เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 176 เขาก็แค่ดูขัดหูขัดตา
บทที่ 176 เขาก็แค่ดูขัดหูขัดตา
โจวจินซวนมองดูพี่ใหญ่เดินเข้ามา ขาของเขาอ่อนแรงด้วยความหวาดสะพรึงกลัว แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับลุกขึ้นยืน “พี่ใหญ่”
โจวจินหนานจ้องเขม็งไปที่โจวจินซวนด้วยสายตาเย็นชา คว้าถ้วยบะหมี่จากโต๊ะตรงข้ามและสาดใส่เขา
น้ำมันพริกที่คลุกเคล้ากับซอสกระเทียมราดใส่หน้าโจวจินซวนอย่างจัง และมีน้ำมันพริกบางส่วนกระเซ็นเข้าดวงตาเขา
โจวจินซวนหลับตาและถอนหายใจ ไม่กล้าขยับเขยื้อนหรือเช็ดถู รับรู้ได้ถึงความแสบร้อน
ได้แต่ปริปากร้องคร่ำครวญ “พี่ใหญ่”
โจวจินหนานหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำมันพริกที่กระเซ็นมาโดนนิ้ว จ้องมองโจวจินซวนอย่างเย็นชา “ตั้งใจจะยั่วโมโหฉันใช่ไหม? เก็บความฉลาดน้อยของแกเอาไว้ดีกว่า บทเรียนครั้งที่แล้วยังไม่สาแก่ใจรึไง?”
โจวจินซวนเริ่มทนความปวดแสบปวดร้อนไม่ไหว เขาปิดตาข้างหนึ่ง หรี่ตาอีกข้างและรีบวิ่งออกไปหาน้ำล้างตา
โจวจินหนานหยิบไม้กวาดที่วางอยู่ข้างกำแพงขึ้นมา กวัดกวาดเส้นบะหมี่และน้ำซุปบนพื้นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใช้เศษผ้าที่วางอยู่บนขอบหน้าต่างเช็ดโต๊ะและม้านั่งที่โดนน้ำซุปกระเซ็นใส่
สวี่ชิงตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าโจวจินหนานตอนนี้ดูเท่มาก!
ในขณะเดียวกัน เธอก็ตระหนักได้ว่าโจวจินซวนอาจจะเห็นพวกเขาเดินอยู่ในระแวกนี้ จึงรีบวิ่งแจ้นเข้ามาสั่งบะหมี่สองถ้วย เพื่อจงใจยั่วยุให้โจวจินหนานเห็น
แต่ผู้ชายจิตใจคับแคบอย่างโจวจินซวนกลับดูหมดอาลัยตายอยาก อย่างกับลืมรักครั้งเก่าไม่ลง!
อีกทั้งเธอก็มาที่นี่เช่นกัน นั่นเป็นเพราะว่าเธอยังลืมรักครั้งเก่าไม่ลงใช่ไหม?
เรื่องดังกล่าวมักติดอยู่ในใจคนง่ายดายเสมอ
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแย่!
คุณยายถือบะหมี่สองถ้วยออกมาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “พ่อหนุ่มคนนั้นไปแล้วเหรอ?”
สวี่ชิงรีบควักเงินสี่เหมาขึ้นมา “ดูเหมือนว่าจะมีธุระด่วนน่ะค่ะ เขาวางเงินไว้บนโต๊ะ แต่ฉันกลัวว่าเงินจะหายเลยเก็บเงินมาให้ คุณยายดูสิคะว่าครบไหม”
คุณยายพยักหน้า “ครบจ๊ะ ถ้วยเล็กถ้วยละสองเหมา”
เมื่อคุณยายกลับเข้าไปในห้องครัว สวี่ชิงก็หันไปอธิบายกับโจวจินหนานว่า “ฉันไม่เคยมากินที่นี่กับเขา”
โจวจินหนานเอื้อมมือออกมาลูบศีรษะของเธอด้วยท่าทางอ่อนโยน “อืม ผมเชื่อคุณ เขาก็แค่ดูขัดหูขัดตาเฉย ๆ”
สวี่ชิงหัวเราะคิกคัก “ตอนแรกฉันคงตาบอด เหตุผลส่วนใหญ่เป็นเพราะเขารู้หนังสือน่ะ”
โจวจินหนานมองดูสวี่ชิง “ชอบคนรู้หนังสือเหรอ?”
