เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 184 สวี่ชิง ผู้ชายในคืนนั้นคือโจวจินหนาน
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80
- บทที่ 184 สวี่ชิง ผู้ชายในคืนนั้นคือโจวจินหนาน
บทที่ 184 สวี่ชิง ผู้ชายในคืนนั้นคือโจวจินหนาน
สวี่ชิงและโจวจินหนานกินอาหารเช้าด้วยกันก่อนจะมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาล
ที่ตั้งของโรงพยาบาลอยู่ค่อนข้างไกล และเป็นโรงพยาบาลของคณะแพทย์ศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยประจำมณฑล
ระหว่างทาง สวี่ชิงยังเป็นกังวลว่าโจวจินหนานจะไม่สบายใจ จึงพูดปลอบโยนเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “คุณอย่ามองว่าฉันอ่อนแอตัวเล็กและไม่มีทางสู้นะคะ ฉันเก่งเรื่องทะเลาะวิวาทมากนะจะบอกให้ ตอนฉันเป็นคนตรวจตั๋วรถ รู้ไหมว่าพวกที่เบี้ยวค่ารถถูกฉันจับได้หมดเลย”
โจวจินหนานมองไปยังสวี่ชิงด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูด เขาจินตนาการภาพตอนเธอมีปากเสียงกับผู้อื่นไม่ค่อยออกจริง ๆ
อันที่จริงแล้วหญิงสาวผู้นี้อาจค่อนข้างก้าวร้าวในบางครั้ง แต่เธอก็ไม่เคยหาเรื่องคนที่ไม่ได้สร้างปัญหากับเธอก่อน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีมาก
สวี่ชิงมองออกว่าโจวจินหนานไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่เธอพูดสักเท่าใด เธอจึงขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “ถ้าไม่เชื่อคุณก็คอยดูเถอะ”
โจวจินหนานไม่รู้ว่าควรเศร้าใจหรือจะหัวเราะออกมา “ไม่จำเป็นหรอก บางทีอาจจะไม่ได้มีปากเสียงกันอย่างที่คิดก็ได้นะ”
ถึงอย่างไร โจวเฉิงเฉียนคงเก่งแต่เรื่องลับหลังคน ไม่เคยคิดกล้าลงมือหรือเล่นตามกติกากันต่อหน้าสักครั้ง
เมื่อสวี่ชิงกับโจวจินหนานเดินทางมาถึงโรงพยาบาล ก็พบว่าเฉินหยิงยังคงพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู
โดยที่ด้านนอกห้องพักผู้ป่วยมาพร้อมกันหมดทั้งโจวคังอัน ซูฮุ่ยหรู โจวเฉิงเหวิน โจวจินซวน รวมถึงโจวเฉิงเฉียน
เมื่อโจวจินหนานและสวี่ชิงไปถึง โจวเฉิงเฉียนได้ส่งสายตาหันมองพวกเขาอยู่เพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมองทางอื่นแล้วนั่งอยู่บนม้านั่งอย่างสงบเสงี่ยม
ตรงกันข้ามกับเหยียนเฉียวอวี้ หล่อนขมวดคิ้วขึ้นทันทีที่เห็นโจวจินหนานปรากฎตัว “จินหนาน คุณย่าป่วย พ่อไปตามจนกลับมาแล้วทำไมเธอถึงเพิ่งมา”
โจวจินหนานหันไปจ้องเหยียนเฉียวอวี้ “ทุกคนก็อยู่ดูแลกันพร้อมหน้าแล้วนี่ครับ แล้วนี่คุณย่าฟื้นหรือยัง?”
เหยียนเฉียวอวี้ชะงัก ชักสีหน้าใส่อย่างชัดเจนว่าไม่พอใจ “ดูเธอพูดเข้าสิ มันสมเหตุสมผลแล้วเหรอที่จะไม่มา?”
โจวจินหนานยืนนิ่งสงบ “ผมก็ยืนอยู่ตรงนี้แล้วนี่ไง?”
