เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 143 ถ้ามาช้ากว่านี้อีกก้าวเดียว
บทที่ 143 ถ้ามาช้ากว่านี้อีกก้าวเดียว
จิตใจของสวี่ชิงว่างเปล่าไปชั่วขณะหนึ่งขณะจ้องมองรถบรรทุกที่พุ่งตรงมาด้านหน้าเธอ หลังจากเสียงแตรดังสนั่นหวั่นไหว รถบรรทุกคันดังกล่าวก็ถูกรถจี๊ปหักเลี้ยวเข้ามาชน
ภายในเวลาเพียงชั่วเสี้ยววินาที ก่อนที่สวี่ชิงจะได้เหยียบเบรกและกระโดดลงจากรถจักรยาน เอวของเธอก็ถูกโอบแน่นจากแขนของใครบางคนที่เข้ามาคว้าตัวเธอออกจากรถ แล้วทั้งสองก็กลิ้งลงไปในทุ่งหญ้า
กว่าที่สวี่ชิงจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง ร่างกายของเธอก็ไถลลงมาจากข้างทาง แต่เธอกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด เพราะว่าศีรษะและร่างกายของเธอได้รับการปกป้องในอ้อมกอดอย่างแน่นหนา
กลิ่นอันคุ้นเคยอวลขึ้นมากระทบนาสิกระลอกหนึ่ง ทำให้ความหวาดกลัวของสวี่ชิงจางหายไป “โจวจินหนาน?”
โจวจินหนานที่นอนอยู่บนพื้นปกป้องสวี่ชิงบนตัวเขาอย่างแน่นหนา มือที่โอบรอบเอวเธอยังสั่นเทาเล็กน้อย
สวี่ชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก และรีบลุกขึ้นจากตัวโจวจินหนาน “เกาจ้านเป็นคนขับรถเหรอคะ? ฉันเห็นเขาขับชนรถบรรทุก”
เธอรีบลุกขึ้นยืนและเอื้อมมือออกไปดึงมือโจวจินหนาน จากนั้นจึงพบว่ามือที่มักจะอบอุ่นกลายเป็นเย็นเฉียบ คิดว่าเขาคงหวาดกลัวกับฉากเมื่อสักครู่นี้ ก่อนจะค่อย ๆ จับมือเขาแน่น “ขอบคุณที่พี่มาทัน ไม่งั้นฉันกับลูกคงตกอยู่ในอันตราย”
โจวจินหนานที่จิตใจฟุ้งซ่านไม่ทันได้คิดตามคำพูดในประโยคท้ายของสวี่ชิง เขาจ้องมองไปยังกลางถนน มองดูภาพร่างเบลอ ๆ ของรถทั้งสองคัน
สวี่ชิงที่มองเห็นได้ชัด เห็นว่าด้านขวาของรถจี๊ปถูกรถบรรทุกพุ่งเข้ามาชนจนเสียรูป ถึงอย่างนั้นกลับทำให้รถบรรทุกจอดสนิท
ด้านหน้าของรถบรรทุกได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงเช่นกัน และล้อหลังของจักรยานถูกรถบรรทุกทับทันทีที่เธอกระโดดออกมา กล่าวคือหากโจวจินหนานมาช่วยเธอไม่ทัน ปฏิกิริยาการตอบสนองและความเร็วอาจจะทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ คิดดังนี้หยาดเหงื่อเย็นก็ผุดซึมทั่วแผ่นหลังของเธอ
โชคดีที่เกาจ้านไม่เป็นอะไร เขากระโดดลงจากรถแล้วดึงคนขับรถบรรทุกลงมา
สวี่ชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เกาจ้านดูไม่เป็นอะไรค่ะ เขาจับคนขับรถบรรทุกเอาไว้ได้”
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ หากมีใครสักคนต้องการจะฆ่าเธอ คนคนนั้นคือใคร?
ฟางหลานซินกับสวี่หรูเยว่เหรอ?
ถ้าทำถึงขนาดนี้ สมองจะเข้าขั้นโง่เง่าเกินไปไหม!
เกาจ้านลากคนขับรถที่โชกไปด้วยเลือดไว้ในมือพลางก่นด่า “เชี่ย ขนาดกูที่ขับเครื่องบินขับไล่มาแล้วยังแทบจะหยุดมึงไม่ได้!”
หากเป็นคนธรรมดาคงไม่กล้าหยุดรถแบบนี้!
