เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น? - ตอนที่ 92 หลังงานเลี้ยง 1
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น?
- ตอนที่ 92 หลังงานเลี้ยง 1
ตอนที่ 92 หลังงานเลี้ยง 1
“ขอบคุณที่ดูแลฉันในวันนี้นะคะ ถึงตรงนี้ก็พอแล้ว คุณไปทำงานอื่นต่อได้เลยค่ะ”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ รับทราบค่ะ”
“ซาเนีย คุณช่วยอยู่กับฉันต่ออีกสักหน่อยได้ไหม? อย่างที่ฉันขอไว้ก่อนหน้านี้ ฉันอยากให้คุณช่วยดูแลเส้นผมให้ฉัน”
“รับทราบค่ะ”
หลังจากกลับมาจากงานเลี้ยงอาหารค่ำ และอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย อาเรียก็เดินเข้าห้องนอนพร้อมกับซาเนีย สาวใช้ประจำตัว
เมื่อประตูห้องปิดลงในวินาทีถัดมา อาเรียก็ปลดเปลื้อง “หน้ากากจอมปลอม” ของเธอทันที
“อ๊า~ เหนื่อยสุดๆ ไปเลย!”
“ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ คุณหนูอาเรีย”
อาเรียทิ้งตัวลงบนเตียงในท่ากางแขนกางขา ซาเนียเพียงยืนมองภาพนั้นด้วยท่าทีที่เหมือนเป็นเรื่องปกติ
“คืนนี้สนุกกับงานเลี้ยงไหมคะ?”
“อื้อ~ สนุกที่สุดในปีนี้เลย!”
“นั่นก็ดีแล้วค่ะ…ว่าแต่ เสียงของคุณหนูยังโอเคอยู่ใช่ไหมคะ?”
แม้อาเรียจะก้มหน้าซุกเตียงจนมองไม่เห็นสีหน้าของอีกฝ่าย แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงน้ำเสียงจริงจังของซาเนีย
อาเรียตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการกลบเกลื่อนหรือพูดเล่น
“ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอก~ ฉันระวังจุดสำคัญไว้หมดแล้ว แถมยังทำแบบเนียนๆ จนไม่มีใครจับได้ด้วย!”
“จริงค่ะ ไม่มีใครสังเกตเห็นเลย”
“เห็นไหมล่ะ? อีกอย่าง พรุ่งนี้ฉันไม่ได้มีงานแสดง ดังนั้นเสียงของฉันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก”
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ”
ด้วยวิธีการร้องเพลงที่ช่วยลดความเสียหายต่อเส้นเสียง อาเรียจึงสามารถรับมือกับตารางงานที่หนักหน่วงได้
หากจะพูดอีกแง่หนึ่ง เธอมีความสามารถที่จะทำให้ผู้ชมประทับใจได้ แม้จะไม่ได้ร้องด้วยพลังเต็มร้อย
“…”
สิ่งที่ซาเนียคิดอยู่ในใจเสมอคือ หากสามารถจัดตารางการแสดงให้อาเรียร้องเพลงได้อย่างเต็มที่และสบายใจ มันคงจะดีไม่น้อย…
“เอาล่ะค่ะ คุณหนูอาเรีย ได้เวลาลุกจากเตียงแล้วนะคะ ถ้ายังนอนอยู่แบบนี้ ฉันจะดูแลเส้นผมให้ไม่ได้ค่ะ”
“ฉันอยากจะนอนทั้งนี้เลย…”
“ฉันไม่ให้คุณหนูหลับหรอกค่ะ”
