เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น? - ตอนที่ 84 งานเลี้ยง 18
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น?
- ตอนที่ 84 งานเลี้ยง 18
ตอนที่ 84 งานเลี้ยง 18
‘เหมือนกับว่าคุณรู้เรื่องของคุณหนูอาเรียอย่างแม่นยำเลยนะคะ’
‘ผมคาดว่างานที่ยุ่งยากอาจทำให้เธอมีเจ็บคอได้บ้างครับ’
คำตอบที่ได้กลับมาจากคำพูดที่ดึงมาจากบทสนทนเมื่อครู่คือ—
“…อย่างที่คุณพูดนั่นแหละค่ะ ฉันมันน่าละอายจริงๆ”
ซาเนียพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนกลั้นความรู้สึกบางอย่างไว้
สำหรับเบเรธ ที่ไม่ได้ตั้งใจพูดในเชิงเหน็บแนม กลับต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
เขาทำได้เพียงรอปฏิกิริยาจากอีกฝ่าย
” ‘คุณไม่อยากฟังเพลงของอาเรียอีกเหรอ’ คุณพูดแบบนั้น และถึงขนาดยอมมอบข้อมูลที่มีค่าโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์นี้ คำถามที่ว่า ‘ทำไมคุณถึงไม่ทำอะไรเลย?’ ก็เป็นสิ่งที่ฟังดูสมเหตุสมผลค่ะ”
“…”
(ไม่…ผมไม่ได้คิดจะสงสัยคุณซาเนียเลย…)
ในความเป็นจริง เขากลับมองว่าซาเนียเป็นคนที่มีความสามารถไม่ต่างจากเซีย
และเพราะความสามารถนั้นเอง ซาเนียจึงอาจคิดไปในเชิงลึกจนเกิดความเข้าใจผิดนี้ขึ้น
“…ฉันไม่มีอะไรจะแก้ตัวหรือข้ออ้าง แต่ในแบบของฉันเอง ฉันได้พยายามผลักดันอยู่ค่ะ ฉันพยายามพูดคุยเจรจากับคุณผู้หญิงหลายครั้งเกี่ยวกับตารางงานของคุณหนูอาเรีย”
“อะ…อย่างนั้นเหรอครับ!?”
“ฉันเข้าใจดีที่สุดว่าคุณหนูอาเรียมีวันที่ยุ่งยากแค่ไหน และตารางงานที่แน่นนั้นมีผลต่อสภาพลำคอของเธออย่างไร เพราะฉันติดตามเธออยู่ตลอดเวลา…แต่ก็นั่นแหละค่ะ เรื่องมันเลยออกนอกประเด็นไป ฉันต้องขออภัยด้วย แต่ผลการเจรจานั้นไม่ค่อยเป็นไปด้วยดีเลยค่ะ… ฉันขอโทษจริงๆ”
“ไม่เป็นไรเลยครับ! ผมเองต่างหากที่ต้องขอโทษที่พูดอะไรไม่รู้เรื่องโดยไม่เข้าใจสถานการณ์ของคุณ”
ในที่สุด เบเรธก็เข้าใจความหมายของคำว่า “น่าละอาย” ที่ซาเนียพูด
หน้าที่ของเธอที่ดูแลอาเรียคือ “การดูแลไม่ให้เจ้าของบ้านต้องเผชิญกับความไม่สะดวกใดๆ”
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ได้พูดออกไปเสียแล้ว
คำพูดที่ว่า “คงมีเจ็บคอบ้าง” คือคำพูดที่เหมือนกับการตั้งคำถามว่า เธอทำหน้าที่ในฐานะผู้ดูแลได้ดีพอแล้วหรือยัง?
แม้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะสื่อเช่นนั้น แต่ในสถานการณ์นี้ เขาต้องสำนึกผิดอย่างแท้จริง…
“เอ่อ… การเจรจาหลายครั้งแบบนั้น…ไม่มีปัญหาอะไรเหรอครับ?”
การเจรจากับภรรยาของท่านดยุค สำหรับคนที่อยู่ในสถานะผู้รับใช้อย่างซาเนีย ดูเหมือนจะเป็นการกระทำที่เสียเปรียบเกินไป
ยิ่งไปกว่านั้น หากถูกมองว่าเป็น “ตัวขัดขวาง” ต่อความสำเร็จ อาจจะกลายเป็นเป้าหมายที่ถูกโจมตีได้
“หากจะพูดอย่างตรงไปตรงมา ครั้งหน้าที่ฉันไปเจรจากับคุณผู้หญิง ฉันอาจจะต้องกลายเป็นแบบนี้”
“เอ๊ะ…”
ซาเนียยังคงแสดงท่าทีสงบนิ่ง ก่อนจะชี้นิ้วไปที่คอตัวเองแล้วทำท่ากรีดไปด้านข้าง
สื่อความหมายว่า ถูกไล่ออก
(เอ่อ เดี๋ยวนะ… นี่มันข้อมูลภายในครอบครัวไม่ใช่เหรอ แบบนี้ไม่น่าจะบอกใครได้ง่ายๆ นะ… แถมเอเลน่า เจ้าภาพของงานก็ยังไม่รู้อะไรแบบนี้เลย…)
ดูเหมือนซาเนียจะมีเหตุผลในแบบของเธอ ถึงได้พูดเรื่องนี้อย่างไม่ลังเล
“มันเหนื่อยจริงๆ นะคะ… ถ้าฉันต้องจากไปแบบนั้น คุณหนูอาเรียจะไม่มีที่พักพิงที่สงบสุขอีกต่อไป แต่หากฉันพยายามแก้ไขสถานการณ์ยุ่งเหยิงในปัจจุบัน ก็จะกลายเป็นอย่างที่พูดไว้เมื่อครู่นี้”
“อยู่ในสภาวะที่เหมือนถูกบีบอยู่ตรงกลางสินะครับ… อาจฟังดูเหลือเชื่อ แต่ผมเข้าใจดีถึงความเจ็บปวดแบบนั้น”
“แม้แต่ท่านเบเรธ ที่อยู่ในฐานะสูง ก็เคยเจอเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอคะ?”
