปกป้องโจวจินหนานภายใต้การสอบสวน
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80
- บทที่ 189 สวี่ชิงปกป้องโจวจินหนานภายใต้การสอบสวน
บทที่ 189 สวี่ชิงปกป้องโจวจินหนานภายใต้การสอบสวน
เกาจ้านกำลังร้อนรน แต่เขาไม่สามารถรายงานเรื่องนี้กับสวี่ชิงได้
เขามักจะรู้สึกว่าการไม่บอกสวี่ชิงเป็นการตัดสินใจที่ถูกเสมอ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่ใช่แบบนั้น
แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ แต่ใครกันที่รายงานเรื่องนี้?
ต่อให้จะมีพวกเดียวกันอยู่ทุกที่ แต่พวกเขาก็ยังคงตกอยู่ในการสอบสวนของทีมสอบสวนเขต C ที่ไม่ใช่พวกเดียวกันอยู่ดี
……
เมื่อเห็นว่าโจวจินหนานยังไม่กลับมาที่บ้านกระทั่งตอนเย็น สวี่ชิงก็รู้สึกเป็นกังวลมากขึ้นและไม่อาจนั่งนิ่งอยู่ที่บ้านเฉย ๆ ได้ เธอจึงหันไปพูดเฟิงซูฮวา และพาไป๋หลางไปที่ร้านอาหาร
ร้านอาหารยังเต็มไปด้วยฝูงชน ขณะที่ผางเจิ้งหัวกับหูจือมีพลังงานเต็มเปี่ยม ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
สวี่ชิงก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน เธอยิ้มและเดินเข้าไปช่วยคุณอาซุนเชียวเฟิ่งทำอาหาร
คุณอาซุนเชียวเฟิ่งประหลาดใจ “นึกว่าวันนี้เธอจะไม่มาแล้วซะอีก ทำไมวันนี้มาสายจัง พวกเรากำลังยุ่งอยู่เลยจ๊ะ”
สวี่ชิงยิ้ม “ฉันอยู่บ้านแล้วไม่มีอะไรทำน่ะค่ะ ออกมาช่วยพวกคุณอาที่ร้านดีกว่า”
ซุนเชียวเฟิ่งหัวเราะ “ไอหยา เธอคิดว่าพวกเราไม่รู้หรือไง? เธอท้องใช่ไหม?”
สวี่ชิงเลิกคิ้ว “คุณอารู้แล้วเหรอคะ? ฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เลยไม่ได้บอกน่ะค่ะ”
ซุนเชียวเฟิ่งแสดงสีหน้าราวกับรู้เรื่องทุกอย่าง “ตามธรรมเนียมปฏิบัติของที่นี่ เราจะไม่พูดถึงจนกว่าจะถึงสามเดือน เพราะงั้นเธอจะต้องระวังนะ”
สวี่ชิงยิ้ม “ทำไมถึงเดาถูกคะ ไม่ได้อยากจะบอกว่าถูกต้องหรอกค่ะ แต่เมื่อถึงตอนนั้นก็คงใช่”
ซุนเชียวเฟิ่งจ้องมองใบหน้าและรูปร่างของสวี่ชิงอีกครั้ง “อย่าโกรธกันเลยนะถ้าอาจะพูดอะไรสักหน่อย แต่จากแปดสิบเปอร์เซ็นต์ลูกของเธอน่าจะเป็นผู้หญิงนะ”
สวี่ชิงไม่ได้หมกหมุ่นว่าจะต้องเป็นเพศชายหรือเพศหญิง แต่กับประหลาดใจที่ซุนเชียวเฟิ่งมองออก “คุณอา น่าทึ่งมากเลยคะ คุณอาดูออกด้วยเหรอคะ?”
ซุนเชียวเฟิ่งกลัวว่าสวี่ชิงจะคิดมาก “อาเห็นมานักต่อนักแล้ว จากประสบการณ์ที่ผ่านมาก็เดาแม่นทุกครั้ง แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็เหมือน ๆ กันนั่นแหละ เธอเป็นคนสวย ถ้าได้ลูกผู้หญิงจะต้องสวยมากแน่”
สวี่ชิงยิ้มรับ “ค่ะ”
ซุนเชียวเฟิ่งกลัวว่าสวี่ชิงจะเหนื่อย ดังนั้นจึงแนะนำให้เธอพักผ่อน และไม่จำเป็นต้องมายืนทำอาหาร
สวี่ชิงทำอะไรไม่ถูก วางทัพพีทำอาหารลง และลงไปดูซุนเถียนทำบัญชี
หญิงสาวยังอายุไม่มากนัก กลับใช้ลูกคิดอย่างคล่องแคล่ว คิดคำนวณด้วยมือซ้ายและจดบันทึกด้วยมือขวา จนสวี่ชิงที่มองอยู่ถึงกับตาพร่า
“ซุนเถียน ถ้าหลังจากนี้ฉันเปิดบริษัท ฉันจะแต่งตั้งให้เธอเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีแน่นอน”
ซุนเถียนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “ฝ่ายบัญชีอะไร? จะทำอะไรเหรอ? กว่าแม่ฉันจะฝากฝังงานปัจจุบันของฉันให้ได้มันไม่ง่ายเลย และปีหน้าฉันคงจะได้กลายเป็นพนักงานประจำ”
สวี่ชิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เธอยังไม่ได้เป็นพนักงานประจำอีกเหรอ?”