“อือ~”
“‘อือ~’ ไม่ช่วยอะไรนะคะ”
“งั้นอุ้มฉันหน่อย”
“เฮ้อ…ถ้าคุณหนูยอมให้ฉันจับแบบไม่ทะนุถนอมล่ะก็”
“โอเค~”
คุณหนูอาเรียที่เหมือนถูกเตียงดูดพลังงาน ล้มตัวลงนอนหมดแรง
ซาเนีย สาวใช้ประจำตัว จึงจับขาของอาเรียดึงจนร่างครึ่งล่างพ้นจากเตียง และอุ้มตัวเธอไปนั่งที่เก้าอี้อย่างง่ายดาย
การกระทำเช่นนี้เป็นไปได้เพราะอาเรียเป็นคนตัวเล็ก น้ำหนักเบา และเหนือสิ่งอื่นใด ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและความไว้วางใจที่ทั้งสองมีต่อกัน
“งั้นฉันจะรีบจัดการให้เสร็จเร็วๆ นะคะ”
“ค่า~”
ซาเนียเริ่มหวีผมของอาเรียอย่างอ่อนโยนและชำนาญ
แต่ในขณะที่ทำงาน อาเรียก็เริ่มตั้งคำถามขึ้น
“นี่ ซาเนีย ฉันสงสัยอะไรบางอย่างตั้งแต่เมื่อกี้แล้วล่ะ~”
“ค่ะ”
“ทำไมถึงมีผ้าขนหนูเปียกวางอยู่เต็มไปหมด? แม้แต่ข้างหมอนก็มี”
“เขาว่ากันว่ามันช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอค่ะ”
“หา? ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลยนะ”
“การเพิ่มความชื้นในอากาศ จะช่วยทำให้คอชุ่มชื้นค่ะ ฉันตั้งใจจะลองทำแบบนี้ไปสักสองสามวัน”
“อืม…ฉันไม่คิดว่ามันจะช่วยอะไรได้เท่าไหร่เลยแฮะ…”
การที่อาเรียไม่แสดงท่าทีต่อต้านว่า ‘จะทำแบบนี้ไปอีกหลายวันเชียวเหรอ!?’ ถือเป็นเรื่องที่เป็นตัวตนของเธอโดยแท้
“แล้วอีกอย่างนะ ชานั่นที่วางอยู่ ทำไมมันมีกลิ่นแปลกๆ ล่ะ?”
“ฉันเติมน้ำผึ้งลงไปค่ะ ตอนนี้ก็น่าจะอุ่นพอดีเหมาะแก่การดื่มแล้ว”
“หะ!? น้ำผึ้ง!? ใส่ลงไปในชาเนี่ยนะ!?”
“ใช่ค่ะ”
“ฉะ…ฉันต้องดื่มอะไรที่ดูประหลาดแบบนี้ด้วยเหรอ…”
ใบหน้าของอาเรียซีดเผือด ขณะที่เธอเผยท่าทีต่อต้านออกมา
ในโลกของเธอ แม้แต่ ‘ชานม’ เองยังถือเป็น ‘สิ่งผิดเพี้ยน’ การใส่น้ำผึ้งลงไปในชาเป็นสิ่งที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนและหลุดจากความคิดปกติอย่างสิ้นเชิง
ปฏิกิริยาของเธอนั้น เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ไม่ยากเลย
“ก็เพราะว่ามันมีผลช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอจริงๆ น่ะค่ะ”
“ฉันดื่มชาธรรมดาก็ได้นี่นา…”
“ไม่ได้ค่ะ คุณหนูต้องดื่มให้หมด”
“อือ~…”
อาเรียยกถ้วยชาอย่างหวาดกลัว สูดกลิ่นที่ลอยขึ้นมา แล้วแสดงสีหน้าเหมือนจะพูดว่า ‘แย่สุดๆ เลย’
“ชาที่ใส่น้ำผึ้งนี่ไม่มีทางจะช่วยเรื่องคอได้แน่ๆ…”
“กรุณาดื่มให้หมดก่อนที่ฉันจะหวีผมคุณหนูเสร็จด้วยค่ะ”
“พูดจริงเหรอ…? ต้องทำให้ได้จริงๆ ใช่ไหม?”