เหยียนเฉียวอวี้สะบัดหน้าหนีอย่างโกรธเคือง ไม่ต้องการพูดคุยกับโจวจินหนานอีก
สวี่ชิงกัดริมฝีปากล่างพยายามกลั้นยิ้ม เพราะโจวจินหนานได้เอ่ยวาจาปั่นประสาทแทนเธอที่คิดจะทำหน้าที่นี้ไปเรียบร้อยแล้ว
เพียงคำพูดไม่กี่ประโยคนั้นก็สามารถทำให้คนแตกหักกันได้
ซูฮุ่ยหรูเริ่มรับบทเป็นคนดี “จินหนาน ชิงชิง พวกเธอนั่งรอก่อนนะ คุณย่ายังไม่ตื่น เดี๋ยวฉันจะไปถามว่าให้คนในครอบครัวเข้าเยี่ยมได้หรือยัง”
ขณะพูดหล่อนก็พยายามเอื้อมมือจะเข้ามาดึงแขนโจวจินหนาน แต่เขากลับถอยหลังแล้วไปยืนอยู่ข้าง ๆ สวี่ชิงก่อนจะโอบไหล่ของเธอไว้
เขาทำราวกับว่าซูฮุ่ยหรูเป็นไวรัส ที่หากสัมผัสแล้วจะทำให้ติดเชื้อจนผิวเปื่อยเน่า
หลังจากนั้นเขาก็เดินไปทักทายโจวคังอัน “คุณปู่”
สีหน้าเคร่งขรึมของโจวคังอันพยักหน้าตอบกลับมาให้เขา “มาด้วยเหรอ ฉันอุตส่าห์บอกพ่อแกแล้วว่าให้แกมาทีหลัง มาตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์ มีแต่คนรีบร้อนกันมา”
โจวจินหนานไม่พูดมาก ประคองสวี่ชิงให้นั่งลงบนม้านั่ง
เก้าอี้ไม้ตัวนั้นค่อนข้างเก่า เมื่อทิ้งตัวนั่งลงจึงเกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด
เสียงค่อนข้างดังก้องเมื่อเทียบกับโถงทางเดินที่เงียบสงบ
สวี่ชิงนั่งลงอย่างระมัดระวัง หันศรีษะไปมาก่อนจะพบเข้ากับตัวอักษรสีแดงว่า “กรุณาเงียบ” บนกระจกหน้าต่าง เห็นดังนั้นเธอจึงค่อย ๆ ขยับตัวปรับท่านั่งเล็กน้อยเพื่อให้เกิดเสียงน้อยที่สุด
เหยียนเฉียวอวี้จ้องมองไปยังสวี่ชิงแล้วไล่สายตาไปที่หน้าท้องแบนราบของเธอก่อนจะกระตุกยิ้มขึ้น “สวี่ชิง แต่งงานได้เกือบสองเดือนแล้วนะ ท้องหรือยัง?”
สวี่ชิงเหลือบมองหล่อนอย่างขุ่นเคือง ไม่คิดอยากเสวนาด้วย
เหยียนเฉียวอวี้จึงเอ่ยรำพึงต่อ “เธอต้องรีบตั้งท้องนะ ไม่มีอะไรผิดปกติใช่ไหม? ครอบครัวโจวของเราไม่ต้องการแม่ไก่ที่ไม่สามารถออกไข่ได้หรอกนะ”
สวี่ชิงยิ้มเย้ย “ถ้าอย่างนั้นคุณป้าก็เป็นแม่ไก่ที่ออกไข่ได้ใช่ไหมคะ?”
เหยียนเฉียวอวี้ชะงัก ลุกขึ้นยืนพรวด “นี่เธอ!”