ซุนเถียนส่ายหน้า “ยังหรอก ฉันเป็นแค่พนักงานสัญญาจ้างน่ะ แต่ถ้าฉันทำงานออกมาดี ฉันก็จะได้เป็นพนักงานประจำ อีกอย่างฉันได้รับรางวัลคิดเลขไวอันดับที่สามในเมืองด้วย”
สวี่ชิงยกนิ้วให้หล่อน “เก่งมาก หลังจากนี้จะต้องมีอนาคตที่สดใสแน่นอน”
หลังจากเดินไปรอบ ๆ ร้านอาหาร เธอจึงพบว่าข้างนอกมืดแล้ว แต่โจวจินหนานก็ยังไม่กลับมา
สวี่ชิงยืนอยู่หน้าร้าน มองดูผู้คนเดินขวักไขว่อยู่ในลานจัตุรัส รอให้โจวจินหนานมารับเธอกลับบ้าน
แต่หลังจากรออยู่ไม่นาน ชายหนุ่มสองคนก็เดินเข้ามาหาเธอ
สวี่ชิงก้าวถอยหลังอย่างระมัดระวังตัว ขณะมองดูชายทั้งสองคนที่เดินเข้ามา “พวกคุณมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
ชายหนุ่มที่สวมแว่นตามีท่าทางอ่อนโยนขึ้น และแสดงบัตรพนักงานให้สวี่ชิงดู “พวกเรามาจากทีมสอบสวนในเขตซี เราได้รับรายงานมาว่าโจวจินหนาน สามีของคุณกระทำความผิด”
สวี่ชิงขมวดคิ้ว “ทำผิดอะไรคะ?”
ชายคนใส่แว่นดันแว่นตาขึ้น “คุยที่นี่คงไม่สะดวกเท่าไหร่ครับ คุณควรจะมากับพวกผมและกรุณาให้ความร่วมมือในการตอบคำถามด้วย”
สวี่ชิงมองดูชายทั้งสองคนด้วยความสงสัย “ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณเป็นตัวจริงหรือเป็นใครปลอมตัวมา ทำไมฉันจะต้องไปกับพวกคุณด้วย?”
ชายหน้ากลมที่อยู่ข้างชายใส่แว่นพูดออกมาอย่างใจดี “สามีของคุณถูกคุมตัวมาสอบสวนอยู่ครับ หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือกับพวกเราอย่างดี”
สวี่ชิงมองพิจารณาชายทั้งสองคน ดวงตาของพวกเขาแน่วแน่มาก และดูไม่ใช่คนเลวร้าย
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ตัดสินใจไปกับคนทั้งสอง
เมื่อเห็นป้ายทะเบียนรถจี๊ปที่จอดอยู่ข้างถนน เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย เมื่อพบว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหก
พวกเขาขับรถพาเธอไปที่ตึกสำนักงานที่ตั้งอยู่ทางด้านหลังตัวจังหวัด ชายหนุ่มที่ใส่แว่นลงจากรถ และเชิญสวี่ชิงให้ลงจากรถอย่างสุภาพ
สวี่ชิงมองดูอาคารสำนักงาน มีสำนักงานเพียงไม่กี่ห้องที่มีไฟเปิดอยู่ ไม่รู้ว่าโจวจินหนานอยู่ในนั้นหรือไม่
เมื่อรู้ว่าเป็นคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบ เธอจึงเดินตามทั้งสองขึ้นไปยังชั้นสองของสำนักงานเงียบ ๆ
พวกเขาขอให้สวี่ชิงนั่งลง และรินน้ำชาให้สวี่ชิง
จากนั้นชายวัยสี่สิบที่มีหน้าตาดูใจดีและมั่งคั่งก็พูดขึ้นอย่างสุภาพทันทีที่เห็นสวี่ชิง “สวัสดีครับคุณสวี่ ผมชื่อจงจื้อกั๋ว หัวหน้าทีมสืบสวนคดีนี้ครับ”
สวี่ชิงลุกขึ้นยืนและก้มศีรษะเล็กน้อย “สวัสดีค่ะคุณหัวหน้าทีมสืบสวนจง คุณบอกว่าคุณกำลังสอบสวนสามีฉัน ไม่ทราบว่าเขาทำอะไรผิดเหรอคะ?”