แต่เกาจ้านกับโจวจินหนานเป็นคนประเภทไหนกันเล่า
เกาจ้านรีบเร่งความเร็วตั้งแต่เห็นรถบรรทุกแล่นผิดปกติ ขณะที่โจวจินหนานรีบกระโดดออกมาจากรถ พุ่งเข้าไปกอดสวี่ชิงและกลิ้งลงไปที่พื้นอย่างปลอดภัย
ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที แต่เกาจ้านกับโจวจินหนานกลับแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เกาจ้านบีบคอคนขับ และมองไปที่สวี่ชิงกับโจวจินหนาน “พวกนายไม่เป็นไรใช่ไหม?”
โจวจินหนานพยักหน้า “ไม่เป็นไร”
เกาจ้านก่นด่าอีกสองสามคำ “ก็ดี ไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนเถอะ ฉันจะพามันไปที่ชอบๆ เอง แล้วจะไปหาพวกนายอีกที”
หลังจากพูดจบ เขาก็เตะคนขับรถ ลากอีกฝ่ายด้วยมือข้างเดียว ก่นด่าและจากไป
สวี่ชิงคอยพยุงแขนของโจวจินหนาน “คุณเป็นอะไรไหมคะ? พวกเราไปโรงพยาบาลกันก่อนเถอะค่ะ”
โจวจินหนานใช้ตัวเองปกป้องเธอจนถึงขนาดนี้ หลังและแขนของเขาที่ถูเข้ากับถนนลาดยางจะต้องได้รับรอยขีดข่วนอย่างแน่นอน
และโจวจินหนานก็ไม่ได้ปฏิเสธ “ไปโรงพยาบาลกัน”
สวี่ชิงคิดว่าสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลประจำจังหวัด เธอหันหน้าไปมองจักรยานที่บิดเบี้ยวเสียรูปด้วยความหวาดกลัว และกระซิบเสียงเบา “ขอบคุณที่คุณมาทัน ไม่อย่างงั้นฉันคงหนีไม่พ้น”
จากนั้นก็ครุ่นคิดด้วยความสงสัย “คุณกับพี่ใหญ่เกาตามฉันมาเหรอคะ?”
โจวจินหนานพยักหน้า “อืม จะให้คุณย่าช่วยดูตาให้หน่อย”
ในความเป็นจริงแล้วเขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจตั้งแต่สวี่ชิงออกไป จึงโทรเรียกเกาจ้านให้มาตามหาสวี่ชิงด้วยกัน
พวกเขามองเห็นรถบรรทุกจอดอยู่ด้านข้างจากระยะไกล และจากสายตาที่เฉียบแหลมราวกับนกอินทรีของเกาจ้าน ก็พบว่าแม้รถบรรทุกจะจอดอยู่ข้างถนน แต่มันกลับสั่นไหวอยู่ตลอดเวลา นั่นหมายความว่ามันไม่ได้จอดสนิท แต่เตรียมจะพุ่งไปข้างหน้าตลอดเวลา
เขาพูดอธิบายเหตุการณ์ให้โจวจินหนานฟัง และพูดว่า “ไปดูกันเถอะ”
แต่ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็เห็นสวี่ชิงปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับรถจักรยาน และรถบรรทุกก็ทำท่าว่าจะพุ่งไปข้างหน้า เขาจึงร้องอุทานขึ้นมา “บ้าชิบ มันจะชนสวี่ชิงจริงๆ ด้วย”
โจวจินหนานหรี่ตาลงและพยายามแยกแยะเงามืด ก่อนจะตัดสินใจพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว “นายหยุดรถนั่นไว้ ฉันจะไปช่วยสวี่ชิง”
โจวจินหนานรีบกระโดดลงจากรถทั้งที่ไม่ได้ชะลอความเร็ว พุ่งเข้าไปด้านข้างของสวี่ชิง และกระโจนลงบนพื้นที่ปลอดภัยโดยมีเธออยู่ในอ้อมกอด
ทุกอย่างอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ ถ้าช้ากว่านี้แม้แต่วินาทีเดียว หรือคาดคะเนผิดพลาดไปแม้แต่นิดเดียว สวี่ชิงอาจจะบาดเจ็บสาหัสจนเป็นอันตรายถึงชีวิต
เมื่อมองย้อนกลับไป โจวจินหนานก็ไม่ได้หวาดกลัวน้อยกว่าสวี่ชิงเลย
