เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 181 เจอแหวนแล้ว
บทที่ 181 เจอแหวนแล้ว
สวี่ชิงและโจวจินหนานรวมถึงเกาจ้านต่างมุ่งหน้ากลับบ้าน
สิ่งแรกที่พวกเขาจะทำเมื่อกลับไปถึงจุดหมายคือเปิดวิทยุฟังข่าวเพื่อฟังว่ามีรายงานเกี่ยวกับไฟไหม้หรือไม่
เฟิงซูฮวามองออกไปยังนอกประตูบ้าน ก่อนจะพบเข้ากับหลานสาวที่ตอนออกจากบ้านแต่งตัวเสียงดงามพริ้งเพรา แต่สภาพตอนกลับถึงบ้านตอนนี้กลับดูสกปรกมอมแมม ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบเขม่าควันสีดำ อีกทั้งผมเปียสองข้างยังหลุดลุ่ย รวมถึงดวงตาแดงก่ำ
เมื่อเหลือบมองไปทางโจวจินหนานก็พบว่าแผ่นหลังของเขาเต็มไปด้วยเลือดและคราบเขม่าควันสกปรกเช่นกัน นางจึงอุทานด้วยความตกใจ “นี่พวกเธอไปทำอะไรกันมา?”
สวี่ชิงก้มมองลงที่กระโปรงของตน ก่อนจะพบว่ามันเต็มไปด้วยคราบเลือดเช่นกัน ก็มีอาการใจสั่นเล็กน้อย แต่ถอนหายใจก่อนอธิบาย “ พวกเราไปดูหนังกันมาค่ะ แต่พอใกล้จบก็เกิดมีไฟไหม้”
เฟิงซูฮวาตกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น “เกิดไฟไหม้แบบนั้นขึ้นได้ยังไง?”
สวี่ชิงส่ายศีรษะเป็นคำตอบ “ไม่รู้เหมือนกันค่ะ กำลังสืบสวนกันอยู่”
เฟิงซูฮวาถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า นางเรียกเกาจ้านให้นั่งลงก่อนจะบอกให้สวี่ชิงและโจวจินหนานรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
สวี่ชิงไม่ได้ใส่ใจต้มน้ำอุ่นเพื่อนำมาเช็ดตัวแต่อย่างใด เธอใช้น้ำเย็นเช็ดอย่างเร่งรีบก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่ดูสะอาดตา ก่อนรีบเดินออกมาเช็ดเลือดบนแผ่นหลังให้โจวจินหนาน
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เฟิงซูฮวาก็พาสวี่ชิงไปเพื่อตรวจเช็คชีพจรของเธอ เมื่อทุกอย่างปกติดีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ออกไปข้างนอกให้ระมัดระวังหน่อย หลานกำลังตั้งครรภ์อยู่นะ”
สวี่ชิงหัวเราะออกมา “ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอกค่ะคุณย่า แต่ฉันต้องทำตัวให้แข็งแรงเข้าไว้ เวลาเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะได้ไม่เป็นภาระคนอื่น”
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้แล้ว หากโจวจินหนานไม่ได้อยู่ที่แห่งนั้นด้วย เธออาจถูกไฟคลอกตายไปแล้วก็เป็นได้
ในที่สุดเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นแถวโรงภาพยนตร์ก็ออกประกาศทางวิทยุ และเนื่องด้วยต้นเพลิงถูกค้นพบได้เร็วทำให้คุมไฟได้ทันท่วงที แต่ถึงอย่างนั้นก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบรายเช่นกัน โดยผู้บาดเจ็บสาหัสมีเพียงสองรายเท่านั้น นอกจากนี้ก็ไม่มีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิต
เมื่อได้ยินดังนั้นสวี่ชิงก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต
เกาจ้านเห็นว่าเป็นเวลาอันสมควรแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเพื่อบอกลา
โจวจินหนานเดินออกมาส่งเขา แต่เมื่อทั้งสองเดินมาถึงสี่แยกเขากลับเอ่ยขึ้นว่า“เกรงว่าจะมีคนจงใจวางเพลิง”
เกาจ้านถึงกับขมวดคิ้ว “รู้เหรอว่าใคร?”
