เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 108 สวี่ชิงพูดอะไรเขาก็เห็นดีเห็นงามไปหมด
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80
- บทที่ 108 สวี่ชิงพูดอะไรเขาก็เห็นดีเห็นงามไปหมด
บทที่ 108 สวี่ชิงพูดอะไรเขาก็เห็นดีเห็นงามไปหมด
กระทั่งตกดึกสวี่ชิงถึงได้รู้ว่าโจวจินซวนจะแต่งงานกับสวี่หรูเยว่
เธอแปลกใจที่ฟางหลานซินมีความสามารถขนาดนี้ สวี่หรูเยว่ไม่ทันออกจากโรงพยาบาล เรื่องบาดหมางกับครอบครัวหลี่ต้าหย่งก็ยังไม่สะสาง เธอก็ยังให้ลูกสาวแต่งงานกับโจวจินซวนได้เร็วขนาดนี้
ต้องชื่นชมเธอจริงๆ
ฉินเสวี่ยเหมยเจอหลูเว่ยตงเมื่อตอนเที่ยง แม้ไม่ได้คิดจะแวะไปหาสวี่ชิง ก็อดบอกเรื่องที่เขามาหาตนเพื่อถามเรื่องสวี่ชิงไม่ได้
นึกไม่ถึงว่ากลับมาถึงบ้านแล้วจะได้รู้ข่าวใหญ่ จึงได้ทีหาข้ออ้างมาเล่าให้สวี่ชิงฟัง
“ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าแม่เลี้ยงเธอจะเก่งขนาดนี้ ไม่เข้าใจเลยว่าในเมื่อสุดท้ายจะแต่งงานกับโจวจินซวน แล้วจะแต่งงานกับหลี่ต้าหย่งให้เกิดเรื่องวุ่นทำไม ตอนนี้ฉินกุ้ยจือเลยเอาไปด่าสาดเสียเทเสียยกใหญ่”
ฉินเสวี่ยเหมยไม่เข้าใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย
สวี่ชิงเองก็งุนงงไม่ต่างกัน “ฉันเองก็ไม่รู้ แต่ก็หมายความว่าฟางหลานซินยังมีอำนาจอยู่ เอ้อ ร้านที่ฉันเช่าไว้จะสร้างในอีกสองวัน ถ้าเปิดแล้วเธอต้องมาให้ได้เลยนะ”
ฉินเสวี่ยเหมยได้ยินว่าสวี่ชิงจะทำธุรกิจมาตลอด แต่นึกไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้ “เร็วจัง ถ้าเปิดแล้วฉันจะไปแน่นอน จะซื้อประทัดไปจุดฉลองให้เลยละ”
สวี่ชิงพยักหน้าอย่างอารมณ์ดี “ได้เลย”
ทั้งคู่คุยกัยอีกครู่ใหญ่ แต่ไม่ได้เล่าเรื่องหลูเว่ยตง
ฉินเสวี่ยเหมยจงใจไม่พูดถึง และสวี่ชิงเองก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะยังมีหลายอย่างต้องทำเพื่อเตรียมเปิดร้าน ทั้งซูฮุ่ยหรูยังมารบกวนช่วงบ่าย ทำให้เธอลืมเรื่องหลูเว่ยตงไปเสียสนิท
สองวันต่อมา สวี่ชิงงานล้นมือ เธอง่วนกับการหาซื้อเครื่องครัวทั้งหม้อและกระทะ รวมถึงหาช่างมาติดเตาให้ด้วย
ไม่ว่าจะไปไหนก็จะขี่จักรยานไปกับโจวจินหนาน พวกเขาเป็นเหมือนฝาแฝดกัน
การพึ่งพากันและกันแบบนี้ ทำให้ความรู้สึกก่อตัวขึ้นในแต่ละวันที่ผ่านพ้นไป
ด้านฟางหลานซิน แม้รอยแผลที่หน้ายังไม่หายดี แต่อารมณ์กลับดีขึ้นมาก
ขอแค่สวี่หรูเยว่ลูกสาวหล่อนได้แต่งงานกับโจวจินซวน ฉินกุ้ยจือก็จะหมดประโยชน์!