“จริงค่ะ ถ้าดื่มไม่หมด อย่างน้อยก็ต้องดื่มสักคำสองคำ”
“ชาที่ใส่น้ำผึ้งไม่มีทางอร่อยหรอก…”
ถึงจะปฏิเสธอย่างชัดเจน แต่อาเรียก็ยกถ้วยขึ้นมาที่ริมฝีปากอย่างช้าๆ
แรงผลักดันเดียวที่ทำให้เธอทำเช่นนั้น ก็คือความตั้งใจและความห่วงใยของซาเนียที่ลงมือชงชาถ้วยนี้เพื่อเธอ
—อาเรียหลับตาและค่อยๆ จิบชาเข้าปาก
เธอลิ้มลองรสชาติอย่างระมัดระวัง ใช้ลิ้นแตะสัมผัสก่อนจะกลืนน้ำชา และดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเธอก็จิบอีกครั้งอย่างไม่รอช้า
ผลที่ได้คือ ชาในถ้วยหมดลงในเวลาไม่นาน
และสิ่งที่อาเรียทำต่อไปก็คือเทชาจากกาน้ำเติมถ้วยใหม่ แล้วดื่มต่ออย่างเงียบๆ
“ชานี้ถูกใจคุณหนูไหมคะ?”
“อือ…อร่อยมาก…ซานเนียเองก็ลองดื่มดูสิ…”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันชิมเพื่อปรับรสชาติไปหลายรอบแล้วระหว่างที่คุณหนูอาบน้ำค่ะ”
“เอ๋…จริงเหรอ”
ซาเนียที่ดูเหมือนเดิมทุกประการ แต่ความจริงแล้วท้องของเธออัดแน่นไปด้วยของเหลวจากการชิมรสชาติน้ำชาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ว่าแต่ ซาเนียคิดได้ยังไงน่ะ? ถ้าชาอร่อยขนาดนี้แล้วยังช่วยเรื่องเจ็บคอได้อีก…”
“ฟุฟุ ฉันไม่ได้คิดเองหรอกค่ะ”
“เอ๋…?”
อาเรียตกตะลึงจนแทบจะหยุดนิ่งไป
ซาเนียยิ้มบางๆ ก่อนจะเฉลย
“ทั้งเรื่องผ้าขนหนูเปียกและชาใส่น้ำผึ้งนี้ ล้วนมาจากคำแนะนำของคุณเบเรธค่ะ ท่านยินดีมอบไอเดียทั้งหมดนี้ให้กับคุณหนูโดยเฉพาะ”
“!!!”
“ท่านอาเรีย คุณเบเรธทรงเป็นห่วงคุณอย่างมากเลยนะคะ ถึงขนาดบอกว่าหากอาการเจ็บคอของคุณแย่ลงไปอีก เขาก็พร้อมจะใช้ชีวิตของตนชดเชยความผิดนี้ค่ะ”
“ม-ม-ม-ม เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนนะคะ…!”
เพียงแค่ได้ยินชื่อที่ไม่คาดฝัน อาเรียก็รู้สึกเหมือนต้องการเวลาสักพักเพื่อประมวลผลในหัวของตัวเอง
“ท-ทำไมท่านนั้นถึงเป็นห่วงฉันล่ะคะ…?”
“คงเพราะเขาประทับใจกับบทเพลงของคุณหนูอาเรียล่ะมั้นคะ”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นค่ะ! แต่ทำไมท่านถึงรู้ว่าฉันเจ็บคอ? เรื่องนี้มีแค่ซาเนียที่รู้เท่านั้นนะ!”