“ก็ใช่ครับ… ผมเองก็มีเรื่องที่ต้องเจอมากมายเหมือนกัน”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
(ความรู้สึกเหมือนถูกบีบอยู่ตรงกลาง… สิ่งนี้ผมเคยเจอมาแล้ว ในโลกก่อน… ตอนเป็นพนักงานออฟฟิศ)
เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถพูดออกไปได้ง่ายๆ
เบเรธเลือกที่จะเบี่ยงประเด็น ซาเนียดูเหมือนจะสังเกตเห็น จึงไม่ได้ถามต่อ
“รู้สึกเหมือนมีความใกล้ชิดกันแปลกๆ เลยนะคะ”
“ผมเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”
“…ฟังดูแปลกดีนะคะ แต่ฉันรู้สึกว่าท่านเบเรธเหมือนคนที่อายุใกล้เคียงกับฉัน หรือบางทีอาจจะอายุมากกว่าด้วยซ้ำ ทั้งที่ฉันเองอายุมากกว่าท่านเบเรธตั้งสามปี”
“เอ๊ะ… แบบนั้นเลยเหรอครับ?”
“ความฉลาดในการคิด การวางตัว ความกล้าหาญ ความสุขุม ความซื่อตรงที่มีต่อหน้าที่ และที่สำคัญแค่ได้พูดคุยกับท่านเบเรธก็รู้สึกได้ว่าเป็นคนที่สามารถเชื่อใจได้ คนอายุเท่าฉันยังไม่เคยมีใครที่ทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้ได้เลยค่ะ”
“อะ…อะฮะฮะ… ขอบคุณมากครับสำหรับคำชม”
(อืม… พอคิดดูแล้ว อายุทางจิตใจของเรามันต่างกันมากจริงๆ แหละ… แต่ให้ตายสิ คุณซาเนียที่ดูสง่างามขนาดนี้ อายุแค่ 21 เองเหรอ…!?)
แม้รูปลักษณ์จะบ่งบอกถึงความอ่อนเยาว์ แต่ความสุขุมและความเป็นผู้ใหญ่ที่แสดงออกมาทำให้เบเรธรู้สึกว่าเธอน่าจะมีอายุมากกว่านี้
“แต่พอได้ฟังคำชมจากคุณแล้ว ฉันก็เข้าใจนะคะ ว่าทำไมถึงเลือกบอกเรื่องภายในของตระกูลดยุคให้กับคนอย่างคุณ ทั้งนี้ก็โปรดวางใจเถอะค่ะ ฉันมั่นใจว่าคุณคงไม่เอาไปพูดต่อ นอกจากนี้ ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งด้วยค่ะ อยากฟังไหมคะ?”
“เอ๊ะ? ครับ! ถ้าบอกได้ก็อยากฟังครับ”
ด้วยความสนใจอย่างจริงใจ เบเรธพยักหน้า ซาเนียจึงพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่แฝงด้วยความลึกลับเล็กน้อย
“เพราะฉันรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่สามารถดึงความเห็นใจจากคุณหนูอาเรียได้ค่ะ”
“อะ…ฮะฮะ… ถ้าพูดแบบนั้นผมก็คงปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ครับ”
“รู้สึกเหมือนอยากถามว่า ‘แค่เหตุผลนี้อย่างเดียวเหรอ’ ใช่ไหมคะ?”
“ครับ… สำหรับข้อมูลที่ถือเป็นความลับภายในแบบนี้ ผมว่ามันดูจะ ‘แพงเกินไป’ น่ะครับ”
“แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง แม้จะต้องรับโทษ มันก็ถือว่าคุ้มค่าและ ‘ถูก’ นะคะ”
ยังไม่ทันที่เบเรธจะได้ถามว่า “หมายความว่ายังไงเหรอครับ?” ซาเนียก็กล่าวต่อ
“นี่อาจจะเป็นเพียงความคิดส่วนตัว แต่— ถ้าคุณหนูอาเรียสามารถดึงความเห็นใจจากคุณได้จริงๆ ฉันก็จะมั่นใจว่าคุณสามารถเป็นคนที่ฉันไว้วางใจให้ดูแลคุณหนูได้”
“เอ๊ะ…”
“ฉันคิดว่า… การช่วยเหลือคุณหนูอาเรียที่ดีที่สุดคือการให้ท่านออกจากตระกูลดยุคค่ะ และเพื่อให้คุณเข้าใจคุณหนูมากขึ้น ฉันอยากให้มีโอกาสที่คุณจะได้ใกล้ชิดกับคุณหนูอาเรียมากขึ้น หากคุณไม่รังเกียจน่ะค่ะ”
คำพูดที่เต็มไปด้วยเจตนาชวนให้คล้อยตามถูกกล่าวออกมาอย่างชาญฉลาด เสียงของซาเนียที่พูดนั้นไม่แสดงถึงการล้อเล่นแม้แต่น้อย ขณะเดียวกันก็ยังประดับด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่ไม่อาจอ่านได้ว่าเธอพูดจริงหรือเพียงกำลังหยั่งเชิง