เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 157 หญิงตั้งครรภ์เป็นใหญ่ที่สุด
บทที่ 157 หญิงตั้งครรภ์เป็นใหญ่ที่สุด
สวี่จื้อกั๋วจ้องมองเย่เหม่ย หล่อนเป็นคนที่น่าจะสวยมากคนหนึ่ง ทว่ารอยยิ้มของหล่อนกลับดูน่ากลัวไปถนัดตา “คุณพูดเพ้อเจ้ออะไร พี่สาวของคุณป่วยหนักหลังจากคลอดลูก สุดท้ายถึงได้เสียไป”
เย่เหม่ยยิ้มเย็น “คุณคิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ อย่างนั้นหรือ สวี่จื้อกั๋ว คุณไม่รู้จักสถานะของฉันเสียแล้ว!”
นอกหน้าต่างแสงไฟได้มืดลงแล้ว บางครั้งจะมีแสงไฟจากจักรยานลอดเข้ามา
ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องอย่างน่าเวทนาอันน่าหวาดกลัวดังออกมาจากบ้านตระกูลสวี่!
…………
หลังจากสวี่ชิงเก็บทำความสะอาดเสร็จ ก็เอาหลู่เว่ยใส่ในหม้อ ให้โจวจินหนานมาคอยดู ส่วนเธอไปร้านทำบัญชีรายรับของวันนี้
ตอนกลับมาถึงบ้านก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว รู้สึกว่าวันนี้จะยุ่งจนขาเป็นระวิง พอเอนหลังนั่งบนเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน จึงค่อย ๆ รู้สึกเจ็บระบมขึ้นมา
ทันใดนั้นก็รู้สึกอยากกินของเปรี้ยว ๆ มากเป็นพิเศษ
ในใจสวี่ชิงรู้สึกแปลกประหลาดเล็กน้อย อาการแพ้ท้องทำไมเริ่มเป็นเร็วขนาดนี้
ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากกินของเปรี้ยว ๆ โดยเฉพาะหยางเหมยกระป๋อง คิดแล้วก็น้ำลายไหล
เพียงแต่ที่มณฑลนี้ไม่ได้แหล่งปลูกหยางเหมย ต่อให้เธออยากกินก็คงหากินไม่ได้ จึงเรียกโจวจินหนานที่วุ่นอยู่ในห้องครัว “โจวจินหนาน คุณเอาแตงกวาดองให้ฉันหน่อย เอาแบบที่สีอ่อน ๆ แล้วนะคะ”
ตอนพูดก็รู้สึกได้ถึงน้ำลายที่แตกอยู่ในปากไม่หยุด
โจวจินหนานได้ยินแล้วก็เอาแตงกวาสีเหลืองออกมาจากโหลดองสองชิ้น จนได้กลิ่นเปรี้ยว ๆ ชวนน้ำลายไหลออกมา
วางเอาไว้ในจานแล้วเดินไปให้สวี่ชิง ในใจคิดอย่างกล้ดกลุ่มว่าตอนนี้เธอจะเอาแตงกวาดองไปทำอะไร
สวี่ชิงหยิบตะเกียบรอให้โจวจินหนานยกจานมาให้ แล้วคีบมากัดหนึ่งคำ ปกติจะรู้สึกเปรี้ยวมาก ตอนที่กินต้องเอาไปล้างก่อน ค่อยใส่น้ำมันงาถึงจะสามารถกินได้
ตอนนี้แค่เพียงกัดไปคำหนึ่งกลับรู้สึกเหมือนรสเปรี้ยวจะระเบิดในปาก ต่อมรับรสเปรี้ยวในปากกลับทำให้รู้สึกมีความสุข
เพียงชั่วลมหายใจเดียวแตงกวาเล็กชิ้นหนึ่งก็หมดไป เห็นอยู่ชัด ๆ ว่ามันเปรี้ยวจนตาแทบปิด กลับรู้สึกเสพติดอย่างไม่รู้สึกพอ “อร่อยมากเลยค่ะ ถ้ามีหยางเหมยกระป๋องรสชาติหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ด้วยน่าจะอร่อยน่าดู”
พูดแล้วก็น้ำลายไหล “ฉันแค่คิดก็อดน้ำลายไหลไม่ได้แล้วค่ะ”
โจวจินหนานสงสัยเล็กน้อย “ทำไมจู่ ๆ คุณถึงกินของเปรี้ยว ๆ แบบนี้ มันจะมีดีกับกระเพาะนะ”
สวี่ชิงยิ้มตาหยี แล้วกัดแตงกวาอีกคำหนึ่ง “นี้คืออาการแพ้ท้องค่ะ เป็นอาการที่คนท้องจู่ ๆ ก็อยากกินอะไรแบบนี้ ถ้าไม่ได้กินก็จะรู้สึกเศร้าเสียใจ”