สวี่ชิงรีบส่ายศีรษะ “ไม่ค่ะ ตอนนี้ฉันชอบคนแบบคุณ”
โจวจินหนานหัวเราะ และลูบศีรษะสวี่ชิงอีกครั้ง “รีบกินแล้วกลับบ้านกันเถอะ”
สวี่ชิงสังเกตเห็นว่าดวงตาของโจวจินหนานกระทบเข้าแสงรำไร ดูอ่อนโยนและแน่วแน่ ไม่ได้แสดงออกถึงความตำหนิหรืออารมณ์อย่างอื่น เธอจึงรู้สึกปลงในใจเล็กน้อยที่ไม่สามารถมองทะลุผ่านหัวใจของผู้ชายคนนี้ได้สักที
ความน่ารังเกียจของโจวจินซวนไม่ได้ทำให้ความอยากกินจางไปแม้แต่น้อย เธอยิ้มตาหยีและก้มกินบะหมี่อย่างมีความสุข เอ่ยถามโจวจินหนานเป็นครั้งคราวว่ารสชาติเป็นอย่างไรบ้าง
โจวจินหนานมองดูสวี่ชิงกินบะหมี่อย่างเอร็ดอร่อย และรู้สึกว่ารสชาติดี
หลังจากที่ทั้งสองรับประทานอาหารเสร็จ พวกเขาก็ไม่เห็นโจวจินซวนอีก ดังนั้นพวกเขาจึงจากไป
สวี่ชิงค่อนข้างมึนงง ครั้งที่แล้วเขาถูกโจวจินหนานทุบตี ตอนนี้ยังมารนหาเรื่องอีก สมองป่วยหรืออย่างไรกันนะ
แต่ทันใดนั้นเธอก็คิดออกว่าใครเหมาะสมที่จะเผยแพร่ข่าวการตั้งครรภ์ของสวี่หรูเยว่
นั่นก็คือหวังไก๋ฮวา!
สำหรับวิธีการที่จะทำให้หวังไก๋ฮวารู้เรื่องนั้น จะต้องใช้ทักษะอภินิหารขั้นสูงของคุณป้าขายไอศกรีม
สวี่ชิงยิ้มและตีโจวจินหนานเบา ๆ “คุณพาฉันไปที่ประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยประจำมณฑลหน่อยสิ ฉันมีเรื่องจะต้องทำ”
โจวจินหนานไม่ได้ถามถึงเหตุผล เขารีบปั่นรถจักรยานออกไปอย่างเชื่อฟัง ยกขายาวคร่อมเบาะรถ ขณะที่ขาอีกข้างหนึ่งยืนหยัดอยู่ที่พื้นอย่างมั่นคง “ขึ้นมาสิ”
สวี่ชิงยิ้มและเกาะเอวเขาจากที่นั่งด้านหลัง
ทันทีที่นิ้วเท้าของโจวจินหนานสัมผัสเข้าพื้นเล็กน้อย รถจักรยานก็พุ่งตัวออกไปบนถนนเรื่อย ๆ
เธอนั่งอยู่ที่เบาะหลัง และให้โจวจินหนานพาเธอไปตามท้องถนน
เสียงกระดิ่งรถจักรยานดังกริ๊ง ๆ ท้องถนนค่อนข้างคับแคบและดูเก่า โฆษณานโยบายวางแผนครอบครัวถูกวาดไว้ตามพื้นผนัง นอกจากนี้ยังมีคำขวัญจากโฆษณาอย่างอื่นที่หลงเหลือจากปีก่อน ๆ
ตัวอักษรเริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา
สวี่ชิงที่กอดเอวโจวจินหนานอยู่รู้สึกว่าเหตุการณ์ตรงหน้าเหมือนฝันไป
โจวจินหนานสังเกตเห็นว่าสวี่ชิงที่นั่งอยู่เบาะหลังเงียบเป็นพิเศษ ไม่เหมือนปกติที่มักจะคุยจ้อไม่หยุด เขาจึงพูดขึ้นเบา ๆ ว่า “อยากดูหนังไหม? ยังไงขากลับจากมหาวิทยาลัยประจำมณฑลเราก็ต้องผ่านโรงหนังอยู่ดี”
สวี่ชิงตื่นจากภวังค์ ดวงตาเป็นประกาย “ดูหนังเหรอ? เอาสิคะ ฉันไม่ได้ดูหนังมานานแล้ว”
ริมฝีปากของโจวจินหนานยกยิ้มเมื่อได้ยินเสียงที่ไพเราะของเธอ “อืม แล้วค่อยมาดูว่ามีหนังเรื่องอะไรบ้าง”
เมื่อถึงประตูมหาวิทยาลัยประจำมณฑล สวี่ชิงสั่งให้โจวจินหนานรออยู่ฝั่งตรงข้าม ส่วนเธอจะไปหาคุณป้าด้วยตนเอง
เธอไม่ต้องการให้โจวจินหนานเห็นด้านร้ายกาจและปากร้ายของเธอ
คุณป้าที่ขายไอศกรีมอมยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเห็นสวี่ชิง “ไม่ได้เจอคุณมาพักใหญ่เลยนะคะ ได้ยินจากหลานชายว่าคุณซื้อไอศกรีมจากเขาไปเยอะเลย เขาถึงทำเงินได้เยอะเชียว”
สวี่ชิงยิ้ม “ฉันแค่อยากจะขอบคุณเขาน่ะค่ะ เขาคอยเก็บก้อนน้ำแข็งไว้ให้ฉันตลอดเลย และที่สำคัญต้องขอบคุณคุณป้าด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือจากคุณป้า ฉันก็คงหาก้อนน้ำแข็งดี ๆ แบบนี้ไม่ได้ ตอนนี้ฉันเปิดร้านอาหารขนาดเล็กอยู่ในสถานีรถไฟ เอาไว้คุณป้ามาหาฉันเมื่อไหร่ ฉันจะขอชวนไปกินที่ร้านสักครั้งนะคะ”
คุณป้าหัวเราะและพูดว่า “เธอนี่เก่งจังเลยนะ นั่นใช่แฟนเธอหรือเปล่า? พ่อหนุ่มนั่นดูดีทีเดียว”
สวี่ชิงยิ้มและหันไปมองโจวจินหนานที่อยู่นิ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน รอยยิ้มบนใบหน้าชัดเจนขึ้นเล็กน้อย “ค่ะ เขาก็ดีอยู่”
คุณป้าเริ่มซุบซิบขณะมองไปที่ท้องของสวี่ชิง “เธอแต่งงานมาสองเดือนแล้วใช่ไหม? ท้องหรือยังล่ะ?”