โจวจินหนานส่ายศีรษะ “อย่าเพิ่งคาดเดาอะไรตอนนี้ รอดูสถานการณ์อยู่ในเมืองไปก่อน”
“ตกลงตามนี้”จู่ ๆ เกาจ้านก็ยกยิ้มขึ้น “ครั้งนี้นายอาจโชคดี ถ้านายช่วยสวี่ชิงแบบวันนี้ ต่อให้หล่อนจะรู้ความจริงในอนาคต หล่อนคงไม่มีทางขอหย่ากับนายแน่นอน”
โจวจินหนานขมวดคิ้ว “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน”
เรื่องช่วยสวี่ชิงนั้นเป็นความรับผิดชอบของเขาอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกันเลยว่าเธอจะพอใจในตัวเขาหรือไม่
สวี่ชิงนั่งพักผ่อนอยู่ในสวน ก่อนจะเดินไปที่ห้องครัว เธอรู้สึกหิวมากหลังจากเผชิญเรื่องวุ่นวายต่าง ๆ
ผักและเนื้อสัตว์สำหรับการทำอาหารในวันพรุ่งนี้ถูกเตรียมวางไว้บนเขียงเป็นที่เรียบร้อย
สวี่ชิงนำวัตถุดิบบางส่วนมาปรุงผัดเข้ากับบะหมี่จนสุกเข้าที่
และด้วยความที่กลัวว่าโจวจินหนานจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เธอจึงตอกไข่ไก่ใส่ลงไปด้วย ก่อนจะโยนเปลือกไข่ให้ไป๋หลางได้จัดการส่วนที่เหลือ
พลันสายตาบังเอิญเหลือบไปเห็นตัวไป๋หลางใช้อุ้งเท้านอนกุมบริเวณท้องราวกับมีอะไรบางอย่างอยู่ภายในนั้น พลันหน้าท้องกลับส่องสว่างขึ้นมา
แสงนั้นสะท้อนหักเหจากเศษแก้วในอุ้งเท้าของไป๋หลางและตกกระทบเข้ากับมุมต่าง ๆ
สวี่ชิงไม่ได้คิดสงสัยอะไรมาก นอกจากนึกว่าเป็นเศษแก้ว จึงเดินไปหาด้วยกลัวว่าเศษแก้วนั้นจะบาดเท้าของไป๋หลาง
แต่เมื่อไป๋หลางเห็นสวี่ชิงเดินเข้ามาใกล้ มันก็เงยหน้าขึ้นจ้องมองด้วยแววตาดุร้าย พร้อมกับคำรามแยกเขี้ยวเสียงต่ำใส่สวี่ชิง
สวี่ชิงตกใจเป็นอย่างมาก กลัวว่าไป๋หลางจะกระโจนขย้ำเธอในชั่วขณะต่อมา
ภายในห้องครัวอีกด้าน โจวจินหนานที่กำลังจุดไฟได้ยินเสียงคำรามของไป๋หลาง เขาจึงรีบเดินไปตามต้นเสียงทันที
แม้ไป๋หลางจะทำท่าโจมตีสวี่ชิง แต่มันกลับไม่กล้าทำอย่างนั้นกับโจวจินหนาน ได้แต่ลดศีรษะลงครางหงิงแสดงท่าทางต่อต้านเจ้านายที่ทำท่าจะเข้ามาหา
สวี่ชิงกลัวว่าบะหมี่ในหม้อจะไหม้ จึงเอ่ยกับโจวจินหนาน “มีเศษแก้วอะไรไม่รู้อยู่ใต้เท้าหน้าของไป๋หลาง คุณช่วยดูอย่าให้มันเหยียบนะคะเดี๋ยวจะบาดเจ็บเข้า”
พูดจบก็เข้าครัวเพื่อไปดูบะหมี่ในหม้อ
โจวจินหนานคุกเข่าลงข้างตัวไป๋หลาง มันร้องครางพร้อมกับออกแรงกดอุ้งเท้าแน่น ด้วยกลัวว่าสมบัติของมันจะถูกแย่งชิงไป
“ไป๋หลาง! หมอบลง!”
โจวจินหนานกดเสียงต่ำก่อนที่มันจะทำตามคำสั่งด้วยการหมอบลงในทันที
ซึ่งเผยให้เห็นสมบัติใต้อุ้งเท้าของมัน
ปรากฏว่ามันเป็นแหวนวงหนึ่ง!
โจวจินหนานหยิบแหวนขึ้นมาด้วยความฉงน ตัวแหวนมีสีดำสนิท ประดับด้วยอัญมณีสีสดแวววาวส่องประกายเย็นออกมา
หรือนี่จะเป็นแหวนที่เย่เหม่ยตามหา?
ทำไมถึงมาอยู่กับไป๋หลางได้?
สวี่ชิงเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมถ้วยบะหมี่ ก่อนจะประหลาดใจเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ภายในมือของโจวจินหนาน “แหวนเหรอคะ?”
เธอรีบวางถ้วยบะหมี่ลงก่อนจะคว้าแหวนจากมือของโจวจินหนานมาพิจารณา ตัวแหวนมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีลวดลายสลักบนตัวเรือนเหมือนกับลายบนชุดแต่งงานสีแดงตัวนั้น
หัวแหวนประดับอัญมณีสีฟ้าอ่อนชนิดหนึ่ง เมื่อลองสั่นไหวดูแล้วก็ปรากฏแสงสีฟ้าจางๆ
หลังพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว สวี่ชิงจึงรีบนำแหวนไปมอบให้เฟิงซูฮวา “นี่เป็นแหวนที่เย่เหม่ยตามหาหรือเปล่าคะ? แหวนนี้มีอะไรพิเศษกัน? ฉันจะใช้มันตามหาแม่ได้ไหมคะ?”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความตื่นเต้นหรือความประหม่า แต่สวี่ชิงรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงของตนเองที่สั่นเล็กน้อย
เฟิงซูฮวาหยิบแหวนขึ้นมาพิจารณาอย่างระมัดระวังก่อนจะส่ายศีรษะ “แหวนนี้มีลายเหมือนลายบนชุดแต่งงานของแม่หลาน มันคงเป็นแหวนแสดงสถานะของแต่ละคน”
สวี่ชิงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ถ้าอย่างนั้น ทำไมเย่เหม่ยถึงมองหาของสิ่งนี้เพื่อกลับไปยังหมู่บ้านพ่อมด?”