หล่อนเคี่ยวน้ำแกงไก่ให้ลูกสาวที่กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ก่อนเติมเส้นก๊วยเตี๋ยวปริมาณจุใจ และเรียกสวี่หรูเยว่มากิน “ตื่นมากินข้าวได้แล้ว เร่งบำรุงร่างกายตัวเองเข้า จะแต่งงานกับจินซวนในอาทิตย์หน้าแล้ว ฉันจะคอยดูว่าจะมีใครกล้าหัวเราะเยาะแกอีกไหม”
สวี่หรูเยว่ไม่มีความสุขแต่อย่างใด เพราะรู้ว่าที่โจวจินซวนไม่ได้รังเกียจหล่อนจนยอมตกลงแต่งงานด้วยนั้นเป็นเพราะเหตุผลอื่น
หากแต่งงานไปแบบนี้ ชีวิตในอนาคตจะดีขึ้นได้อย่างไร
มีการแจ้งเรื่องความล่าช้าของการสอบสวนของทางสถาบัน ซึ่งเรื่องคงไม่ถูกป่าวประกาศออกมาจนกว่าจะเปิดเทอม
แต่หลังจากนั้นเธอคงไม่เหลืออะไร
ฟางหลานซินเห็นลูกสาวนอนนิ่งอยู่บนเตียงทั้งยังเหม่อมองเพดาน หล่อนก็วางชามลงบนโต๊ะก่อนนั่งลงข้างเตียง “ฉินกุ้ยจือทำเกินไปแล้ว ฉันจะเอาคืนให้ได้ ส่วนสวี่ชิง หล่อนคิดว่าตัวเองชนะแล้วสินะ คอยดูวันที่นังนั่นต้องร้องไห้เถอะ”
สวี่หรูเยว่ยังคงนิ่งไม่ไหวติง ในใจรู้สึกว่าฟางหลานซินเพียงพูดข่มขู่ไปเรื่อยเท่านั้น
แม่หล่อนจะทำอะไรฉินกุ้ยจือได้ จะทำอะไรสวี่ชิงได้
ตอนนี้สวี่ชิงคงย่ามใจเต็มที
ฟางหลานซินจับแขนลูกสาว “รีบลุกมากินเร็ว ครั้งนี้เราไม่ทันระวังนังตัวดีสวี่ชิง ปล่อยให้มันได้เปรียบแต่งงานกับโจวจินหนาน แต่มันคงลืมไปว่าฉันที่เป็นคนเฝ้าดูมันเติบโตจะไม่รู้ลึกตื้นหนาบางมันได้ยังไง? อะไรที่มันแย่งไปฉันจะให้มันชดใช้จนสาสมเลย”
สวี่หรูเยว่มองหน้ามารดาด้วยความสงสัย “ตอนนี้สวี่ชิงฉลาดมาก แม่จะเล่นงานมันได้จริงๆ เหรอ”
ฟางหลานซินบอก “ฉันคิดเรื่องนี้มาสองวันแล้ว โลงศพเปล่าของเย่หนานจะหมายความว่าอะไรได้ล่ะ หมายความว่านังเย่หนานอาจยังมีชีวิตอยู่ไง และในเมื่อยังมีชีวิต หล่อนจะไม่ไปหาสวี่ชิงเลยเหรอ”
สวี่หรูเยว่ครุ่นคิด “บางทีอาจเพราะชีวิตยากลำบากเลยไม่อยากให้คนรู้ก็ได้นะคะ”
มารดาแค่นเสียงเอ่ย “เป็นไปไม่ได้ แกกินก่อนเถอะ ฉันจะหาทางจัดการสวี่ชิงเอง”
เมื่อเห็นผู้เป็นแม่มั่นอกมั่นใจ หล่อนก็นั่งลงกินอาหารในชามก่อนพลันนึกบางอย่างได้จึงวางชามลง และหันไปมองหน้าแม่อย่างจริงจัง “แม่คะ ฉันเป็นลูกสาวของติงชางเหวินจริงๆ เหรอ?”
ฟางหลานซินเหลือบมองหล่อน และลุกขึ้นไปเปิดประตูมองสำรวจข้างนอก แม้ไม่รู้ว่าสองวันที่ผ่านมาสวี่จื้อกั๋วหายหัวไปไหน แต่ก็ไม่มั่นใจว่าอยู่ๆ เขาจะกลับมาหรือไม่
เมื่อมั่นใจว่าไม่มีคนข้างนอก หล่อนก็ปิดประตูและหันมองลูกสาว “เรื่องทั้งหมดเป็นอย่างนี้ ฉันเองไม่จำเป็นต้องปิดบังแกแล้ว ใช่ พ่อแท้ๆ ของแกคือติงชางเหวิน”
สวี่หรูเยว่กัดปากอย่างพูดไม่ออก
ความจริงหล่อนก็เดาได้จากที่ทำไมหวังไก๋ฮวาถึงได้มาหาเรื่อง และเหตุใดติงชางเหวินถึงได้ทำหลายอย่างเพื่อหล่อน
“ที่หนูแต่งงานกับโจวจินซวนก็เป็นฝีมือเขาใช่ไหมคะ”
ฟางหลานซินพยักหน้า “ใช่ อย่าถามมากเลย ตระกูลโจวพื้นเพดี ในเมื่อสวี่ชิงกับโจวจินหนานแยกออกไปอยู่ข้างนอก ทุกอย่างในบ้านมีเหรอจะไม่ตกเป็นของแกกับโจวจินซวน”
