เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 175 อย่าทำตัวเป็นแม่พระไปหน่อยเลย
บทที่ 175 อย่าทำตัวเป็นแม่พระไปหน่อยเลย
เมื่อโจวจินหนานเห็นทั้งสามคน เขาก็รีบตะโกนเรียกเฉินหยิง “คุณย่า”
สวี่ชิงส่งยิ้มให้เฉินหยิงอย่างนอบน้อม “คุณย่ามาซื้อของเหมือนกันเหรอคะ”
เฉินหยิงส่งยิ้มให้โจวจินหนานกับสวี่ชิง “ใช่จ๊ะ บังเอิญจังเลยนะ”
เมื่อเห็นคู่รักหนุ่มสาวยืนอยู่ด้วยกัน ผู้ชายหล่อกับผู้หญิงสวยช่างเข้ากันได้ดี อารมณ์ของนางก็ดีขึ้นอย่างทันตาเห็น
ตอนที่ซูฮุ่ยหรูเห็นโจวจินหนาน หล่อนก็รู้สึกผิดเล็กน้อยและเริ่มมีความหวัง แต่เมื่อทั้งคู่เรียกหาเฉินหยิงโดยไม่แม้แต่จะทักทายหล่อน หล่อนจึงเริ่มรู้สึกอึดอัดใจอีกครั้ง
สวี่หรูเยว่มองดูโจวจินหนานที่มาซื้อของกับสวี่ชิง ดวงตาของเขาหายดีแล้ว โจวจินหนานไม่เพียงแต่จะดูดีเท่านั้น แต่เขายังให้ความรู้สึกน่าเกรงขามแบบที่ผู้ชายธรรมดาทั่วไปไม่มี
นอกจากความเกลียดชังแล้ว ความอิจฉาริษยาก็ผุดขึ้นมาในใจ
เฉินหยิงยิ้มขณะมองไปที่สวี่ชิงกับโจวจินหนาน “ท้องของชิงชิงมีความคืบหน้าบ้างไหม? หรูเยว่ท้องแล้วนะ พวกเราเลยพาหล่อนออกมาซื้อของเพื่อเตรียมตัว ถ้าชิงชิงท้องเมื่อไหร่ อย่าลืมมาบอกย่าล่ะ ย่าจะได้จัดเตรียมของไว้ให้”
สวี่ชิงรู้สึกประหลาดใจที่สวี่หรูเยว่ตั้งครรภ์ ก่อนจะมองสำรวจไปที่ท้องของสวี่หรูเยว่
สวี่หรูเยว่รู้สึกราวกับดวงตาของสวี่ชิงสามารถมองทะลุเข้ามาในท้องของตนได้ หล่อนจึงเบี่ยงตัวไปหลบข้างหลังซูฮุ่ยหรูโดยไม่ทันได้รู้ตัว
หากหล่อนไม่เบี่ยงตัวหนี สวี่ชิงคงไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทว่าการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยกลับทำให้สวี่ชิงหรี่ตาลง เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการให้เธอรู้!
หมายความว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของโจวจินซวน ไม่อย่างนั้นคนอย่างสวี่หรูเยว่คงจะคุยโว้โอ้อวดท้องของตนไปนานแล้ว
รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นที่มุมปาก ไม่แปลกใจที่สวี่หรูเยว่พยายามจะเข้าหาเธอ อาจเป็นเพราะว่าอีกฝ่ายต้องการจะใช้เธอเป็นเครื่องมือจัดการเด็กในท้อง และจากนั้นก็กล่าวโทษเธอ
กะจะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวสินะ!
โจวจินหนานตอบกลับอย่างสุภาพเมื่อได้ยินคำพูดของเฉินหยิง “ถึงตอนนั้นคงต้องรบกวนคุณย่าด้วยครับ”
เฉินหยิงยังคงอารมณ์ดีอยู่ “ไว้มีเวลาว่าง พวกหลานก็กลับบ้านกันมาบ่อย ๆ นะ ชิงชิงอยากกินอะไรก็บอกมาได้เลย ย่าจะให้ป้าแม่บ้านทำอาหารไว้รอ”
สวี่ชิงยิ้มตาหยีราวกับไม่มีพิษมีภัย “ได้ค่ะ ถึงตอนนั้นคุณย่าคงต้องเหนื่อยหน่อยนะคะ”
เฉินหยิงถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าซูฮุ่ยหรูกับสวี่หรูเยว่ไม่พูดอะไร “เอาล่ะ งั้นย่าไม่รบกวนเวลาซื้อของของพวกหลานแล้ว เราขึ้นบันไดไปดูผ้ากันเถอะ”
สวี่ชิงยิ้มขณะเฝ้าดูสวี่หรูเยว่จับแขนของเฉินหยิง และรีบจากไปพร้อมกับซูฮุ่ยหรู เมื่อทั้งสามคนขึ้นบันไดจากไป รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอก็จางหายไปเช่นกัน ก่อนจะหันไปมองโจวจินหนานอย่างมีเลศนัย “สวี่หรูเยว่ท้อง!”