จงจื้อกั๋วโบกมือให้สวี่ชิงนั่งลง “ไม่ต้องกังวลครับ นั่งลงแล้วคุยกันก่อน”
เมื่อเห็นสวี่ชิงนั่งลง เขาจึงดึงเก้าอี้และนั่งลงตรงข้ามสวี่ชิง สีหน้าของเขาดูจริงจัง “หวังว่าคุณสวี่จะให้ความร่วมมือกับเราอย่างดีนะครับ และทางเราจะรับผิดชอบทุกอย่างที่พูดออกไป”
นิ้วของสวี่ชิงที่วางขนาบขากำเข้าหากันแน่นโดยไม่รู้ตัว เธอรีบคลายนิ้วออกและวางนิ้วลงบนหัวเข่าในท่าทางผ่อนคลาย ขณะมองจงจื้อกั๋ว “หัวหน้าจง ถามสิ่งที่คุณอยากรู้ว่ามาเลยดีกว่าค่ะ”
จงจื้อกั๋วพยักหน้า “คุณกับโจวจินหนานเจอกันในเดือนมีนาคมปีนี้ใช่หรือไม่?”
สวี่ชิงส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ”
“วันที่ยี่สิบแปดมีนาคมมีเรื่องเลวร้ายเกิดกับคุณที่ริมแม่น้ำฮวงโห ทำไมคุณถึงไม่ยอมแจ้งความเรื่องดังกล่าวครับ?”
สวี่ชิงขมวดคิ้ว “เพราะฉันไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสามีฉันเหรอคะ?”
จงจื้อกั๋วผ่อนน้ำเสียงอ่อนลง “เราได้รับรายงานว่าบุคคนที่ทำการล่วงละเมิดคุณที่แม่น้ำฮวงโหในคืนนั้นคือโจวจินหนาน เพื่อไม่ให้เหตุการณ์นั้นแพร่งพรายออกไป เขาจึงตัดสินใจแต่งงานกับคุณ”
สวี่ชิงมองไปที่จงจื้อกั๋วด้วยความสงสัย “ทำไมฉันไม่ยักจะรู้เลยคะ? พวกคุณคิดว่าฉันจะแต่งงานกับคนที่ข่มขืนฉันหรือไง?”
จงจื้อกั๋วนิ่งเงียบไปชั่วขณะ “จากการสอบสวน ตอนนั้นคุณอยู่ในอาการโคม่า เป็นธรรมดาที่คุณจะไม่รู้ว่าเป็นเขา”
สวี่ชิงเริ่มรู้สึกโกรธเคือง “ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพวกคุณถึงใส่ร้ายสามีของฉัน อีกทั้งยังโรยเกลือบนบาดแผลของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันจะบอกพวกคุณให้ฟังชัด ๆ ว่าคนในคืนนั้นไม่ใช่โจวจินหนาน! และถ้าฉันไม่มีสติสัมปชัญญะในการตัดสินใจ ชีวิตทั้งสิบเก้าปีของฉันคงไร้ประโยชน์”
จงจื้อกั๋วขมวดคิ้ว “คุณสวี่ ผมจะแสดงหลักฐานบางอย่างให้คุณ และคุณควรจะเชื่อมัน!”
……
โจวจินหนานยืนอยู่ที่ริมหน้าต่างเงียบ ๆ หัวใจของเขาไม่เคยสงบนิ่งเท่านี้มาก่อน
เขารู้สึกโล่งใจเมื่อทุกอย่างทุกเปิดเผย แต่เขากลับรู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจเมื่อนึกถึงความโศกเศร้าของสวี่ชิง
จงจื้อกั๋วผลักประตูเข้ามาทั้งที่โจวจินหนานยังคงยืนอยู่ข้างหน้าหน้าต่าง เขายืนตระหง่านราวกับต้นสนบนภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ทั้งเย่อหยิ่งและเย็นชา
เขาหยุดและพูดขึ้นว่า “โจวจินหนาน สวี่ชิงระบุว่าคุณคือคนในคืนนั้น คุณมีอะไรจะพูดแก้ต่างหรือไม่?”
ขณะที่เขากำลังอ้าปากพูด ใครบางคนก็อุทานว่า “มีคนกำลังจะโดดตึก!”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
อะไรกันน่ะ เรื่องคืนนั้นของชิงชิงมันเกี่ยวข้องกับภารกิจลับอะไรอย่างนั้นเหรอ
ใครจะโดดตึกเนี่ย?
ไหหม่า(海馬)