เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 173 เสี่ยวโจวช่างรักภรรยาจังเลยนะ
บทที่ 173 เสี่ยวโจวช่างรักภรรยาจังเลยนะ
สวี่ชิงมองไปที่โจวจินหนานด้วยความตื่นตระหนก ไม่แปลกใจเลยที่เขามาถึงเร็วมาก กลับกลายเป็นว่าเขาวิ่งมา
และหู่จือเป็นเหมือนเจ้าทึ่มที่ถ่ายทอดสาส์นออกไปไม่ได้ดีนัก
เธออดจะหัวเราะไม่ได้ “ฉันแค่รู้สึกว่ามันแปลกที่จู่ ๆ เขาก็พูดไม่ได้ อีกอย่างฉันกลัวว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เราจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่สุดท้ายเขากลับกินอาหารจากร้านเรา และหนำซ้ำยังให้เราช่วยรักษา”
ถึงตอนนั้นต่อให้มีร้อยปากก็พูดแก้ต่างไม่ได้
เฟิงซูฮวาพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “ถูกต้อง และนี่แสดงให้เห็นว่าหลานมีความสามารถในการเรียนแพทย์ แต่ทักษะของย่าแตกต่างจากแพทย์แผนจีนโบราณ มันเป็นศาสตร์ที่แตกแขนงมาจากการแพทย์เผ่าแม้ว เอาไว้กลับไปย่าจะค่อย ๆ สอนให้หลานเอง การเรียนรู้เพิ่มเติมมันดีกับตัวหลานเสมอ”
สวี่ชิงไม่ได้ต่อต้าน “ดีเลยค่ะ หลังจากนี้ฉันจะตั้งใจเรียนให้มากขึ้น มันน่าทึ่งมาก!”
เฟิงซูฮวายิ้ม “ยังน่าทึ่งอยู่อีกเหรอ? หลังจากเรียนรู้เรื่องนี้แล้ว หลานไม่จำเป็นต้องรักษาโรคภัยไข้เจ็บและช่วยเหลือผู้คน เอาไว้ช่วยตัวเองในยามวิกฤตก็พอ”
สวี่ชิงไม่รู้ว่าคุณย่าต้องผ่านอะไรมาบ้าง ถึงได้ไม่สนใจเรื่องรักษาโรคภัยไข้เจ็บและช่วยเหลือชีวิตผู้คน กระนั้นก็ยังมีความขัดแย้งอยู่เล็กน้อย
เมื่อถึงตอนนั้นเธอก็คงจะรู้เอง
โจวจินหนานแอบชำเลืองมองสวี่ชิงเป็นระยะ ๆ สีหน้าของเธอตอนที่อยู่ในสถานีตำรวจไม่ค่อยสู้ดีนัก ราวกับว่ากำลังจะอาเจียน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่เป็นไรแล้ว
เมื่อพวกเขามาถึงร้านอาหาร ช่วงเวลาชุลมุนก็ได้ผ่านไปแล้ว และมีลูกค้าอยู่ไม่น้อย
สวี่ชิงรีบพาเฟิงซูฮวาไปนั่งพักทันทีที่เห็นโต๊ะว่าง เธอหันกลับมาหาเฟิงซูฮวาอีกครั้งเพื่อจะเสิร์ฟอาหารให้อีกฝ่าย แต่โจวจินหนานกลับแตะเข้าที่มือของเธอ
ทันใดนั้นเอง สิ่งของทรงกลมก็ปรากฏขึ้นในฝ่ามือ
สวี่ชิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย อดหัวเราะไม่ได้เมื่อมองลงมาแล้วเห็นว่ามันคือลูกแอปริคอทสีเขียวอมเหลือง
ยังไม่ถึงฤดูกาลของผลแอปริคอทด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับแอปริคอทสีเขียว แม้แต่ผลแอปริคอทที่ดิบก็ยังหาได้ยาก ไม่รู้ว่าโจวจินหนานไปหามันมาจากไหน
โจวจิหนานหรี่ตาลงและยิ้ม เธอหยิบผลแอปริคอทขึ้นมากิน รสชาติเปรี้ยวอมหวานทำให้ผู้กินรู้สึกสดชื่น ก่อนจะถามเสียงเบาว่า “คุณไปเอามันมาจากไหนคะ?”
