เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 187 การแต่งงานของเธอเป็นเพียงการปิดบังเรื่องอื้อฉาวที่เขาก่อขึ้น
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80
- บทที่ 187 การแต่งงานของเธอเป็นเพียงการปิดบังเรื่องอื้อฉาวที่เขาก่อขึ้น
บทที่ 187 การแต่งงานของเธอเป็นเพียงการปิดบังเรื่องอื้อฉาวที่เขาก่อขึ้น
หนังศีรษะของสวี่ชิงลุกซู่เมื่อได้ยินเรื่องกู่ อีกทั้งยังไม่ชอบใจที่หนอนกู่หลงเหลือพิษเอาไว้
เฟิงซูฮวาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “หล่อนขนแมลงกู่มีชีวิตทุกประเภทมาไม่ได้หรอก ถ้าระหว่างทางไม่มีอาหารเลี้ยงดูหนอนกู่ มันก็จะกัดกินผู้เป็นนายแทน หล่อนไม่ทำอะไรเสี่ยง ๆ แบบนั้นหรอก อีกอย่างการเลี้ยงดูจะเลี้ยงดูแค่ช่วงสั้น ๆ ไม่ได้”
“เพราะฉะนั้น อย่างมากที่สุดมันจะพ่นพิษใส่เธอหรือไม่ก็อาหารของเธอ ตราบใดที่ไม่เข้าใกล้หล่อน เธอก็จะไม่เป็นอะไร”
สวี่ชิงแอบจดลงบนกระดาษเงียบ ๆ “ตำนานที่ว่ากู่สามารถอยู่ในอากาศได้เป็นเรื่องจริงใช่มั้ยคะ อยู่ได้ไกลถึงพันลี้มั้ยคะ?”
เฟิงซูฮวาหัวเราะ “เรื่องลึกลับทั้งหมดก็เป็นตำนานทั้งนั้น เพียงแต่มันมีพิษและส่งต่อพิษได้แบบตัวต่อตัวเท่านั้น ทั้งหมดที่แม่สาวแม้วทำได้ดีที่สุดคือการทะนุถนอมกู่ และป้องกันชายที่รักไม่ให้จากไปไหนหลังกลับมาแล้ว”
สวี่ชิงถอนหายใจทั้งที่รู้สึกสนใจ “ยังมีกู่แบบนี้อยู่มั้ยคะ? ฉันจะเรียนรู้และเพาะเลี้ยงให้โจวจินหนานสักตัว”
เฟิงซูฮวายิ้มและชี้ไปที่ท้องของสวี่ชิง “เขาปลูกกู่รักใส่หลานแล้ว หลานคงหนีเขาไปไม่ได้ไกลอีกตลอดชีวิต”
สวี่ชิงหน้าแดงก่ำ “คุณย่า ล้อฉันอีกแล้วนะคะ”
กระทั่งระหว่างที่คุยกัน เฟิงซูฮวากับสวี่ชิงก็ไม่กล้าที่จะผ่อนคลายมากนัก ยังคงเฝ้าระวังเย่เหม่ยอยู่ตลอด และรอคอยให้โจวจินหนานกลับมาในตอนกลางคืน
สวี่ชิงเล่าเกี่ยวกับคำท้าของเย่เหม่ยให้โจวจินหนานฟังอีกครั้ง
โจวจินหนานรู้สึกประหลาดใจมาก “หล่อนไม่กล้าทำเรื่องใหญ่โตในเมืองหรอก”
สวี่ชิงเท้าคาง “ฉันไม่ได้กลัวว่าหล่อนจะทำเรื่องใหญ่โต แค่เรื่องเล็ก ๆ ฉันก็แทบจะป้องกันตัวเองไม่ได้แล้ว”
เธอพูดขณะมองดูโจวจินหนาน “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหล่อนเอากู่อีกชนิดมาใส่และทำให้ฉันนิสัยเปลี่ยนไปจนคุณไม่รู้จัก เราจะทำยังไงกันดีคะ?”
