เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น? - ตอนที่ 68 งานเลี้ยง 2
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น?
- ตอนที่ 68 งานเลี้ยง 2
ตอนที่ 68 งานเลี้ยง 2
“ขอบคุณมากที่เชิญพวกเรามาวันนี้ครับ”
(โค้งเล็กน้อย)
เบเรธและเชียทักทายเอิร์ลอิลเชสตัส ผู้เป็นพ่อของเอเลน่า และภรรยาของเขา ซึ่งเป็นเจ้าภาพของงานเลี้ยงอาหารค่ำในวันนี้ หลังจากพูดคุยสั้นๆ พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังโซนทางด้านซ้ายของห้องโถงใหญ่ ซึ่งเป็นบริเวณจัดเลี้ยงแบบยืนสำหรับเด็กและนักเรียน
โดยฝั่งขวาของห้องโถงใหญ่ถูกจัดให้เป็นโซนสำหรับผู้ใหญ่
“ว่าแต่… ครั้งแรกที่ได้เจอคุณแม่ของเอเลน่า เธอสวยมากจริงๆ เลยนะ…”(TLN:????)
“ดูเหมือนท่านเบเรธจะเผลอตกหลุมรักคุณแม่ของเอเลน่าเข้าแล้วหรือเปล่าคะ?”
“อ…อืม จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกซะทีเดียว ฮะๆ…”
ถึงแม้อยากจะปฏิเสธเพื่อรักษาหน้าของเจ้าภาพ แต่การพูดออกไปตรงๆก็อาจกลายเป็นคำพูดที่เสียมารยาทได้ เบเรธเลือกที่จะหัวเราะแก้เก้อพร้อมหลีกเลี่ยงสายตาที่ดูเหมือนจะแอบหึงของเชีย
ในขณะที่เขาพยายามจะเปลี่ยนเรื่อง เบเรธก็สังเกตเห็นคนรู้จักคนหนึ่งยืนอยู่คนเดียว
“อ้าว! ลูน่า สวัสดี!”
“ไม่ได้เจอกันตั้งแต่เมื่อวานเลยนะคะ ท่านลูน่า”
“สวัสดีค่ะ และใช่ค่ะ เมื่อวานเรายังเจอกันอยู่เลย ดูเหมือนพวกคุณจะสนุกกันดีนะคะ”
“ก็แค่เชียพูดอะไรแปลกๆ นิดหน่อยน่ะ”
เชียที่คงรอยยิ้มสุภาพไว้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “ไม่ได้พูดอะไรแปลกๆ เลยนะคะ” ทำให้ลูน่าหลุดหัวเราะเบาๆ ขณะที่มองดูพวกเขาแหย่กันไปมา
“พวกคุณสองคนยังเหมือนเดิมเลยนะคะ แม้แต่ในงานแบบนี้… แต่ก็ดีค่ะ ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย”
“อืม ลูน่าเพิ่งมางานแบบนี้เป็นครั้งแรกด้วยสินะ แต่เดี๋ยวก็ชินเองแหละ เพราะงานนี้บรรยากาศดีมาก ถ้าเทียบกับงานอื่นๆ”
เนื่องจากงานเลี้ยงนี้จัดโดยตระกูลเลแคลร์ที่ยึดถือความเสมอภาค จึงไม่มีขุนนางที่ดูหมิ่นชนชั้นล่าง แขกทุกคนในงานดูเหมือนจะพูดคุยกันอย่างสบายใจ แม้ในตอนนี้ที่อาหารยังไม่ถูกเสิร์ฟ บรรยากาศก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการสนทนา
(ว่าแต่… เอ๊ะ?)
เบเรธหยุดคิดเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของลูน่า เธอเริ่มพูดขึ้นมา
“คือว่า… นอกจากความกังวลที่มาจากการมางานเลี้ยงครั้งแรกแล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งค่ะ”
“เอ๊ะ? อีกเหตุผลหนึ่ง?”
“ตั้งแต่ฉันเข้ามาในงานนี้ รู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ ตลอดค่ะ”
“หา? มีคนจ้องมองลูน่าเหรอ?”
“ใช่ค่ะ พอฉันลองมองกลับไป พวกเขาก็หลบสายตาทันทีเลย ฉันว่าคงไม่ได้คิดไปเองหรอกค่ะ หรือว่า… ฉันดูไม่เหมาะกับที่นี่เหรอคะ?”