โจวจินหนานไม่เข้าใจสิ่งที่เธอจะสื่อ “หล่อนท้องก็เรื่องของหล่อนสิ”
สวี่ชิงส่ายศีรษะ “ไม่ อีกไม่ช้าหล่อนจะเปลี่ยนให้กลายมาเป็นเรื่องของฉัน! ฉันแค่อยากจะเล่าว่าวันนี้ทำไมถึงหล่อนกล้าก้มหน้าสงบศึกทั้งที่เห็น ๆ กันอยู่ว่าหล่อนอยากจะให้ฉันตายอย่างกับอะไรดี แสร้งทำตัวเป็นพี่สาวที่แสนดีกับฉันอย่างงู้นอย่างงี้! ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว หล่อนแค่อยากจะใช้ฉันเป็นเครื่องมือกำจัดลูกของหล่อน”
โจวจินหนานยังคงไม่เข้าใจ “ตั้งท้องทั้งทีทำไมจะต้องกำจัดลูกทิ้งด้วย?”
สวี่ชิงยิ้มเยาะ “ก็เพราะว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของโจวจินซวนไง!”
โจวจินหนานนึกถึงตอนที่ดวงตาของเขายังมองไม่เห็น เหตุการณ์เมื่อครั้งกลุ่มผู้หญิงจับตัวเขาไป มันทำให้เขาอับอายมากเสียจนไม่รู้จะพูดอะไร
สวี่ชิงไม่ต้องการพูดถึงมันต่อ เกรงว่าเรื่องราวต่าง ๆ จะกลายเป็นมลพิษทางหูของโจวจินหนาน
ก่อนจะสะกิดแขนเขา “ไปเถอะค่ะ ไปซื้อจักรยานกัน”
ขณะที่กำลังเลือกซื้อจักรยาน สวี่ชิงก็เกิดความคิดในใจ เธอแทบจะอดใจรอไม่ไหวให้สวี่หรูเยว่เข้ามาวางกลอุบายกับเธออีก โอกาสดี ๆ แบบนี้ เธอจะไม่คว้าเอาไว้ได้อย่างไร
หลี่ต้าหย่งน่าจะไม่รู้ว่าสวี่หรูเยว่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ถ้าเขารู้ล่ะจะเกิดอะไรขึ้น?
จะต้องหาวิธีการให้หลี่ต้าหย่งรู้ให้ได้ นอกจากนี้ฉินกุ้ยจือยังเกลียดชังฟางหลานซินมาก จะต้องเกิดการจลาจลอีกเป็นแน่
แล้วจะไม่แพร่กระจายเรื่องนี้ให้ไปถึงหูฉินกุ้ยจือกับหลี่ต้าหย่งได้อย่างไร?
ในที่สุดสวี่ชิงกับโจวจินหนานก็เลือกซื้อจักรยานสำหรับผู้หญิงที่มีขนาดยี่สิบหกนิ้วของยี่ห้อป่ายเกอ ทั้งนี้มันยังมีราคาแพงกว่าจักรยานขนาดยี่สิบแปดนิ้ว
พวกเขาฝากจักรยานไว้ที่ร้านค้าก่อน เพราะยังต้องไปซื้อผ้าต่อ หากไม่ใช่ว่าเฉินหยิงพูดเตือน เธอคงจะลืมซื้อเสื้อผ้ากับผ้าห่มที่นอนให้ลูกน้อย
หลังจากเดินกลับมาพร้อมกับโจวจินหนาน พวกเขาก็เห็นทั้งสามคนกำลังเดินลงบันไดเลื่อนออกจากห้างสรรพสินค้าไป ทั้งสองจึงเดินขึ้นบันไดไปซื้อผ้า
สวี่ชิงง่วนอยู่กับการซื้อของ เธอหยิบขึ้นมาเลือกครั้งแล้วครั้งเล่า อยากจะซื้อตัวที่ใส่สบายที่สุดให้ลูกน้อย หลังจากเลือกเนื้อผ้าและเลือกสีแล้ว เธอก็พิจารณาด้วยการพลิกดูอีกสองสามรอบ เพื่อเลือกหาชุดที่ถูกใจมากที่สุด
กว่าจะซื้อของเสร็จก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงพอดี จู่ ๆ สวี่ชิงก็เริ่มหิวโหยอยากกินบะหมี่เส้นมันเทศหลังซอย
ตัวเส้นใหญ่ทำมาจากแป้งมันฝรั่ง คลุกเคล้ากับน้ำมันพริกและซอสกระเทียม
จิตวิญญาณแห่งความอร่อยส่วนใหญ่จะอยู่ในซอส ตอนที่สวี่ชิงเป็นคนขายตั๋ว เธอชอบกินมันมาก
แต่เมื่อกลับมาเกิดใหม่ เธอกลับหลงลืมมันไปเสียสนิท พอได้มาข้างนอกกับโจวจินหนาน จู่ ๆ เธอก็นึกถึงรสชาติของมัน อยากจะพุ่งตัวเข้าไปกินอีกสักครั้ง
โดยปกติแล้วโจวจินหนานไม่เคยคัดค้านอะไร ผลักรถจักรยานเดินตามสวี่ชิงไป
ขณะที่เดินอยู่ สวี่ชิงก็พูดบรรยายกับโจวจินหนานว่า “คุณคงไม่รู้ว่ามันอร่อยแค่ไหน ต่อให้ราดน้ำมันพริกสีแดงลงไปมันก็ไม่ได้เผ็ดขนาดนั้นหรอก แต่กลิ่นมันจะหอมมากเลยล่ะ และคุณยายก็เป็นคนทำแป้งเองด้วย”
โจวจินหนานแอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยเมื่อฟังคำบรรยายของสวี่ชิง และหัวเราะออกมา “อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ?”