โจวจินหนานเม้มริบฝีปากบางเข้าหากัน ความขุ่นเคืองแวบเข้ามาในดวงตาของเขาชั่วขณะ ก่อนจะดูอ่อนโยนขึ้นอีกครั้ง เขาเอื้อมมือออกไปลูบศีรษะของสวี่ชิง “ไม่ต้องกลัว ผมรู้จักคุณดี”
สวี่ชิงกระพริบตา “ถ้าเกิดฉันคิดว่าพี่เป็นคนไม่ดีล่ะ และไม่ให้พี่เข้าใกล้ด้วย?”
โจวจินหนานตอบกลับอย่างไม่ลังเล “ผมก็จะดูแลคุณอยู่ดี”
สวี่ชิงหลับตาลงขณะหัวเราะ เปลือกตาของเธอกลายเป็นสีแดงจาง ๆ ทว่าโจวจินหนานกลับไม่สังเกตเห็น
โจวจินหนานยังคงให้ความสำคัญกับคำท้าทายของเย่เหม่ย เพราะเขาเคยมีประสบการณ์กับพิษกู่จากอาณาเขตแม้วมาก่อน ถึงแม้ว่าเฟิงซูฮวาจะอยู่ที่นี่ด้วยกัน แต่เขาก็ไม่อยากให้สวี่ชิงต้องทุกข์ทรมานอยู่ดี
ตกกลางคืนตอนกำลังจะเข้านอน โจวจินหนานพบว่าสวี่ชิงไม่ได้ตัวติดกับเขามากนัก อีกทั้งยังไม่เข้ามากอดมาจูบเขาเหมือนทุกคืน
สวี่ชิงนอนหลับและขดตัวเป็นลูกบอลอย่างผิดปกติ เธอเอามือไขว้ไว้ที่หน้าอก บ่งบอกถึงสัญชาตญาณการป้องกันตัว
แสดงว่าเธอกำลังตื่นตัวโดยไม่รู้ตัวและไม่ไว้วางใจสภาพแวดล้อมโดยรอบ
ในช่วงสองสามวันแรก โจวจินหนานเพียงคิดว่าสวี่ชิงเหนื่อยล้า แต่เขากลับเริ่มคิดมากเมื่อเห็นว่าเธอเป็นแบบนี้ติดต่อกันสามถึงสี่วัน
เขานอนตะแคงข้างเพื่อเผชิญหน้ากับสวี่ชิง เห็นว่าเธอไม่ได้จงใจเว้นระยะห่างจากเขามากนัก แต่กลับนอนขดเป็นกุ้ง และกำมือแน่นแนบหน้าอก
ใบหน้าที่กำลังหลับใหลดูสงบนิ่งจนมองไม่เห็นความแตกต่าง ทว่าร่างกายกลับเปิดสัญชาตญาณปกป้องตัวเอง
โจวจินหนานยื่นมือออกไป แต่ก็ไม่กล้ารบกวนสวี่ชิงมากนัก ใช้นิ้วถูเข้ากับหว่างคิ้วของเธอ พยายามนึกภาพระหว่างวันในใจ สวี่ชิงขมวดคิ้วและยิ้มออกมา
ไม่มีอะไรผิดปกติ เธอยังยิ้มสดใสเหมือนเช่นเคย ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
เหมือนอย่างเคย ไม่มีอะไรแตกต่างไปเลย
ยิ่งเป็นแบบนี้ โจวจินหนานยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น และรู้สึกว่างเปล่าอย่างบอกไม่ถูก
เช้าวันรุ่งขึ้น โจวจินหนานยังไม่ยอมลุกจากที่นอน และรอให้สวี่ชิงตื่นนอนก่อน
มองดูสวี่ชิงที่กำลังลืมตาขึ้น ดวงตาของเธอยังคงพร่ามัวเล็กน้อย จนต้องกระพริบตาถี่ ๆ จากนั้นจึงหันไปมองเขาและยิ้มอย่างสดใส “อ๊ะ วันนี้คุณไม่ได้ตื่นแต่เช้าเหรอคะ?”