สวี่หรูเยว่ไม่ตอบ เพียงยกชามขึ้นคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวที่อืดแล้วเข้าปาก โดยที่ไม่ได้อยากจะแต่งงานกับโจวจินซวนอีกแล้ว
……
หลังจากยุ่งอยู่หลายวัน ในที่สุดร้านของสวี่ชิงก็เป็นรูปเป็นร่างเสียที
เธอยังไม่รีบเช่าแผงขายตรงหน้าประตู โดยตั้งใจรอให้ธุรกิจตั้งตัวได้ก่อนค่อยเช่า แบบนั้นถึงจะต่อรองราคาได้
สิ่งที่ยากสำหรับเธอคือการตั้งชื่อร้านอาหารจานด่วน
ต้องไม่ยากเกินไป แต่ก็ต้องฟังดูพิเศษในยุคนี้
เธอเอนหลังพิงหัวเตียงพร้อมปากกาและกระดาษในมือ ขณะถามความเห็นของโจวจินหนาน “คุณว่าตั้งชื่อว่าอะไรดีคะ”
ตอนนี้มีร้านสกุลอู๋ สกุลหลิว และสกุลจี้ หลายร้าน แต่เธอไม่ต้องการใช้นามสกุลมาตั้งชื่อร้าน และถ้าเธอเลือกได้ก็ไม่ได้อยากสกุลสวี่
โจวจินหนานคิดไม่ออกเช่นกัน “ชื่อย่านหลายแห่งก็ถูกเอามาตั้งชื่อร้านนะครับ อย่างโรงแรมเอ้อร์ต้าวเฉียว โรงแรมต้าลู่ตง แล้วก็โรงแรมหงซิงกับศูนย์อาหารเว่ยหมิ่น”
สวี่ชิงฮึดฮัด “ชื่อพวกนี้เรียบง่ายไปค่ะ ฉันตั้งชื่อว่าร้านสถานีรถไฟไม่ได้หรอกนะคะ”
โจวจินหนานพยักหน้า “แต่มันจำได้ทันทีเลยนะครับ”
สวี่ชิงคิดว่ามีเหตุผลเช่นกัน ทว่าจะตั้งว่าร้านจานด่วนสถานีรถไฟคงจะเรียบง่ายเกินไปหรือไม่
เธอเอื้อมไปสะกิดโจวจินหนาน “ชื่อคุณมีความหมายอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ”
เขาส่ายหน้า “ไม่นะครับ เพราะบรรพบุรุษของเรามาจากมณฑลจิน เลยตั้งชื่อว่าจินหนาน”
สวี่ชิงเอ่ย “มันก็เรียบง่ายจริงๆ แหละค่ะ งั้นถ้าคุณต้องตั้งชื่อลูกของเรา ต้องตั้งให้เพราะๆ นะคะ”
พูดจบเธอก็เริ่มนึกหาชื่อร้าน การตั้งว่าร้านจานด่วนสถานีรถไฟดูไม่ค่อยมีความหมายเกินไป
ทว่าโจวจินหนานเก็บคำพูดของเธอมาคิดจริงจัง เขาขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด
หากเป็นลูกสาวแสนสวยและน่ารักเหมือนสวี่ชิง จะตั้งชื่อว่าเจียวเจียว เจี่ยวเจี่ยว หรือจะเป็นเฉียวเฉียวดี
หากเป็นลูกชายให้ชื่อว่าซวงซวงดีไหม หรือเล่อเล่อดี
ฟังดูไม่ค่อยสง่าผ่าเผยเท่าไร
สวี่ชิงไม่รู้ว่าเขาเก็บคำพูดลอยๆ ของตนไปคิด จนนอนไม่หลับเพราะครุ่นคิดเรื่องชื่อลูกตลอดเวลา
กระทั่งเธอกำลังจะผล็อยหลับก็ลุกพรวดขึ้นพร้อมความคิดบรรเจิด “ฉันตัดสินใจแล้วค่ะ ฉันจะตั้งชื่อว่าเจินเว่ยเสี่ยวฉู(ครัวน้อยรสเลิศ)”
แม้จะฟังดูธรรมดาแต่ก็บ่งบอกถึงความอร่อย
โจวจินหนานคิดว่าเป็นชื่อที่ดีเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นเพราะสวี่ชิงคิดเขาจึงเห็นดีเห็นงามไปหมด “ฟังดูดีนะครับ รู้สึกว่าอาหารคงน่ากินและอร่อย แม้แต่คนที่อ่านหนังสือไม่ออกก็เข้าใจได้”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
จะเอาคืนชิงชิงยังไงนังแม่เลี้ยง ถามหน่อย ชิงชิงแอดวานซ์ไปไกลแล้ว
ขณะชิงชิงคิดชื่อร้านนั้น พี่หนานก็คิดชื่อลูกไปแล้ว
ไหหม่า(海馬)