“เกาจ้านเอามาให้น่ะ พอดีรีบร้อนก็เลยเผลอหยิบติดมาด้วยลูกหนึ่ง”
สวี่ชิงรู้สึกเหมือนกับว่าโจวจินหนานน่าจะคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเธอ เขาจึงรีบร้อนยัดผลแอปริคอทใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงและวิ่งไล่ตามหลังคุณย่ามา
เธอรู้สึกได้ถึงน้ำผึ้งที่ปกคลุมไปทั่วดวงใจ จ้องมองโจวจินหนานด้วยดวงตาเป็นประกาย
ซุนเชียวเฟิ่งมองดูคู่รักหนุ่มสาวที่พูดกันด้วยเสียงกระซิบ แต่ดวงตาและการกระทำนั้นช่างหวาดหยดย้อย
หล่อ่นขยิบตา ยิ้ม และพูดกับหลี่ซิ่วเจินและผางเจิ้งหัวว่า “ดูคู่รักหนุ่มสาวคู่นั้นสิ เสี่ยวโจวช่างรักภรรยาจังเลยนะ เขายิ้มตาหยีทุกครั้งที่มองดูสวี่ชิง ถ้าเป็นตอนอื่นนะ ดูจริงจังจนฉันขนลุกทุกที”
หลี่ซิ่วเจินพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ ตรงกันข้ามกับที่บ้านเลย ส่งยิ้มให้คนนอกอย่างกับดอกไม้บาน แต่พอกลับถึงบ้าน ต้องนั่งรออาหารเย็นทีไร หน้าเป็นตูดทุกที”
ผางเจิ้งหัวมองดูทั้งสองคนด้วยความประหลาดใจ พวกสวี่ชิงเพิ่งแต่งงานกัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็อยู่ในเกณฑ์ปกติดีไม่ใช่เหรอ?
โจวจินหนานลังเลที่จะให้สวี่ชิงทำอาหารให้ตัวเขา เขาจึงสั่งข้าวสวยผัดผัก
ทั้งสามคนนั่งกินข้าวร่วมกันและพูดคุยถึงเรื่องที่ยังค้างคาอยู่ สวี่ชิงรู้สึกว่าพิษของชายหนุ่มคนนั้นไม่ธรรมดา “เหมือนกับมุ่งเป้ามาที่เราเลย ว่าแต่ใครเป็นคนทำกันนะ? หรือว่าจะเป็นเย่เหม่ย?”
หากผู้หญิงคนนั้นไม่ปรากฏตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ สวี่ชิงก็คงจะลืมหล่อนไปแล้ว
โจวจินหนานไม่แน่ใจเช่นกัน “ผมจะไปตรวจสอบดู พวกคุณระวังตัวกันด้วย”
สวี่ชิงพยักหน้า “ระวังตัวด้วยนะคะ หลังจากนี้เราต้องเก็บตัวอย่างอาหารทั้งหมด และทำเครื่องหมายให้ดี เผื่อจะมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นอีก”
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พูดขึ้นว่า “ถ้าไม่ใช่อาหารในร้านของเรา แต่ผู้ชายคนนั้นโดนวางยาพิษจากการดื่มน้ำประปาล่ะ แล้วคนวางยาพิษจะรู้ได้ยังไงว่าเขาจะเข้ามากินอาหารในร้านของเรา? หลังจากคิดดูแล้ว จะว่าใส่ร้ายฉันก็ไม่น่ามีมูลเหตุ”
รู้สึกราวกับมีอะไรซับซ้อนเล็กน้อย
โจวจินหนานอยู่ในท่าทางสบาย ๆ และพูดอย่างใจเย็นว่า “กินข้าวก่อนเถอะ เดี๋ยวผมมารับคุณหลังเลิกงาน ส่วนระหว่างวันถ้าไม่มีอะไร ผมก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ”
สวี่ชิงมีความสุขที่ได้ยินเช่นนั้น “คุณจะอยู่กับฉันได้นานเท่าไหร่คะ?”
โจวจินหนานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “น่าจะอีกปี”
ดวงตาของสวี่ชิงเป็นประกาย “นานจังคะ? จริงเหรอ? คุณไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?”
โจวจินหนานอดไม่ได้ที่จะทำตาหยีและหัวเราะออกมา รอยย่นบาง ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมตาของเขา “ไม่โกหกคุณหรอก”
สวี่ชิงเริ่มคำนวณวันเวลาที่ลูกจะลืมตาดูโลก และเกิดความโลภในใจเล็กน้อย “อยากให้คุณอยู่กับฉันจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิจัง ลูกคงจะคลอดออกมาด้วยดี”
คราวนี้โจวจินหนานไม่พูดอะไร เพราะเขาไม่อาจสัญญาในสิ่งที่เขาไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่
เฟิงซูฮวาที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ด้านข้างหัวเราะขณะเฝ้าดูคู่รักหนุ่มสาวพูดคุยกัน สวี่ชิงมักจะแสดงด้านที่อ่อนหวานและใสซื่อบริสุทธิ์ต่อหน้าโจวจินหนานเสมอ
แต่บางครั้งเธอก็นิ่งเกินไปจนดูไม่เหมือนหญิงสาวอายุสิบเก้าปี
ตอนนี้เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว
…………
ทว่าสวี่ชิงคิดผิด ครั้งนี้ไม่ใช่ยาพิษของเย่เหม่ย
แม้เย่เหม่ยวางแผนจะวางยาพิษ แต่หล่อนยังไม่รู้ถึงความสามารถที่แน่ชัดของเฟิงซูฮวา จึงไม่กล้ารีบร้อนลงมือ หากเฟิงซูฮวาซ่อนความสามารถเอาไว้ หล่อนอาจจะถูกโจมตีกลับได้ในตอนนั้น และนั่นไม่คุ้มค่าที่เสีย
ดังนั้นหล่อนจึงทำได้แค่รอ!