โจวจินหนานรู้สึกราวกับภาพลวงตา หรือท่าทางของสวี่ชิงในสองสามวันมานี้จะเป็นแค่ความเคยชิน?
เขาเอื้อมมือออกไปบีบแก้มสวี่ชิง “เมื่อคืนคุณฝันร้าย ผมกลัวว่าคุณจะไม่ยอมลืมตาขึ้นมา ถึงยังไม่ลุกไปไหน”
สวี่ชิงทำตาหยี ส่งยิ้มอย่างสดใส “งั้นฉันคงจะกลัวเย่เหม่ยมากถึงได้เก็บเอาไปฝันร้าย แต่ฉันจำไม่ได้เลย จำได้แค่ว่าตอนนี้ฉันกำลังจะตื่นขึ้น ฉันฝันว่าไปกินเกี๊ยวน้ำซุปเปรี้ยวที่ประตูเมืองเก่า”
โจวจินหนานมองดูดวงตาของสวี่ชิงอย่างระมัดระวัง และไม่เห็นถึงสิ่งผิดปกติอะไร เขาจึงเอื้อมมือออกไปลูบหัวสวี่ชิงอีกครั้ง “ผมจะไปซื้อให้ ลุกไปอาบน้ำล้างหน้าก่อนเถอะ”
สวี่ชิงพรวดพราดลุกขึ้น “ฉันอยากกินสักสองถ้วย ใส่พริกกับน้ำส้มสายชูเยอะ ๆ”
โจวจินหนานลุกขึ้น ดวงตาจับจ้องไปที่แผ่นหลังของสวี่ชิง เธอดูแตกต่างไปจากเดิม ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะรีบวิ่งเข้ามากอดและจูบเขาทันทีที่ได้ยินว่าเขาจะไปซื้อเกี๊ยวให้เธอ
และจงใจพูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ “โจวจินหนาน ทำไมคุณแสนดีขนาดนี้นะ ทำฉันเสียนิสัยหมด”
วันนี้เธอไม่ได้ทำอะไรเลย
ขณะที่โจวจินหนานออกไปซื้อเกี๊ยว เขายังแวะไปหาเกาจ้านด้วย
หลังจากที่สวี่ชิงอาบน้ำเสร็จแล้ว เธอก็ไปทำเครปไข่ม้วนเป็นอาหารเช้าให้เฟิงซูฮวา
ก่อนที่จะรับประทานอาหาร นางก็ยัดกล่องเหล็กสีดำใส่มือสวี่ชิงที่มีกลิ่นยาสมุนไพรฟุ้งขึ้นมา มันมีกลิ่นคล้ายไม้จันทน์แต่เย็นสดชื่นกว่าไม้จันทน์นิดหน่อย ซึ่งค่อนข้างหอมทีเดียว
เธอรู้สึกสงสัยขณะหยิบกล่องดำมาเล่น “คุณย่าคะ อะไรอยู่ในกล่องเหรอคะ? กลิ่นหอมจัง”
เฟิงซูฮวาส่ายหน้า “ย่าจะไม่บอกหลานหรอก ไม่อย่างงั้นหลานจะกินข้าวไม่ลง”
สวี่ชิงที่ได้ยินดังนั้นก็รับรู้ได้ว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ และรีบมันยัดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง “งั้นไม่ต้องบอกฉันก็ได้ค่ะ ฉันจะถือว่ามันเป็นกลิ่นหอมของดอกไม้แล้วกัน”
เฟิงซูฮวายิ้ม “หลานต้องทำตัวให้คุ้นชินกับมัน บางครั้งแมลงพิษก็น่ารักกว่าคนเยอะ แม้แต่แมลงมีพิษเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเย่เหม่ยก็จะเข้าใกล้หลานไม่ได้”
สวี่ชิงนึกไม่ถึงว่ากล่องเหล็กจะมีมนต์ขลังมากขนาดนี้ “คุณย่าจะให้โจวจินหนานด้วยไหมคะ? ถ้าเย่เหม่ยจะทำร้ายเขาล่ะ?”