โจวจินหนานจ้องมองด้วยสายตาเย็นชา “คุณป้าไม่ต้องกังวลเรื่องของเราหรอกครับ สนใจแค่เรื่องของตัวเองเถอะ ได้ยินว่าป้าแต่งงานไปตั้งสองปีกว่าจะท้องจื้อกั๋วไม่ใช่เหรอครับ”
เหยียนเฉียวอวี้ชะงักไปครู่หนึ่ง และไม่สามารถพูดอะไรต่อได้แม้เพียงคำเดียว
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน หลังจากหล่อนแต่งงานแล้วก็ไม่มีสัญญาณการตั้งครรภ์เลยไม่แต่น้อย ไม่เพียงแต่เฉินหยิงเท่านั้นที่คอยเฝ้าถามอยู่เสมอ แต่บรรดาญาติและเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงผู้ไม่รู้อะไรต่างนำเรื่องของหล่อนไปซุบซิบกันอย่างสนุกปาก บอกว่าเป็นแม่ไก่ที่ไม่ยอมออกไข่ ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดหล่อนจะให้กำเนิดลูกชายก็ตาม แต่เรื่องที่หล่อนไม่ตั้งครรภ์หลังจากแต่งงานมาได้สองปีนั้นก็ยังถูกพูดถึงอยู่เสมอ
หล่อนเข้าใจว่ามันรู้สึกอึดอัดเพียงใด จึงพยายามยัดเยียดความรู้สึกนั้นให้สวี่ชิง
แต่ไม่ทันคาดคิดว่าโจวจินหนานจะออกโรงปกป้องสวี่ชิงเช่นนี้ และไม่คิดด้วยว่าฝีปากของทั้งคู่จะเผ็ดร้อนขนาดนี้
โจวเฉิงเฉียนจ้องมองโจวจินหนานและภรรยาของเขาด้วยสายตาเย็นชา ไม่เอ่ยปากพูดสิ่งใดสักคำ จึงไม่ต้องคาดหวังเรื่องการออกโรงปกป้องภรรยาของตนเองเลย
โจวคังอันเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “พอแล้วเฉียวอวี้ โตเป็นผู้ใหญ่แล้วรู้จักกาละเทศะกับความเหมาะสมบ้าง”
ก่อนที่เขาจะปรายสายตาไปยังซูฮุ่ยหรูอีกครั้ง “เธอเป็นคนอนุญาตให้จินซวนแต่งงาน ตอนนี้คิดเห็นอย่างไรล่ะ?”
ภายในใจของซูฮุ่ยหรูเต็มไปด้วยความคิดยุ่งเหยิง ไม่คาดคิดว่าสวี่หรูเยว่จะตั้งครรภ์ก่อนมาแต่งงานกับลูกชายของตน
หากคิดตามหลักการแล้ว แน่นอนว่าหล่อนต้องการให้ลูกชายของตนหย่ากับสวี่หรูเยว่ แต่ติดปัญหาตรงติงชางเหวินที่ไม่ต้องการเช่นนั้น หากเขาข่มขู่หล่อนขึ้นมาจะทำอย่างไร?
แต่ถ้าไม่หย่าร้าง เด็กในครรภ์ของสวี่หรูเยว่อาจทำให้หล่อนรู้สึกอึดอัดและติดอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเป็นแน่
โจวจินซวนเอ่ยด้วยใบหน้าเศร้าหมอง “จะทำอะไรได้อีก? ยังไงก็ต้องหย่า! ลำพังตัวผมเองก็เป็นลูกนอกสมรสอยู่แล้ว ยังต้องมาเลี้ยงลูกคนอื่นอีกหรอ”
ได้ยินดังนั้นซูฮุ่ยหรูถึงกับต้องรีบหยุดเขา “ใจเย็น ๆ ก่อนจินซวน การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ เรื่องหย่าน่ะพูดง่าย แต่จริงๆ มันไม่ใช่แบบนั้น”
โจวจินซวนหันมองแม่ของเขาอย่างไม่เชื่อสายตา “แม่คิดว่าเราจะอยู่ด้วยกันต่อไปได้หรอ?”