เฟิงซูฮวารู้สึกถึงความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น “ฉันว่าไม่มีใครกล้ายุ่งกับพ่อมดในหมู่บ้านหรอก เขาไม่ต้องทำงานอะไร พอไม่มีเงินใช้ ไม่มีข้าวกิน สิ่งที่ทำคือการออกไปขอทานตามบ้าน ไม่มีบ้านไหนกล้าพอที่จะไม่ให้ เพราะพ่อมดชั่วร้ายบางคนอาจทำให้ข้าวหรือน้ำในถังเป็นพิษได้เพียงแค่ขยับฝ่ามือเท่านั้น”
“แต่แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นคนดี คอยช่วยพาชาวบ้านไปหาหมอ ขับไล่ภูตผีปีศาจ ทำนายดวงชะตา และปกป้องหมู่บ้านจากการรุกราน”
สวี่ชิงจินตนาการภาพไม่ออกนัก “มีพ่อมดแบบนี้อยู่ด้วยเหรอคะ”
เป็นหมอคอยช่วยเหลือชาวบ้านที่ป่วย ช่างเป็นคนดีเหลือเกิน
แต่การเลี้ยงกู่เพื่อใช้เป็นยาสั่งนั้นช่างเป็นวิธีที่ต่ำช้า สมควรได้รับโทษ
เฟิงซูฮวาหรี่ตาขณะยกแหวนขึ้นส่องล้อกับแสงไฟพลางหมุนมันไปมา “ยาแม้วนั้นแตกต่างจากยาทั่วไปทั้งของแพทย์แผนจีนโบราณและแพทย์แผนตะวันตก มันช่วยรักษาโรคทั้งที่เกิดจากภายในและภายนอกได้ พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการใช้พิษสู้กับพิษ ยาพิษนั้นเมื่อนำมาใช้อย่างถูกวิธีจะสามารถช่วยชีวิตคนได้ กลับกันหากนำไปใช้ผิดวิธีก็พรากชีวิตคนไปได้เช่นกัน”
หลังจากพูดจบก็ส่งมอบแหวนคืนให้สวี่ชิง “พรุ่งนี้ย่าจะให้หนังสือเล่มหนึ่ง หลานควรอ่านอย่างถี่ถ้วนและทำความเข้าใจมันให้ดี”
สวี่ชิงรับแหวนมา เธอไม่เข้าใจนักว่าทำไมคุณย่าถึงเปลี่ยนหัวข้อจากเรื่องแหวนเป็นการอ่านหนังสือไปได้
ถึงแม้ว่าวงแหวนนี้จะทำให้รู้สึกเหมือนมีเผือกร้อนอยู่ในมือก็ตาม
สวี่ชิงเป็นกังวลว่าหากแหวนวงนี้อยู่กับเธอ อาจมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นก็เป็นได้ เธอไม่พร้อมที่จะเปิดใจรับเรื่องที่จะเกิดขึ้น เพียงแค่ต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเท่านั้น เธอจึงคิดมอบมันให้โจวจินหนานเป็นผู้ดูแล “คุณรับไปเถอะค่ะ ฉันกลัวว่าจะเกิดเรื่องอันตรายถึงชีวิตฉันหากสวมมันเข้าไป”
โจวจินหนานขมวดคิ้ว ก่อนจะจ้องมองไปที่สวี่ชิง “อย่าพูดจาไร้สาระน่า มันต้องไม่เป็นไร”
สวี่ชิงพยักหน้าก่อนจะยกชามบะหมี่ขึ้นมา “วันนี้มีเรื่องน่าตกใจเกิดขึ้นสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน ฉันต้องรีบกินเพื่อเยียวยาเรื่องทั้งหมดนี้เสียแล้ว”
เธอมีความรู้สึกแปลกพิกลอยู่ภายในใจ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงคิดว่าแหวนวงนี้เต็มไปด้วยพลังวิเศษที่จะดึงเธอสู่กระแสวังวนของมันทั้งที่เธอไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย
โจวจินหนานเอื้อมมือไปลูบศีรษะเธออย่างเอ็นดู “ผมมีของขวัญจะมอบให้คุณด้วย คุณต้องคาดไม่ถึงแน่นอน”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
อย่างกับแหวนต้องสาปยังไงไม่รู้ ต้องเดินทางเอาแหวนนี่ไปทิ้งกลางปล่องภูเขาไฟในมอร์ดอร์ไหมคะ
ไหหม่า(海馬)