เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 140 ภรรยาคุณโหดเกินไปแล้ว
ตอนที่ 140 ภรรยาคุณโหดเกินไปแล้ว
สวี่ชิงรู้สึกประหลาดใจที่โจวจินหนานเดินได้อย่างมั่นคงโดยปราศจากการนำทางของไป๋หลาง ทว่ามือของเธอยังคงฉุดกระชากลากถูป้าหม่า เดินหน้าต่อไปโดยไม่คิดอะไร
ป้าหม่าร้องโหยหวนตลอดทาง ขณะที่มีไป๋หลางคอยติดตามก้นอย่างใกล้ชิด รู้สึกว่าปากของมันจะงับเข้ากับก้นของนาง หวาดกลัวจนแขนขาอ่อนแรงและไม่กล้าดิ้นรน
นางร้องไห้ขณะเดินโซซัดโซเซตามสวี่ชิง “ปล่อยฉัน แกกำลังรังแกคนอื่น รังแกคนแก่อย่างฉันมันจะมีความสามารถสักแค่ไหนกันเชียว!”
สวี่ชิงลากนางไปที่หน้าประตูขณะที่นางกำลังร้องไห้ จากนั้นจึงชี้นิ้วไปที่คราบอุจจาระขนาดใหญ่ “อยากทำทุเรศใส่ฉันนักใช่มั้ย? ดี! งั้นวันนี้ก็เลียประตูบ้านฉันให้สะอาดซะ! ห้ามเช็ดออกล่ะ!”
เธอพูดขณะกดหัวป้าหม่าแนบติดกับประตู รู้สึกสะอิดสะเอียดกับคนพรรค์นี้เต็มทน!
ป้าหม่าร้องไห้และรีบถอยกลับอย่างรวดเร็ว นางไม่เคยนึกมาก่อนว่าสวี่ชิงจะลงมือทำจริงโดยไม่แม้แต่จะคุยโว้ อีกทั้งยังสร้างความอับอายขายขี้หน้าให้แก่นาง
ทว่าเพื่อนบ้านกลับเริ่มทนดูไม่ไหว “ถ้าเป็นฝีมือป้าหม่าจริง เธอก็แค่ขอให้ป้าแกทำความสะอาดให้ก็พอ ไม่เห็นจะต้องทำให้คนแก่ลำบากใจเลย”
“ใช่ เธอไม่ทำตัวไร้เหตุผลเกินไปหน่อยเหรอ!”
สวี่ชิงฟังถ้อยคำแล้งน้ำใจสองสามประโยค ก่อนจะล็อกคอป้าหม่าไว้แน่นไม่ให้นางขยับตัวได้ และจ้องมองพวกผู้หญิงสารเลวที่แสร้งทำตัวเป็นแม่พระผู้มีจริยธรรมในฝูงชนด้วยสายตาเย็นชา “พวกคุณก็พูดง่ายน่ะสิ ก็เพราะว่าขี้มันไม่ได้ไปป้ายอยู่บนหน้าประตูพวกคุณไง! คุณลองถามหล่อนดู หล่อนอาฆาตอะไรฉันนักถึงได้มาทำกับฉันขนาดนี้?”
เพื่อนบ้านยังคงไม่พอใจ “งั้นเธอก็ตีป้าแกซะสิ แล้วปล่อยให้หล่อนเช็ดล้าง สั่งให้หล่อนเลียแบบนั้นมันไม่สบประมาทกันไปหน่อยเหรอ?”
สวี่ชิงแสยะยิ้ม “ใช่ ฉันมันเป็นคนร้ายกาจ เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ไป พวกคุณหน้าไหนอย่าได้คิดก้าวก่ายฉันอีก!”
ก่อนจะบีบคอของป้าหม่าแน่นขึ้น “ถ้าป้าไม่พูด งั้นก็ไปเลียขี้ซะ”
คราวนี้เธอกดหน้าป้าหม่าแนบติดกับประตูอย่างไร้ความปรานี จนทำให้ใบหน้าของป้าหม่าถูกบดขยี้เข้ากับอุจจาระ
ป้าหม่าร้องคร่ำครวญ “ฉันพูด ฉันพูดแล้ว คุณท่านติงกับหวังไก๋ฮวาเป็นคนสั่งให้ฉันทำ!”
นางคาดไม่ถึงว่าสวี่ชิงจะทำอย่างที่พูด และต่อให้นางจะไร้ตรรกะแค่ไหน นางก็ไม่อยากกินอุจจาระ!