นี้เป็นครั้งแรกที่โจวจินหนานเคยได้ยินเรื่องนี้พวกนี้ ถามอีกว่า “คุณอยากกินหยางเหมยกระป๋องเป็นพิเศษเหรอ”
สวี่ชิงโบกมือ “คิดไปก็เท่านั้น ที่ทางนี้ของพวกเราไม่มีหยางเหมย หยางเหมยกระป๋องก็ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่”
พูดแล้วก็น้ำลายไหลอีกรแบ รู้สึกว่าเพียงแค่พูดถึง รสสัมผัสของหยางเหมยกระป๋องนั้นน้ำลายก็แตกในปากเต็มแล้ว
โจวจินหนานครุ่นคิดสักพัก มองสวี่ชิงกัดแตงกวาเปรี้ยวนั้นคำหนึ่ง ดวงตาหรี่ลงเหมือนพึงพอใจมาก ก็ยื่นมือไปลูบศีรษะของเธอ “ตอนบ่ายที่คุณออกไปซื้อของ คุณเจอเรื่องอะไรหรือเปล่า”
สวี่ชิงหยุดชะงักพักหนึ่ง คิด ๆ แล้วพุดว่า “ฉันเจอโจวจินซวนค่ะ แค่เจอหน้าเขาฉันก็อยากอ้วกขึ้นมาแล้วนิดหน่อย ก็เลยอ้วกใส่ตัวเขา”
โจวจินหนานมุ่นคิ้ว “เขาทำอะไร”
สวี่ชิงไม่เก็บมาใส่ใจเลยสักนิด “เขาดูถูกที่ฉันเปิดร้านขายอาหาร เพราะว่าพวกที่เรียนมหาวิทยาลัยทิฐิสูงจะตาย แต่คุณไม่ต้องห่วง พอฉันอ้วกใส่เขา ต่อไปเขาคงไม่กล้าเข้ามาหาฉันแล้วล่ะ”
โจวจินหนานพูดอืมคำหนึ่ง “ทำไมถึงอ้วกได้ล่ะ”
สวี่ชิงอธิบายผลกระทบของคนท้องให้โจวจินหนานฟังอย่างละเอียด ว่าอาจรู้สึกคลื่นไส้ได้ และก็อาจกินของที่เมื่อก่อนไม่ชอบกิน กระทั่งคนท้องบางคนก็อาจกินของเปิบพิสดารด้วยก็มี
โจวจินหนานฟังแล้วก็ตะลึงอ้าปากค้าง การตั้งครรภ์ครั้งหนึ่งมีเหตุการณ์แปลก ๆ มากขนาดนี้เลยเหรอ
สวี่ชิงกินแตงกวาอีกลูกถึงค่อยรู้สึกพอใจ เดินไปแปลงฟันกอดโจวจินหนานแล้วหอมแก้มเขา “มีกลิ่นแตงกวาดองอยู่ไหมคะ”
โจวจินหนานยิ้มแล้วบีบใบหน้ารูปไข่นั่น “ไม่มี หอมมาก”
สวี่ชิงหัวเราะเหอะๆขึ้นมา “ฉันก็คิดว่าหอม จริงสิ ทำไมสวีหย่วนตงถึงยังไม่หาแฟนล่ะคะ”
โจวจินหนานสงสัยว่าทำไมสวี่ชิงถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ก็ยังตอบหล่อนไปว่า “บ้านของเขาอยู่เขตติดภูเขาทางภาคใต้ ฐานะทางบ้านไม่ได้ดีอะไรนัก ดังนั้นหญิงสาวที่บ้านเกิดจึงไม่ยินดีจะแต่งงานกับเขา และหญิงสาวที่นี่ก็ไม่ชื่นชอบสัตว์แพทย์เช่นกัน”
สวี่ชิงเลิกคิ้วมองโจวจินหนาน “สวีหย่วนตงเป็นสัตว์แพทย์ธรรมดาหรือคะ”
โจวจินหนานยิ้มแล้วบีบใบหูนุ่มนิ่มนั้นของหล่อนเล่น “สำหรับคนภายนอกแล้วเขาเป็นสัตว์แพทย์ธรรมดามากคนหนึ่ง แม้ว่าเขาจะมุ่งเน้นรักษาหมาทหารกับม้าศึก”
สวี่ชิงพลันรู้สึกสนใจขึ้นมา “งั้นเขาก็มีอีกสถานะหนึ่งน่ะสิคะ”
โจวจินหนานดึงติ่งหูของหล่อน “เรื่องนี้พูดไม่ได้ ยุ่งมาทั้งวันแล้ว รีบนอนไว ๆ เถอะ”
วเช้าวันถัดมา สวี่ชิงพาไป๋หลางไปร้านด้วยกัน ส่วนโจวจินหนานออกไปโทรศัพท์หาเกาจ้าน
เกาจ้านวิ่งมาทั้งที่แขนยังห้อยกับผ้าอยู่ พอเข้ามาเขาก็บ่นไม่หยุด “นายพูดมาสิว่านายช่วยมียางอายหน่อยได้ไหม ก่อนหน้านี้นายมองไม่เห็น โทรศัพท์มาฉันยังก็พอรับได้ แต่ตอนนี้นายมองเห็นแล้ว ยังจะโทรศัพท์หาฉันอีกเนี่ยนะ!”