คนที่สอนวิธีรักษาคอให้ซานย่าก็คือเบเรธ หากไม่มีข้อมูลเรื่องการเจ็บคอ การกระทำเช่นนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้น
“ต้นเหตุก็คงจะเป็นคุณหนูอาเรียเองล่ะค่ะ เพราะฉันไม่ได้บอกใครเลย”
“ไม่มีทางค่ะ! ฉันระวังตัวมากนะ…”
“แต่ในงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ ตอนที่คุณหนูอาเรียไปวอร์มเสียงร้องเพลงในสวน คุณก็พูดคุยกับใครบางคนใช่ไหมคะ? ถึงแม้ว่าบรรยากาศจะมืดครึ้มและอีกฝ่ายจะไม่เปิดเผยตัวตน แต่การพูดเรื่องส่วนตัวออกไปก็ไม่เหมือนเป็นคุณหนูเลย”
“อืม…ก็จริง แต่…มันไม่น่าจะเกี่ยวกันนี่นา…”
ถึงจะปฏิเสธไปแล้ว แต่ทันใดนั้นอาเรียก็จำบทสนทนาในตอนนั้นได้
———
‘ท่านแม่กับท่านพ่อคาดหวังให้ฉันทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ หากผิดพลาดก็จะไม่สามารถเติมเต็มความปรารถนาของพวกเขาได้ แล้วคนรอบตัวก็ชอบเข้าใจฉันผิดอีก… พอถึงเวลาหมั้นหมาย ฉันต้องพยายามทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียเกียรติของตระกูล’
คำพูดที่บอกเล่าสถานะอันสูงส่งของเธอโดยไม่ตั้งใจ
‘ฉันต้องใช้สิ่งต่าง ๆ มากขึ้น… อารมณ์แบบนั้นแหละ แล้วมันก็เป็นของที่เรียกได้ว่า ‘ของใช้สิ้นเปลือง’ พอมีตารางงานยุ่ง ๆ เข้า มันก็จะเริ่มหนักขึ้น แถมบางครั้งยังเจ็บปวดอีกด้วย…’
———
คำพูดที่ชี้ให้เห็นว่าเธอกำลังเผชิญกับความเจ็บปวด
“ถึงแม้ว่าในตอนนั้นจะไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นใคร แต่เพราะคุณหนูอาเรียกำลังวอร์มเสียงร้องอยู่ เสียงเพลงของคุณหนูคงทำให้อีกฝ่ายเริ่มเอะใจ และบทสนทนาก็คงยืนยันให้เขารู้ว่าแท้จริงแล้วคุณเป็นใคร นั่นจึงดูเป็นเหตุผลที่สมเหตุสมผลที่สุดค่ะ”
“แ-แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดูแปลกๆ นะคะ! ถ้ามันเป็นเรื่องจริงล่ะก็ ทั้งๆ ที่เขารู้ตัวตนจริงๆ ของฉัน แต่เขากลับเป็นห่วงฉัน คิดหาวิธีแก้ไขปัญหาให้ แล้วยังยอมมอบไอเดียที่ช่วยทำเงินได้อีก… ยิ่งไปกว่านั้นยังถึงขั้นพูดว่าจะเดิมพันด้วยชีวิต…”
สำหรับผู้คนทั่วไป อาเรียคือ “นักร้องที่งดงามไร้ที่ติ” หรือ “นักร้องหญิงที่เปี่ยมเสน่ห์”
แต่ตัวตนที่แท้จริงของเธอ ที่ไม่สมบูรณ์แบบและห่างไกลจากภาพลักษณ์นั้น เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะมีใครยอมรับได้
เธอจึงส่ายหน้าปฏิเสธคำพูดของซาเนียอย่างแรง แต่ทันใดนั้นเธอก็โดนคำพูดที่เหมือนกับลูกบูมเมอแรงย้อนกลับมาเล่นงาน
“คุณหนูอาเรียเคยพูดเล่นๆ ไม่ใช่เหรอคะว่า ‘ถ้ามีใครสักคนที่ยอมรับตัวตนที่แท้จริงของฉันได้ ก็คงเป็นคนพิเศษจริงๆ เลยล่ะ~’ นั่นอาจจะไม่ใช่แค่คำพูดล้อเล่น แต่เป็นเรื่องจริงก็ได้นะคะ”
“!!! อ-อื้ม…”
แม้จะเป็น “นักร้องหญิงที่งดงามไร้ที่ติ” จนคุ้นชินกับคำชมมากมาย แต่อาเรียกลับไม่มีภูมิต้านทานต่อการที่ใครสักคนยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของเธอ
เธอหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเครื่องยนต์ที่กำลังร้อนจัด พลางคว้าถ้วยชาเปล่าเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก
(TLN: ปักธงอีกคน??)
—————
วันถัดมา
เสียงร้องเพลงอันไพเราะ ที่บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีของลำคอ ได้ดังก้องไปทั่วคฤหาสน์ของตระกูลดยุค…