“ไม่หรอก งานนี้บรรยากาศดีมากเลยนะ อีกอย่าง ถ้าจะมีคนถูกจ้องมอง ฉันว่าต้องไม่ใช่เพราะเหตุผลนั้นแน่”
พูดจบ เบเรธมองเธออย่างตั้งใจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
(สวยจริงๆ นะ…)
วันนี้ลูน่าดูแตกต่างจากปกติเล็กน้อย ผมสีฟ้าอ่อนของเธอที่เคยมัดไว้ ถูกปล่อยลงและประดับด้วยกิ๊บรูปดอกกุหลาบสีน้ำเงิน เธอสวมเดรสเปิดไหล่ที่มีสองเฉดสี คือสีม่วงแดงและสีม่วงเข้ม และคาดเข็มขัดสีดำที่เอว ดูลึกลับและงดงามจนแทบละสายตาไม่ได้
แม้แต่ในวันธรรมดา เธอก็ยังเป็นคนที่สะดุดตาอย่างไม่ต้องพยายามเลยด้วยซ้ำ
“…อืม คิดว่าเป็นเพราะคนพวกนั้นมองลูน่าในฐานะเพศตรงข้ามมากกว่า ถึงได้รีบหลบสายตาไปแบบนั้น งานเลี้ยงอาหารค่ำแบบนี้ก็เหมือนเป็นโอกาสสำหรับการพบปะคนใหม่ๆ ด้วยนะ”
“เพศตรงข้าม… อย่างนั้นเหรอคะ?”
ลูน่าขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับเอียงคออย่างสงสัย ใบหน้าของเธอไม่มีแววเข้าใจในสิ่งที่เบเรธพูดแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นดังนั้น เชียก็แสร้งกระแอมเบาๆ และพูดขึ้นมาพร้อมกับโค้งคำนับเล็กน้อยเพื่อแสดงความสุภาพ
“——ท่านเบเรธ ขอโทษที่ขัดจังหวะนะคะ ดิฉันขออนุญาตไปทักทายกับกลุ่มสาวใช้ที่มารวมตัวกันอยู่สักครู่ค่ะ”
“อ๋อ เข้าใจแล้ว เชียอยากไปทำอะไรก็ไปเถอะนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
หลังการพูดคุยสั้นๆ เชียก็โค้งตัวอีกครั้งแล้วเดินออกไปอย่างสุภาพ เพื่อไม่เป็นการรบกวนพวกเขา
(…ทำไมเชียถึงรู้เรื่องพวกนี้ตลอดเลยนะ)
เบเรธคิดในใจ พร้อมกับเดาได้ว่า เชียคงรู้ว่าจะเกิดบทสนทนาแบบไหนต่อจากนี้
ซิอาเคยได้ยินคำพูดของเขาในอดีตที่ว่า
‘นี่ เบเรธ ม…มองฉันในชุดนี้ แล้วก็ทรงผมนี้สิ มีอะไรอยากจะพูดบ้างไหม? ฉันอดกลั้นไม่พูดอะไรเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของนายอยู่นะ!’
‘อ่า…ฉันกะจะพูดเรื่องนี้ตอนที่เราสองคนแยกตัวไปอยู่ด้วยกันนะ มันน่าอายน่ะ’
บทสนทนาในตอนนั้นกับเอเลน่าทำให้เขาอดคิดถึงไม่ได้
“หรือฉันจะคิดไปเองนะคะ แต่เมื่อครู่ ฉันรู้สึกเหมือนว่าคุณเชียพยายามหลีกทางให้”
“…ที่จริงแล้ว เรื่องเมื่อกี้น่ะ ฉันอยากพูดมันในสถานการณ์ที่มีแค่เราสองคนมากกว่า”
“เกี่ยวกับที่มีคนมองฉันในฐานะเพศตรงข้าม ใช่ไหมคะ?”
“ใช่”
เบเรธตัดสินใจพูดออกมาอย่างลังเล
“คือ…สิ่งที่ฉันจะพูดมันอาจจะน่าอายหน่อยนะ แต่ชุดเดรสกับเครื่องประดับผมของลูน่าน่ะ…มันเหมาะกับเธอมากจริงๆ จนฉันแทบจะละสายตาไม่ได้เลย”
“…!”