สวี่ชิงขมวดคิ้ว “ไม่รู้ว่ามีใครตั้งใจจะฆ่าฉันหรือเปล่า ถ้าให้พูดถึงศัตรูก็มีแค่ฟางหลานซินกับสวี่หรูเยว่ แต่ทำไมคนพวกนั้นถึงได้คิดร้ายกับฉันขนาดนี้ ฉันไม่เคยคิดจะฆ่าพวกเขาด้วยซ้ำ”
โจวจินหนานส่ายศีรษะ “ไม่ใช่พวกนั้นหรอก เกาจ้านกำลังสอบสวน ไปรอที่โรงพยาบาลก่อนเถอะ”
สวี่ชิงเองก็คิดเช่นนั้น เธอถอดเสื้อเชิ้ตกับเสื้อกั๊กที่ฉีกขาดของโจวจินหนานออก เผยให้เห็นคราบเลือดกับรอยฟกช้ำขนาดใหญ่อยู่บนแผ่นหลังของเขา รอยถลอกจากการขีดข่วนกับพื้นดูเป็นแผลลึกจนน่าตกใจ
สวี่ชิงมองดูพยาบาลใช้สำลีทำความสะอาดบาดแผล รู้สึกเจ็บแปลบในใจจนอดไม่ได้ที่จะกระซิบว่า “คุณพยาบาลคะ เบา ๆ หน่อย”
นางพยาบาลที่มีอายุสี่สิบปีมีท่าทางอ่อนโยน หล่อนส่งยิ้มให้สวี่ชิง “อย่างกับเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามันกันเลยนะ คงปวดใจกันน่าดู”
สวี่ชิงหน้าแดงก่ำ “มันดูรุนแรงและดูเจ็บมากเลยค่ะ”
นางพยาบาลยิ้มและพูดปลอบสวี่ชิง “ทั้งหมดเป็นแค่บาดแผลถลอกบนผิวหนัง ไม่ใช่แผลใหญ่อะไร อีกอย่างดูเหมือนว่าสามีคุณจะเป็นทหาร ทนอาการบาดเจ็บเล็กน้อยได้อยู่แล้วค่ะ”
โดยปกติแล้ว โจวจินหนานมีบาดแผลอยู่ตามร่างกายมากมาย และพยาบาลก็เห็นรอยแผลดังกล่าวแล้ว เพียงแวบเดียวหล่อนก็รับรู้ได้ว่าผู้ชายคนนี้จะต้องไปที่สนามรบมา
ดังนั้นทัศนคติจึงดูอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น
สวี่ชิงมองดูด้วยความกังวลใจจนกระทั่งพยาบาลรักษาบาดแผลจนเสร็จ เนื่องจากบาดแผลมีขนาดใหญ่กว่าเกินกว่าจะพันแผลได้ จึงต้องรอให้ยาแห้งสักครู่หนึ่งแล้วค่อยสวมเสื้อทับ
พยาบาลเก็บอุปกรณ์และกำลังจะออกไป ทว่าสวี่ชิงกลับถามขึ้นอีกครั้ง “มียาแก้อักเสบหรือบาดทะยักไหมคะ?”
พยาบาลยิ้ม “ไม่มีค่ะ ฉันใส่ยาฆ่าเชื้อให้แล้ว จะไม่เป็นอะไรค่ะ”
สวี่ชิงครุ่นคิดครู่หนึ่งราวกับเธอไม่ได้ใส่ใจอาการบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้มากนัก ก่อนจะพาโจวจินหนานไปพักผ่อนที่ห้องผู้ป่วย
เมื่อเห็นว่าโจวจินหนานไม่ได้รีบร้อนไปไหน เธอจึงถามว่า “ไป๋หลางล่ะคะ?”
“อยู่บ้าน เรารอเกาจ้านอีกแปบ”
สวี่ชิงถอนหายใจ “พี่ใหญ่เกาจะหาที่นี่เจอไหมคะ?”
โจวจินหนานพยักหน้า “เจอ เขาบาดเจ็บเหมือนกัน จะต้องมารักษาแผลที่นี่”
สวี่ชิงประหลาดใจ “พี่ใหญ่เกาบาดเจ็บด้วยเหรอ? ทำไมฉันไม่เห็นเลย?”
เพราะดูแล้วเกาจ้านเหมือนจะสบายดี
แต่โจวจินหนานรู้จักเกาจ้านดี “เมื่อไหร่ที่เขามีแผล เขาจะพูดสบถ”
สวี่ชิงที่ไม่ได้สนใจรู้สึกผิดในใจ เธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกาจ้านบาดเจ็บ จากนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ว่าโจวจินหนานไม่มีปฏิกิริยาตอบรับเมื่อเธอพูดเรื่องลูก?
เธอจึงพูดขึ้นอีกครั้งเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ “ฉันอยากจะบอกว่าขอบคุณที่คุณมาทัน ไม่อย่างงั้นฉันกับลูกคงจะต้องบาดเจ็บแน่ คุณได้ยินไหมคะ?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
พวกพี่หนานฝีมือโหดกันจัง สมกับเป็นทหารที่ผ่านศึกใหญ่มาหลายสมรภูมิ
พี่หนานได้ยินยังคะ พี่มีลูกแล้วนะ
ไหหม่า(海馬)