สวี่ชิงพยักหน้า “อร่อย อร่อยมากเลยล่ะ พอได้กินแล้วเดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง”
ร้านบะหมี่มันเทศตั้งอยู่ในซอยหลังห้างสรรพสินค้าที่ไม่ได้สะดุดตามากนัก มีลักษณะเป็นบ้านหลังเล็กตั้งอยู่ริมถนน มีป้ายไม้ติดอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า ถูกเขียนด้วยตัวอักษรสีแดงว่าบะหมี่ตระกูลเฉิน
รวมเป็นทั้งหมดห้าคำ และมีอีกสองคำที่เขียนผิด
ทว่าสวี่ชิงกลับรู้สึกถึงความจริงใจ “บ้านนี้แหละ”
เธอจอดจักรยานและเดินเข้าไปด้านใน แต่สวี่ชิงกลับคาดไม่ถึงว่าโจวจินซวนจะอยู่ที่นี่ด้วย!
ในกระท่อมหลังเล็กมีโต๊ะนั่งเพียงสามโต๊ะเท่านั้น โจวจินซวนนั่งอยู่ริมหน้าต่าง มีชามบะหมี่วางอยู่ข้างหน้า ในขณะที่โต๊ะอีกตัวตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม
ปัญหาก็คือมีเขาคนเดียว!
มันเป็นความรู้สึกแปลกประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวและน่าสะอิดสะเอียนที่สุด
สวี่ชิงรู้สึกผิดในใจที่ตัวเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับคู่รักคู่นั้น เจอฝ่ายหญิงแล้ว ยังต้องมาเจอฝ่ายชายอีก
หากรู้แบบนี้ เธอคงจะไม่มากินที่นี่
โจวจินหนานยังคงทำตัวเหมือนเดิมราวกับมองไม่เห็นโจวจินซวน ก่อนจะโอบไหล่สวี่ชิง “เข้าไปนั่งสิ”
สวี่ชิงเดินเข้าไปนั่ง และเมินโจวจินซวน รีบร้องตะโกนไปทางห้องครัวว่า “คุณยายคะ ขอบะหมี่ชุดใหญ่สองที่ค่ะ ถ้วยหนึ่งขอรสชาติเปรี้ยวเผ็ดพิเศษ”
ตอนที่ใจของเธอยังเปิดกว้างและพบเจอกับโจวจินซวนเป็นครั้งแรก เธอเคยพาโจวจินซวนมาที่นี่ครั้งหนึ่ง
แต่ว่าตอนนั้นโจวจินซวนไม่ชอบสถานที่ทรุดโทรม เอาแต่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ข้างนอกไม่ยอมเข้ามา เธอจึงเข้ามากินคนเดียว
ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงไม่มีความทรงจำที่จะต้องลืมเลือน
โจวจินซวนมองดูสวี่ชิงกับโจวจินหนานเข้ามานั่ง เธอไม่แม้แต่จะมองมาที่เขา อีกทั้งสวี่ชิงยังตะโกนเรียนคุณยายด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว
เขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เพราะไม่คาดคิดว่าสวี่ชิงจะดูดีขึ้นหลังจากแต่งงานกับพี่ใหญ่
สวี่ชิงบ่นอุบอิบในใจ แต่เมื่อเห็นว่าโจวจินหนานนั่งตรงข้ามเธอ อารมณ์ของเธอก็หายเป็นปกติ และฉีกยิ้มกว้าง
ทว่าโจวจินหนานกลับลุกขึ้นและเดินไปทางโจวจินซวน…
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ชิงชิงก็คือรู้ทันแผนการหมดอะ เธอไม่เนียนนะหรูเยว่
นึกหวงก้างขึ้นมาล่ะสิจินซวน แต่ก็ดีที่ทำให้ชิงชิงได้เจอคนที่ดีกว่า
ไหหม่า(海馬)