ซูฮุ่ยหรูยังพยายามต่อไป “แกกับหรูเยว่มีอะไรกันแล้วนะ ถ้าเด็กนั่นเป็นลูกของแกล่ะ ลองตรวจดูทีหลังก็ยังไม่สาย ถ้าอายุครรภ์ยังน้อยก็แสดงว่าเป็นลูกของแก”
ไม่เพียงแต่โจวจินซวนเท่านั้นที่ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของซูฮุ่ยหรู แต่รวมถึงโจวเฉิงเหวินหรือแม้กระทั่งโจวคังอันก็ไม่อาจเข้าใจได้เช่นกัน
สวี่ชิงที่นั่งอยู่บนม้านั่งแทบทนไม่ได้ที่จะลุกขึ้นปรบมือให้กับความพยายามของซูฮุ่ยหรู ใช่แล้ว หล่อนถูกติงชางเหวินบงการเรื่องทั้งหมด ย่อมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกล้ำกลืนกัดกระสุนอยู่ต่อไป
ใบหน้าของโจวจินซวนซีดลงอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่เขาทะเลาะกับสวี่หรูเยว่ ก็ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะทรุดลงเรื่อย ๆ แต่เขาไม่ต้องการให้ใครรับรู้ โดยเฉพาะสวี่ชิง
เขามองไปยังดวงตางดงามของสวี่ชิง แววตาคู่นั้นฉายประกายความตื่นเต้น
”ผมต้องการหย่า! ถ้าไม่ทำแบบนั้น ผมจะไปจากบ้านหลังนี้”
โจวจินซวนยื่นคำขาด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธก่อนจะเดินจากไป
ซูฮุ่ยหรูตะโกนไล่หลังเขาไปติด ๆ ก่อนจะพบว่าทุกสายตาจับจ้องมาที่ตน หล่อนจึงหันกลับมาแล้วนั่งลงโดยไม่เอ่ยปากพูดสิ่งใดต่อ
บรรยากาศเงียบงันไปครู่หนึ่ง
สวี่ชิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่มา ณ ที่แห่งนี้ เธอหวังจะได้เห็นการต่อสู้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ช่างน่าเบื่อเหลือเกิน
เธอลุกขึ้นยืดเหยียดแขนก่อนจะกระซิบกับโจวจินหนาน “ฉันจะไปห้องน้ำ คุณนั่งอยู่ตรงนี้ไปก่อนนะ”
“ผมไปด้วย”
สวี่ชิงโบกมือปฏิเสธ “ไม่ต้องๆ เดี๋ยวคุณย่าของคุณก็ตื่นแล้ว นั่งรออยู่ตรงนี้แหละค่ะ ฉันไม่เป็นไรหรอก”
โจวจินหนานพยักหน้ารับโดยไม่ลืมบอกให้สวี่ชิงระวังตัว
อาคารผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลยังเป็นอาคารเก่าซึ่งก่อสร้างขึ้นในยุค 1960 ดังนั้นโครงสร้างจึงทรุดโทรมเล็กน้อยและไม่มีห้องน้ำด้านใน หากจะทำกิจธุระจะต้องเดินไปเข้าที่ห้องน้ำสาธารณะบริเวณด้านหลังของอาคาร
ห้องน้ำสาธารณะในโรงพยาบาลเป็นสถานที่สุดท้ายที่สวี่ชิงมีความคิดที่จะไปเหยียบ เนื่องจากมันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวิญญาณของเด็กถูกทำแท้ง บรรยากาศจึงดูมืดมนเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ยังมีเจดีย์ขนาดใหญ่ที่ถูกจัดวางอยู่ด้านนอกในตำแหน่งที่สามารถบดบังแสงแดดได้พอดี นั่นจึงทำให้ห้องน้ำยิ่งดูมืดสลัว
สวี่ชิงรีบทำธุระให้เสร็จก่อนจะวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางนั้น สวี่หรูเยว่ก็โผล่ออกมาจากที่ไหนสักแห่งด้วยใบหน้าหม่นหมอง “สวี่ชิง!”
ด้วยความตกใจ สวี่ชิงจึงหันศีรษะกลับไปมองที่สวี่หรูเยว่ “เป็นบ้าหรือไง!”
ก่อนจะมองเห็นรอยยิ้มเปี่ยมเลศนัยปรากฎขึ้นบนใบหน้าของสวี่หรูเยว่ “สวี่ชิง เธอรู้ไหมว่าคนที่ข่มขืนเธอในคืนนั้นคือใคร? นึกไม่ถึงใช่ไหมล่ะ? ว่าเขาจะเป็นโจวจินหนาน!”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
อย่ามายุ่งกับสามีภรรยาคู่นี้เชียว เผ็ดพอกัน
ชิงชิงได้รู้ความจริงจากปากคนอื่นแล้ว ทำไงดีเนี่ยพี่หนาน
ไหหม่า(海馬)