สวี่ชิงพบว่ามันเป็นอย่างที่เธอคิดทันทีที่ได้ยินคำตอบ เธอจับคอป้าหม่าและเหวี่ยงออกไปด้านข้าง “ทำความสะอาดประตู และทำให้มันกลับมาเป็นรูปร่างเดิมด้วย! เดี๋ยวฉันกลับมา ถ้ามันยังไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม ฉันจะให้แกเลียให้หมด!”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา และเดินไปยังบ้านของติงชางเหวินที่อยู่ไม่ไกล
ไหน ๆ ก็ได้เห็นความสนุกแล้ว เรื่องนี้มีผู้บงการอยู่เบื้องหลังจริงหรือ? เนื่องจากกลัวว่าจะพลาดความตื่นเต้น ชาวบ้านทั้งหลายจึงติดตามสวี่ชิงไปที่บ้านของแม่เฒ่าติง
สวี่ชิงผลักประตูและเดินเข้าไปในลานบ้าน เธอพบว่าแม่เฒ่าติงกับหวังไก๋ฮวากำลังเอนตัวอยู่บนม้านั่ง หลังผิงกำแพง มองดูความสนุกโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว
หวังไก๋ฮวาตกใจมากเมื่อเห็นว่าสวี่ชิงผลักประตูเข้ามา “เธอมันบ้าไปแล้ว!”
สวี่ชิงชำเลืองมองและเห็นจอบที่วางผิงอยู่ข้างกำแพง เธอรีบคว้ามันและฟาดเข้ากับหวังไก๋ฮวา
หวังไก๋ฮวาเบี่ยงตัวหนีด้วยความหวาดกลัว และล้มลงกับพื้น “เธอจะทำอะไร?”
สวี่ชิงหน้าแดงก่ำไปด้วยความโกรธ ดวงตาคู่สวยเป็นเหมือนกับเปลวเพลิง “ทำอะไรงั้นเหรอ? พวกคุณสั่งให้ป้าหม่าทำอะไรล่ะ? พวกคุณคิดว่าคนอย่างฉัน สวี่ชิง คนนี้โง่นักหรือไง?”
ต้องบอกว่าที่เธอถือจอบไล่ทุบหวังไก๋ฮวาไม่ได้เจตนาจะตั้งใจฆ่า แต่เพียงทำให้ตกใจกลัวเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงจงใจเหวี่ยงจอบไปบนพื้นสองสามจุดที่อยู่ใกล้หวังไก๋ฮวา ส่งผลให้พื้นแตกเป็นรูลึก
พวกเขาตกใจกลัวมากจนแม่เฒ่าติงขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ไม่กล้าก้าวเท้าลงมา ขาสั่นพั่บๆ ราวเจ้าเข้า
หวังไก๋ฮวายิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าที่โหดเหี้ยมของสวี่ชิง มือที่ถือจอบด้วยความเด็ดเดี่ยว แสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ของผู้หญิงไม่ใช่แค่การดึงผมและตบหน้าเสมอไป
การกระทำที่ไม่ไว้ชีวิตของสวี่ชิงทำให้หล่อนหวาดกลัวมาก “เธอจะทำอะไร? ฉันไม่เข้าใจที่เธอพูด”
สวี่ชิงแสยะยิ้ม “ไม่เข้าใจงั้นเหรอ งั้นฉันจะตีให้คุณเข้าใจเอง!”
เธอพูดขณะออกแรงเหวี่ยงจอบหนึ่งในสาม ทุบจอบลงที่สะบ้าเข่าของอีกฝ่าย
หวังไก๋ฮวารู้สึกถึงความเจ็บแปลบและปวดระบม ความปวดระบบกระจายไปทั่วเข่าของหล่อนในทันที
หล่อนกรีดร้องและนั่งกอดเข่าตนเอง กลิ้งไปมาด้วยด้วยเสียงโหยหวน “แกมันนังสารเลวหน้าไม่อาย น่าไม่อายเหมือนกับแม่เลี้ยงของแก ไม่ช้าหรือเร็วแกจะต้องไม่ตายดี!”
นอกจากนี้ยังมีคำสบถน่าเกลียดทุกประเภทราวกับระบายความโกรธ
ผู้คนที่มารับชมความเพลิดเพลินรู้สึกประหลาดใจ ทำไมถึงได้หยาบคายขนาดนี้!
สวี่ชิงไม่รีบร้อน ถือจอบและปล่อยให้หวังไก๋ฮวาก่นด่าเธอด้วยสายตาเย็นชา
ถ้าเธอเดาไม่ผิด น่าจะเป็นเพราะติงชางเหวินต้องการจะหย่ากับหวังไก๋ฮวา และหวังไก๋ฮวาที่ทุกข์ทนไม่สามารถไปสร้างปัญหาให้กับฟางหลานซินได้ จึงร่วมมือกับแม่เฒ่าติงมาระบายความคับข้องใจกับเธอ
มาระบายความโกรธใส่สวี่ชิงคงจะดีกว่า!
หวังไก๋ฮวากอดเข่าขณะร้องไห้ แม่เฒ่าติงจึงลงมาจากม้านั่งและจ้องเขม็งไปที่สวี่ชิง “นังหนู เธอไม่มีเหตุผลเอาซะเลย!”