สวี่ชิงรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย “ยังไม่ได้ไปตรวจดูเลยค่ะ ไม่รู้ว่าท้องรึเปล่า”
คุณป้าไม่รีรอให้สวี่ชิงเริ่มนินทา นางจึงเปิดประเด็นขึ้นก่อน “ถ้าอย่างนั้นเธอต้องพยายามเข้านะ ถ้าช่วงปีใหม่นี้เธอยังไม่ตั้งท้องอีก พวกญาติ ๆ จะหัวเราะเยาะเอา”
สวี่ชิงพยักหน้า “ค่ะ ไว้กลับไปพวกเราจะลองพยายามดู”
คุณป้าหัวเราะดังลั่น “เธอนี่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำจริง ๆ แต่ฉันได้ยินมาว่าลูกสะใภ้ของศาสตราจารย์โจวตั้งท้องแล้วนะ”
สวี่ชิงเริ่มพูดเข้าเรื่องซุบซิบอย่างเป็นธรรมชาติ “คุณป้าบอกว่าลูกชายของศาสตรจารย์โจวเหรอคะ งั้นน่าจะเป็นน้องเขยฉันเอง ส่วนฉันเป็นสะใภ้ใหญ่ของบ้านสกุลโจวค่ะ”
คุณป้าตกอยู่ในภวังค์ทันทีที่สวี่ชิงพูดเช่นนั้น และรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ใช่ๆ ดูสติสตังฉันสิ ฉันก็ลืมไปว่าเธอเป็นลูกสะใภ้ใหญ่ เธอจะต้องรีบเข้านะ จะปล่อยให้คนเข้าบ้านมาทีหลังตั้งท้องก่อนไม่ได้ เธอเข้ามาก่อนจะนิ่งเฉยไม่ได้”
สวี่ชิงยิ้ม “พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ฉันก็รู้สึกว่ามันบังเอิญมากเลยค่ะ น้องสะใภ้เป็นลูกสาวของแม่เลี้ยงฉันเอง อีกอย่างเขาไม่ให้พูดถึงเรื่องตั้งครรภ์ในสามเดือนแรกไม่ใช่เหรอคะ? นี่หล่อนท้องได้สองเดือนเอง คุณป้าก็พอจะรู้ใช่ไหม?”
คุณป้าแปลกใจ ไม่คิดว่าหญิงสาวทั้งสองจะเป็นพี่น้องกัน
จะกระทั่งสวี่ชิงจากไปพร้อมกับไอศกรีมสองแท่ง จู่ ๆ เธอก็นึกอะไรบางอย่างออก ลูกชายคนเล็กของศาสตราจารย์โจวเพิ่งแต่งงานได้แค่เดือนเดียว แต่ลูกสะใภ้กลับตั้งท้องสองเดือน นั่นหมายความว่าพวกเขาหลับนอนกันก่อนจะแต่งงานหรือ?
นอกจากนี้ยังได้ยินมาว่าลูกสาวแม่เลี้ยงของสวี่ชิงเป็นลูกสาวของติงชาวเหวิน
ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าสนใจ แสงไฟแห่งการนินทาเริ่มปะทุร้อนในดวงตา ขณะเดียวกันนางก็บังเอิญเห็นป้าที่ทำงานในโรงอาหารมหาวิทยาลัยเดินผ่านมา จึงโบกมือเรียกและซุบซิบนินทาอย่างรวดเร็ว
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
พี่หนานโหดมาก ไม่พูดพร่ำทำเพลง สาดบะหมี่เผ็ด ๆ ใส่หน้าน้องเลย
ชิงชิงทิ้งเชื้อไฟไว้เรียบร้อย คุณป้าไอติมเริ่มบทนาตาชาโรมานอฟแล้วสินะคะ
ไหหม่า(海馬)