โจวจินหนานไม่สนใจการร้องทุกข์ของเขา พูดเข้าประเด็น “ฉันจำได้ว่านายมีญาติทำงานอยู่ที่โรงงานผลไม้กระป๋องใช่ไหม”
เกาจ้านชะงักไปพักหนึ่ง “ใช่ ป้าสามของฉันทำงานอยู่ที่โรงงานผลไม้กระป๋อง ยังเป็นผู้จัดการโรงงานอีกด้วย”
โจวจินหหนานพยักหน้าอย่างพอใจ “งั้นก็ดี นายช่วยฉันทำหยางเหมยกระป๋องให้หน่อยสิ”
เกาจ้านนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง จู่ ๆ ก็ร้องไห้ออกมายกใหญ่ “เชี่ย โจวจินหนาน สมองของนายไม่ได้มีปัญหาใช่ไหม โรงงานผลไม้กระป๋องมีแต่แอปเปิ้ลกับสาลี่ จะไปมีหยางเหมยได้ยังไง ที่นี่ของพวกเรามีหยางเหมยที่ไหนบ้างหา!?”
โจวจินหนานนิ่งสงบมาก “ฉันไม่สน สวี่ชิงอยากกิน”
เกาจ้านพลันพูดไม่ออกไปครึ่งค่อนวัน “นายจะทำตามใจตัวเองเกินไปแล้วนะ ถ้าหล่อนอยากได้ดวงจันทร์ขึ้นมานายก็จะไปเอาให้หล่อนเหมือนกันรึไง ฉันไม่เคยคิดเลยนะว่านายจะหลงเมียตัวเองขนาดนี้ ทำอย่างกับทั้งชีวิตนี้ไม่เคยเจอเมียมาก่อนอย่างนั้นแหละ”
โจวจินหนานปรายตามองเกาจ้านแวบหนึ่ง “นายมีไหมล่ะ”
เกาจ้านโมโหขึ้นมาทันที ในโลกนี้มีสุนัขยิ่งกว่าโจวจินหนานอีกไหม?
เขาเจ็บตรงไหนมันก็แทงเขาตรงนั้นจริง ๆ !
สุดท้ายเขาก็จำต้องไปหาหยางเหมยมาให้โจวจินหนานตามคำสั่ง แม้ว่าพื้นที่ตรงนี้จะไม่มีหยางเหมย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย
ในเมืองก็น่าจะมีขาย แต่ก็ถือว่าเป็นของขาดตลาดเช่นกัน
และที่โรวงานกระป๋องก็มีการเอาผลไม้จากภาคใต้มาทำการเรียนรู้ทดลองด้วยเหมือนกัน
จนกระทั่งบ่ายโมง เกาจ้านก็ใช้แขนที่ไม่ได้พันผ้าหิ้วกล่องหยางเหมยกระป๋องมาหนึ่งกล่อง ภายในมีทั้งหมดสิบสองกระป๋อง
โจวจินหนานมองรอบหนึ่งอย่างพอใจ “โรงงานกระป๋องของญาตินายยังมีผลิตภัณฑ์อะไรอีกอีก กลับไปดูให้หน่อย ไม่แน่ว่าอาจจะได้ใช้”
เกาจ้านด่าคำหยาบทันที “นี่ฉันไปขอร้องคุณปู่คุณย่ามาเลยนะ นายอย่าได้คืบจะเอาศอกสิ”
โจวจินหนานไม่สนใจเขา หยิบหยางเหมยกระป๋องขึ้นมาดูอย่างละเอียด ด้านในหยางเหมยแต่ละลูกแดงสดเหมือนกับหยกแดง มองแล้วชวนให้คนชอบได้ไม่ยากเลย
มิน่าสวี่ชิงถึงอยากกิน
เกาจ้านมองโจวจินหนานที่ตอนนี้กลายเป็นผู้ชายมีครอบครัวไปแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นกษัตริย์ที่ลุ่มหลงสตรีไปแล้วเรียบร้อย เขาจึงคิดจะเตือนด้วยความหวังดี “โจวเฉิงเฉียนออกไปทั้งวันนี้และเมื่อวาน อาจเป็นเพราะเขากลัวถูกคนพบเข้า เขาเดินไปรอบถนนรอบหนึ่งก่อนแล้วเดินจึงกลับ”
โจวจินหนานคิดสักหนึ่ง “ไม่รีบ นายช่วยฉันเฝ้าบ้านแล้วกัน ฉันจะเอาหยางเหมยกระป๋องไปให้สวี่ชิง”
………………………………………………………………………………………………………………………….
*หยางเหมยหรือก็คือ เรดเบย์เบอร์รี่
สารจากผู้แปล
โดนทำพิษกู่ใส่แล้วมั้งจื้อกั๋ว มาเล่นกับคนมีของ
พี่หนานอะไรจะคลั่งรักขนาดนี้คะ ชิงชิงอยากกินอะไรต้องมาบีบเกาจ้านให้ไปหามาให้
ไหหม่า(海馬)