“สิ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คือ คนพวกนั้นน่าจะอยากทำความรู้จักกับลูน่า ก็เลยพยายามสังเกตลักษณะท่าทางอยู่ ลูน่าเองก็ไม่เคยมาออกงานแบบนี้มาก่อนใช่ไหม? เพราะงั้นบางคนอาจจะคิดว่า ถ้าพลาดโอกาสนี้ไป ก็อาจไม่มีโอกาสอีกแล้ว ฉันเองก็อาจจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน”
“อ…อย่างนั้นเหรอคะ…”
การพูดชมเพื่อนที่แต่งตัวสวยจนดูโดดเด่นแบบนี้ ทำให้หน้าเบเรธร้อนผ่าวอย่างเห็นได้ชัด(TLN:เพื่อนนนนน)
“ถ้าคุณพูดแบบนั้น ฉันก็คงต้องเชื่อแล้วค่ะ”
ลูน่าพึมพำเบาๆ พลางก้มหน้าลง ความอายเหมือนจะส่งผ่านจากเขามาถึงเธอ
“ข…ขอบคุณนะ แต่ว่าลูน่าควรจะมั่นใจในตัวเองนะ ฉันคิดว่าเธอไม่แพ้เอเลน่าเลยจริงๆ นะ”
“แม้จะพูดเล่น แต่คำพูดแบบนั้นไม่ควรพูดออกมาเลยนะคะ เดี๋ยวคุณเอเลน่าโกรธเอา อีกอย่าง ฉันเองก็รู้ดีว่าฉันไม่อาจเทียบกับคุณเอเลน่าได้”
“งั้นสิ่งที่ฉันพูดเมื่อกี้ถือเป็นความลับก็แล้วกันนะ เพราะฉันไม่ได้พูดเล่น กลัวว่าเอเลน่าจะโกรธน่ะ”
“…………คุณกำลังล้อฉันเล่นหรือเปล่าคะ ว่าจะทำให้ฉันอายได้ขนาดไหน”
“อ…ถ้าฉันมีความกล้าขนาดนั้นก็คงจะดีนะ ฮะๆ…”
เบเรธพูดพลางเกาหัวพร้อมหัวเราะแห้งๆ เมื่อเห็นท่าทีของเขา ลูน่าก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
ทั้งคู่ต่างเงียบลงโดยไม่มีใครพูดอะไร เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งนาทีโดยไม่มีเสียงสนทนาใดๆ
จู่ๆ บรรยากาศในห้องโถงใหญ่ก็เริ่มเปลี่ยนไป เสียงพูดคุยดังขึ้นอย่างสับสนและวุ่นวาย
‘เกิดอะไรขึ้นเหรอ?’ เบเรธคิดในใจ และเป็นลูน่าที่ตอบคำถามของเขาอย่างพอดิบพอดี
“อาจเป็นไปได้ว่าคุณอาเรียได้มาถึงแล้วค่ะ”
“งั้นเหรอ… ถึงเวลาแล้วสินะ แบบนี้คงต้องเตรียมตัวให้พร้อมจริงๆ”
“แม้จะเป็นช่วงเวลาที่คุณกำลังตั้งสมาธิอยู่ แต่ขอถามอะไรเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมคะ”
“หืม?”
“จากสิ่งที่ได้ฟังมา ฉันคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณเชียต้องออกไปเลยนะคะ ถ้าคุณสั่งให้เธอเก็บเป็นความลับไว้ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร”
“อ…อ๋อ…”
ลูน่าเหมือนจะเข้าใจผิดในสิ่งที่เบเรธพูดว่า ‘อยู่กันสองคนจะสะดวกกว่า’
“เอ่อ ที่ฉันพูดว่าอยู่กันสองคนสะดวกกว่าน่ะ…เพราะมันน่าอายนะที่จะชมว่าเธอน่ารักต่อหน้าคนในกลุ่มเดียวกันอย่างเชียน่ะสิ”
“ฉันไม่เห็นจะถูกชมว่า ‘น่ารัก’ เลยนะคะ”
“…”
“อย่างนี้นี่เอง คุณคงไม่มีเวลาพอที่จะตั้งตัวสินะคะ”
“พอเถอะครับ…”
น้ำเสียงนิ่งเรียบและการวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมาของลูน่า ทำให้เบเรธรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
“เข้าใจแล้วค่ะ แต่ฉันก็เข้าใจความรู้สึกของคุณนะ เพราะแม้แต่ตัวฉันเองก็ยังรู้สึกอายที่จะชมรูปลักษณ์ของเพศตรงข้าม แม้ไม่มีคนในครอบครัวอยู่ด้วยก็ตาม”
“อ…อ๋อ งั้นเหรอ เพราะแบบนี้สินะถึงไม่ชมฉันบ้างเลย?”
“…ใช่ค่ะ”
“อึก… งั้นเหรอ…”
เบเรธที่พยายามเปลี่ยนบรรยากาศด้วยมุกตลกเล็กๆ กลับถูกลูน่าตอบกลับอย่างจริงจังจนเหมือนโดนสวนกลับเข้าเต็มๆ