สวี่ชิงเหลือบมองแม่เฒ่าติงที่ไม่สามารถยืนนิ่งได้ “ฉันไม่มีเหตุผล? ตอนนี้เพื่อนบ้านได้ยินสิ่งที่ป้าหม่าสารภาพหมดแล้ว! พวกคุณสั่งให้หล่อนมาขอเนื้อกินที่บ้านฉัน ถ้าฉันให้ ต่อจากนี้ให้อีกเท่าไหร่ก็คงไม่พอ แต่พอฉันไม่ให้ ฉันก็กลายเป็นคนใจดำที่หวังปอกลอกแต่คนรวยสินะ?”
แม่เฒ่าติงยังคงดื้อรั้น “ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดถึงอะไร!”
สวี่ชิงเยาะเย้ย “ต่อให้คุณไม่รู้ก็ไม่สำคัญอะไร เพราะชาวบ้านทุกคนได้ยินหมดแล้ว ในเมื่อพวกคุณติดตามมาดูความสนุก ก็อย่าลืมมาเป็นพยานให้ฉันด้วยล่ะ”
พี่สะใภ้จินพยักหน้า “ใช่ ๆๆ พวกเราได้ยินหมดแล้ว ป้าหม่าบอกว่าพวกคุณสั่งหล่อน”
ตอนนี้ชาวบ้านคนอื่น ๆ ที่ติดตามมาดูความสนุกได้กลายมาเป็นพยานทั้งหมด ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถพูดโกหกต่อหน้าคนหลายคนได้ จึงทำได้เพียงพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “ใช่ ป้าหม่าบอกว่าพวกคุณยุยงหล่อน พวกคุณไม่สมควรทำกับป้าแกแบบนี้”
“ใช่ สวี่ชิงเอาแต่ทำงาน คงไม่ได้ไปยั่วยุพวกคุณหรอกใช่ไหม?”
ไม่ใช่ว่าพวกเขาเป็นคนชอบธรรมมาแต่ดั้งเดิม แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้สวี่ชิงจะมีเหตุมีผล พวกเขาแค่วิ่งไปรอบ ๆ เพื่อรอดูความสนุก เพื่อให้ได้รู้เรื่องราวทั้งหมด และแสร้งทำเป็นคนที่มีจริยธรรม
ทว่ามีคนที่เข้าใจ และรู้สึกว่าพวกเขากำลังปล่อยสวี่ชิงใช้ประโยชน์ในครั้งนี้!
พวกเขาได้กลายมาเป็นพยานของสวี่ชิงตั้งแต่ติดตามเธอมาด้วย!
ไม่แปลกใจที่สวี่ชิงไม่ได้กดดันให้ป้าหม่ามาเผชิญหน้าเอง!
แม่เฒ่าติงกับหวังไก๋ฮวาไม่คาดคิดว่าทุกคนจะเข้าข้างสวี่ชิง พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงร้องไห้เพื่อปิดบังความรู้สึกผิด!
สวี่ชิงใช้จอบเกี่ยวขาหวังไก๋ฮวา “คุณไม่ต้องร้องไห้หรอก อย่างที่ฉันบอกไป ถ้าคุณรู้สึกผิดคุณก็ไปหาคนที่ทำให้คุณไม่ได้รับความเป็นธรรมซะ อย่ามายั่วโมโหฉัน! ฉันไม่ได้เป็นหนี้คุณแม้แต่ครึ่งเฟิน แล้วก็จะไม่มีวันเป็นหนี้คุณด้วย ตอนนี้ประตูบ้านฉันสกปรก คุณต้องซื้อถังสีและมาทาสีประตูให้ฉัน”
“ไม่อย่างงั้น! ฉันจะทุบบ้านคุณทิ้ง”
หวังไก๋ฮวาไม่รู้ว่าทำไมหล่อนถึงได้ตกใจกับน้ำเสียงของสวี่ชิงนัก
น้ำเสียงของเธอไม่ได้ดังตะคอก แต่กลับให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกสะท้านใจ
ไม่รู้ว่าเกาจ้านมาตั้งแต่เมื่อไร เขายืนอยู่ด้านหลังฝูงชนพร้อมกับโจวจินหนาน มองดูท่าทางของสวี่ชิง และถอนหายใจสองครั้ง “โคตรโหด!”
ทว่าโจวจินหนานกลับปลอบโยนราวกับพ่อผู้แก่ชรา “ถ้าไม่แข็งแกร่งพอ คนก็จะรังแกได้ง่าย”
เกาจ้านมองดูโจวจินหนานด้วยความประหลาดใจ “ก่อนหน้านี้นายบอกว่าผู้หญิงควรจะอ่อนโยนมีน้ำใจสง่างามและเงียบขรึมไม่ใช่เหรอ?”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ประกาศความโหดให้รับรู้กันทั่วบางไปเลย ในเมื่ออยู่เฉยๆ แล้วยังกล้ามาหาเรื่องอีก
ไหหม่า(海馬)