เฟิงซูฮวารู้สึกเสียใจเล็กน้อย “ย่ามีแค่กล่องเดียว อีกอย่างเขาเป็นชายแข็งแกร่งกำยำ ถ้าเกิดโดนพิษจะทุกข์ทรมานเล็กน้อย ครั้งที่ผ่านมาย่าก็รักษาเขาจนหายดี แต่หลานไม่เหมือนกัน หลานมีลูกอยู่ในท้องที่มีค่ากว่ามาก”
สวี่ชิงยิ้มและพูดว่า “เขาก็มีค่ามากเหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้รับบาดเจ็บเลยคงจะดีที่สุด”
ย่าหลานพูดคุยกันระหว่างรับประทานอาหาร ขณะที่ผางเจิ้งหัวกับหู่จือเข้ามารับอาหารและกลับออกไป ส่วนโจวจินหนานยังไม่กลับมา
สวี่ชิงคิดว่าประตูเมืองเก่าค่อนข้างห่างไกลจากที่นี่ การขี่จักรยานและไปเข้าคิวจะต้องใช้เวลานานมากแน่
เธอนั่งอยู่ใต้ต้นไม้กับเฟิงซูฮวา พูดคุยเรื่องการถักเสื้อกันหนาว
เธอยังคงรอคอยโจวจินหนาน แต่หลังจากรอได้ไม่นานก็พบเข้ากับหลูเว่ยตงที่เธอคิดว่าเขากลับเมืองหลวงไปแล้ว
หลูเว่ยตงถือกระเป๋าเดินเข้ามาด้วยสภาพมอมแมมเต็มไปด้วยฝุ่น ราวกับเพิ่งลงมาจากรถไฟ
เขารีบวิ่งเข้ามาหาสวี่ชิงกับเฟิงซูฮวาที่ลานบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ รู้สึกตื่นเต้นเกินกว่าจะพูดอะไรออกไป
สวี่ชิงขมวดคิ้วขณะลุกขึ้นยืน “นายมาจากเมืองหลวงเหรอ?”
“ชิงชิง ฉันเจอแล้ว!” หลูเว่ยตงเดินก้าวเข้าไปหาสวี่ชิงด้วยความตื่นเต้น “คนที่ฉันตามหาจนเจอคือโจวจินหนาน!”
เฟิงซูฮวาที่ยืนอยู่ข้างหลังสวี่ชิงตกใจมากเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว
สวี่ชิงไม่ตอบ เพียงแต่ขมวดคิ้วขณะมองดูหลูเว่ยตง “เพราะงั้นนายเลยมาจากเมืองหลวงเพื่อมาบอกฉันเรื่องนี้สินะ?”
หลูเว่ยตงส่ายหน้า “ไม่ ฉันหาที่อยู่แม่เธอเจอแล้วด้วย!”
หลังจากพูดจบ เขาก็มองสวี่ชิงอย่างกระตือรือร้น “สวี่ชิง คนที่ทำร้ายเธอคือโจวจินหนาน ที่เขาแต่งงานกับเธอไม่ใช่แค่ต้องการจะชดใช้บาปที่ก่อเอาไว้เท่านั้น แต่ยังทำเพื่อปกปิดเรื่องอื้อฉาว! เธอควรจะรู้ไว้ซะว่าถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเมื่อไหร่ เธอสามารถฟ้องโจวจินหนานได้ เขาจะต้องติดคุกและสูญเสียอนาคต!”
สวี่ชิงถอนหายใจ “มันเป็นเรื่องของสามีภรรยา ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาย นายบอกว่านายรู้ที่อยู่แม่ฉันงั้นเหรอ?”
ในขณะเดียวกันก็ไม่มีใครสังเกตโจวจินหนานที่ยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับรถจักรยาน
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มาพร้อมหลักฐานมัดตัวพี่หนานแบบนี้คิดว่าชิงชิงจะโกรธพี่หนานเหรอ ขนาดนังหรูเยว่พูดต่อหน้าแบบนั้นชิงชิงยังไม่สนใจเลย
ไหหม่า(海馬)