สวี่หรูเยว่ที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น กำลังบ่นอุบอิบกับฟางหลานซินด้วยสายตาเย็นชา
อีกทั้งยังไม่รู้ว่าสวี่จื้อกั๋วไปอยู่ที่ไหน
ก่อนหน้าที่สวี่หรูเยว่ไปที่บ้านของฟางคุน แต่กลับพบว่าฟางหลานซินมาที่บ้านสกุลสวี่แล้ว หล่อนจึงไม่คิดอะไรมากและรีบกลับมาหา
หล่อนต้องการบอกฟางหลานซินว่าสวี่ชิงกำลังตั้งครรภ์อยู่!
ถ้าลูกของหล่อนไม่ได้เกิด ลูกของสวี่ชิงก็ต้องไม่ได้เกิดเช่นกัน!
ฟางหลานซินรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินว่าสวี่ชิงกำลังตั้งครรภ์ “มันท้องได้ยังไง? ลูกไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม?”
สวี่หรูเยว่ขมวดคิ้ว “ฉันเห็นมันที่โรงพยาบาล มันกำลังรอเข้าคิวตรวจครรภ์อยู่ ถ้ามันไม่ได้ท้องจะไปเข้าคิวตรวจทำไม?”
ฟางหลานซินยังคงไม่เชื่อ ก่อนหน้านี้หล่อนแอบเอายาพื้นบ้านที่ทำลายระบบสรีระของผู้หญิงให้สวี่ชิงดื่มแล้ว
แล้วอีกฝ่ายจะตั้งครรภ์ได้อย่างไร?
สวี่หรูเยว่จ้องเขม็งด้วยความขุ่นเคือง “ถ้าบ้านสกุลโจวรู้ว่านังนั่นกำลังท้อง พวกเขาจะต้องปฏิบัติต่อมันเหมือนกับบรรพบุรุษทางสายเลือดแน่นอน คุณย่าของโจวจินหนานถึงกับเคยพูดว่าสวี่ชิงเป็นดาวเป็นนำโชค หลังจากแต่งงานไป ดวงตาของโจวจินหนานก็หายดีเป็นปกติ ทั้งที่ก่อนหน้านี้พวกหมอผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ต่างก็บอกว่าดวงตาของโจวจินหนานไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้”
“พอสวี่ชิงแต่งงานกับเขา ทุกอย่างก็ดีขึ้น!”
ยิ่งคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งโกรธมากเท่านั้น สวี่ชิงจะเป็นดาวนำโชคได้อย่างไร เธอก็แค่โชคดี
เย่เหม่ยรู้สึกสนใจมากขึ้น “พวกเธอพูดว่าก่อนหน้านี้โจวจินหนานมองไม่เห็น แม้แต่โรงพยาบาลใหญ่ ๆ ก็รักษาไม่หายเหรอ?”
สวี่หรูเยว่พยักหน้า “ใช่ค่ะ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนตรวจสอบแล้ว ตอนแรกฉันนึกว่าเขาตาบอดสนิท ถึงได้พันผ้ากอซไว้ทุกวัน แต่กับกลายเป็นว่าดวงตาของเขาปกติดี และดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไร”
เย่เหม่ยเท้าคางครุ่นคิด โรงพยาบาลรักษาดวงตาไม่ได้ แต่แต่งงานกับสวี่ชิงกลับหายดีงั้นเหรอ?
หรือว่าโจวจินหนานจะถูกวางยาพิษ?
เนื่องจากแม่ของสวี่ชิงคือเย่หนาน และตัวตนของเฟิงซูฮวาก็เป็นปริศนา ดังนั้นเย่เหม่ยจึงเริ่มคาดเดาในความเป็นไปได้
สวี่ชิงกับเฟิงซูฮวาจะต้องเป็นคนรักษาดวงตาของโจวจินหนาน!
ว่าแต่เป็นพิษชนิดไหน?
ฟางหลานซินเห็นว่าเย่เหม่ยตั้งคำถาม และไม่พูดอะไรออกมาอีก เมื่อคิดได้ว่าอีกฝ่ายปฏิบัติต่อหล่อนราวกับทาสรับใช้ทุกวี่ทุกวัน หล่อนก็บ่นพึมพำว่า “เย่หนานก็ไม่ได้แย่นักหรอก อย่างน้อยหล่อนก็ให้กำเนิดลูกสาวคนสวย ถึงจะถูกข่มขืน แต่ก็มีคนแต่งงานด้วย”
เย่เหม่ยถึงกับลุกขึ้นพรวด “เล่าเรื่องที่สวี่ชิงถูกคนข่มขืนให้ฉันฟังอีกรอบที”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เรื่องเริ่มซับซ้อนแล้วแฮะ ถ้าเย่เหม่ยไม่ได้วางยาพิษ แล้วใครเป็นคนทำ มีคนจากเผ่าแม้วที่เป็นศัตรูของพี่หนานเพิ่มเข้ามาอีกเหรอ?
ไหหม่า(海馬)